อนุกรมวิธานของด วงหนวดยาวอ อย Dorysthenes Spp. ในภาคเหนือ

Total Page:16

File Type:pdf, Size:1020Kb

อนุกรมวิธานของด วงหนวดยาวอ อย Dorysthenes Spp. ในภาคเหนือ KKU Res. J. 2012; 17(2) 245 KKU Res. J. 2012; 17(2):245-256 http : resjournal.kku.ac.th อนุกรมวิธานของดวงหนวดยาวออย Dorysthenes spp. ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย Taxonomy of sugarcane longhorn beetle Dorysthenes spp. derived from North and Northeast of Thailand ดวงรัตน ธงภักดิ์ * และ ชลลดา หาญเลิศฤทธิ์ Duangrat Thongphak* and Chonlada Hanlaoedrit สาขาวิชากีฏวิทยา ภาควิชาพืชศาสตรและทรัพยากรการเกษตร คณะเกษตรศาสตร มหาวิทยาลัยขอนแกน * Correspondent author: [email protected] Received May 10,2011 Accepted April 24,2012 บทคัดยอ การจําแนกดวงหนวดยาวอ อยในสก ุล Dorysthenes spp. ดาเนํ ินการโดยรวบรวมตวอยั างทงตั้ ัวหนอนและ ตวเตั มว็ ยั จานวนํ 564 ตวอยั าง จากแหลงปล กอู อยท งหมดั้ 8 แหลงในเขตภาคตะว นออกเฉั ยงเหนี อและภาคเหนื อของื ประเทศ ไดแก กาฬสินธุ ขอนแกน ชัยภูมิ บุรีรัมย มหาสารคาม อุดรธานี กําแพงเพชร และนครสวรรค โดยจําแนก ตัวอยางแมลงจากลักษณะทางสัณฐานวิทยาภายนอกและลักษณะโครงสรางอวัยวะสืบพันธุ ดวยกลองสเตอริโอ ซึ่ง พบวาตัวหนอนดวงหนวดยาวออย Dorysthenes spp. จัดอยูในวงศยอย Prioninae แตการวิจัยครั้งนี้ตัวหนอนดวง หนวดยาวไมสามารถจําแนกถึงระดับชนิด (species) ได เนื่องจากตัวหนอนแตละแหลงมีลักษณะทางสัณฐานวิทยา คลายก นมากั การจาแนกทางสํ ณฐานวั ทยาของติ วเตั มว็ ยสามารถจั าแนกไดํ 2 ชนดิ คอื Dorysthenes granulosus และ D. buqueti การศึกษาครั้งนี้พบเปนครั้งแรกวา D. granulosus เขาทําลายออยในประเทศไทย Abstract Taxonomy of Dorysthenes spp. was determined from 564 specimens of larva and adult. The specimens were collected from eight locations in Northeast and the North of Thailand, Kalasin, Khon Kaen, Chaiyaphum, Buriram Maha Sarakham, Udon Thani, Kamphaeng Phet and Nakhon Sawan. The specimens were identifi ed and described based on morphology both external and terminalia characters under stereomicroscope. The results show that the larvae of Dorysthenes spp. belong to subfamily Prioninae, however in this study the larvae can not be identi- fi ed into species level, since the larvae of all locations were not signifi cantly different in morphological characters. Two species of longhorn beetles were identifi ed based on morphological characters of adult. These included Dorysthenes granulosus and D. buqueti. In this study, D. granulosus is recorded fi rstly as pest of sugarcane in Thailand. คําสําคัญ : ดวงหนวดยาวออย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ สัณฐานวิทยา อนุกรมวิธาน อวัยวะสืบพันธุ Keywords: sugarcane longhorn beetle, northeast, north, morphological characters, taxonomy, genitalia characters 246 KKU Res. J. 2012; 17(2) 1. บทนํา 2.วิธีการวิจัย ดวงหนวดยาวออย Dorysthenes spp. (Ceram- 2.1 ตัวอยางแมลงที่ใชศึกษา bycidae: Prioninae) เปนด วงท มี่ ขนาดลี าตํ วปานกลางถั งึ ตัวอยางดวงหนวดยาวทั้งในระยะที่เปนตัว ขนาดใหญ สนี าตาลปนแดงํ้ มลี กษณะเดั นค อมื หนามแขี ง็ หนอนและตวเตั มว็ ยซั งเกึ่ บรวบรวมตามแหล็ งปล กอู อยท ี่ ขนาดใหญยื่นยาวออกทางดานขางของอกปลองแรก จัด สาคํ ญในเขตของภาคตะวั นออกเฉั ยงเหนี อและภาคเหนื อื เปนแมลงศ ตรั อู อยท สี่ าคํ ญชนั ดหนิ งึ่ พบการแพรระบาด ทงหมดั้ 8 แหลง โดยตวอยั างต วหนอนเกั บจากแปลงอ็ อย ในแหลงปลูกออยที่สําคัญในเขตภาคตะวันออกเฉียง ตอหรอเหงื าอ อยท แสดงอาการการเขี่ าท าลายของหนอนํ เหนือและภาคกลางของประเทศไทย โดยเฉพาะในเขต ดวง ตัวอยางตัวเต็มวัยเก็บจากกับดักแสงไฟ พ้ืนที่ที่เปนดินรวนปนทราย การทําลายของดวงหนวด 2.2 การตรวจวิเคราะหทางสัณฐานวิทยา