วารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์ Journal of MCU Buddhist Review ก าหนดการพิมพ์เผยแพร่ปีละ ๒ ฉบับ (ราย ๖ เดือน) ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๑ มกราคม – มิถุนายน พ.ศ

Total Page:16

File Type:pdf, Size:1020Kb

วารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์ Journal of MCU Buddhist Review ก าหนดการพิมพ์เผยแพร่ปีละ ๒ ฉบับ (ราย ๖ เดือน) ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๑ มกราคม – มิถุนายน พ.ศ วารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์ Journal of MCU Buddhist Review ก าหนดการพิมพ์เผยแพร่ปีละ ๒ ฉบับ (ราย ๖ เดือน) ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๑ มกราคม – มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐ ISSN: ๒๕๘๖-๘๑๔๔ วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อเผยแพร่ผลงานบทความวิชาการและบทความวิจัยของผู้บริหารและคณาจารย์ในคณะ พุทธศาสตร์ ๒. เพื่อเผยแพร่บทความวิจัยของนิสิตระดับบัณฑิตศึกษาของคณะพุทธศาสตร์ ๓. เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการด้านพระพุทธศาสนาของนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนาทั้งใน และต่างประเทศ คณะกรรมการที่ปรึกษาวารสาร พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต), ศ.ดร. ประธานที่ปรึกษา พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโช) ราชบัณฑิต ที่ปรึกษา พระราชวรเมธี (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี), ดร. ที่ปรึกษา พระราชปริยัติกวี (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ), ศ.ดร. ที่ปรึกษา พระราชสิทธิมุนี วิ. ดร. ที่ปรึกษา พระราชวรมุนี (พล อาภากโร), ดร. ที่ปรึกษา พระราชปริยัติมุนี (เทียบ สิริญาโณ), ผศ.ดร. ที่ปรึกษา พระสุธีรัตนบัณฑิต (สุทิตย์ อาภากโร), ดร. ที่ปรึกษา ศ. พิเศษ จํานงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต ที่ปรึกษา ศ. พิเศษ อดิศักดิ์ ทองบุญ ราชบัณฑิต ที่ปรึกษา ศ.ดร. จํานงค์ อดิวัฒนสิทธิ์ ที่ปรึกษา ศ.ดร. วัชระ งามจิตรเจริญ ที่ปรึกษา ดร. พิพัฒน์ ยอดพฤติการณ์ ที่ปรึกษา บรรณาธิการ พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน, ดร ผู้ช่วยบรรณาธิการ พระมหายุทธนา นรเชฏโฐ, ดร. กองบรรณาธิการ พระศรีวินยาภรณ์, ดร. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พระมหาสมบูรณ์ วุฑฺฒิกโร, ดร. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ศ.ดร. วัชระ งามจิตรเจริญ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผศ.ดร. วุฒินันท์ กันทะเตียน มหาวิทยาลัยมหิดล ผศ.ดร. หอมหวล บัวระภา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดร. ภัทรชัย อุทาพันธ์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน (ขอนแก่น) รศ. ดร. สุวิญ รักสัตย์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ผศ.ดร. ณัทธีร์ ศรีดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย Prof. Dr. Iromi Ariyaratne Sri Lanka International Buddhist Academy, Pallekele, Sri Lanka Dr. R. Gopalakrisnan Department of Philosophy, University of Madras, Chennai, India พิสูจน์อักษร พระมหายุทธนา นรเชฏโฐ, ดร. พระมหาบุญเกิด ปญฺญาปวุฑฺฒี, ดร. พระมหาสุขสันติ์ สุขวฑฺฒโน, ดร. ดร. คงสฤษฎ์ แพงทรัพย์ คณะกรรมการฝ่ายบรรณาธิการ พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน, ดร. ประธานกรรมการ ผศ.ดร. ณัทธีร์ ศรีดี รองประธานกรรมการ ผศ.