การจัดประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 4 the 4Th STOU Graduate Research Conference

Total Page:16

File Type:pdf, Size:1020Kb

การจัดประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 4 the 4Th STOU Graduate Research Conference O-ST 022 การจัดประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 4 The 4th STOU Graduate Research Conference รูปแบบการจดการองคั ์ความรู้เกษตรอนทริ ีย์ที่เหมาะสมในสถานศึกษาของสํานักงานเขตพนทื้ ี่ การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 Knowledge Management of Organic Agriculture Model in Organization of Mahasarakham Primary Education Service Area Office 2 ศุภชัย สุทธิเจริญ (Supachai Sutticharoen)* พหล ศักด์ิคะทศนั ์ (Phahol Sakkatat)** สมคิด แกวท้ ิพย(์ Somkit keawtip)*** สุรพล เศรษฐบุตร (Surapol Setabutra)**** บทคดยั ่อ การวิจัยเชิงสารวจนํ ้ี มีวัตถุประสงคเพ์ ื่อศึกษา 1) การจดการองคั ความร์ ู้ด้านเกษตรอินทรีย์ในสถานศึกษาของสานํ กงานั เขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 2) ปัจจยทั ี่มีความสัมพนธั ์ต่อการจดการความรั ู้ด้านเกษตรอินทรีย์ที่เหมาะสม ของครูผู้สอนและสถานศึกษาของสานํ กงานเขตพั ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 3) เพื่อพฒนารั ูปแบบการจดการองคั ์ ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ที่เหมาะสมของครูผู้สอนและสถานศึกษาของสานํ กงานเขตพั ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 4) เพื่อเปรียบเทียบความแตกตางการจ่ ดการความรั ู้ด้านเกษตรอินทรีย์ก่อนและหลงการพั ฒนาั กลุมต่ วอยั างค่ ือ ครูผู้สอน จํานวน 145 ราย และ ผู้บริหารสถานศึกษา จํานวน 145 ราย สังกดสั านํ กงานเขตพั ้ืนที่การศึกษา ประถมศึกษา มหาสารคาม เขต 2 ซึ่งไดจ้ ากการสุ่มตวอยั างแบบง่ ่าย เครื่องมือที่ในการวิจัยคร้ังน้ีไดแก้ ่ แบบสั มภาษณ์ ที่มีค่าความ เที่ยงเท่ากบั 0.90 ใชสถ้ ิติพรรณนาเป็นร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติวิเคราะห์ไดแก้ ่ t-test และการวิเคราะห์การ ถดถอยพหุและการจดการสนทนากลั ุม่ จากผลการวิจัยพบวา่ ครูผู้สอนมีการจดการความรั ู้ด้านเกษตรอินทรีย ์ทั้ง 4 ด้าน อยในระดู่ บปานกลางั ไดแก้ ่ การใชงาน้ องคควา์ มรู้ การสร้างสมองคความร์ ู้ การถ่ายทอดองคความร์ ู้ และการจดเกั บองค็ ความร์ ู้ส่วนสถานศึกษามีการจดการความรั ู้ด้าน เกษตรอินทรีย์ ทั้ง 4 ด้าน อยในระดู่ บปานกลางั เช่นเดียวกนั ต จาก วแปรทั ี่มีความสัมพนธั ์กบการจั ดการความรั ู้ด้านเกษตรอินทรีย์ ของครูผู้สอน คือ ประสบการณ์การทางานํ การได้รับการฝึกอบรม และความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ ที่ระดบนั ยสั าคํ ญทั ี่ .01 และอาย ุที่ ระดบนั ยสั าคํ ญทั ี่ .05 ตัวแปรที่มีความสัมพนธั ์กบการจั ดการความรั ู้ด้านเกษตรอินทรีย์ของสถานศึกษา คือ จํานวนครูในโรงเรียนที่ ระดบนั ยสั ําคญทั ี่ .01 จํานวนนกเรั ียนในโรงเรียน และการมีเครือข่ายในชุมชน ที่ระดบนั ยสั ําคญทั ี่ .05 รูปแบบการจดการองคั ์ ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย ์ที่เหมาะสมในสถานศึกษาของสํานกงานเขตพั ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา มหาสารคาม เขต 2 คือ การ พัฒนาการจดการความรั