DOCSLIB.ORG

Anomala Grandis; 9

Total Page：16

File Type：pdf, Size：1020Kb

Download full-text PDF Read full-text
Anomala Grandis; 9 ก1 ค าน า ความหลากหลายทางชีวภาพ (biological diversity หรือ biodiversity) หมายถึง สิ่งมีชีวิต นานาชนิด นานาพันธุ์ในระบบนิเวศ อันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยซึ่งมีมากมายและแตกต่างกันทั่วโลกทั้งระดับ พันธุกรรมหรือยีน (gene) ขึ้นไปถึงระดับชนิดหรือสปีชีส์ (species) จนถึงความหลากหลายของกลุ่มสิ่งมีชีวิต เชิงนิเวศวิทยา (ecological community) ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพมีอยู่อย่างมากมายทั้ง ทางตรงและทางอ้อม ประโยชน์ทางตรง ได้แก่ การให้เนื้อไม้ เป็นอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและยารักษา โรค สําหรับประโยชน์ทางอ้อม ได้แก่ คุณค่าในการรักษาระบบนิเวศให้สามารถดํารงอยู่ได้ เช่น การรักษาหน้า ดิน การตรึงไนโตรเจนสู่ดิน การควบคุมความชื้น รวมถึงการท่องเที่ยวและนันทนาการ การรักษาความ หลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่หนึ่งๆ ให้คงความอุดมสมบูรณ์ จําเป็นต้องมีข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพ ในพื้นที่นั้นก่อน การศึกษาข้อมูลดังกล่าวจะทําให้ทราบถึงการมีอยู่ของความหลากหลายทางชีวภาพในแต่ละ พื้นที่ ทําให้สามารถนําไปใช้ในการวางแผนบริหารจัดการทรัพยากรความหลากหลายในระดับพื้นที่และ ระดับประเทศให้คงความอุดมสมบูรณ์ต่อไปในอนาคต กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เห็นความสําคัญในการอนุรักษ์ความหลากหลาย ทางชีวภาพ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 จึงได้ส่งแผนการดําเนินการสํารวจความหลากหลายทางชีวภาพใน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าให้สําหรับสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) โดยกลุ่มงานวิชาการดําเนินการ รายงานฉบับนี้เป็นรายงานผลการสํารวจความหลากหลายชนิดพรรณพืช แมลง และเห็ด ในป่าเบญจพรรณ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งของความหลากหลายที่มีอยู่ในเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี สําหรับข้อมูลการสํารวจความหลากหลายที่ได้ดําเนินการที่ผ่านมา จะได้รวบรวม ในภาพรวมของเขตรักษาพันธุ์ต่อไป คณะผู้จัดทํา ข2 สารบัญ เรื่อง หน้า คํานํา ก สารบัญ ข สารบัญตาราง ค สารบัญภาพ ง บทที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของพื้นที่ดําเนินการ 1 บทที่ 2 ทบทวนวรรณกรรม 4 บทที่ 3 อุปกรณ์ และวิธีการสํารวจ 8 บทที่ 4 ผลการสํารวจ 4.1 ผลการสํารวจความหลากหลายของพรรณไม้ 16 4.2 ผลการสํารวจความหลากหลายของแมลง 29 4.3 ผลการสํารวจความหลากหลายของเห็ด 70 บทที่ 5 สรุปและวิจารณ์ผลการสํารวจ 81 บทที่ 6 ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ 83 กิตติกรรมประกาศ 84 เอกสารอ้างอิง 85 คณะผู้ดําเนินการ 87 ค1 สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1 บัญชีรายชื่อไม้ต้นที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 20 2 ค่าดัชนีความสําคัญของไม้ใหญ่ในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 23 3 บัญชีรายชื่อไม้หนุ่มที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 26 4 ค่าดัชนีความสําคัญของไม้หนุ่มในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 28 5 บัญชีรายชื่อผีเสื้อกลางวันที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 37 6 จํานวนชนิดของผีเสื้อกลางวันในแต่ละฤดูที่พบในป่าเบญจพรรณ 41 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 7 รายชื่อแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 61 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 8 บัญชีรายชื่อเห็ดที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 78 2ง สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 1 แผนที่แสดงตําแหน่งจุดสํารวจในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี จังหวัดราชบุรี 9 2 โครงสร้างป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี จังหวัดราชบุรี 25 3 แผนภาพ Venn diagram เปรียบเทียบข้อมูลของผีเสื้อกลางวันที่สํารวจพบในฤดูร้อน 42 และฤดูฝนป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 4 จํานวนชนิดผีเสื้อกลางวันที่สํารวจพบจําแนกตามฤดูในป่าเบญจพรรณ 43 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 5 จํานวนชนิดผีเสื้อกลางวันที่สํารวจพบจําแนกตามวงศ์ในป่าเบญจพรรณ 43 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 6 แผนภาพ Venn diagram เปรียบเทียบข้อมูลของแมลงปีกแข็งที่สํารวจพบในฤดูร้อนและ 68 ฤดูฝนป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 7 จํานวนชนิดแมลงปีกแข็งที่สํารวจพบจําแนกตามวงศ์ในป่าเบญจพรรณ 68 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 8 แผนภาพ Venn diagram เปรียบเทียบข้อมูลของผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในฤดูร้อน 69 และฤดูฝนป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 9 จํานวนชนิดผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบจําแนกตามวงศ์ในป่าเบญจพรรณ 69 