F Songphorn Tajarcensuk.Pdf

Total Page:16

File Type:pdf, Size:1020Kb

F Songphorn Tajarcensuk.Pdf (1) หัวขอดุษฎีนิพนธ การสื่อสารทางการเมืองของสํานักขาวตางประเทศกรณีพระ วิหาร: ศึกษาในหวงเวลาตั้งแตค.ศ.2008 ถึง 2013 ชื่อผูเขียน นางทรงพร ทาเจริญศักดิ์ ชื่อปริญญา ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขา/คณะ/มหาวิทยาลัย วิทยาลัยสื่อสารการเมือง รัฐศาสตร มหาวิทยาลัยเกริก อาจารยที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ ดร.นันทนา นันทนวโรภาส ปการศึกษา 2559 บทคัดยอ ดุษฎีนิพนธเลมนี้มุงหมายศึกษาใน 2 ประเด็น คือ 1).บริบทความขัดแยงทางการเมือง ระหวางไทยและกัมพูชาในกรณีพระวิหารที่ดําเนินมาตั้งแต ค.ศ.1962-2013 และ 2).การสื่อสาร ทางการเมืองของสํานักขาวตางประเทศในการรายงานขาวกรณีพระวิหารในหวงป ค.ศ.2008- 2013 การศึกษานี้เปนงานวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยใชกรอบแนวคิดทฤษฎี ภายใตแบบจําลองการสื่อสารทางการเมืองของแนวคิดของ Brian McNair และ ‘ทฤษฎีประตู ขาว’(Gatekeeping Theory) การศึกษานี้ใชเทคนิคการการวิเคราะหเนื้อความ(content analysis) การวิเคราะหตัวบท (text analysis) และการสัมภาษณเจาะลึก(In-depth Interview) ผลการวิจัยในประเด็นแรกผูวิจัยพบวา บริบทความขัดแยงทางการเมืองในกรณีพระวิหาร ระหวางไทยและกัมพูชาที่ดําเนินมาตั้งแตค.ศ.1962-2013 ที่สงผลตอการสื่อสารทางการเมืองของ สํานักขาวรอยเตอรสและสํานักขาวซินหัวนั้น สามารถแบงออกเปนสามชวง คือ ชวงแรก ค.ศ. 1962-1972 ศาลยุติธรรมระหวางประเทศ เมื่อ 15 มิถุนายน ค.ศ.1962 ไดตัดสินใหปราสาทพระ วิหารเปนของกัมพูชาแตศาลไมไดพิพากษาชี้ขาดเรื่องเสนเขตแดนระหวางไทย-กัมพูชา ชวงที่สอง ค.ศ. 1973-2007 ปราสาทพระวิหารเปน“สัญญลักษณของมิตรภาพและความรวมมือระหวางไทย และกัมพูชา มีการเจรจาที่จะเปดปราสาทพระวิหารเปนแหลงทองเที่ยว โดยไทยสนับสนุนเงินใน การปรับปรุงถนนที่ขึ้นสูตัวปราสาทพระวิหาร ตลอดจนมีการลงนาม ใน “บันทึกความเขาใจวา ดวยการสํารวจและจัดทําหลักเขตแดนทางบก”(‘MoU2000’) และ“บันทึกความเขาใจเกี่ยวกับพื้นที่ ทับซอนทางทะเล” (‘MOU2001’) และการจะ“รวมมือพัฒนาเขาพระวิหารและบูรณะปฏิสังขรณ (1) (2) ปราสาทพระวิหาร” อยางไรก็ตามในสมัยรัฐบาลทักษิณกัมพูชาไดยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียน ปราสาทพระวิหารเปนมรดกโลกเปนครั้งแรกเมื่อ 10 ตุลาคม ค.ศ.2001 ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 30 มกราคมค.ศ. 2006 และครั้งที่สามเมื่อกรกฎาคมค.ศ. 2007 ซึ่งรัฐบาลสุรยุทธไมคัดคานการขึ้น ทะเบียนตัวปราสาท เพียงแตไดคัดคานไมใหเอา‘พื้นที่ทับซอน’ ไปขึ้นทะเบียน ชวงที่สามระหวางป ค.ศ. 2008-2013 ปราสาทพระวิหารไดกลายเปน“สัญญลักษณของความเกลียดชัง”(symbol of hatred) ระหวางไทย-กัมพูชา เมื่อมีการลงนามใน“ขอตกลงรวม”(joint communiqué )ในสมัย รัฐบาลสมัคร ซึ่งสนับสนุนใหกัมพูชาขึ้นทะเบียนใหตัวปราสาทพระวิหารเปนมรดกโลกตามแผนที่ ประกอบซึ่งไมรุกล้ํา‘พื้นที่ทับซอน’ แตฝายตอตานรัฐบาลในไทยไดปลุกกระแสชาตินิยมและทําการ ประทวงจนตองยกเลิกขอตกลงนี้ อยางไรก็ตามองคการยูเนสโกก็ไดมีมติใหกัมพูชาขึ้นทะเบียนให ตัวปราสาทพระวิหารเปนมรดกโลกในวันที่ 8 กรกฎาคม 2008 หลังจากนั้นเกิดมีการตรึงกําลัง ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในสมัยรัฐบาลสมัคร และเริ่มมีการปะทะดวยกําลังอาวุธในสมัย รัฐบาลสมชาย โดยเฉพาะในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์มีการปะทะกันรุนแรงหลายครั้ง จนกัมพูชาไดนํา ประเด็นพิพาทนี้ไปรองเรียนตอคณะมนตรีความมั่นคงขององคการสหประชาชาติ(UNSC) และ ศาลยุติธรรมระหวางประเทศ(ICJ) เพื่อใหตีความคําพิพากษาในป 1962 ในประเทศไทยมีการ ปลุกกระแสชาตินิยมเพื่อกําจัดรัฐบาลยิ่งลักษณเชนเดียวกับที่เคยกําจัดรัฐบาลสมัครและรัฐบาล สมชายมาแลว โดยกลุมนี้อางวาไทยเสียดินแดนตามมติของศาลโลกเมื่อ 11พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 แตเนื่องจากรัฐบาลยิ่งลักษณมีการสื่อสารการเมืองที่เตรียมการมาอยางดี