ดร. สุเทพ พรมเลิศ รองประธานกรรมการ ดร. แสวง นิลนามะ รองประธานกรรมการ ผศ. สมควร นิยมวงศ์ รองประธานกรรมการ พระเมธีวรญาณ, ดร. กรรมการ พระมหามงคลกานต์ ฐิตธมฺโม, ดร. กรรมการ พระมหาจีรวัฒน์ กนฺตวณฺโณ, ดร. กรรมการ พระมหาจรูญ กิตฺติปญฺโญ, ดร. กรรมการ พระมหานพดล ปุญฺญสุวฑฺฒโก, ดร. กรรมการ ผศ. ไกรวุฒิ มโนรัตน์ กรรมการ ผศ. กฤต ศรียะอาจ กรรมการ ผศ. คําพันธ์ วงศ์เสน่ห์ กรรมการ พระมหายุทธนา นรเชฏโฐ, ดร. กรรมการและเลขานุการ พระมหาบุญเกิด ปญฺญาปวุฑฺฒี, ดร. กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ พระมหาสุขสันติ์ สุขวฑฺฒโน, ดร. กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ดร. คงสฤษฎ์ แพงทรัพย์ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการฝ่ายธุรการวารสาร พระมหาสมเกียรติ กิตฺติญาโณ กรรมการ พระมหาไพศาล วิสาโล กรรมการ พระครูธรรมบาล (พิจิตร ธมฺมวิจิตฺโต) กรรมการ นายดวงดี โอฐสู กรรมการ นายไชยา เสนแสนยา กรรมการ นายวิเชียร บัวสําลี กรรมการ นางสาวปวีณา สิงห์คําคา กรรมการ นางสาวณัชชา อมราภรณ์ กรรมการ คณะกรรมการฝ่ายศิลปกรรม พระมหาศตนนท คมฺภีรเมโธ กรรมการ นายดวงดี โอฐสู กรรมการ นายธานินทร์ เมียส กรรมการ ค ำนิยม คณะพุทธศำสตร์ เป็นคณะแรก ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่จัดการเรียนการ สอนในระดับอุดมศึกษา ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ นับถึงปัจจุบันเป็นเวลานานถึง ๗๐ ปี ได้มีส่วน ส าคัญในการผลิตบัณฑิตด้านพระพุทธศาสนา เพื่อตอบสนองปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ผู้สถาปนามหาวิทยาลัย ซึ่งพระองค์ทรงพระประสงค์ ให้สถาบันแห่งนี้เป็นสถาบันการศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาการชั้นสูงของบรรพชิตและคฤหัสถ์ การจัดพิมพ์วำรสำร มจร พุทธศำสตร์ปริทรรศน์ ฉบับปฐมฤกษ์ขึ้น ในโอกาสที่คณะพุทธศำสตร์ สถาปนามาครบ ๗๐ ปี ครั้งนี้ ได้แสดงให้เห็นว่า คณะพุทธศาสตร์ มีความพร้อมแล้วที่จะเผยแพร่ผลงานวิชาการ ด้านพระพุทธศาสนาต่อสาธารณชน ซึ่งจะท าให้คนในสังคมได้รับประโยชน์จากวารสารฉบับนี้อย่างกว้างขวาง ในการจัดท าวารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ของคณะพุทธศาสตร์ขึ้นเป็นอย่างดี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บุคลากรของคณะพุทธศาสตร์มีความ ความสามัคคี มีความพร้อมในด้านวิชาการ มีความพร้อมในการจัดการองค์ความรู้ตามหลักเกณฑ์การประกัน คุณภาพการศึกษาในระดับอุดมศึกษา และมีความพร้อมในการบริการด้านวิชาการแก่สังคม และประเทศชาติ ตามพันธกิจของคณะพุทธศาสตร์ และของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จึงขอชื่นชมท่านคณบดีคณะพุทธศำสตร์ คณาจารย์ของคณะพุทธศาสตร์ และคณะท างานทุกรูป/ทุก ท่านที่มีส่วนร่วม ในการด าเนินงานจัดท าวารสารครั้งนี้ ขอเป็นก าลังใจ และอวยพรให้วารสาร มจร พุทธศาสตร์ ปริทรรศน์ฉบับนี้ ประสบความส าเร็จในการด าเนินงานด้วยดีตลอดไป (พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร.) อธิกำรบดี มหำวิทยำลัยมหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลัย ค ำนิยม คณะพุทธศำสตร์ เป็นคณะแรกที่เปิดการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬา ลงกรณราชวิทยาลัย มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ นับเป็นสัญลักษณ์ที่คงมาตรฐานและแสดงถึงความเป็นบัณฑิต ของมหาวิทยาลัย นั่นคือการก าหนดให้เรียกชื่อปริญญาของมหาวิทยาลัยปรากฏในชื่อปริญญาทุกระดับ ทั้ง ระดับปริญญาตรี เรียกชื่อปริญญาว่า พุทธศำสตรบัณฑิต (พธ.บ.) ปริญญาโท คือ พุทธศำสตรมหำบัณฑิต (พธ.ม.) และปริญญาเอก เรียกว่า พุทธศำสตรดุษฎีบัณฑิต (พธ.ด.) ตลอดเวลา ๗๐ ปี ที่ผ่านมา คณะพุทธศำสตร์ มีการเปลี่ยนแปลง พัฒนาการและความเจริญก้าวหน้า อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการบริหารจัดการ การเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการแก่สังคม และการ ท านุบ ารุงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งมีส่วนสัมพันธ์กับความเจริญรุ่งเรืองของมหาวิทยาลัยมาโดยล าดับ ท าให้คณะพุทธ ศำสตร์มีความส าคัญและยืนหยัดในการสืบสานปณิธานของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ พระองค์ผู้สถาปนานาม มหาวิทยาลัยแห่งนี้ขึ้นมาได้อย่างน่าชื่นชม บัณฑิตที่ส าเร็จการศึกษาจากคณะพุทธศำสตร์จึงมีคุณภาพและ ได้รับการยอมรับของสังคมทั้งระดับชาติและนานาชาติ ในโอกาสครบรอบ ๗๐ ปี คณะพุทธศำสตร์ ได้จัดพิมพ์วารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์ ฉบับ ปฐมฤกษ์ขึ้น จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้บริหาร คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ของคณะพุทธศำสตร์ อย่างประจักษ์ชัดถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการและให้บริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาแก่สังคม ขอชื่นชมคณะท างานทุกท่านที่มีส่วนร่วมส าคัญในการจัดท าวารสารฉบับนี้ ขอเป็นก าลังใจแก่คณะ ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ และหวังว่าวารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์ฉบับนี้จัก เป็นประโยชน์เกื้อกูลด้านวิชาการแก่ผู้สนใจโดยทั่วไป (พระรำชวรเมธี, ดร.) รองอธิกำรบดีฝ่ำยบริหำร มหำวิทยำลัยมหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลัย ค ำนิยม คณะพุทธศำสตร์ เป็นคณะแรกของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่เปิดท าการเรียนการ สอนในระดับอุดมศึกษา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลานานถึง ๗๐ ปี ได้มีส่วนส าคัญในการ ผลิตบัณฑิตทางพระพุทธศาสนาที่มีคุณภาพเป็นจ านวนมาก ท าให้การศึกษาในระดับอุดมศึกษาของ มหาวิทยาลัยสงฆ์ไทยมีความเจริญก้าวหน้าทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ และบัณฑิตที่ส าเร็จการศึกษาจาก คณะพุทธศาสตร์นี้ ได้เป็นก าลังส าคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและกิจการของคณะสงฆ์ไทยด้านอื่นๆ ด้วยดีตลอดมา ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ คณะพุทธศำสตร์ได้ด าเนินการจัดท าวำรสำร มจร. พุทธศำสตร์ปริทรรศน์ ฉบับ ปฐมฤกษ์ขึ้น เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการด้านพระพุทธศาสนาของคณาจารย์ในคณะพุทธศาสตร์ และ นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา จากสถาบันอื่นๆ ทั้งในและนอกประเทศ เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ คณาจารย์ในคณะพุทธศาสตร์ ได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงานวิชาการของตนเองให้ปรากฏต่อสาธารณชนอย่าง แพร่หลาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพด้านวิชาการของคณาจารย์โดยตรง และเป็นการ สร้างสรรค์องค์ความรู้ที่มีอยู่ในพระพุทธศาสนา ให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติอีกทางหนึ่งด้วย เพราะคณะพุทธศาสตร์นั้น มีพันธกิจส าคัญในการผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพ ให้สามารถน าเอาองค์ความรู้ใน พระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้เป็นหลักการและแนวทางในการพัฒนาคน สังคมและประเทศชาติได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นหลักแห่งการพัฒนาตนเอง หลักการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม หลักแห่งเบญจศีล- เบญจธรรม ก็ตาม การจัดท าวำรสำร มจร พุทธศำสตร์ปริทรรศน์ ฉบับปฐมฤกษ์ ของคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และ เจ้าหน้าที่ของคณะพุทธศาสตร์ขึ้นในครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า คณะพุทธศาสตร์มีความพร้อมในการ จัดการองค์ความรู้ที่มีอยู่ เพื่อให้บริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาแก่สังคมและประเทศชาติอย่างมีคุณภาพ ตามพันธกิจของคณะพุทธศาสตร์และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยต่อไป ในฐานะรองอธิการฝ่ายวิชาการ จึงขอชื่นชมคณะท างานทุกรูป/ทุกท่านที่มีส่วนร่วม ในการด าเนินงาน จัดท าวารสารครั้งนี้ ขอเป็นก าลังใจ และอวยพรให้วำรสำร มจร พุทธศำสตร์ปริทรรศน์ฉบับนี้ ประสบ ความส าเร็จในการด าเนินงานด้วยดีตลอดไป (พระรำชปริยัติกวี, ศ.