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี ภาพชุดที่ หน้า 1.1 ตัวอย่างพรรณไม้ที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 18 1.2 ตัวอย่างพรรณไม้ที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 19 1.3 ตัวอย่างพรรณไม้ที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 20 จ3 สารบัญภาพ ภาพชุดที่ หน้า 2.1 ตัวอย่างผีเสื้อกลางวันที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 30 2.2 ตัวอย่างผีเสื้อกลางวันที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 31 2.3 ตัวอย่างผีเสื้อกลางวันที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 32 2.4 ตัวอย่างผีเสื้อกลางวันที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 33 2.5 ตัวอย่างผีเสื้อกลางวันที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 34 2.6 ตัวอย่างผีเสื้อกลางวันที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 35 3.1 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 45 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.2 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 46 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.3 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 47 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.4 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 48 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.5 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 49 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.6 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 50 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.7 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 51 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.8 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 52 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี ฉ4 สารบัญภาพ ภาพชุดที่ หน้า 3.9 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 53 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.10 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 54 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.11 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 55 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.12 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 56 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.13 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 57 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.14 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 58 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.15 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 59 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 3.16 ตัวอย่างแมลงปีกแข็งและผีเสื้อกลางคืนที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ 60 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 4.1 ตัวอย่างเห็ดที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 71 4.2 ตัวอย่างเห็ดที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 72 4.3 ตัวอย่างเห็ดที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 73 4.4 ตัวอย่างเห็ดที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 74 4.5 ตัวอย่างเห็ดที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 75 4.6 ตัวอย่างเห็ดที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 76 ช5 สารบัญภาพ ภาพชุดที่ หน้า 4.7 ตัวอย่างเห็ดที่สํารวจพบในป่าเบญจพรรณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี 77 1 บทที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของพื้นที่ด าเนินการ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ าภาชี ประวัติการจัดตั้งพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี ได้ประกาศตามพระราชกฤษฎีกาเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2521 มีเนื้อที่ประมาณ 489.31 ตารางกิโลเมตร หรือ ประมาณ 305,820 ไร่ ตั้งอยู่ใน ท้องที่ตําบลบ้านบึง อําเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เป็นแหล่งต้นน้ําลําธาร ต้นกําเนิดแม่น้ําภาชี และเป็นแหล่งที่ มีสัตว์ป่าชุกชุม แหล่งน้ําแหล่งอาหารสัตว์อุดมสมบูรณ์ ฉะนั้น เพื่อให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดย ปลอดภัย ตลอดจนสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่ให้คงอยู่ตลอดไปจึงได้ประกาศให้เป็นเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่า ที่ตั้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชีตั้งอยู่ในแนวเส้นรุ้งประมาณ 13 องศา 8 ลิปดาเหนือ ถึง 13 องศา 27 ลิปดาเหนือ เส้นแวงที่ 99 องศา 10 ลิปดา 12 ฟิลิปดาตะวันออก ถึง 99 องศา 25 ลิปดาตะวันออก มีพื้นที่ทั้งหมด 489.31 ตารางกิโลเมตร หรือ ประมาณ 305,820 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ตําบลบ้านบึง