กลุมตอตานจึงไม สามารถใชกรณีปราสาทพระวิหารมากําจัดรัฐบาลยิ่งลักษณ เชนที่ทําไดสําเร็จกับรัฐบาลสมัคร และรัฐบาลสมชาย ผลการวิจัยในประเด็นที่สองผูวิจัยพบวา สํานักขาวรอยเตอรสและสํานักขาวซินหัวแสดง บทบาทสื่อมวลชนที่เผยแพรขอมูลกรณีพระวิหารตามแบบจําลองสื่อสารทางการเมือง แตสํานัก ขาวรอยและเตอรสสํานักขาวสํานักขาวซินหัวนั้น เปนตัวแทนของอุดมการทางการเมืองที่แตกตาง กัน กลาวคือ สํานักขาวรอยเตอรสเปนบรรษัทเงินทุนขามชาติดานสื่อภายใตระบบเศรษฐกิจแบบ ทุนนิยมเสรี จึงเปนองคกรธุรกิจที่มุงแสวงหากําไร ในขณะที่สํานักขาวซินหัวนั้นอยูภายใตระบบ เศรษฐกิจการตลาดแบบสังคมนิยม เปนหนวยงานของรัฐบาลจีน มีรายไดจากรัฐ ดวยเหตุนี้สํานัก ขาวซินหัวไดเลือก“เปดประตู”ใหขาว “กรณีพระวิหาร”เพราะจีนใหความสําคัญกับประเทศในกลุม อาเซียนมากกวาสํานักขาวรอยเตอรส ดังจะเห็นวาในหวงเวลา 6 ปตั้งแตป 2008-2013 สํานักขาว (2) (3) รอยเตอรสมีการคัดเลือกขาวมารายงานเพียง 108 ขาว แตสํานักขาวซินหัวคัดเลือกขาวมารายงาน 622 ขาว ซึ่งมากกวาสํานักขาวรอยเตอรสถึงเกือบ 6 เทา ขอสังเคราะหจากงานวิจัย มี 5 ประการ คือ ประการที่ 1 ความขัดแยงระหวางประเทศนั้น จะมีความรุนแรงขึ้นเมื่อแตละประเทศปลุกกระแสชาตินิยมใหเกิดแกคนในชาติ ประการที่ 2.ความ เหนือกวาดานวิเทโศบายตางประเทศ สรางความไดเปรียบในเชิงการสื่อสารการเมืองบนเวทีโลกใน กรณีพระวิหาร ประการที่ 3.รัฐบาลไทยเพลี่ยงพล้ําในเชิงวิเทโศบายและการสื่อสารการเมืองใน กรณีพระวิหาร ประการที่ 4.กรณีพระวิหารนี้จะกลายเปนอุปสรรคตอการรวมตัวเปนประชาคม อาเซียน และ ประการที่ 5. รัฐบาลไทยและกัมพูชาตางตีความคําตัดสินของศาลยุติธรรมระหวาง ประเทศ เปนบวกตอประเทศตน ปญหาจึงยุติลงชั่วคราว นอกจากนี้มีขอเสนอแนะ ดังนี้คือ ประการที่ 1 นักการเมืองทั้งสองประเทศไมควรใชกรณี พระวิหารมาปลุกปนความรูสึกชาตินิยม ประการที่ 2 รัฐบาลไทยควรมีโครงการปรับทัศนคติของ คนไทยตอประเทศเพื่อนบาน ประการที่ 3 รัฐบาลไทยและกัมพูชาควรเรงรัดการปกปนเขตแดน ระหวางไทยและกัมพูชาที่ยังไมแลวเสร็จ ประการที่ 4 รัฐบาลไทยควรจะใชคําวา ‘Preah Vihear’ แทนคําวา ‘Phra Viharn’ ในการเรียกชื่อ ‘ปราสาทพระวิหาร’ ในภาษาอังกฤษ เนื่องจากปราสาท พระวิหารเปนของกัมพูชาตามคําพิพากษาของศาลโลก ประการที่ 5 ในแผนจัดการปราสาทพระ วิหารใหเปนมรดกโลกนั้น ควรมี“สวนสันติภาพนานาชาติ” ที่ทั้งรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา รวมกันกับชุมชนทองถิ่นทั้งสองดานของพรมแดนในการจัดการ (3) (4) Dissertation Title Political Communication of International News Agencies in the Preah Vihear Dispute From 2008-2013. Author Ms. Songphorn Tajaroensuk Degree Doctor of Philosophy Department/Faculty/University Political Communication Political Science Krirk University Dissertation Advisor Dr. Nanatana Nantanavaropart Academic Year 2559 ABSTRACT The aim of this dissertation is twofold. One is to study the political contexts related to the Preah Vihear dispute from 1962 to 2013; and the other is to study the political communication of international News agencies in the Preah Vihear dispute from 2008 to 2013. This is a qualitative research under the theoretical frameworks of Brian McNair’s Political Communication Model and the Gatekeeping theory by Pamela Shoemaker and Vos. The research techniques employed are content analysis, text analysis as well as in-depth Interviews. It was found that the political contexts of the Thai-Cambodian dispute concerning Preah Vihear from 1962-2013 can be divided into 3 phases. Phase I (1962- 1972) was highlighted by the decision of the International Court of Justice (ICJ) to give Cambodia sovereignty over Preah Vihear but its vicinity was left undecided. During Phase II (1973-2007), Preah Vihear became a symbol of friendship and cooperation between Thailand