ดร.) รองอธิกำรบดีฝ่ำยวิชำกำร มหำวิทยำลัยมหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลัย ค ำนิยม คณะพุทธศำสตร์ เป็นคณะแรกของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่เปิดท าการเรียนการ สอนในระดับอุดมศึกษา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลานานถึง ๗๐ ปี ได้มีส่วนส าคัญในการ ผลิตบัณฑิตทางพระพุทธศาสนาที่มีคุณภาพเป็นจ านวนมาก ท าให้การศึกษาในระดับอุดมศึกษาของ มหาวิทยาลัยสงฆ์ไทยมีความเจริญก้าวหน้าทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ และบัณฑิตที่ส าเร็จการศึกษาจาก คณะพุทธศาสตร์นี้ ได้เป็นก าลังส าคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและกิจการของคณะสงฆ์ไทยด้านอื่นๆ ด้วยดีตลอดมา เช่น เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน จังหวัด นครปฐม พระเดชพระคุณ พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย ศาสตราจารย์ (พิเศษ) จ านงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต เป็นต้น วำรสำร มจร. พุทธศำสตร์ปริทรรศน์ เป็นวารสารของคณะพุทธศาสตร์ ฉบับปฐมฤกษ์และพิมพ์ เผยแพร่ในวโรกาสที่คณะพุทธศาสตร์ครบ ๗๐ ปี จัดท าขึ้นเพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการด้านพระพุทธศาสนาของ คณาจารย์ในคณะพุทธศาสตร์ นิสิตระดับบัณฑิตศึกษาของคณะพุทธศาสตร์ และนักวิชาการด้าน พระพุทธศาสนา จากสถาบันอื่นๆ ทั้งในและนอกประเทศ ได้มีโอกาสน าผลงานด้านวิชาการมาเผยแพร่ต่อ สาธารณชน ซึ่งจะท าให้คนในสังคมไทยและต่างประเทศมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นทางวิชาการด้าน พระพุทธศาสนาที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ในการจัดท าวำรสำร มจร พุทธศำสตร์ปริทรรศน์ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ของคณะพุทธศาสตร์ขึ้นเป็นอย่างดี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คณะพุทธศาสตร์มีความพร้อม ในด้านคณะท างานด้านวิชาการ มีศักยภาพในการจัดการองค์ความรู้ตามหลักเกณฑ์การประกันคุณภาพ การศึกษาในระดับอุดมศึกษา และมีความพร้อมในท าหน้าที่เพื่อบริการด้านวิชาการแก่สังคมประเทศชาติ ตาม พันธกิจของคณะพุทธศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะคณบดีคณะพุทธศำสตร์ จึงขอชื่นชมคณะท างานทุกรูป/ทุกท่านที่มีส่วนร่วม
Recommended publications
  • Korea and Vietnam: Limited War and the American Political System
    Korea and Vietnam: Limited War and the American Political System By Larry Elowitz A DISSERTATION PRESENTED TO THE GRADUATE COUNCIL OF THE UNIVERSITY OF FLORIDA IN PARTIAL FULFILLMENT OF THE REQUIREMENTS FOR THE DEGREE OF DOCTOR OF PHILOSOPHY UNIVERSITY OF FLORIDA 1972 To Sharon ACKNOWLEDGEMENTS The author would like to express his very deep appreciation to Dr. John W. Spanier for his valuable advice on style and structure. His helpful suggestions were evident throughout the entire process of writing this dissertation. Without his able supervision, the ultimate completion of this work would have been ex- ceedingly difficult. The author would also like to thank his wife, Sharon, whose patience and understanding during the writing were of great comfort. Her "hovering presence," for the "second" time, proved to be a valuable spur to the author's research and writing. She too, has made the completion of this work possible. The constructive criticism and encouragement the author has received have undoubtedly improved the final product. Any shortcomings are, of course, the fault of the author. iii TABLE OF CONTENTS Page ACKNOWLEDGEMENTS iii LIST OF TABLES viii ABSTRACT xii CHAPTER 1 THE AMERICAN POLITICAL SYSTEM AND LIMITED WAR 1 Introduction 1 American Attitudes 6 Analytical Framework 10 Variables and Their Implications 15 2 PROLOGUE--A COMPARISON OF THE STAKES IN THE KOREAN AND VIETNAM WARS 22 The External Stakes 22 The Two Wars: The Specific Stakes. 25 The Domino Theory 29 The Internal Stakes 32 The Loss of China Syndrome: The Domestic Legacy for the Korean and Vietnam Wars 32 The Internal Stakes and the Eruption of the Korean War 37 Vietnam Shall Not be Lost: The China Legacy Lingers 40 The Kennedy and Johnson Administra- tions: The Internal Stakes Persist .