ตําบล บ้านคา และตําบลท่าเคย กิ่งอําเภอบ้านคา ตําบลตะนาวศรี อําเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ทิศเหนือ อยู่ในเขตอําเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ทิศใต้ ติดกับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ทิศตะวันตก ติดกับประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ทิศตะวันออก อยู่ในเขตอําเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ขนาดพื้นที่ มีพื้นที่ 489.31 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 305,820 ไร่ ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิประเทศประกอบไปด้วย ภูเขาสูงสลับซับซ้อนมียอดเขาที่สูงสุดคือ เขาพุน้ําร้อน สูง ประมาณ 1,062 เมตร รองลงมาคือ ยอดเขาใหญ่สูงประมาณ 1,055 เมตร เขาจมูกสูง 995 เมตร มีพื้นที่ราบ ลุ่มน้อยส่วนใหญ่เป็นที่ราบแคบๆ ตามลําห้วยใหญ่เป็นพื้นที่ป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งกําเนิด 2 แม่น้ําภาชี มีห้วยต้องกินเจ้า ห้วยพุระกํา ห้วยน้ําหนัก ห้วยเจิงเจ้ย ไหลลงมารวมแม่น้ําภาชีทางด้านทิศ ตะวันตกของพื้นที่ยังเป็นแหล่งกําเนิดห้วยพุน้ําร้อน ห้วยสวนพลู ห้วยจารุณีย์ ห้วยลําบัวทอง ห้วยน้ําใส ซึ่งไหล ลงรวมห้วยท่าเคย ในท้องที่ตําบลบ้านบึง ตําบลบ้านคา ตําบลท่าเคย ลงรวมแม่น้ําภาชี ที่ตําบลสวนผึ้ง ไหล ออกสู่แม่น้ําแควใหญ่ที่จังหวัดกาญจนบุรี และออกสู่แม่น้ําแม่กลอง จังหวัดราชบุรี สภาพภูมิอากาศ บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี มีปริมาณน้ําฝนอยู่ในเกณฑ์ต่ํา เพราะอยู่ในเขต เงาฝน ปริมาณน้ําฝนเฉลี่ยทั้งปี 1,548 มิลลิเมตร บางปีมีปริมาณน้ําฝนรวมทั้งปีเพียง 246.3 มิลลิเมตร สําหรับ การกระจายของปริมาณน้ําฝนเป็นรายเดือน มีปริมาณน้ําฝนมากที่สุด เดือนตุลาคม รองลงมาคือ เดือน กันยายนและเดือนพฤศจิกายน ทรัพยากรทางชีวภาพโดยทั่วไป ทรัพยากรธรรมชาติที่สําคัญในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี ได้แก่ ทรัพยากรป่าไม้ ลักษณะภูมิประเทศของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ําภาชี เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน ช่วงชั้น ความสูงจากระดับน้ําทะเล ตั้งแต่ 200 – 1,062 เมตร ทําให้เกิดป่าหลายชนิดกระจายอยู่บนพื้นที่ที่มีความสูง ต่างๆ กัน ประกอบด้วยป่า 4 ประเภท คือ (1) ป่าดิบชื้น ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 27,523.8 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 9 ของพื้นที่ โดยมีการ กระจายอยู่ทางตอนใต้และตะวันตกของพื้นที่ และบริเวณลําห้วยสายใหญ่ๆ กระจายอยู่ในหลายระดับความสูง เช่น บริเวณ ลําห้วยน้ําพุร้อน
Load more

Recommended publications
  • New Pyralidae from the Papuan Region
    1112 THE C.4NADIAN ENTO34OLOGIST February 1959 New Pyralidae from the Papuan Region (Lepidoptera)' By EUGENEMUNROE~ Insect Systematics and Biological Control Unit Entomology Division, Ottawa, Canada The following new species have been found in material submitted from various sources for identification. Glyphodes obscura, new species Fig. 1, 9, 13 Head, bndv and nvings above ntoderately dark greyish brown, wings with a faint purplish sheen, hind n.ing a little paler and somewhat translucent in basal txl-i-n-thirds. ,\larking very obscure. Fore wing above: antemedial band w-eaklv fulvous. dark-bordered. somen.hat oblique; discocellular patch obscure, quadrate; postmedial band weakly fulvous, dark-bordered, outwardly oblique to anal fold, then retracted to lower angle of cell and again outwardly oblique to inner margin; an obscure dark subterminal line, almost parallel to margin; a narrow dark terminal line; fringe a little ~alerthan wing, with a dark midline. Hind wing above: a distinct dark dot at lower angle of cell; a very obscure, regular, postmedial band; traces of a dark, crenulated, subterminal line; terminal line and fringe as on forc wing. Fore wing beneath: base and disc paler than al~ove;ancerntdial line lacking; discocellular marking dark, geminate, joined posteriorlv tn the inner end of ~ostmedialline; the latter dark, roughly L-shaped, the part behind the discocellular patch obsolete; termen and fringe as above. Hind wing beneath: much ns above. but discocellular dot obscure and postmedial band dark, not fulvous. Female a little paler than male. Expanse 40 to 44 mm. Male genitalia. Uncus long and rod-like, decurved, weakly expanded at tip with a corona of short setae above and with coarse hairy vestiture below; tegumen broad, irregularly domed; vinculum moderately wide, irregularly con- torted; transtilla strap-like, narrowed and raised in an inverted V in middle; valve broad, distally expanded, with a large, decurved, spine-like clasper; cor- emata large; penis short, aedoeagus poorly sclerotized, vesica with a forked, barbed cornutus.