and Cambodia. Mutual attempts were made to make Preah Vihear Temple a tourist site facilitated by a Thai-funded road. Other cooperations include the Thai-Cambodian Memorandum of Understanding related to the Survey and Boundary Demarcation (‘MOU2000’) and the Memorandum of Understanding Between Thailand and Cambodia regarding the Area of their Overlapping Maritime Claims to the Continental Shelf (‘MOU2001’) as well as the pledge to jointly develop and renovate Preah Vihear Temple. Despite these efforts, Cambodia filed a separate request with (4) (5) UNESCO on October 10, 2001 to register Preah Vihear as a World Heritage Site (WHS), followed by the second and third applications on January 30, 2006 and July 2007 respectively. In theory, the Suraydh government of the time did not oppose Cambodia’s attempts but raised the issue of the overlapping area of 4.6 square kms. Unfortunately, during Phase III (2008-2013) Preah Vihear was portrayed as a symbol of hatred between Thailand and Cambodia. Even though the new map produced by Cambodia to be submitted to UNESCO did not overlap the area of 4.6 square kms., the signing of the joint communiqué during the Samak Administration ended up in protests by nationalists and later its revocation. Surprisingly, UNESCO unanimously approved Cambodia’s request on July 8, 2008 amidst protests from Thailand. This sparked troops build-up on both sides of the Thai-Cambodian border during the Samak’s administration, followed by clashes during the Somchai’s and more severe ones during the Apisit’s, which prompted Cambodia to file complaints in 2011 with the UNSC and with the ICJ to reinterpret the ICJ’s judgement in 1962. The ICJ’s verdict in November 11, 2013 confirmed Cambodia’s sovereignty over Preah Vihear and the whole promontory. Anti- government protestors claimed Thailand suffered a loss of territories. Thanks to the political communication skills of the Yingluck’s administration, however, the effort to mobilize nationalism to overthrow the Yingluck’s administration was not as successful as with the Samak’s and Somchai’s. As for the political communication of international news agencies in the Preah Vihear dispute from 2008 to 2013, it was found that international news agencies, in this case, Reuters and Xinhua, have fulfilled their roles as global mass media in disseminating news reports concerning the Preah Vihear dispute in accordance with ‘Brian McNair’s Political Communication Model’. Since they represent two different political ideologies and economic systems, Reuters is a profit-making multinational media corporation in a free-market economy whereas Xinhua is a state-run and state- funded news agency in a socialist -market economy. It is evident that Xinhua has a policy of ‘opening the gate’ for news reports concerning the Preah Vihear dispute because Xinhua, as a state news agency, has adopted the Chinese government‘s foreign policy of focusing on ASEAN. In the course of 6 years from 2008 to 2013, Xinhua has made 622 news reports which is 6 times more than those by Reuters, a professional global news agency, which produced only 108 news reports. (5) (6) There are 5 points
Recommended publications
  • Mekong Cultural Diversity Beyond Borders