    [Show full text]
  • Vietnam January-August 1963
    III. BEGINNING OF THE BUDDHIST CRISIS, MM 9-JUNE 16: INCIDENT IN HUE, THE FIVE BUDDHIST DEMANDS, USE OF TEAR GAS IN HUE, SELF- IMMOLAHON OF QUANG DUC, NEGOTIAl-IONS IN SAIGON TO RESOLVE THE CRISIS, AGREEMENT ON THE FIVE DEMANDS 112. Telegram From the Consulate at Hue to the Department of State’ Hue, May 9, 1963-3 p.m. 4. Buddha Birthday Celebration Hue May 8 erupted into large- scale demonstration at Hue Radio Station between 2000 hours local and 2330 hours. At 2245 hours estimated 3,000 crowd assembled and guarded by 8 armored cars, one Company CG, one Company minus ARVN, police armored cars and some carbines fired into air to disperse mob which apparently not unruly but perhaps deemed menacing by authorities. Grenade explosion on radio station porch killed four chil- dren, one woman, Other incidents, possibly some resulting from panic, claimed two more children plus one person age unknown killed. Total casualties for evening 8 killed, 4 wounded. ’ I Source: Department of State, Central Files, POL 25 S VIET. Secret; Operational Immediate. Received at 8:33 a.m. 2 At 7 p.m. the Embassy in Saigon sent a second report of the incident to Washing- ton, listing seven dead and seven injured. The Embassy noted that Vietnamese Govern- ment troops may have fired into the crowd, but most of the casualties resulted, the Embassy reported, from a bomb, a concussion grenade, or “from general melee”. The Embassy observed that although there had been no indication of Viet Cong activity in connection with the incident, the Viet Cong could be expected to exploit future demon- strations.
    [Show full text]
  • SNIE 53-2-63 the Situation in South Vietn~M 10 July 1963
    SNIE 53-2-63 The Situation in South Vietn~m I I 10 July 1963 This document is made available through the declassification efforts and research of John Greenewald, Jr., creator of: The Black Vault The Black Vault is the largest online Freedom of Information Act (FOIA) document clearinghouse in the world. The research efforts here are responsible for the declassification of hundreds of thousands of pages released by the U.S. Government & Military. Discover the Truth at: http://www.theblackvault.com A~PROVED FOR RELEASE DATE: 'JAN 2005 THE SITUATldlN IN SOUTH VIETNAM r SCOPE NOTE I NIE 53-63, "Prospects in South Vietnam," dated 17 April 1963 was particularly concerned with the progress of the Jounterin­ surgency effort, and with the military and political fadtors most likely to affect that effort. The primary purpose of tHe present SNIE is to examine the implications of recent in develo~mentsI South Vietnam for the stability of the country, the viability of the piem regime, and its relationship with the US. ! CONCLUSIONS A. The Buddhist crisis in South Vietnam has highlighted and intensified a widespread and longstanding dissatisfacrbon with the Diem regime and its style of government. If-as is likely­ Diem fails to carry out truly and promptly the commitments he has made to the Buddhists, disorders will probably ftkre again and the chances of a coup or assassination attempts ag~inst him will become better than even. (Paras. 4, 14) I B. The Diem regime's underlying uneasiness about t~e extent of the US involvement in South Vietnam has been sharpened I by the Buddhist aflair and the firm line taken by the US.