    [Show full text]
  • The Herbivorous Insect Fauna of a Submersed Weed, Hydrilla Verticillata (Alismatales: Hydrocharitaceae)
    SESSION 5 Weeds of Aquatic Systems and Wetlands Proceedings of the X International Symposium on Biological Control of Weeds 307 4-14 July 1999, Montana State University, Bozeman, Montana, USA Neal R. Spencer [ed.]. pp. 307-313 (2000) The Herbivorous Insect Fauna of a Submersed Weed, Hydrilla verticillata (Alismatales: Hydrocharitaceae) C. A. BENNETT1 and G. R. BUCKINGHAM2 1 Department of Entomology and Nematology, University of Florida, and 2 USDA-ARS 1,2 Florida Biological Control Laboratory, P.O. Box 147100, Gainesville, Florida 32614-7100, USA Abstract Although relatively few insects have been reported to feed on submersed aquatic plants, field surveys on Hydrilla verticillata (L. F.) Royle for biological control agents have demonstrated that insect herbivores should be expected when surveying submersed aquatic plants in the native ranges. Beetles, or Coleoptera, especially the weevils (Curculionidae), are important herbivores. Weevils attack submersed plant species both when water is present and when water is absent during dry periods which leave the plants exposed. Pupal success appears to be the major determinant of weevil life cycle strategies. Donaciine leaf beetles (Chrysomelidae) attack the roots or crowns of submersed species, but their feeding and damage is difficult to determine. Leaf-mining Hydrellia flies (Diptera: Ephydridae) are diverse and common on submersed species. Other flies, the midges (Chironomidae), are also common on submersed species, but many utilize the plants only for shelter. However, midge larvae ate the apical meristems on the tips of hydrilla stems. Aquatic caterpillars (Lepidoptera: Pyralidae) are the herbivores most eas- ily observed on submersed species because of their large size and conspicuous damage, but their host ranges might be too broad for use as biological control agents.
    [Show full text]
  • Die Abgrenzung Der Unterfamilie Acentropinae. Wolfgang
    ©Ges. zur Förderung d. Erforschung von Insektenwanderungen e.V. München, download unter www.zobodat.at Atalanta, Bd. X II, Heft 2, April 1981, Würzburg, ISSN 0171-0079 Die Abgrenzung der Unterfamilie Acentropinae (Lepidoptera, Pyraloidea) von WOLFGANG SPEIDEL In der Fortführung meiner Nymphulinae-Studien stellte es sich, heraus, daß der Name Nymphulinae durch den älteren, Acentropinae, ersetzt werden muß. Eine moderne Gruppendefinition, die sich auch auf Merkmale der Genitalmorphologie stützt, wird erst durch den Schweden SYLVEN (1946: 27) geliefert. Seine Diag­ nose wird m it geringfügigen Modifikationen von MARION (1952) übernommen. Diese Autoren grenzen die Acentropinae, immer unter Ausklammerung der A rt Acentria nivea (OLIVER, 1791), von den Praustinae ab durch den Besitz einer wohlentwickelten Gnathos im d-Genitalapparat, die bei den Pyraustinae unbeweg­ lich, an ihrer Basis m it dem Tegumen verwachsen ist oder ganz fehlt. Gleichwohl handelt es sich bei diesem, die Acentropinae definierenden Merkmal, dem Be­ sitz einer beweglichen Gnathos, um ein plesiomorphes Merkmal, das sich bei vie­ len anderen Lepidopteren, nicht nur bei den Pyraloidea, auch findet. Es hat deshalb keinerlei Aussagekraft für oder gegen die Monophylie der Acentropinae. Die spezielle, ans Wasser gebundene Lebensweise der Raupe jedoch ist eine Neu­ erwerbung*^ ieser Gruppe, die sie von allen anderen Pyraloidea unterscheidet. Von LANGE (1956) wird auch die Ambia-Gruppe zu den Acentropinae gerech­ net. Es stellte sich jedoch neuerdings heraus, daß die in dieser Gruppe unterge­ brachten Arten an Land lebende Raupen besitzt, die sich, soweit bekannt, von Farnen nähren. MUNROE (1972) zieht daraus eine notwendige Konsequenz und isoliert die Ambia-Gruppe als Tribus Ambiini. Er bringt diese Gruppe in Bezie­ hung m it den Musotimini, die, soweit bekannt, als Raupe ebenfalls am Land von Farnen leben, aber einen Fortsatz am Sacculus der Valve tragen, der den Ambiini fehlt.