    TABATA Yukitsugu, SATO Katsura (eds.) Mekong Cultural Diversity Beyond Borders Proceedings for the International Seminar & Symposium on Southeast Asian Cultural Heritage Studies Today March 2020 Institute for Cultural Heritage, Waseda University TABATA Yukitsugu, SATO Katsura (eds.) Mekong Cultural Diversity Beyond Borders Proceedings for the International Seminar & Symposium on Southeast Asian Cultural Heritage Studies Today March 2020 Institute for Cultural Heritage, Waseda University Notes The following are the proceedings of the International Seminar "Southeast Asian Cultural Heritage Studies Today" and Symposium "To Know and Share about Cultural Heritage" held on 23, 24 and 25 January, 2020, organized by the Institute for Cultural Heritage, Waseda University, as part of the project commissioned by the Agency for Cultural Affairs. Each paper of the Seminar was prepared by the presenter. The record of the Symposium was edited based on the presentation materials and audio recordings. 例 言 本報告書は、2020 年 1 月 23 日、24 日、25 日に文化庁委託事業として早稲田大学文化財総合調査研究所が開催した 国際研究会「東南アジア文化遺産研究の現在」及びシンポジウム「文化遺産を知り、そして伝える」の内容を収録した ものである。研究会の論考は各発表者により書き下ろされた。シンポジウムについては発表資料及び録音記録に基づい て編集した。 Mekong Cultural Diversity Beyond Borders Proceedings for the International Seminar & Symposium on Southeast Asian Cultural Heritage Studies Today March 2020 Published by Institute for Cultural Heritage, Waseda University Toyama 1-24-1, Shinjuku-ku, Tokyo 162-8644, Japan TEL & FAX +81-(0)3-5286-3647 Edited by TABATA Yukitsugu, SATO Katsura © Agency for Cultural Affairs & Institute for Cultural Heritage, Waseda University All rights reserved. Table of Contents Part I Seminar on Southeast Asian Cultural Heritage Studies Today [Opening Remarks] What is the Creativity of the World Heritage Cities in Mekong Basin Countries ? ...... 1 NAKAGAWA Takeshi 1.
    [Show full text]
  • Kingdom of Cambodia the Temple of Preah Vihear Inscribed on the World Heritage List (Unesco) Since 2008
    KINGDOM OF CAMBODIA THE TEMPLE OF PREAH VIHEAR INSCRIBED ON THE WORLD HERITAGE LIST (UNESCO) SINCE 2008 Edited by the Office of the Council of Ministers PHNOM PENH MAY 2010 ON THE SUCCESSFUL INSCRIPTION OF THE TEMPLE OF PREAH VIHEAR ON THE WORLD HERITAGE LIST (07 July 2008, Quebec, Canada during the 32nd session of the World Heritage Committee) “This is a new sense of pride for the people of our Kingdom, as well as for all the people in the region and the world that the Temple of Preah Vihear was recognized by ICOMOS as an outstanding masterpiece of Khmer architecture with an outstanding universal value, and was inscribed on the World Heritage List.” “The inscription of the Temple of Preah Vihear requires the international community as a whole to protect and preserve this world heritage for the benefits of future gen- erations.” Samdech Akka Moha Sena Padei Techo HUN SEN Prime Minister of the Kingdom of Cambodia, 08 July 2008 “In fact, the Decision of the 31st session of the World Heritage Committee in Christchurch, New Zealand, July 2007 contains 3 conditions. First, it is essential that Cambodia strengthens the conservation of the Temple; second, Cambodia must develop an appropriate management plan and submit it to the World Heritage Centre by 01 February 2008, because the review process would take up many months until July, to see whether or not our management plan is appropriate; and third, Cambodia and Thailand should develop a close cooperation in support of the inscription. If Cambodia fulfills these three conditions, then in 2008 the inscription will be automatic.