ยาวจะเขาทําลายออยในระยะตัวหนอน โดยตัวหนอน ตัวอยางที่เปนตัวหนอนนํามาวิเคราะหชนิด กัดกินออยในสวนของลําตนที่อยูใตดิน มีผลทําใหออย ดวงหนวดยาวจากลักษณะสัณฐานวิทยาภายนอก วัด แหงตาย จากรายงานของ Pipat (1) พบวา แปลงออยมี ขนาดลําตัว บันทึกรูปรางลักษณะสีสันและรายละเอียด การระบาดของดวงหนวดยาวในสวนของออยตอทําให อื่นๆ ที่ตรวจพบโดยใชกลองสเตอริโอ บันทึกภาพหรือ สูญเสียผลผลิตถึงรอยละ 54 ลักษณะการทําลายออย วาดภาพลกษณะตั างๆ ทพบในตี่ วหนอนดั วงแต ละแหล ง ของดวงหนวดยาวชนิดนี้แตกตางกันไปตามสภาพพื้นที่ กรณีที่ศึกษารายละเอียดของสวนปาก เชน กราม ฟน ริม ความรุนแรงก็แตกตางกันไปตามสภาพฤดูกาล ซึ่งสวน ฝปากบน และรมฝิ ปากล าง เพอความชื่ ดเจนในการศั กษาึ ใหญพบมีการระบาดมากในสภาพแหงแลง (1- 4) จาก รายละเอียดโครงสราง ไดทําการดึงชิ้นสวนตางๆ นํามา การตรวจสอบเอกสารขอมูลดานอนุกรมวิธานของดวง แชในนํ้าสะอาด เพื่อลางสวนของดินที่ติดมา จากนั้น หนวดยาวออยในประเทศไทยย งไมั พบรายงานการศ กษาึ นําอวัยวะตางๆ มาศึกษารายละเอียดดวยกลองสเตอริโอ มากอน แตม รายงานวี าด วงหนวดยาวท เขี่ าท าลายอํ อยใน แตละตัวอยางแมลงที่ศึกษนํามาแยกดองในแอลกอฮอล ไตหว นไดั แก ด วงหนวดยาวอ อย Dorysthenes hydropicus 75 เปอรเซ็นต ในขณะที่ประเทศไทยมีรายงานวามีเพียงดวงหนวดยาว ตัวอยางตัวเต็มวัยตรวจวิเคราะหชนิด จาก D. buqueti เทานั้นที่เขาทําลายออย ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้ ลกษณะสั ณฐานวั ทยาภายนอกและอวิ ัยวะสบพื นธั เพศผุ ู จึงมุงศึกษาจําแนกชนิดของดวงหนวดยาวออยทั้งระยะ (male genitalia characters) ดวยกลองสเตอริโอ บันทึก เปนตัวเต็มวัยและระยะตัวหนอนโดยวิธีทางสัณฐาน รปรู าง สสี นและรายละเอั ยดอี นๆื่ ลกษณะความแตกตั าง วิทยา ซึ่งขอมูลเหลานี้เปนพื้นฐานที่สําคัญที่นําไปเชื่อม ระหวางตัวเต็มวัยเพศผูและเพศเมีย ขอมูลรายละเอียด โยงกับลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของแมลง เพื่อหา สวนตางๆของแมลงนั้นบันทึกดวยการถายรูปและวาด แนวทางควบคมปุ องก นทั เหมาะสมและถี่ กตู อง นอกจาก ภาพ การเตรียมตัวอยางอวัยวะสืบพันธุของดวงหนวด นั้นการศึกษาความแปรปรวนและความหลากหลายใน ยาวตามวิธีการของ Thongphak and Wang (5) กลุมประชากรของดวงหนวดยาวในแหลงปลูกออยใน 2.3 วิธีการจําแนกชนิดดวงหนวดยาว แตละพ นทื้ นี่ นมั้ ความสี าคํ ญเปั นอย างย งติ่ อการพ จารณาิ ตัวหนอน จากการตรวจเอกสารพบมีรายงาน ปรับปรุงพันธุออยตานทานใหเหมาะสมในแตละทอง การศึกษาอนุกรมวิธานของหนอนดวงหนวดยาวสกุลนี้ ถิ่น ซึ่งเปนวิธีการปองกันที่ประหยัดและไมกระทบตอ นอยมาก เอกสารทางวิชาการที่ใชประกอบการจําแนก สิ่งแวดลอมไดอีกทาง และบรรยาย (Description) ลักษณะตัวหนอน ไดแก Craighead (6), Morelli และคณะ (7 - 9) KKU Res. J. 2012; 17(2) 247 การวิเคราะหชนิดตัวเต็มวัยดวงหนวดยาว ผลการศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาดวง เนื่องจากไมสามารถระบุแหลงที่เก็บแมลงตนแบบ หนวดยาวออยครั้งนี้พบวา การจําแนกชนิดทางสัณฐาน (Holotype) ของดวงหนวดยาวออยกลุมนี้ได ดังนั้นการ ภายนอกของตัวหนอนยังไมสามารถระบุชนิดของตัว วิเคราะหจําแนกชนิดของดวงหนวดยาวออยทําโดย หนอนดวงหนวดยาวไดชัดเจน เนื่องจากตัวหนอนที่เก็บ การนําตัวอยางที่ไดเปรียบเทียบกับตัวอยางที่มีในหอง ไดในแต ละแหล งม ลี กษณะทางสั ณฐานภายนอกคลั ายก นั พิพิธภัณทมหาวิทยาลัยขอนแกน และมหาวิทยาลัย ในขณะที่การจําแนกชนิดของดวงหนวดยาวในระยะตัว เกษตรศาสตร เพื่อความถูกตองมากที่สุดใน การจําแนก เต็มวัยสามารถจําแนกชนิดดวงที่เขาทําลายออยทั้งหมด และไดร วมปร กษาการจึ าแนกระดํ บชนั ดจากิ ผเชู ยวชาญี่ ได 2 ชนิด คือ D. granulosus และ D. buqueti โดยมี ดวงหนวดยาว (Prof. Lu Wen, College of Agriculture รายละเอียดผลวิจัยดังนี้ Guangxi University, China ) และศึกษาจากเอกสารทาง 3.1 ลักษณะทั่วไปของหนอนดวงหนวดยาว วิชาการดั้งเดิมที่มีการบรรยายแมลงตนแบบ ของดวง ออย Dorysthenes spp. หนวดยาวกลมนุ ี้ไดแก Guérin-Méneville (10) Thomson ลักษณะเดน ลําตัวยาวเรียว รูปรางกึ่งทรง ( 