    [Show full text]
  • Forest Health Technology Enterprise Team Biological Control of Invasive
    Forest Health Technology Enterprise Team TECHNOLOGY TRANSFER Biological Control Biological Control of Invasive Plants in the Eastern United States Roy Van Driesche Bernd Blossey Mark Hoddle Suzanne Lyon Richard Reardon Forest Health Technology Enterprise Team—Morgantown, West Virginia United States Forest FHTET-2002-04 Department of Service August 2002 Agriculture BIOLOGICAL CONTROL OF INVASIVE PLANTS IN THE EASTERN UNITED STATES BIOLOGICAL CONTROL OF INVASIVE PLANTS IN THE EASTERN UNITED STATES Technical Coordinators Roy Van Driesche and Suzanne Lyon Department of Entomology, University of Massachusets, Amherst, MA Bernd Blossey Department of Natural Resources, Cornell University, Ithaca, NY Mark Hoddle Department of Entomology, University of California, Riverside, CA Richard Reardon Forest Health Technology Enterprise Team, USDA, Forest Service, Morgantown, WV USDA Forest Service Publication FHTET-2002-04 ACKNOWLEDGMENTS We thank the authors of the individual chap- We would also like to thank the U.S. Depart- ters for their expertise in reviewing and summariz- ment of Agriculture–Forest Service, Forest Health ing the literature and providing current information Technology Enterprise Team, Morgantown, West on biological control of the major invasive plants in Virginia, for providing funding for the preparation the Eastern United States. and printing of this publication. G. Keith Douce, David Moorhead, and Charles Additional copies of this publication can be or- Bargeron of the Bugwood Network, University of dered from the Bulletin Distribution Center, Uni- Georgia (Tifton, Ga.), managed and digitized the pho- versity of Massachusetts, Amherst, MA 01003, (413) tographs and illustrations used in this publication and 545-2717; or Mark Hoddle, Department of Entomol- produced the CD-ROM accompanying this book.
    [Show full text]
  • 7 HYDRILLA PEST STATUS of WEED Nature of Damage 91
    7 HYDRILLA J. K. Balciunas1, M. J. Grodowitz 2, A. F. Cofrancesco2, and J. F. Shearer2 1 USDA-ARS, Exotic and Invasive Weed Research Unit, Western Regional Research Center, Albany, California, USA 2 U.S. Army Engineer Research and Development Center, Waterways Experiment Station, Vicksburg, Mississippi, USA Nature of Damage PEST STATUS OF WEED Economic damage. In the United States, hydrilla of- Hydrilla verticillata (L.f.) Royle (hereafter, referred ten dominates aquatic habitats causing significant eco- to as “hydrilla”) (Fig. 1) is a submersed, rooted nomic damage (Fig. 2). Hydrilla interferes with a wide aquatic plant that forms dense mats in a wide variety variety of commercial operations. Thick mats hinder of freshwater habitats (canals, springs, streams, ponds, irrigation operations by reducing flow rates by as lakes, rivers, and reservoirs) (Langeland, 1990). Plants much as 90% (CDFA, 2000a) and impede the opera- grow from the substrate to the water’s surface in both tion of irrigation structures (Godfrey et al., 1996). shallow and deep water (0-15 m in depth) (Langeland, Hydroelectric power generation also is hindered by 1990; Buckingham, 1994). This plant is listed on the fragmented plant material that builds up on trash 1979 federal noxious weed list (USDA-NRCS, 1999) racks and clogs intakes. During 1991, hydrilla at Lake and also is identified in the noxious weed laws of Moultrie, South Carolina shut down the St. Stephen Florida (FDEP, 2000), Louisiana (LDWF, 2000), powerhouse operations for seven weeks resulting in Texas (TPWD, 2000), California (CDFA, 2000a), $2,650,000 of expenses due to repairs, dredging, and South Carolina (SCDNR, 2000), North Carolina fish loss.