    [Show full text]
  • Preah Vihear World Heritage Sit
    No. 678, Group 1, Phum Tavien, Siem Reap City, CAMBODIA H/P: +85512 971 645 E-maiL: [email protected], [email protected] WebSite: www.cambodiatraveLtraiLS.com …………………………………………………………………………………………….......................................... Tour Name: Preah Vihear WorLd Heritage Site Guided ExcurSion Tour Code: A1N Tour Duration: 1 day Tour Operates: alL year round / on demand Number of Pax: avaiLable upon requeSt Tour Price: avaiLable upon requeSt Pick-up and drop off location Can be anywhere upon request HoteL in Siem Reap Upon arrivaL in Siem Reap airport Upon arrivaL in Siem Reap buS Station Upon arrivaL in boat pier in Chong Kneah fLoating viLLage Any AirBnB and residences in Siem Reap. Pick-up and drop-off direction Kindly provide your pick-up and drop-off StyLes for direction! PREAH VIHEAR WORLD HERITAGE SITE GUIDED EXCURSION Preah Vihear – in the morning, you will be met and welcomed by our English Speaking guide, picked up and tranSferred onward to viSit Preah Vihear TempLe. It iS Situated atop cLiff in the Preah Vihear province of northern Cambodia (180 kiLometerS from Angkor Wat) and on the border of KantharaLak diStrict (amphoe) in SiSaket province of eastern ThaiLand. In 1962, folLowing a Lengthy diSpute between ThaiLand and Cambodia over ownerShip, a majority of the International Court of Justice in The Hague awarded the temple to Cambodia. Affording a view for many kiLometerS acrosS a pLain, PraSat Preah Vihear haS the most SpectacuLar Setting of aLL the tempLeS buiLt during the Six-centurieS-long Khmer Empire. AS a key edifice of the empire's Spiritual life, it waS supported and modified by successive kings and so bears eLements of severaL architecturaL styLes.
    [Show full text]
  • Cambodia's Dirty Dozen
    HUMAN RIGHTS CAMBODIA’S DIRTY DOZEN A Long History of Rights Abuses by Hun Sen’s Generals WATCH Cambodia’s Dirty Dozen A Long History of Rights Abuses by Hun Sen’s Generals Copyright © 2018 Human Rights Watch All rights reserved. Printed in the United States of America ISBN: 978-1-6231-36222 Cover design by Rafael Jimenez Human Rights Watch defends the rights of people worldwide. We scrupulously investigate abuses, expose the facts widely, and pressure those with power to respect rights and secure justice. Human Rights Watch is an independent, international organization that works as part of a vibrant movement to uphold human dignity and advance the cause of human rights for all. Human Rights Watch is an international organization with staff in more than 40 countries, and offices in Amsterdam, Beirut, Berlin, Brussels, Chicago, Geneva, Goma, Johannesburg, London, Los Angeles, Moscow, Nairobi, New York, Paris, San Francisco, Sydney, Tokyo, Toronto, Tunis, Washington DC, and Zurich. For more information, please visit our website: http://www.hrw.org JUNE 2018 ISBN: 978-1-6231-36222 Cambodia’s Dirty Dozen A Long History of Rights Abuses by Hun Sen’s Generals Map of Cambodia ............................................................................................................... 7 Summary ........................................................................................................................... 1 Khmer Rouge-era Abuses .........................................................................................................
    [Show full text]
  • Border Wars: the Ongoing Temple Dispute Between Thailand and Cambodia and UNESCO’S World Heritage List Helaine Silverman*
    International Journal of Heritage Studies Vol. 17, No. 1, January 2011, 1–21 Border wars: the ongoing temple dispute between Thailand and Cambodia and UNESCO’s World Heritage List Helaine Silverman* Department of Anthropology, University of Illinois, Urbana, Illinois, USA (TaylorRJHS_A_524001.sgmReceived: and Francis 16 July 2010; final version received 13 September 2010) 10.1080/13527258.2011.524001International1352-7258Original2010Taylor171000000JanuaryProfessorhelaine@illinois.edu & Article FrancisHelaineSilverman (print)/1470-3610 Journal 2011 of Heritage (online) Studies This article traces the history of the ongoing tension between Thailand and Cambodia over a beautiful Khmer temple located on the unresolved border between the two countries. The struggle is noteworthy for its transethnic character, the deep and imbricated history of the players, and the fight’s intersection with dramatic contemporary politics in both countries. The paper argues that the dispute implicates existential challenges to ancient and contemporary political legitimacy. It emphasizes the significant role iconic sites can play in the construction of national identity as well as in the competitive global tourism market. The paper questions UNESCO cultural heritage policy concerning contested nominations to the World Heritage List and offers a recommendation for future treatment of similar cases. Keywords: Thailand; Cambodia; Preah Vihear; UNESCO; World Heritage List; cultural heritage; nationalism Army chief Anupong Paojinda visited troops stationed along the Cambodian border on Wednesday [14 July 2008], ahead of Phnom Penh’s ‘Day of Anger’ against Thailand. The Cambodian government is reported to have organised the Day of Anger on Thursday [15 July 2008] to express its dissatisfaction with Thailand over the Preah Vihear temple conflict. Cambodian non-governmental organisations were planning a parade in Phnom Penh on Thursday to mark the second anniversary of the World Heritage listing of the ancient Hindu temple.
    [Show full text]
  • Introduction Preah Vihear Temple Is a Khmer Hindu Temple, Dedicated To
    CCHR Case Study Series Volume 3 – Preah Vihear Temple – August 2011 Fact Sheet: Case Study Series: Preah Vihear Temple Snapshot: The temple of Preah Vihear and surrounding areas have been at the center of a century- old dispute between Cambodia and Thailand, with both sides hotly contesting sovereignty of the territory. The award of World Heritage status to the temple in 2008 exacerbated tensions, leading to continual outbreaks of violence from October 2008. A recent decision by the International Court of Justice (the “ICJ”) which indicated provisional measures has now created a demilitarized zone around Preah Vihear temple, but a permanent solution to the wider border conflict is essential. Introduction Preah Vihear temple is a Khmer Hindu temple, dedicated to the Hindu deity Shiva, situated atop a 525 - meter cliff in the Dângrêk Mountains in Svay Chrum village, Kan Tout commune, Choam Khsant district, Preah Vihear province of the Kingdom of Cambodia (“Cambodia”) – adjoining the Thai border. This fact sheet explores the history of the dispute between Cambodia and Thailand over Preah Vihear temple and surrounding areas, the 1962 ICJ judgment and its 18 July 2011 interpretation, and the implications of the recent Thai elections on the simmering border conflict. This fact sheet is written by the Cambodian Center for Human Rights (“CCHR”), a non-aligned, independent, non-governmental organization that works to promote and protect democracy and respect for human rights – primarily civil and political rights – throughout Cambodia. ICJ: 1962 judgment The dispute over the territory has its roots in a series of demarcation agreements concluded during the period 1904-1908 between France and Thailand.
    [Show full text]
  • Pre-Angkorian Communities in the Middle Mekong Valley (Laos and Adjacent Areas) Michel Lorrillard
    Pre-Angkorian Communities in the Middle Mekong Valley (Laos and Adjacent Areas) Michel Lorrillard To cite this version: Michel Lorrillard. Pre-Angkorian Communities in the Middle Mekong Valley (Laos and Adjacent Areas). Nicolas Revire. Before Siam: Essays in Art and Archaeology, River Books, pp.186-215, 2014, 9786167339412. halshs-02371683 HAL Id: halshs-02371683 https://halshs.archives-ouvertes.fr/halshs-02371683 Submitted on 20 Nov 2019 HAL is a multi-disciplinary open access L’archive ouverte pluridisciplinaire HAL, est archive for the deposit and dissemination of sci- destinée au dépôt et à la diffusion de documents entific research documents, whether they are pub- scientifiques de niveau recherche, publiés ou non, lished or not. The documents may come from émanant des établissements d’enseignement et de teaching and research institutions in France or recherche français ou étrangers, des laboratoires abroad, or from public or private research centers. publics ou privés. hek Thak Thakhek Nakhon Nakhon Phanom Phanom Pre-Angkorian Communities in g Fai g g Fai n n the Middle Mekong Valley Se Ba Se Se Ba Se Noi Se Se Noi (Laos and Adjacent Areas) That That That Phanom Phanom MICHEL LORRILLARD Laos Laos on on P P Vietnam Se Se Vietnam i i n n het Savannak Savannakhet Se Xang Xo Xang Se Se Xang Xo Introduction Se Champho Se Se Champho Se Bang Hieng Bang Se Se Bang Hieng he earliest forms of “Indianisation” in Laos have not been the Mekong Mekong Se Tha Moak Tha Se Se Tha Moak Tsubject of much research to date. Henri Parmentier (1927: 231, 233-235), when introducing some two hundred sites related to Se Bang Hieng Bang Se Se Bang Hieng “Khmer primitive art” – soon reclassified as “pre-Angkorian art” as being prior to the ninth century – took into account only five such sites located upstream of the Khone falls.