11) Gahan, (12 ) และ Gressitt (13 - 15) กระบอก ลําตัวสวนบนกวางกวาสวนทายเล็กนอย (รูป ที่ 1 ) ลําตัวยาวประมาณ 36.66 – 59.01 มิลลิเมตร กวาง 3. ผลการวิจัยและอภิปราย ประมาณ 9.76 – 12.34 มิลลิเมตร ลําตัวออนนิ่ม สีขาว นวลออกเหลือง กรามขนาดใหญแข็งแรง ขาจริงขนาด ตวอยั างด วงหนวดยาวท ใชี่ ในการศ กษาครึ งนั้ มี้ ี เล็ก 3 คู ลําตัวแตละปลองมีตุมนูนขึ้น (pleural tubercle) จํานวนทั้งหมด 564 ตัวแบงเปนตัวหนอน 357 ตัว ตัว บรเวณดิ านข างใต ร หายใจแตู ละปล อง และมเสี นขนส นๆั้ เต็มวัย 207 ตัวโดยเปนเพศผู 184 ตัวและเพศเมีย 23 ตัว กระจายอยูทั่วลําตัวแตไมหนาแนน ซึ่งตัวอยางทั้งหมดเก็บจากแปลงปลูกออยของเกษตรกร สวนหัว (head) (รูปที่ 2) มีความยาวมากกวา ทั้งหมด 8 แหลงตามตารางที่ 1 ความกวางเล กน็ อย เมอมองจากดื่ านบนส วนห วมั ลี กษณะั ตารางที่ 1. ตัวอยางดวงหนวดยาวที่ใชในการศึกษา จํานวนตัวอยางที่ใชในการศึกษา แหลงท ี่ แหลงที่เก็บ ตัวหนอน ตัวเต็มวัย เพศผ ู เพศเมีย 1 กาฬสินธ ุ 0 9 1 2 ขอนแกน 2 94 5 3 มหาสารคาม 3 34 2 4 บุรีรัมย 33 5 - 5 ชัยภูม ิ 0 13 1 6 อุดรธาน ี 20 17 5 7 กําแพงเพชร 37 6 - 8 นครสวรรค 262 6 9 รวม 357 184 23 248 KKU Res. J. 2012; 17(2) เปนรูปสี่เหลี่ยม ขอบดานหนาและดานทายมีลักษณะ (รูปที่ 2 จ) จํานวน 3 ปลอง สวนของ cardo มีพื้นผิวเรียบ กลมมน ขอบดานขางของสวนหัวเวาตรงกลางเล็กนอย ดานนอกของ stipe มเสี นขนยาวปกคล มุ lacinia มเสี นขน ขอบดานหนาของสวนหนา (anterior margin of frons) สั้นขึ้นปกคลุมหนาแนน คอนขางกวาง สีนํ้าตาลเขม ผิวคอนขางขรุขระเปนรอย สวนอก (thorax) เปนร ปทรงกระบอกู ประกอบ หยักตามขวาง (transverse rugose) มีเสนขนยาวเรียงเปน ดวย 3 ปลองเรียงตอกัน อกปลองแรกขนาดใหญกวา แถวตามแนวขวางประมาณ 4 เสน ขอบดานหน าของ fron อกปลองที่สองและสามรวมกัน สันหลังอกปลองแรก แตละขางม ีรองเวาลึกเขาไปเรียกวา postcondylar carina (Pronotum) กวางประมาณสองเทาของลําตัว ขอบดาน ลักษณะโคงมน ผิวขรุขระ ไมมีเสนขน median suture หนาลักษณะกลมมน มีเสนขนสั้นเรียงเปนแถว 1-2 แถว ลักษณะเปนรองลึกชัดเจน สีนํ้าตาลเขม เปนเสนที่พาด บริเวณสันหลังอกปลองแรกมีแผนแข็ง (sclerite) ขนาด ผานระหวางกลางของขอบสวนหนาถึงทายกะโหลก ใหญปรากฎอย รู ปสู เหลี่ ยมี่ สเหลี องซื ดี ขอบดานท ายของ frontal suture คอนขางชัดเจน epistoma มีลักษณะเปน pronotum นูนโคง มีรองตามยาวเห็นไมชัดเจน median ทรงสามเหลี่ยมเล็กๆ ยื่นออกมาติดกับฐานริมฝปากบน suture ชัดเจน รูหายใจ (spiracle) ที่ดานขางของปลอง (clypeus) แตละข างม สี นี าตาลดํ้ าํ มเสี นขนข นประมาณึ้ 3 อกรปกลมรู ีขนาดใหญกว าร หายใจทู ปลี่ องท องประมาณ หรอื 4 เสน ฐานรมฝิ ปากบนค อนข างกว างต ดกิ บสั วนร มิ สองเทา ขาจริงมีทั้งหมด 3 คู ตั้งอยูบริเวณดานลางอก ฝปากบน (labrum) (รูปที่ 2 ง) มีลักษณะเปนรูปสี่เหลี่ยม ปลองที่ 1, 2 และ 3 มีขนาดเลกมาก็ สั้น รูปทรงกรวย คางหมู ผิวเรียบมันวาว นูนเล็กนอย สีนําตาลอ้ํ อน ไมมี ประกอบดวยจํานวน 3 ปลอง ปลอง สุดทายปลายแหลม เสนขนปกคล มุ ขอบดานหน าของร มฝิ ปากบนโค งมน รปรู าง คลายเล็บไมมีเสนขน ที่ฐานมีเสนขนประมาณ 6-8 เสน กลมรี บริเวณดานหนามีเสนขนยาวปกคลุมหนาแนน สวนทอง (abdomen) เห็นไดชัดเจนจํานวน 9 ประมาณครงหนึ่ งของพึ่ นทื้ ที่ งหมดั้ หนวดขนาดเลกมาก็ ปลอง แตละปลองมีลักษณะเปนรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ดาน จํานวนปลอง 3 ปลอง แตละปลองมีรูปรางทรงกระบอก บนและดานลางของสวนทองปลองที่ 1 ถึง 6 มีบริเวณ หนวดปลองที่ 2 มีขนาดความยาวยาวมากกวาปลองแรก ที่เปนรอยยนลึกมีลักษณะเปนสี่เหลี่ยม มีเสน median ในขณะที่ปลองที่ 3 มีขนาดเล็กที่สุด ไมมีตาเดี่ยว (ocelli) suture พาดผานตรงกลางทําใหแบงเปน
Recommended publications
  • Coleoptera: Cerambycidae)