    [Show full text]
  • The Pyraloidea of Eungella: a Moth Fauna in Its Elevational and Distributional Context
    THE PYRALOIDEA OF EUNGELLA: A MOTH FAUNA IN ITS ELEVATIONAL AND DISTRIBUTIONAL CONTEXT KITCHING, R. L.1, ASHTON, L. A.1,2, ORR, A. G.1 & ODELL, E. H.1 An intensive, two-season survey of moths along an elevational transect from 200 to 1200 m above sea level was an integral part of the recent Eungella biodiversity survey. The overall results have been published elsewhere. In this paper we examine in finer detail the patterns of distribution and faun istics of one of the dominant taxa from that dataset. The Pyraloidea comprise two families of so-called micro-moths, the Pyralidae and the Crambidae. Overall we sampled more than 7000 indi- viduals of more than 100 species. In spring these were principally in the lowland sites, but the summer samples were more evenly spread across elevations. In both seasons characteristic upland and lowland assemblages were apparent, separating at about 700 m above sea level. These elevational patterns were driven statistically by a small group of abundant species. Focusing on the Pyraustinae-Spilomelinae clade (91 species in our samples) and comparing them with samples from other Australian rainforest locations suggests that the Eungella forests represent the southernmost limits for 24 species, and the northern limits for five species. In other cases, the species is known from sites both north and south of Eungella. Keywords: Pyraloidea, Spilomelinae/Pyraustinae, Eungella, elevation, distribution 1 Environmental Futures Research Institute, Griffith University, Nathan, Queensland, Australia ([email protected]) 2 School of Biological Sciences, University of Hong Kong, Pokfulam, Hong Kong, China INTRODUCTION clear demarcation between moth ass emblages at 800 m The Lepidoptera, the butterflies and moths, are pre- above sea level and higher, compared with those at dominantly herbivorous and, within all ‘green’ eco- lower elevations (see ‘Methods’ below) for both spring systems, play an important role in connecting the (November) and late summer (March) samples.
    [Show full text]
  • The Pyraloidea of Eungella: a Moth Fauna in Its Elevational and Distributional Context
    THE PYRALOIDEA OF EUNGELLA: A MOTH FAUNA IN ITS ELEVATIONAL AND DISTRIBUTIONAL CONTEXT KITCHING, R. L.1, ASHTON, L. A.1,2, ORR, A. G.1 & ODELL, E. H.1 An intensive, two-season survey of moths along an elevational transect from 200 to 1200 m above sea level was an integral part of the recent Eungella biodiversity survey. The overall results have been published elsewhere. In this paper we examine in finer detail the patterns of distribution and faun istics of one of the dominant taxa from that dataset. The Pyraloidea comprise two families of so-called micro-moths, the Pyralidae and the Crambidae. Overall we sampled more than 7000 indi- viduals of more than 100 species. In spring these were principally in the lowland sites, but the summer samples were more evenly spread across elevations. In both seasons characteristic upland and lowland assemblages were apparent, separating at about 700 m above sea level. These elevational patterns were driven statistically by a small group of abundant species. Focusing on the Pyraustinae-Spilomelinae clade (91 species in our samples) and comparing them with samples from other Australian rainforest locations suggests that the Eungella forests represent the southernmost limits for 24 species, and the northern limits for five species. In other cases, the species is known from sites both north and south of Eungella. Keywords: Pyraloidea, Spilomelinae/Pyraustinae, Eungella, elevation, distribution 1 Environmental Futures Research Institute, Griffith University, Nathan, Queensland, Australia ([email protected]) 2 School of Biological Sciences, University of Hong Kong, Pokfulam, Hong Kong, China INTRODUCTION clear demarcation between moth ass emblages at 800 m The Lepidoptera, the butterflies and moths, are pre- above sea level and higher, compared with those at dominantly herbivorous and, within all ‘green’ eco- lower elevations (see ‘Methods’ below) for both spring systems, play an important role in connecting the (November) and late summer (March) samples.