    [Show full text]
  • Heritage and Nationalism in the Preah Vihear Dispute Voices from Cambodia. Discourses on the Preah Vihear Conflict Volker Grabowsky, Sok Deth
    Heritage and Nationalism in the Preah Vihear Dispute Voices from Cambodia. Discourses on the Preah Vihear Conflict Volker Grabowsky, Sok Deth To cite this version: Volker Grabowsky, Sok Deth. Heritage and Nationalism in the Preah Vihear Dispute Voices from Cambodia. Discourses on the Preah Vihear Conflict. [Research Report] EFEO, Ecole française d’Extrême-Orient; Université de Hambourg. 2016. hal-01963845 HAL Id: hal-01963845 https://hal.archives-ouvertes.fr/hal-01963845 Submitted on 21 Dec 2018 HAL is a multi-disciplinary open access L’archive ouverte pluridisciplinaire HAL, est archive for the deposit and dissemination of sci- destinée au dépôt et à la diffusion de documents entific research documents, whether they are pub- scientifiques de niveau recherche, publiés ou non, lished or not. The documents may come from émanant des établissements d’enseignement et de teaching and research institutions in France or recherche français ou étrangers, des laboratoires abroad, or from public or private research centers. publics ou privés. SEATIDE Online Paper 3 Heritage and Nationalism in the Preah Vihear Dispute by Volker Grabowsky (University of Hamburg) Followed by a response to ‘Heritage and Nationalism in the Preah Vihear Dispute’ Voices from Cambodia. Discourses on the Preah Vihear Conflict by Sok Udom Deth (Zaman University, Cambodia) SEATIDE: Integration in Southeast Asia: Trajectories of Inclusion, Dynamics of Exclusion WP2 Deliverable 2.5: Online paper 3: National and transnational heritage Heritage and Nationalism in the Preah Vihear Dispute Volker Grabowsky (University of Hamburg) On 7 July 2008, the UNESCO World Heritage Committee announced at its 32 nd Session (held in Quebec) its decision to put the temple complex of Preah Vihear on the World Heritage list as the property of Cambodia.
    [Show full text]
  • The Gods and Demons of the Preah Vihear Temple
    View metadata, citation and similar papers at core.ac.uk brought to you by CORE provided by <intR>²Dok The Gods and Demons of the Preah Vihear Temple ajv2016 2019-01-23T10:10:37 The Churning I finally visited the Temple of Preah Vihear on 22 December 2018. Strikingly, the makers of the ancient temples of Cambodia appear infatuated with a particular Indian mythic leitmotif, the churning of the milk ocean. In order to churn the milk-ocean, Vishnu, a Hindu god, turns into a turtle to allow the planting of the Mount Mandhar, the churner, on his shell. Next, Vasuki, the serpent, is wrapped around the churner. The gods and the demons, two nations that differ on just about everything, give Vasuki a tug for about 1000 mythological years. The churning is a well-known Asian metaphor for the sweat and blood involved in the production of both ideas and matter – a kind of Hegel-Marx dialectic. The churning produces elixir as well as poison. To be sure, the international legal knowledge production mimics the churning. One finds this leitmotif everywhere in Cambodia: on the walls of the Angkor Wat temple in Siem Reap province as well as on the walls of Preah Vihear. You may say the churning is a quintessential Khmer leitmotif. The Cambodian history textbooks teach that the Khmer etymology of Siem Reap is the venue of the defeat of enemy Siam. The narrative of defeat after all commands an important place in the nation’s history. Defeat found Thailand again in 1962. This time postcolonial Thailand lost a temple to Cambodia.
    [Show full text]
  • The Best of Cambodia - Birds, Mammals & Temples
    The Best of Cambodia - Birds, Mammals & Temples Naturetrek Tour Itinerary Outline Itinerary Day 1/2 Depart London land Siem Reap Day 3 Temple visits at Angkor Complex Day 4 Prek Toal – Water Bird Colonies Day 5 Ang Trapeang Thmor (Sarus Crane) Day 6/8 Bengal Florican & Tmatboey EcoLodge Day 9 Tmatboey to Preah Vihear Temple Day 10 Preah Vihear Temple to Boeng Toal and Vulture ‘Restaurant’ Day 11 Boeng Toal to Kratie Day 12 Mekong River Cruise for Irrawaddy Dolphin Day 13/14 Siema Reserve, Dakdam Highlands Day 15 Phnom Penh via Cambodian Tailorbird Day 16 Phnom Penh tour. Depart for UK. Day 17 Land UK Departs Grading January/February A/B Focus Dates and Prices Birds, Mammals & See website Culture (KHM01) Angkor Wat, Sarus Crane, Irrawaddy Dolphin Naturetrek Mingledown Barn Wolf’s Lane Chawton Alton Hampshire GU34 3HJ UK T: +44 (0)1962 733051 E: [email protected] W: www.naturetrek.co.uk The Best of Cambodia - Birds, Mammals & Temples Tour Itinerary Introduction The Kingdom of Cambodia sits on the tropical peninsula of Indochina and borders Laos, Thailand and Vietnam. This fascinating country, steeped in history and with a unique and rich culture, has a huge amount to offer the naturalist, being home to a wonderful variety of birds and mammals. From forest-enveloped temples, vast lakes and open grasslands, to dipterocarp woods, verdant tropical rainforests and the mighty Mekong River offers an exciting range of habitats to explore and, on this varied itinerary, we do just that. We will go in search of the birds and mammals that live in this beautiful kingdom while enjoying its rich culture and fascinating history too.