ู้ของครูผู้สอนและผู้บริหารตลอดจนผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวของก้ บการพั ฒนาการจั ดการความรั ู้ด้านเกษตร อินทรีย์ เช่น องคกรปกครองส์ ่วนทองถ้ ่ิน ชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษา ปราชญชาวบ์ าน้ ซึ่งจะตองม้ ีการบูรณาการทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวของ้ และเกิดจากปัจจยทั ี่ทําใหเก้ ิดการพฒนากระบวนการการจั ดการความรั ู้ด้านเกษตรอินทรีย์ มีส่วนร่วมในการระดมสมอง เสนอแนะและตดสั ินใจร่วมกนวางแผนั ติดตามและประเมินผล ส่วนการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยการจดการความรั ู้ด้านเกษตรอินทรีย์ ของครูผู้สอนและสถานศึกษา ซึ่งเปรียบเทียบระหวางก่ ่อนและหลงการพั ฒนาความรั ู้ พบวา่ การจดการความรั ู้เกษตรอินทรีย์ก่อน การพฒนาและหลั งการพั ฒนามั ีความแตกต่างกนอยั างม่ ีนัยสาคํ ญทั ี่ .01 ทั้ง 4 ด้าน คําสําคัญ การจดการองคั ความร์ ู้ เกษตรอินทรีย์ * นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพฒนาทรั ัพยากรชนบท คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวทยาลิ ัยแม่โจ ้ [email protected] ** ผู้ช่วยศาสตราจารย ์ ประจาหลํ กสั ูตรพฒนาทรั ัพยากรชนบท คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวทยาลิ ัยแม่โจ ้ [email protected] *** อาจารย ์ ประจาหลํ กสั ูตรวทยาลิ ยบรั ิหารศาสตร์ มหาวทยาลิ ัยแม่โจ ้ [email protected] **** รองศาสตราจารย ์ ประจาหลํ กสั ูตรส่งเสริมการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทยาลิ ยเชั ียงใหม่ การจัดประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 4 The 4th STOU Graduate Research Conference Abstract This objective of this research were: (1) to study management body of knowledge on organic agriculture in organization of Mahasarakham Primary Education Service Area Office 2; (2) to study factors associated with knowledge management in organic agriculture which is appropriate for teacher and school in organization of Mahasarakham Primary Education Service Area Office 2; (3) To develop a knowledge management model for organic farming which is appropriate for teacher and school in organization of Mahasarakham Primary Education Service Area Office; and (4) To compare the differences of knowledge management in organic agriculture before and after the development. The study population and study area were schools and teachers belong to Mahasarakham Primary Education Service Area Office 2; Na Chueak District, Phayakkhaphum Phisai District, Yang Sisurat District, Na Dun District, Wapi Pathum District. There are 225 schools and total of 290 people was selected by using the simple random sampling method. The instrument for data collection was a questionnaire with the reliability of 0.90. Statistics used to data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation, multiple regression analysis and group discussion. The results showed that: teachers had 4 knowledge managements moderately in organic agriculture; knowledge