    [Show full text]
  • Oria Stage Ii Expansion Keep River
    Laccophilus revis ORIA STAGE II EXPANSION KEEP RIVER BASELINE AQUATIC FAUNA & TARGETED SAWFISH SURVEYS 2013 8 April 2014 ORIA Stage II Expansion – Keep River Baseline Aquatic Fauna & Targeted Sawfish Surveys September/October 2013 Prepared for: LandCorp Wesfarmers House, 40 The Esplanade, Perth WA 6000 Locked bag 5, Perth Business Centre, Perth WA 6849 Phone: (61 8) 9482 7499, Fax: (61 8) 9481 0861 by: Wetland Research & Management 16 Claude Street, Burswood, WA 6100 Ph +61 8 9361 4325 e-mail: [email protected] Final Report v3 8 May 2014 Frontispiece: (top to bottom) juvenile dwarf sawfish ( Pristis clavata ) at EST03; freshwater whipray ( Himantura dalyensis ) at SR4; saltwater crocodile (Crocodylus porosus ) at K1-2 (photos by WRM ©). ii Study Team WRM Project Management: Andrew Storey Fieldwork: Adam Harman & Alex Riemer Macroinvertebrate identification: Kim Nguyen, Bonita Clark, Simon Ward Report: Jess Delaney & Sue Davies Internal review: Andrew Storey External Experts Chironomidae taxonomy: Dr Don Edward (The University of Western Australia) Acknowledgements This project was undertaken by Wetland Research & Management (WRM) on behalf of LandCorp. WRM would like to thank the Department of Water staff in Kununurra for logistical support, in particular Duncan Palmer and Luke Donovan. We would also like to thank Helen Larson, Richard George and Don Bennett for constructive discussions, and Deb Pearce, Peter Stubbs and Helen Larson for comments on the draft report. Water and sediment sample analyses were conducted by the ChemCentre W.A. Recommended Reference Format WRM (2014). ORIA Stage II – Keep River Baseline Aquatic Fauna and Targeted Sawfish Survey September/October 2013. Unpublished report to LandCorp prepared by Wetland Research & Management.
    [Show full text]
  • Downloaded from Brill.Com10/02/2021 12:14:41PM Via Free Access T  E,  142, 1999
    WOLFGANG SPEIDEL & WOLFRAM MEY Museum für Naturkunde, Humboldt-Universität, Berlin CATALOGUE OF THE ORIENTAL ACENTROPINAE (LEPIDOPTERA, CRAMBIDAE) Speidel, W. & W. Mey, 1999. Catalogue of the Oriental Acentropinae (Lepidoptera, Cram- bidae). – Tijdschrift voor Entomologie 142: 125-142, figs.1-3. [ISSN 0040-7496]. Published 22 September 1999. The catalogue contains all taxa of Acentropinae (= Nymphulinae) described from the Oriental Region with the references for every taxon. There are many new generic combinations for which the catalogue should be consulted. New synonyms: Neoschoenobia decoloralis Hampson, 1919 is a new junior synonym of Neoschoenobia testacealis Hampson, 1900; Cataclysta dohrni Hering, 1903 and Ephormotris oc- topis Meyrick, 1933 are new junior synonyms of Ephormotris dilucidalis Guérin-Méneville, [1832] 1829-1858 (Botys) comb. n. Oligostigma tripunctalis Snellen, 1876 is a junior primary homonym of Oligostigma tripunctalis Walker, [1866] 1865. This and the replacement name Aulacodes klimai Bryk, 1937 are new junior synonyms of Eoophyla parapomasalis Hampson, 1897 (Aulacodes) comb. n.; Oligostigma auropunctalis var. javanica Strand, 1914 is a new junior synonym of Eoophyla excisalis Snellen, 1901 (Oligostigma) comb. n.; Oligostigma hapilistale Strand, 1919 is a new junior synonym of Strepsinoma croesusalis Walker, 1859 (Cataclysta); Stenicula Snellen, 1901 and Micromania Swinhoe, 1894 (junior homonym of Micromania Christoph, 1893) are provisionally treated as new junior synonyms of Paracymoriza Warren, 1890; Paraponyx [sic] rugosalis Möschler, 1890 is a new junior synonym of Parapoynx fluctuos- alis Zeller, 1852 (Nymphula). Corespondence: W. Speidel, Humboldt-Universität zu Berlin, Museum für Naturkunde, In- validenstr. 43, D-10115 Berlin. Germany. E-mail: [email protected] Key-words. – Pyraloidea; Crambidae; Acetropinae; Nymphulinae; catalogue; Oriental region The Acentropinae belong to the pyraloid family or catalogues.