    J Insect Behav (2012) 25:569–577 DOI 10.1007/s10905-012-9321-0 Role of Volatile Semiochemicals in the Host and Mate Location Behavior of Mallodon dasystomus (Coleoptera: Cerambycidae) Matthew A. Paschen & Nathan M. Schiff & Matthew D. Ginzel Revised: 18 January 2012 /Accepted: 1 March 2012 / Published online: 16 March 2012 # Springer Science+Business Media, LLC 2012 Abstract Little is known of the role semiochemicals play in the mating systems of longhorned beetles (Coleoptera: Cerambycidae) in the primitive subfamily Prioninae. Mallodon dasystomus (Say), the hardwood stump borer, is a widely distributed prionine native to the southern US. Preferred hosts of M. dasystomus include oak, sweetgum, sugarberry and hackberry; although they also colonize a variety of other hardwoods. Here, we study the mate location behavior of M. dasystomus by testing the hypotheses that the sexes are mutually attracted to volatiles emanating from the larval host and that females release a volatile pheromone that is attractive to males alone. In a Y-tube olfactometer, male and female M. dasystomus responded to volatiles from host material (i.e., sweetgum and sugarberry). However, only males responded to females in the olfactometer, suggesting that females release a volatile sex pheromone. In choice experiments conducted in a greenhouse, we determined that both males and females prefer host over non-host material. In further bioassays in the greenhouse, males chose host material containing a live female over that containing a live male or host material alone. These findings are further evidence of the critical role host volatiles and pheromones play in mating systems of longhorned beetles.
    [Show full text]
  • A New Species of Derobrachus Audinet-Serville, 1832 (Coleoptera, Cerambycidae, Prioninae) from a Cloud Forest in Honduras
    Zootaxa 4422 (3): 395–402 ISSN 1175-5326 (print edition) http://www.mapress.com/j/zt/ Article ZOOTAXA Copyright © 2018 Magnolia Press ISSN 1175-5334 (online edition) https://doi.org/10.11646/zootaxa.4422.3.5 http://zoobank.org/urn:lsid:zoobank.org:pub:066252ED-DE7E-4191-A03C-822F24455280 A new species of Derobrachus Audinet-Serville, 1832 (Coleoptera, Cerambycidae, Prioninae) from a cloud forest in Honduras ANTONIO SANTOS-SILVA1, NOËL MAL2, MARTIJN VAN ROIE3, 4 & MERLIJN JOCQUÉ2,3,5,6 1Museu de Zoologia, Universidade de São Paulo, São Paulo, SP, Brazil 2 Royal Belgian Institute of Natural Sciences, Vautierstraat 29, 1000 Brussels, Belgium 3Biodiversity Inventory for Conservation npo (BINCO), Walmersumstraat 44, 3380 Glabbeek, Belgium 4Department of Biology, Ecosystem Management Research Group, University of Antwerp, Universiteitsplein 1, 2610 Wilrijk, Belgium 5Operation Wallacea, Wallace House, Old Bolingbroke, Lincolnshire, PE23 4EX, UK. 6Corresponding author. E-mail: [email protected] Abstract A yearly biodiversity monitoring of longhorned beetles (Cerambycidae) in a Honduran cloud forest revealed a new species of prionine. Derobrachus cusucoensis sp. nov. is a locally relatively common species described from Cusuco National Park in Honduras, becoming the ninth species of this genus recorded for the country. Similar both in morphology and a montane habitat to D. dohrni, there is a possibility that this new species represents a disconnected population from the latter that evolved separately. An adapted insert for an existing identification key to all Derobrachus species is included. Key words: Central America, key, longhorned beetle, taxonomy, Cusuco National Park Introduction The Honduran landscape is characterized by mountains topped by cloud forest.