utilization, knowledge acquisition, knowledge sharing and knowledge storing. Schools also had 4 knowledge managements moderately in organic agriculture. The variables that correlated with teacher’s knowledge management in organic agriculture were work experience, training and agriculture knowledge all significant at .01 level, age all significant at .05 level. The variables that correlated with school’s knowledge management in organic agriculture were number of teacher in the school all significant at .01 level, number of student in the school and community network all significant at .05 level. Comparison of average of agriculture management of teacher and school that compare between before and after knowledge development found that agriculture knowledge management before and after knowledge development was different all significant at .01 level. Keywords: Knowledge management, Organic agriculture 2 การจัดประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 4 The 4th STOU Graduate Research Conference บทนํา ระบบเกษตรไทยเป็นทุนทางสังคมและวฒนธรรมเพั ื่อสนบสนั ุนความมนคงทางเศรษฐก่ั ิจของประเทศ ระบบเกษตรไทยได้วิวัฒนาการควบคู่กบวั ิถีชีวิตของคนไทยมาตลอด ระบบการผลิตเพื่อยงชั ีพแสดงให้เห็นความ เชื่อมโยงระบบสังคมและระบบนิเวศและได้ถูกพฒนาบนฐานของการจั ดการใชั ประโยชน้ ์ทรัพยากรอยางม่ ีสติ จน สามารถเกิดดุลยภาพระหวางท่ ุนทางเศรษฐกิจ ทุนทางสังคม และทุนทางธรรมชาติ องค์ความรู้ของการจดการั เหล่าน้ีได้ถูกถ่ายทอดผานกระบวนการเร่ ียนรู้ทางสังคมและวฒนธรรมั ดังเช่น ความสัมพนธั ์ระหวางระบบการ่ ผลิตทางการเกษตรกบอาหารทั องถ้ ่ิน ที่คํ้าจุนเศรษฐกิจชุมชนมาโดยตลอดในการพฒนาทางการเกษตรของั ประเทศ แต่ในขณะเดียวกนวั ิถีความเป็นอยของเกษตรกรไดู่ ปร้ ับเปลี่ยนไปจากเป ้ าหมายของการเกษตรเพื่อชีวิต เป็นเกษตรเพื่อธุรกิจ ส่งผลให้เกษตรกรขาดความเป็นอิสระในการผลิต จําเป็นตองพ้ ึ่งพิงระบบตลาดที่เกษตรกร ไม่มีส่วนในการตดสั ินใจและกาหนดเงํ ื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากน้นั ผลพวงจากการพฒนาดั านการเกษตรย้ งพบั ปัญหาเกี่ยวกบสารเคมั ีทางการเกษตรที่ตกคางในผลผล้ ิตและแพร่กระจายไปในส่ิงแวดลอม้ มีการปนเป้ื อน ภายนอกในห่วงโซ่อาหาร (food chain) ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามยของทั ้งผั ู้ผลิต และผู้บริโภคในสังคม ปรากฏการณ์ดังกล่าวถือได้วาเป่ ็นส่วนหนึ่งตวชั ้ีวัดที่ระบุถึงผลของการเร่งรัดพฒนาดั านเศรษฐก้ ิจของประเทศที่ สนองตอบตอส่ ังคมเกินขีดความสามารถของธรรมชาติ รวมถึงการสะทอนถ้ ึงความไม่สมดุลของการพฒนาในมั ิติ ตางๆ่ ที่ไม่อาจจะนําพาประเทศไปสู่ความมนคงและย่ั งย่ั นในอนาคตไดื ้ อยางไรก่ ตามโรงเร็ ียนถือเป็นแหล่งเรียนรู้ เบ้ืองตนของเยาวชน้ โดยเฉพาะอยางย่ ่ิงโรงเรียนที่อยในชนบทู่ ส่วนใหญ่นักเรียนกเป็ ็นลูกหลานของเกษตรกร ดังน้นการถั ่ายทอดองคความร์ ู้ด้านการเกษตร โดยเฉพาะดานเกษตรอ้ ินทรีย์ จะเป็นการปลูกจิตสานึกการเรียนรู้ ให้แก่เยาวชนให้มีความรู้พื้นฐาน ด้านการเกษตรไดอย้ างถ่ ูกตอง้ และขยายผล ไปสู่ผู้ปกครองนกเรั ียน และ เกษตรกรทวไป่ั ที่สําคญจะไดั ้มีผลผลิตที่ไร้สารพิษ เป็นการสนบสนั ุนโครงการผลิตเพื่ออาหารกลางวนใหั ้กบเดั ็ก นักเรียน ต่อไปในอนาคตได ้ จากเหตุผลที่กล่าวมาท้งหมดนั ้นจะพบวั า่ ภาคการเกษตรนอกจากจะมีการจดการั ระบบมาตรฐานการเกษตรที่ดีแลวจะต้ องม้ ีการคานํ ึงถึงผลกระทบต่อส่ิงแวดลอมต้ ่อไปในอนาคต การจดการองคั ์ ความรู้เกษตรอินทรีย์ของสถานศึกษาและครูผู้สอนวิชาเกษตรกรรมจึงมีความสําคญในการทั ี่จะขบเคลั ื่อนและ ถายทอดองค่ ความร์ ู้ด้านเกษตรอินทรีย์ใหเก้ ิดความตระหนกถั ึงการใชทร้ ัพยากรธรรมชาติอยางค่ ุ้มค่ามากที่สุดโดย การร่วมคิด ร่วมทาและรํ ่วมผลกดั นตามบทบาทความรั ับผิดชอบของแต่ละภาคส่วนที่มีความสัมพนธั ์ซึ่งกนและกั นั ตอไป่ วัตถุประสงค์การวิจัย 1. เพื่อศึกษาการจัดการความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ในสถานศึกษาของสํานักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 2. เพื่อศึกษาปัจจยทั ี่มีความสัมพนธั ์ต่อการจดการความรั ู้ด้านเกษตรอินทรีย์ที่เหมาะสมของ ครูผู้สอนและสถานศึกษาของสานํ กงานเขตพั ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 3 การจัดประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 4 The 4th STOU Graduate Research Conference 3. เพื่อพฒนารั ูปแบบการจดการองคั ความร์ ู้ด้านเกษตรอินทรีย์ที่เหมาะสมของครูผู้สอนและ สถานศึกษาของสานํ กงานเขตพั ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 4. เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างการจดการความรั ู้ด้านเกษตรอินทรีย์ก่อนและหลงการพั ฒนาั วิธีดําเนินการวิจัย การวิจัยคร้ังน้ีเป็นการวิจัยเชิงสารวจํ (Survey reserch) ประชากร กลุ่มตวอยั างและพ่ ้ืนที่ในการศึกษาคือ ครูผู้สอน จํานวน 145 ราย และ ผู้บริหารสถานศึกษา จํานวน 145 ราย สังกดสั านํ กงานเขตพั ้ืนที่การศึกษาประถม ศึกษา มหาสารคาม เขต 2 ซึ่งไดจากการส้ ุ่มตวอยั างแบบง่ ่าย เครื่องมือที่ในการวิจัยคร้ังน้ีไดแก้ ่ แบบสัมภาษณ์ แบบสัมภาษณ์ผู้วิจัยสร้างข้ึน ประกอบดวย้ 3 ส่วนคือ (1) ข้อมูลส่วนบุคคล (2) การจดการความรั ู้ด้านเกษตร อินทรีย์ของครูผ้สอนและสถานศึกษา (3) ปัญหาอุปสรรคและขอเสนอแนะในการจ้ ดการความรั ู้ แบบสัมภาษณ์ใน ส่วนที่ (2) มีค่าความสอดคลองของเน้ ้ือหาของแบบสัมภาษณ์ (Index of Item-Objective Congruence : IOC) สูงกวา่
Recommended publications
  • An Integrated Land Use and Water Plan for Mahasarakham Province, Thailand
    An Integrated Land Use and Water Plan for Mahasarakham Province, Thailand A thesis submitted to the School of Planning of the University of Cincinnati in partial fulfillment of the requirements for the degree of Master of Community Planning in the School of Planning of the School of Design, Architecture, Art, and Planning 2013 by Yuwadee Ongkosit B.A. Geography, Chulalongkorn University, Thailand Committee Chair: David Edelman, Ph.D. Committee Member: Christopher Auffrey, Ph.D. Abstract This thesis identifies water-related problems that Mahasarakham Province, Thailand faces and the correlation between water and land use. Natural hazards are inevitable, and they ruin properties and cause changes to natural features. Two ways that the Thai government