    [Show full text]
  • Buddhism and Medicine in Tibet: Origins, Ethics, and Tradition
    Buddhism and Medicine in Tibet: Origins, Ethics, and Tradition William A. McGrath Herndon, Virginia B.Sc., University of Virginia, 2007 M.A., University of Virginia, 2015 A Dissertation presented to the Graduate Faculty of the University of Virginia in Candidacy for the Degree of Doctor of Philosophy Department of Religious Studies University of Virginia May, 2017 Abstract This dissertation claims that the turn of the fourteenth century marks a previously unrecognized period of intellectual unification and standardization in the Tibetan medical tradition. Prior to this time, approaches to healing in Tibet were fragmented, variegated, and incommensurable—an intellectual environment in which lineages of tantric diviners and scholarly literati came to both influence and compete with the schools of clinical physicians. Careful engagement with recently published manuscripts reveals that centuries of translation, assimilation, and intellectual development culminated in the unification of these lineages in the seminal work of the Tibetan tradition, the Four Tantras, by the end of the thirteenth century. The Drangti family of physicians—having adopted the Four Tantras and its corpus of supplementary literature from the Yutok school—established a curriculum for their dissemination at Sakya monastery, redacting the Four Tantras as a scripture distinct from the Eighteen Partial Branches addenda. Primarily focusing on the literary contributions made by the Drangti family at the Sakya Medical House, the present dissertation demonstrates the process
    [Show full text]
  • III MAF and the Buddhist Struggle Movement in South Vietnam, 1966 Robert Topmiller University of Kentucky
    Confrontation in Danang: III MAF and the Buddhist Struggle Movement in South Vietnam, 1966 Robert Topmiller University of Kentucky "Vietnamese history will never forgive these brutal acts." general Ton That Dinh On 13 June 1965, the New York Times reported that twenty "major gov- ernment upheavals" had occurred in South Vietnam since the fall of Ngo Dinh Diem in November 1963.1 This short piece listing the vari- ous regimes that held power during this brief period illustrates one of the most troubling problems for American policy-makers during the Vietnam War. How could the United States establish a government in Saigon that displayed a sense of legitimacy, viability, and sensitivity to the populace-a government, in other words, that would command the loyalty of the citizens of South Vietnam? Few American officials understood that the lack of Government of South Vietnam (GVN) legitimacy also called forth the Buddhist Struggle Movement since most South Vietnamese had no legal way to confront their government. Buddhist resistance to the GVN, however, remains one of the most contentious and misunderstood issues dur- ing the Vietnam War, and has been largely neglected by historians. Yet, Buddhism constituted a vital link in non-Communist opposition to the GVN from 1964 to 1966. By emphasizing Buddhism, opponents of the regime highlighted its association with foreign elements and its alienation from the people. Thus, when Buddhists3 demonstrated against the government while claiming to represent the will of the The author would like to thank Dr. George Herring and Dr. David Hamilton for review- ing and offering comments on parts of this essay, and Dr.
    [Show full text]
  • Saigyō's “Six Elements and Four Mandalas” Sequence
    Saigyō’s “Six Elements and Four Mandalas” Sequence: The Story and Rhetoric of Enlightenment Bonnie L. McClure A thesis submitted in partial fulfillment of the requirements for the degree of Master of Arts University of Washington 2015 Committee: Paul S. Atkins Edward T. Mack Program Authorized to Offer Degree: Asian Languages and Literature ©Copyright 2015 Bonnie L. McClure University of Washington Abstract Saigyō’s “Six Elements and Four Mandalas” Sequence: The Story and Rhetoric of Enlightenment Bonnie L. McClure Chair of the Supervisory Committee: Associate Professor Paul S. Atkins Asian Languages and Literature This paper analyzes Saigyō’s little-discussed waka cycle on the six elements and four mandalas of Shingon. I first introduce the sequence in the context of other similar works by Saigyō, then turn to a discussion of the place of Saigyō’s poetry as a whole within the history of Buddhist themes in Japanese poetry. Saigyō lived at a turning point when Heian-era tension between the poetic and Buddhist traditions was giving way to robust and varied philosophical defenses of their compatibility. Saigyō’s work formed a defense of this compatibility via practice: he allowed his Buddhist and poetic impulses to confront each other within his poetry. After tracing this thread through Saigyō’s oeuvre more broadly, I introduce the Shingon conceptualization of the six elements and four mandalas, then translate and analyze each of Saigyō’s ten poems, commenting on stylistic elements and allusions and on the larger structure of the cycle. I find these poems to be representative of Saigyō’s broader vision in that they treat a Buddhist concept with the same sense of narrative and inner dialogue that marks the encounter between Buddhism and poetry in Saigyō’s work as a whole.