    [Show full text]
  • A Guide to Arthropods Bandelier National Monument
    A Guide to Arthropods Bandelier National Monument Top left: Melanoplus akinus Top right: Vanessa cardui Bottom left: Elodes sp. Bottom right: Wolf Spider (Family Lycosidae) by David Lightfoot Compiled by Theresa Murphy Nov 2012 In collaboration with Collin Haffey, Craig Allen, David Lightfoot, Sandra Brantley and Kay Beeley WHAT ARE ARTHROPODS? And why are they important? What’s the difference between Arthropods and Insects? Most of this guide is comprised of insects. These are animals that have three body segments- head, thorax, and abdomen, three pairs of legs, and usually have wings, although there are several wingless forms of insects. Insects are of the Class Insecta and they make up the largest class of the phylum called Arthropoda (arthropods). However, the phylum Arthopoda includes other groups as well including Crustacea (crabs, lobsters, shrimps, barnacles, etc.), Myriapoda (millipedes, centipedes, etc.) and Arachnida (scorpions, king crabs, spiders, mites, ticks, etc.). Arthropods including insects and all other animals in this phylum are characterized as animals with a tough outer exoskeleton or body-shell and flexible jointed limbs that allow the animal to move. Although this guide is comprised mostly of insects, some members of the Myriapoda and Arachnida can also be found here. Remember they are all arthropods but only some of them are true ‘insects’. Entomologist - A scientist who focuses on the study of insects! What’s bugging entomologists? Although we tend to call all insects ‘bugs’ according to entomology a ‘true bug’ must be of the Order Hemiptera. So what exactly makes an insect a bug? Insects in the order Hemiptera have sucking, beak-like mouthparts, which are tucked under their “chin” when Metallic Green Bee (Agapostemon sp.) not in use.
    [Show full text]
  • Coleoptera, Cerambycidae, Prioninae)
    Volume 46(10):129‑134, 2015 A NEW SPECIES OF PHYSOPLEURUS LACORDAIRE FROM FRENCH GUIANA (COLEOPTERA, CERAMBYCIDAE, PRIONINAE) NORBERT DElaHAYE1 GÉRARD LUC TAVAKILIAN2 ABSTRACT Misidentified as Physopleurus crassidens (Bates, 1869) since the beginning of the 20th cen- tury by some authors, a new species from French Guiana is herein described: Physopleurus ubirajarai sp. nov. Key-Words: Coleoptera; Cerambycidae; Prioninae; Macrotomini; Physopleurus; Taxon- omy; South America. INTRODUCTION Physopleurus dohrnii Lacordaire, 1869, from Venezu- ela; The systematic history of the genus Physopleu- Physopleurus erikae Santos-Silva & Martins, 2009, rus Lacordaire, 1869 was perfectly processed in 2003 from Colombia; by Santos-Silva & Martins, who described two new Physopleurus exiguus Santos-Silva & Martins, 2003, species, and listed 10 species in the genus. In 2005, from Bolivia and Brazil; the number of species was reduced to nine, because Physopleurus longiscapus Lameere, 1912, from Bolivia, of the description of the genus Hisarai Santos-Silva & Colombia, Ecuador, Peru, and Brazil; Martins, with Physopleurus seripierriae Santos-Silva & Physopleurus maillei (Audinet-Serville, 1832), from Martins, 2003 as type species. Two new species were Brazil, Paraguay, and Argentina; described in 2006 and 2009, respectively P. rafaeli Physopleurus rafaeli Santos-Silva, 2006, from Brazil; Santos-Silva, from Brazil, and P. erikae Santos-Silva Physopleurus rugosus (Gahan, 1894); from French & Martins, from Colombia. Chalumeau (2010) de- Guiana and Brazil; scribed P. swifti, synonymized in the same year with Physopleurus ubirajarai sp. nov., from French Guiana; P. rugosus (Gahan, 1894) by Tavakilian (2010). Physopleurus tritomicros Lameere, 1912, from French Currently, the genus Physopleurus includes 12 Guiana and Brazil; species (the new species included): Physopleurus villardi (Lameere, 1902), from Guate- mala, Ecuador, and Peru.