acts to mitigate their impact is to create or implement both structural and non-structural plans, but it heavily focuses on the first. The structural measures do not always relieve water-related problems. However, the non-structural measures can at least mitigate the effects posed on water resources. Land use and water resources are interconnected. One cannot separate one from another. Thus, this thesis also proposes an integrated water and land use plan that regulates the patterns of land use and prohibit certain uses at the national and local level. The proposed plan will help people better understand the interaction of land use and water resources. บทคัดย่อ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ ระบุปัญหาเกี่ยวกบนํั ้า ซึ่งจังหวัดมหาสารคาม ประเทศไทยประสบ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหวางนํ่ ้าและการใช้ที่ดิน ภัยพิบัติทาง
    [Show full text]
  • Public Health Prevention and Spatiotemporal Analysis of Human Leptospirosis in Mahasarakham Province, Thailand Jaruwan Viroj
    Public Health Prevention and Spatiotemporal Analysis of Human Leptospirosis in Mahasarakham Province, Thailand Jaruwan Viroj To cite this version: Jaruwan Viroj. Public Health Prevention and Spatiotemporal Analysis of Human Leptospirosis in Mahasarakham Province, Thailand. Human health and pathology. Université Montpellier, 2019. English. NNT : 2019MONTG028. tel-02468153 HAL Id: tel-02468153 https://tel.archives-ouvertes.fr/tel-02468153 Submitted on 5 Feb 2020 HAL is a multi-disciplinary open access L’archive ouverte pluridisciplinaire HAL, est archive for the deposit and dissemination of sci- destinée au dépôt et à la diffusion de documents entific research documents, whether they are pub- scientifiques de niveau recherche, publiés ou non, lished or not. The documents may come from émanant des établissements d’enseignement et de teaching and research institutions in France or recherche français ou étrangers, des laboratoires abroad, or from public or private research centers. publics ou privés. THÈSE POUR OBTENIR LE GRADE DE DOCTEUR DE L’UNIVERSITÉ DE MONTPELLIER En : Ecologie de la santé École doctorale : GAIA - BIODIVERSITÉ, AGRICULTURE, ALIMENTATION, ENVIRONNEMENT, TERRE, EAU Unité de recherche : ISE-M - Institut des Sciences de l'Evolution de Montpellier SANTÉ PUBLIQUE ET ANALYSE SPATIO-TEMPORELLE DE LA LEPTOSPIROSE HUMAINE DANS LA PROVINCE DE MAHASARAKHAM EN THAÏLANDE Jaruwan VIROJ Le 10/10/2019 Sous la direction de : Dr. Julien CLAUDE, Maître de conférences des Universités, Directeur de thèse, Dr. Serge MORAND, Directeur de Recherche CNRS, co-Directeur de thèse et Dr. Claire LAJAUNIE, Chargée de recherche INSERM, co-encadrante de thèse Devant le jury composé de Dr. Karine Chalvet-Monfray, Professeur, VetAgro Sup, Marcy l’Etoile, France Rapporteur Dr.