    [Show full text]
  • Transboundary Cooperation for Architectural Heritage Management, Case Study: Phra Wiharn World Heritage Site
    TRANSBOUNDARY COOPERATION FOR ARCHITECTURAL HERITAGE MANAGEMENT, CASE STUDY: PHRA WIHARN WORLD HERITAGE SITE By Fupanya Wongwaiwit An Independent Study Submitted in Partial Fulfillment of the Requirements for the Degree MASTER OF ARTS Program of Architectural Heritage Management and Tourism (International Program) Graduate School SILPAKORN UNIVERSITY 2009 TRANSBOUNDARY COOPERATION FOR ARCHITECTURAL HERITAGE MANAGEMENT, CASE STUDY: PHRA WIHARN WORLD HERITAGE SITE By Fupanya Wongwaiwit An Independent Study Submitted in Partial Fulfillment of the Requirements for the Degree MASTER OF ARTS Program of Architectural Heritage Management and Tourism (International Program) Graduate School SILPAKORN UNIVERSITY 2009 The Graduate School, Silpakorn University has approved and accredited the independent study title of “ Transboundary Cooperation for Architectural Heritage Management, Case Study: Phra Wiharn World Heritage Site ” submitted by Mr.Fupanya Wongwaiwit as a partial fulfillment of the requirements for the degree of Master of Arts in Architectural Heritage Management and Tourism ……........................................................................ (Associate Professor Sirichai Chinatangkul,Ph.D.) Dean of Graduate School ........../..................../.......... The Independent Study Advisor Asst. Prof. Sathit Choosaeng The Independent Study Examnination Committee .................................................... Chairman (Asst. Prof. Sunon Palakavong Na Ayuddhaya) ............/......................../.............. ...................................................
    [Show full text]
  • Descent Into Chaos RIGHTS Thailand’S 2010 Red Shirt Protests and the Government Crackdown WATCH
    Thailand HUMAN Descent into Chaos RIGHTS Thailand’s 2010 Red Shirt Protests and the Government Crackdown WATCH Descent into Chaos Thailand’s 2010 Red Shirt Protests and the Government Crackdown Copyright © 2011 Human Rights Watch All rights reserved. Printed in the United States of America ISBN: 1-56432-764-7 Cover design by Rafael Jimenez Human Rights Watch 350 Fifth Avenue, 34th floor New York, NY 10118-3299 USA Tel: +1 212 290 4700, Fax: +1 212 736 1300 [email protected] Poststraße 4-5 10178 Berlin, Germany Tel: +49 30 2593 06-10, Fax: +49 30 2593 0629 [email protected] Avenue des Gaulois, 7 1040 Brussels, Belgium Tel: + 32 (2) 732 2009, Fax: + 32 (2) 732 0471 [email protected] 64-66 Rue de Lausanne 1202 Geneva, Switzerland Tel: +41 22 738 0481, Fax: +41 22 738 1791 [email protected] 2-12 Pentonville Road, 2nd Floor London N1 9HF, UK Tel: +44 20 7713 1995, Fax: +44 20 7713 1800 [email protected] 27 Rue de Lisbonne 75008 Paris, France Tel: +33 (1)43 59 55 35, Fax: +33 (1) 43 59 55 22 [email protected] 1630 Connecticut Avenue, N.W., Suite 500 Washington, DC 20009 USA Tel: +1 202 612 4321, Fax: +1 202 612 4333 [email protected] Web Site Address: http://www.hrw.org May 2011 1-56432-764-7 Descent into Chaos Thailand’s 2010 Red Shirt Protests and the Government Crackdown I. Summary and Key Recommendations....................................................................................... 1 II. Methodology ........................................................................................................................ 28 III. Background .......................................................................................................................... 29 The People’s Alliance for Democracy and Anti-Thaksin Movement ......................................
    [Show full text]