    [Show full text]
  • Redalyc.Inventário Das Espécies De Cerambycinae (Insecta, Coleoptera
    Biota Neotropica ISSN: 1676-0611 [email protected] Instituto Virtual da Biodiversidade Brasil Monné, Marcela Laura; Monné, Miguel Angel; Miras Mermudes, José Ricardo Inventário das espécies de Cerambycinae (Insecta, Coleoptera, Cerambycidae) do Parque Nacional do Itatiaia, RJ, Brasil Biota Neotropica, vol. 9, núm. 3, septiembre, 2009, pp. 283-312 Instituto Virtual da Biodiversidade Campinas, Brasil Disponível em: http://www.redalyc.org/articulo.oa?id=199114283027 Como citar este artigo Número completo Sistema de Informação Científica Mais artigos Rede de Revistas Científicas da América Latina, Caribe , Espanha e Portugal Home da revista no Redalyc Projeto acadêmico sem fins lucrativos desenvolvido no âmbito da iniciativa Acesso Aberto Biota Neotrop., vol. 9, no. 3 Inventário das espécies de Cerambycinae (Insecta, Coleoptera, Cerambycidae) do Parque Nacional do Itatiaia, RJ, Brasil Marcela Laura Monné1,3,4, Miguel Angel Monné1,3 & José Ricardo Miras Mermudes2 1Departamento de Entomologia, Museu Nacional, Universidade Federal do Rio de Janeiro – UFRJ, Quinta da Boa Vista, São Cristóvão, CEP 20940-040, Rio de Janeiro, RJ, Brasil 2Departamento de Zoologia, Universidade do Estado do Rio de Janeiro – UERJ, São Francisco Xavier, 524, sala 516, CEP 20550-013, Rio de Janeiro, RJ, Brasil, e-mail: [email protected] 3Conselho Nacional de Desenvolvimento Científico e Tecnológico – CNPq 4Autor para correspondência: Marcela Laura Monné, e-mail: [email protected] MONNÉ, M.L., MONNÉ, M.A. & MERMUDES, J.R.M. Inventory of the Cerambycinae species (Insecta, Coleoptera, Cerambycidae) of the Parque Nacional do Itatiaia, RJ, Brazil. Biota Neotrop. 9(3): http://www. biotaneotropica.org.br/v9n3/en/abstract?inventory+bn02709032009. Abstract: A survey of the Cerambycinae species recorded in the Parque Nacional do Itatiaia, Rio de Janeiro State, Brazil, is presented.
    [Show full text]
  • (Coleoptera: Cerambycidae) Da Estação Ecológica Do Tripuí, Ouro Preto, MG
    UNIVERSIDADE FEDERAL DE OURO PRETO INSTITUTO DE CIÊNCIAS EXATAS E BIOLÓGICAS DEPARTAMENTO DE BIODIVERSIDADE, EVOLUÇÃO E MEIO AMBIENTE PROGRAMA DE PÓS-GRADUAÇÃO EM ECOLOGIA DE BIOMAS TROPICAIS Biodiversidade de Besouros Longicórneos (Coleoptera: Cerambycidae) da Estação Ecológica do Tripuí, Ouro Preto, MG. FELIPE DONATELI GATTI OURO PRETO - MG 2015 UNIVERSIDADE FEDERAL DE OURO PRETO INSTITUTO DE CIÊNCIAS EXATAS E BIOLÓGICAS DEPARTAMENTO DE BIODIVERSIDADE, EVOLUÇÃO E MEIO AMBIENTE PROGRAMA DE PÓS-GRADUAÇÃO EM ECOLOGIA DE BIOMAS TROPICAIS Biodiversidade de Besouros Longicórneos (Coleoptera: Cerambycidae) da Estação Ecológica do Tripuí, Ouro Preto, MG. FELIPE DONATELI GATTI Dissertação apresentada ao Programa de Pós Graduação em Ecologia de Biomas Tropicais do Departamento de Biodiversidade, Evolução e Meio ambiente do Instituto de Ciências Exatas e Biológicas da Universidade Federal de Ouro Preto como requisito parcial para obtenção do título de Mestre em Ecologia. ORIENTADOR: PROF. Dr. MARCO ANTONIO A. CARNEIRO OURO PRETO - MG 2015 Agradecimentos Meus sinceros agradecimentos: Aos meus pais, Tadeu e Edina, e a minha irmã Mariana, pelo apoio incondicional e por sempre serem um porto seguro para mim. Sem vocês eu não teria chegado nem na metade do caminho que já trilhei até agora. A todos os meus familiares que de alguma forma contribuíram para minha formação. Em especial a minha tia Maria que sempre me apoiou e demostrou confiança em todas as minhas escolhas. Ao professor Marcão, pela orientação e por me ensinar a tratar a ciência de forma metódica e ética. Aos meus amigos Leonardo Rodrigues, Sebastião Zarantonelli, Ricardo Brandão e Bruno Gomes, não só por toda a ajuda para realizar este trabalho, mas por terem sido como irmãos para mim ao longo de todos os anos que passei em Ouro Preto.