    [Show full text]
  • Political Monks: the Militant Buddhist Movement During the Vietnam War
    Modern Asian Studies 38, 4 (2004) pp. 749–784. C 2004 Cambridge University Press DOI: 10.1017/S0026749X04001295 Printed in the United Kingdom Political Monks: The Militant Buddhist Movement during the Vietnam War MARK MOYAR University of Cambridge Summary: From November 1963 to July 1965, the militant Buddhist movement was the primary cause of political instability in South Vietnam. While the militant Buddhists maintained that they represented the Buddhist masses and were fighting merely for religious freedom, they actually constituted a small and unrepresentative minority that was attempting to gain political dominance. Relying extensively on Byzantine intrigue and mob violence to manipulate the government, the militant Buddhists practiced a form of political activism that was inconsistent with traditional Vietnamese Buddhism. The evidence also suggests that some of the militant Buddhist leaders were agents of the Vietnamese Communists. The period from the end of 1963 to July 1965 has received more attention than any other segment of the Vietnam War, largely because it was during this time that President Lyndon B. Johnson reached a decision to enter the ground war. Virtually all historians of this period have recognized the weakness of South Vietnam’s government as a central cause of American intervention. Few, however, have analyzed the reasons behind this weakness. Those who do address the subject generally attribute the government’s frailty solely to the inferior skills and motivation of the ruling elite.1 Some of the individuals who
    [Show full text]
  • Om Mani Padme Hum - Wikipedia
    Om mani padme hum - Wikipedia Not logged in Talk Contributions Create account Log in Article Talk Read Edit View history Om mani padme hum From Wikipedia, the free encyclopedia Main page O ma i padme h [1] Contents ṃ ṇ ūṃ (Sanskrit : Om mani padme hum Featured content , IPA: [õːː məɳipəd̪meː ɦũː]) is the six-syllabled Current events Sanskrit mantra particularly associated with the four- Random article armed Shadakshari form of Avalokiteshvara (Tibetan : སན་ Donate to Wikipedia Chenrezig, Chinese : 觀 Guanyin, Japanese : Wikipedia store རས་གཟིགས་ 音 かんのん 観音 Kannon or Kanzeon, Mongolian : Мэгжид Interaction The mantra in Tibetan Жанрайсиг Migjid Janraisig), the bodhisattva of with the six syllables colored Help compassion. About Wikipedia Chinese name Community portal The first word Om is a sacred syllable found in Indian Chinese 唵嘛呢叭咪吽 Recent changes religions. The word Mani means "jewel" or "bead", Padme Transcriptions Contact page is the "lotus flower " (the Buddhist sacred flower), and Hum Standard Mandarin [2][3] Tools represents the spirit of enlightenment . Hanyu Pinyin Ǎn mání bāmī hōng What links here It is commonly carved onto rocks, known as mani stones , or Karandavyuha Sutra name Related changes else it is written on paper which is inserted into prayer Chinese 唵麼抳缽訥銘吽 Upload file wheels. When an individual spins the wheel, it is said that Transcriptions Special pages the effect is the same as reciting the mantra as many times Standard Mandarin Permanent link as it is duplicated within the wheel. Hanyu Pinyin Ǎn mání bōnàmíng hōng
    [Show full text]
  • Self-Immolation in Tibet: Beyond the Lens of the Esw Tern Media Meredith Kaufman Bucknell University, [email protected]
    Bucknell University Bucknell Digital Commons Honors Theses Student Theses 2013 Self-Immolation In Tibet: Beyond The Lens Of The esW tern Media Meredith Kaufman Bucknell University, [email protected] Follow this and additional works at: https://digitalcommons.bucknell.edu/honors_theses Recommended Citation Kaufman, Meredith, "Self-Immolation In Tibet: Beyond The Lens Of The eW stern Media" (2013). Honors Theses. 147. https://digitalcommons.bucknell.edu/honors_theses/147 This Honors Thesis is brought to you for free and open access by the Student Theses at Bucknell Digital Commons. It has been accepted for inclusion in Honors Theses by an authorized administrator of Bucknell Digital Commons. For more information, please contact [email protected]. ii Table of Contents Title Page 1 Introduction 1 1.1 Historical relations of China, the West, and Tibet 6 1.2 Contemporary relations between Tibet and China 8 1.3 Defining Media 10 1.4 Overview of thesis argument 12 2 An in Depth Look at Media Accounts 16 2.1 Recurring Patterns in Media Content 17 2.2 Chinese Oppressors 18 2.3 Topics in Media Accounts: Political Protest & Helplessness 19 2.4 Media Depictions of Self-Immolators 25 2.5 Sonam Wangyal: Media Depictions vs. Personal Recording 26 2.6 Western Media Depictions of Chinese Self-Immolations 28 3 Buddhist Foundations of Self-Immolation 32 3.1 Buddhist Doctrinal Background 33 3.2 Self-Immolation in Buddhist Scripture: The Lotus Sutra 37 3.3 Self-Immolation in Jataka Tales 42 3.4 Reexamining the Self-Immolation of Lama Sobha 44 4 Self-Immolation