    [Show full text]
  • Freshwater Animal Diversity Assessment Developments in Hydrobiology 198
    Freshwater Animal Diversity Assessment Developments in Hydrobiology 198 Series editor K. Martens Freshwater Animal Diversity Assessment Edited by E.V. Balian1,C.Le´veˆque2, H. Segers1 & K. Martens3 1Belgian Biodiversity Platform, Freshwater Laboratory, Royal Belgian Institute of Natural Sciences, Vautierstraat 29 B-1000, Brussels, Belgium 2Antenne IRD, MNHN-DMPA, 43 rue Cuvier, Case Postale 26, Paris cedex 05 75231, France 3Freshwater Laboratory, Royal Belgian Institute of Natural Sciences, Vautierstraat 29 B-1000, Brussels, Belgium; Department of Biology, University of Ghent, K.L. Ledeganckstraat 35, Gent 9000, Belgium Reprinted from Hydrobiologia, Volume 595 (2008) 123 Library of Congress Cataloging-in-Publication Data A C.I.P. Catalogue record for this book is available from the Library of Congress. ISBN-13: 978-1-4020-8258-0 Published by Springer, P.O. Box 17, 3300 AA Dordrecht, The Netherlands Cite this publication as Hydrobiologia vol. 595 (2008). Cover illustration: A few inhabitants of fresh water. (clockwise from top left): Simulium arcticum (larva) - photo by Michael Spironello; Crangonyx richmondensis - photo by Jonathan Witt; Protorthemis coronata - photo by Vincent J Kalkman; Altolamprologus calvus (Chisanse) - photo by Ad Konings Frontispiece: Diadeco Bild & Produktionsbyra˚, Sweden Printed on acid-free paper All Rights reserved Ó 2008 Springer No part of this material protected by this copyright notice may be reproduced or utilized in any form or by any means, electronic or mechanical, including photocopying, recording or by any information storage and retrieval system, without written permission from the copyright owner. Printed in the Netherlands TABLE OF CONTENTS Colour section ix, xiv–xvi Foreword R.J. Naiman 1–2 An introduction to the Freshwater Animal Diversity Assessment (FADA) project E.V.
    [Show full text]
  • Order Family Subfamily Genus Species Subspecies Author Year Series Region Units Lepidoptera Crambidae Acentropinae Acentria Ephe
    Order Family Subfamily Genus species subspecies author year series region units Lepidoptera Crambidae Acentropinae Acentria ephemerella (Denis & Schiffermüller) 1C, 1D Nearctic, Palearctic trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Anydraula glycerialis (Walker) 1D Australasian trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractis berthalis (Schaus) 1C Neotropical trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractis dodalis Schaus 1B Neotropical trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractis elphegalis (Schaus) 1B Neotropical trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractis flavalis (Warren) 1B Neotropical trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractis iasusalis (Walker) 1D Neotropical trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractis paulalis (Schaus) 1D Neotropical trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractis sp. 1C, 1D Neotropical trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractis tetropalis Hampson 1D African trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractis triopalis Hampson 1D African trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractoides catenalis (Guenée 1D Neotropical trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractoides chalcistis (Dognin) 1D Neotropical trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Argyractoides gontranalis (Schaus) 1D Neotropical trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Aulacodes acroperalis Hampson 1D Australasian trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Aulacodes adiantealis (Walker) 1D Neotropical trays Lepidoptera Crambidae Acentropinae Aulacodes aechmialis Guenée 1D Neotropical trays Lepidoptera
    [Show full text]
  • (Lepidoptera: Pyralidae) Associated with Hydrilla Verticillata (Hydrocharitaceae) in North Queensland
    Blackwell Science, LtdOxford, UKAENAustralian Journal of Entomology1326-67562005 Australian Entomological Society0 2005444354363Original ArticleLarvae of Nymphulinae on hydrillaD H Habeck and J K Balciunas Australian Journal of Entomology (2005) 44, 354–363 Larvae of Nymphulinae (Lepidoptera: Pyralidae) associated with Hydrilla verticillata (Hydrocharitaceae) in North Queensland Dale H Habeck1* and Joseph K Balciunas2† 1Department of Entomology and Nematology, University of Florida, PO Box 110620, Gainesville, FL 32611-0620, USA. 2USDA-ARS, Australian Biological Control Laboratory, James Cook University, Townsville, Qld 4811, Australia. Abstract Australian Nymphulinae are a diverse group of moths with aquatic caterpillars that probably play an important role in determining the composition and abundance of aquatic macrophytes in Australian freshwater systems. Less than 10% of the nymphuline larvae in Australia have been described. As part of a project to develop biological control agents for hydrilla, Hydrilla verticillata, we encountered a variety of Nymphulinae larvae feeding on this and other aquatic plants. We illustrate, describe and provide a key to five species of Nymphulinae larvae (Ambia ptolycusalis (Walker), Parapoynx diminutalis Snellen, Hygraula nitens Butler, Margarosticha repititalis (Warren) and Theila siennata (Warren)) that feed on hydrilla in North Queensland. Information on their host plants also is included. Our field research indicates that none of these species should be considered as potential biological control agents for hydrilla. Key words Ambia, aquatic caterpillars, Hygraula, Margarosticha, Parapoynx, Theila. INTRODUCTION H. nitens. This appears to be the only species of Nymphulinae larvae from Australia to have been illustrated. However, larvae Worldwide, some 12 families of Lepidoptera have been of four widely distributed Nymphulinae species whose range reported to have aquatic larvae (Lange 1984).
    [Show full text]