    [Show full text]
  • Cerambycidae of Tennessee
    Cerambycidae of Tennessee! Disteniinae: Disteniini! Parandrinae: Parandriini! Closed circles represent previously published county records, museum specimen records, and specimens examined. Open circles are county records reported in Jamerson (1973) for which a specimen could not be located. Future collections are needed to substantiate these accounts. Fig. 2. Elytrimitatrix (Elytrimitatrix) undata (F.)! Fig. 3. Neandra brunnea (F.)! Prioninae: Macrotomini! Prioninae: Meroscheliscini! Fig. 4. Archodontes melanoplus melanoplus (L.)! Fig. 5. Mallodon dasystomus dasystomus Say! Fig. 6. Tragosoma harrisii (LeConte)! Prioninae: Prionini! Fig. 7. Derobrachus brevicollis Audinet-Serville! Fig. 8. Orthosoma brunneum (Forster)! Fig. 9. Prionus (Neopolyarthron) imbricornis (L.)! Prioninae! : Solenopterini! Fig. 10. Prionus (Prionus) laticollis (Drury) ! Fig. 11. Prionus (Prionus) pocularis Dalman ! Fig. 12. Sphenosethus taslei (Buquet) ! Necydalinae: Necydalini! Spondylidinae: Asemini! Fig. 13. Necydalis melitta (Say)! Fig. 14. Arhopalus foveicollis (Haldeman)! Fig. 15. Arhopalus rusticus obsoletus (Randall)! ! ! Suppl. Figs. 2-15. Tennessee county collection localities for longhorned beetle (Cerambycidae) species: Disteniinae, Parandrinae, Prioninae, Necydalinae, Spondylinae: Asemini (in part). ! Spondylidinae: Asemini (ctd.)! Fig. 16. Asemum striatum (L.)! Fig. 17. Tetropium schwarzianum Casey! Fig. 18. Atimia confusa confusa (Say)! ! Spondylidinae: Saphanini! Lepturinae: Desmocerini! Lepturinae: Encyclopini! Fig. 19. Michthisoma heterodoxum LeConte
    [Show full text]
  • A Check-List and Keys to the Primitive Sub-Families of Cerambycidae of Illinois
    Eastern Illinois University The Keep Masters Theses Student Theses & Publications 1967 A Check-list and Keys to the Primitive Sub-families of Cerambycidae of Illinois Michael Jon Corn Eastern Illinois University This research is a product of the graduate program in Zoology at Eastern Illinois University. Find out more about the program. Recommended Citation Corn, Michael Jon, "A Check-list and Keys to the Primitive Sub-families of Cerambycidae of Illinois" (1967). Masters Theses. 2490. https://thekeep.eiu.edu/theses/2490 This is brought to you for free and open access by the Student Theses & Publications at The Keep. It has been accepted for inclusion in Masters Theses by an authorized administrator of The Keep. For more information, please contact [email protected]. A CHECK-LIST AND KEYS TO THE PRIMITIVE SUBFAMILIES OF CEHAMBYCIDAE OF ILLINOIS (TITLE) BY MICHAEL JON CORN B.S. in Ed., Eastern Illinois University, 1966 THESIS SUBMITTED IN PARTIAL FULFILLMENT OF THE REQUIREMENTS FOR THE DEGREE OF Master of Science IN THE GRADUATE SCHOOL, EASTERN ILLINOIS UNIVERSITY CHARLESTON, ILLINOIS 1967 YEAR I HEREBY RECOMMEND THIS THESIS BE ACCEPTED AS FULFILLING THIS PART OF THE GRADUATE DEGREE CITED ABOVE 21 rl.\I\( l'i "1 PATE ADVISER DEPARTMENT HEAD ACKNOWLEDGEMENTS The author would like to thank Dr. Michael A. Goodrich for.his advice and guidance during the research and writing of this paper. The author is also indebted to the following curators of the various museums and private individuals from whom material was borrowed: Mr. John K. Bouseman; Dr. Rupert Wenzel and Dr. Henry Dybas, Field Museum ,...-._, of Natural History; Dr.'M.
    [Show full text]
  • Species Richness and Phenology of Cerambycid Beetles in Urban Forest Fragments of Northern Delaware
    ECOLOGY AND POPULATION BIOLOGY Species Richness and Phenology of Cerambycid Beetles in Urban Forest Fragments of Northern Delaware 1 1,2 3 4 5 K. HANDLEY, J. HOUGH-GOLDSTEIN, L. M. HANKS, J. G. MILLAR, AND V. D’AMICO Ann. Entomol. Soc. Am. 1–12 (2015); DOI: 10.1093/aesa/sav005 ABSTRACT Cerambycid beetles are abundant and diverse in forests, but much about their host rela- tionships and adult behavior remains unknown. Generic blends of synthetic pheromones were used as lures in traps, to assess the species richness, and phenology of cerambycids in forest fragments in north- ern Delaware. More than 15,000 cerambycid beetles of 69 species were trapped over 2 yr. Activity periods were similar to those found in previous studies, but many species were active 1–3 wk earlier in 2012 than in 2013, probably owing to warmer spring temperatures that year. In 2012, the blends were tested with and without ethanol, a host plant volatile produced by stressed trees. Of cerambycid species trapped in sufficient numbers for statistical analysis, ethanol synergized pheromone trap catches for seven species, but had no effect on attraction to pheromone for six species. One species was attracted only by ethanol. The generic pheromone blend, especially when combined with ethanol, was an effective tool for assessing the species richness and adult phenology of many cerambycid species, including nocturnal, crepuscular, and cryptic species that are otherwise difficult to find. KEY WORDS Cerambycidae, attractant, phenology, forest fragmentation Cerambycid beetles can be serious pests of forest trees long as those in Europe, almost half of the forests in the and wood products (Speight 1989, Solomon 1995).