    [Show full text]
  • Hughes, Thomas L
    Association for Diplomatic Studies and Training Foreign Affairs Oral History Project THOMAS L. HUGHES Interviewed by: Charles Stuart Kennedy Initial interview date: July 7, 1999 Copyright 2011 ADST TABLE OF CONTENTS Background Born and raised in Minnesota arleton ollege; Oxford University; Yale Law School US Air Force Political Science Professor Democratic politics ongressional assignments Eisenhower Doctrine Jack Kennedy Hu,ert Humphrey Assistant to hester Bowles Election of 19.0 Adlai Stevenson State Department; Administrative Asst. to the Under Secretary 19.1 hester Bowles Am,assador appointments Kennedy Administration appointments 1hodes Scholar group Laos23ietnam Eisenhower influence Averell Harriman ourtesy Diplomatic Passports 4Kennedy5 Asserting am,assadorial authority Alliance for Progress Bay of Pigs Kennedy relations with State Department State Department; Deputy Director, Intelligence 8 1esearch 19.1919.3 Director, Intelligence 8 1esearch 19.3919.9 Briefing the Secretary Organization of the bureau 1o,ert McNamara 1 >No 1esearch Without 1ecommendations“ 1elations with IA United States Intelligence Board National Intelligence Estimates 4NIE5 Inter9Agency ommittees >Plausi,le Denia,ility“ IAAs successes and failures oordinating intelligence Defense Intelligence Agency 4DIA5 Berman9American relations Kennedy in Berlin Eleanor Dulles Kennedy staff The >Baullist Temptation“ Berlin crisis The Hallstein Doctrine President Johnson and the State Department Multilateral Force 4MLF5 IsraelAs nuclear program 4Dimona5 American Jewish community
    [Show full text]
  • III - the Trouble with Diem: May-November 1963
    III - The Trouble With Diem: May-November 1963.. a• .Background: Events during this period dramatically switched the focus of attention from military to political affairs in South Vietnam. When the GVN on May 8.suppressed. a demonstration in Hue over the right to fly Buddhist flags during religious festivals, there rapidly followed Buddhist demonstrations in other major cities, and several Buddhists immolated themselves. in protest. Diem agreed on June 16 to meet certain Buddhist demands and thus produced a temporary lu11, but then he violated the. agreement and the Buddhist response fanned the crisis to even more serious proportions. US Ambassador Nolting warned Diem in early July that the US could not support religious intolerance. As he departed in August he was assured that the GVti would not condone repressive action against the Buddhists--but within ten days, GVN security forces raided the Xa Loi Pagoda in Saigon. Following this act, the US quietly suspended its commodity import program. President Kennedy held a 'series of press interviews in which he expressed increasing concern over the situation-and its implications, finally voicing his belief that there was urgent-need for changes in the GVN's policies and personnel On November 1', 1963, a military junta led by General Duong Van Minh staged a successful coup in the course of which Diem and his brother Nhu were killed. The outcome was a provisional government headed by Minh and former Vice President Nguyen Ngoc. Tho. 2. In' this period leading up to the coup, two novel and imponderable factors obscured and complicated the view.for observers.
    [Show full text]
  • Library of Congress
    Library of Congress Interview with Mr. Thomas L. Hughes Association for Diplomatic Studies and Training Foreign Affairs Oral History Project THOMAS L. HUGHES Interviewed by: Charles Stuart Kennedy Initial interview date: July 7, 1999 Copyright 2011 ADST Q: When and where were you born? HUGHES: I was born in December, 1925, and grew up in Mankato, a small town in southern Minnesota. Q: Can you tell me a little about your parents and your family? HUGHES: My grandfather Thomas Hughes was a successful lawyer, judge, and civic leader. He was also a prominent local historian. We lived with him in his house until his death in 1934 when I was eight. He wrote several well-regarded books—on the Welsh in Minnesota, on Blue Earth County history, and on Minnesota Indian themes. He was in fact the major frontier historian of Southern Minnesota. For instance, he interviewed Indian chiefs after they lost what we used to call the “Sioux Uprising” of 1862. So I grew up in a house full of his library books and local historical objects. Many years later I edited the second editions of two of his Indian books. Dr. Thomas Lowe, my other grandfather, was a well-known prairie physician in Pipestone, an even smaller town located in southwestern Minnesota. He also served as the town mayor, and in his last years he was elected to the state legislature in St. Paul. I spent Interview with Mr. Thomas L. Hughes http://www.loc.gov/item/mfdipbib001565 Library of Congress some memorable times with both grandfathers in my youth, and I suppose my interest in history, international affairs, and public service derives from both of them.
    [Show full text]