    [Show full text]
  • Range of Attraction of Pheromone Lures and Dispersal Behavior of Cerambycid Beetles
    Annals of the Entomological Society of America, 109(6), 2016, 872–880 doi: 10.1093/aesa/saw055 Advance Access Publication Date: 6 August 2016 Ecology and Population Biology Research article Range of Attraction of Pheromone Lures and Dispersal Behavior of Cerambycid Beetles E. Dunn,1,2 J. Hough-Goldstein,1 L. M. Hanks,3 J. G. Millar,4 and V. D’Amico5 1Department of Entomology and Wildlife Ecology, University of Delaware, 531 S. College Ave., Newark, DE 19716 ([email protected]; [email protected]), 2Corresponding author, e-mail: [email protected], 3Department of Entomology, University of Illinois at Urbana-Champaign, 505 S. Goodwin Ave. MC-118, Urbana, IL 61801 ([email protected]), 4Department of Entomology, University of California, 900 University Ave., Riverside, CA 92521 ([email protected]), and 5U. S. Forest Service, Northern Research Station, 531 S. College Ave., Newark, DE 19716 ([email protected]) Received 13 April 2016; Accepted 12 July 2016 Abstract Cerambycid beetles (Coleoptera: Cerambycidae) can locate suitable hosts and mates by sensing pheromones and plant volatiles. Many cerambycid pheromone components have been identified and are now produced syn- thetically for trap lures. The range over which these lures attract cerambycids within a forest, and the tendency for cerambycids to move out of a forest in response to lures, have not been explored previously. We conducted two field experiments using baited and unbaited panel traps in northern Delaware to investigate these ques- tions. Within forest fragments, unbaited traps that were 2 m from a baited trap captured more beetles than unbaited control traps, suggesting increased cerambycid activity leading to more by-catch in unbaited traps at 2 m from the pheromone source.
    [Show full text]
  • UC Riverside UC Riverside Previously Published Works
    UC Riverside UC Riverside Previously Published Works Title Identification and Synthesis of a Female-Produced Sex Pheromone for the Cerambycid Beetle Prionus Californicus Permalink https://escholarship.org/uc/item/4fq1z1wb Journal Journal of Chemical Ecology, 35(5) ISSN 1573-1561 Authors Rodstein, Joshua McElfresh, J. Steven Barbour, James D. et al. Publication Date 2009-05-01 DOI 10.1007/s10886-009-9623-7 Peer reviewed eScholarship.org Powered by the California Digital Library University of California J Chem Ecol (2009) 35:590–600 DOI 10.1007/s10886-009-9623-7 Identification and Synthesis of a Female-Produced Sex Pheromone for the Cerambycid Beetle Prionus californicus Joshua Rodstein & J. Steven McElfresh & James D. Barbour & Ann M. Ray & Lawrence M. Hanks & Jocelyn G. Millar Received: 15 December 2008 /Revised: 20 March 2009 /Accepted: 27 March 2009 /Published online: 25 April 2009 # The Author(s) 2009. This article is published with open access at Springerlink.com Abstract Females of the large cerambycid beetle Prionus extracts also contained several other compounds that were californicus produce a powerful sex pheromone that attracts tentatively identified as chain-extended homologs of the main males. The pheromone was adsorbed on solid phase pheromone component. This pheromone should prove useful microextraction (SPME) fibers inserted into the ovipositor for sampling and management of the beetle, which is an sheath and analyzed by coupled gas chromatography- important pest of hops, and an occasional pest in a variety of electroantennogram detection and GC-mass spectrometry. orchard crops. Although this is the first female-produced The pheromone was identified as an isomer of 3,5- pheromone to be identified from the Cerambycidae, there is dimethyldodecanoic acid by a combination of retention index considerable evidence for pheromone production by females comparisons and mass spectral interpretation.
    [Show full text]
  • The Palaeontology Newsletter
    The Palaeontology Newsletter Contents100 Editorial 2 Association Business 3 Annual Meeting 2019 3 Awards and Prizes AGM 2018 12 PalAss YouTube Ambassador sought 24 Association Meetings 25 News 30 From our correspondents A Palaeontologist Abroad 40 Behind the Scenes: Yorkshire Museum 44 She married a dinosaur 47 Spotlight on Diversity 52 Future meetings of other bodies 55 Meeting Reports 62 Obituary: Ralph E. Chapman 67 Grant Reports 72 Book Reviews 104 Palaeontology vol. 62 parts 1 & 2 108–109 Papers in Palaeontology vol. 5 part 1 110 Reminder: The deadline for copy for Issue no. 101 is 3rd June 2019. On the Web: <http://www.palass.org/> ISSN: 0954-9900 Newsletter 100 2 Editorial This 100th issue continues to put the “new” in Newsletter. Jo Hellawell writes about our new President Charles Wellman, and new Publicity Officer Susannah Lydon gives us her first news column. New award winners are announced, including the first ever PalAss Exceptional Lecturer (Stephan Lautenschlager). (Get your bids for Stephan’s services in now; check out pages 34 and 107.) There are also adverts – courtesy of Lucy McCobb – looking for the face of the Association’s new YouTube channel as well as a call for postgraduate volunteers to join the Association’s outreach efforts. But of course palaeontology would not be the same without the old. Behind the Scenes at the Museum returns with Sarah King’s piece on The Yorkshire Museum (York, UK). Norman MacLeod provides a comprehensive obituary of Ralph Chapman, and this issue’s palaeontologists abroad (Rebecca Bennion, Nicolás Campione and Paige dePolo) give their accounts of life in Belgium, Australia and the UK, respectively.
    [Show full text]