    [Show full text]
  • SALT RESERVE ESTIMATION for SOLUTION MINING in the KHORAT BASIN Hathaichanok Vattanasak
    SALT RESERVE ESTIMATION FOR SOLUTION MINING IN THE KHORAT BASIN Hathaichanok Vattanasak A Thesis Submitted in Partial Fulfillment of the Requirements for the Degree of Master of Engineering in Geotechnology Suranaree University of Technology Academic Year 2006 กกกก ก ก กกกก กก 2549 SALT RESERVE ESTIMATION FOR SOLUTION MINING IN THE KHORAT BASIN Suranaree University of Technology has approved this thesis submitted in partial fulfillment of the requirements for a Master’s Degree. Thesis Examining Committee _______________________________ (Asst. Prof. Thara Lekuthai) Chairperson _______________________________ (Assoc. Prof. Dr. Kittitep Fuenkajorn) Member (Thesis Advisor) _______________________________ (Assoc. Prof. Ladda Wannakao) Member _________________________________ _________________________________ (Assoc. Prof. Dr. Saowanee Rattanaphani) (Assoc. Prof. Dr. Vorapot Khompis) Vice Rector for Academic Affairs Dean of Institute of Engineering ก ก : กกกก (SALT RESERVE ESTIMATION FOR SOLUTION MINING IN THE KHORAT BASIN) ก : . ก , 191 . กกก กกกก 1) - ก 2) กกกกกก 3) กกกกกกกกก 4) กกกกกก 5) กกก กกกก 100 -700 กก ก 1 1,000 กกกก กกกกก 60 ก 150 ก 140 340 60 30 (กกกกก) ก 240 กก กก 50 ก ก 2.92 กก ก 6.45 กกก กกกกก กกก ก ก กกก ก 2 กก 201,901 กก 97% กก กก 35,060 กก 7,329 กก ______________________ กก 2549 ก ________________ HATHAICHANOK VATTANASAK : SALT RESERVE ESTIMATION FOR SOLUTION MINING IN THE KHORAT BASIN. THESIS ADVISOR : ASSOC. PROF. KITTITEP FUENKAJORN, Ph.D., P.E. 191 PP. SALT/RESERVE/KHORAT BASIN/SOLUTION
    [Show full text]
  • Preserving Temple Murals in Isan: Wat Chaisi, Sawatthi Village, Khon Kaen, As a Sustainable Model1
    Preserving Temple Murals in Isan: Wat Chaisi, Sawatthi Village, Khon Kaen, as a Sustainable Model1 Bonnie Pacala Brereton Abstract—Wat Chaisi in Sawatthi village, Sawatthi District, located about twenty kilometers from the bustling provincial capital of Khon Kaen, is a unique example of local cultural heritage preservation that was accomplished solely through local stakeholders. Its buildings, as well as the 100 year-old murals on the ordination hall, have been maintained and are used regularly for merit- making and teaching. The effort was initiated by the abbot and is maintained through the joint effort of the wat community, Khon Kaen Municipality, and various individuals and faculties at Khon Kaen University. This paper will examine the role of local leadership in promoting local cultural heritage. Introduction Of the more than 40,000 Buddhist wats in Thailand seventeen percent, or nearly 7,000, are abandoned.2 Of those still in use, many are becoming increasingly crammed with seemingly superfluous new structures, statues, and decorations, funded by people seeking fame or improvement in their karmic status. Still others are thriving because of the donations they attract through their association with what is sometimes called “popular Buddhism,” a hodgepodge of beliefs in magical monks, amulets, saints, and new rituals aimed at bringing luck and financial success (Pattana 2012). Yet countless others are in a moribund state, in some cases tended by one or two elderly, frail monks who lack the physical and financial resources to maintain them. Both situations are related to the loss of cultural heritage, as countless unique 1 This paper is adapted from one presented at the Fifth International Conference on Local Government, held in Palembang, Indonesia, September 17-19, 2014.
    [Show full text]
  • Proceeding (ICSSS2014)
    The 4th International Conference on Sciences and Social Sciences 2014: Integrated Creative Research for Local Development toward the ASEAN Economic Community (ICSSS 2014) Program and Abstracts September 18-19, 2014 Rajabhat Maha Sarakham University, Maha Sarakham (Thailand) In Cooperation with Roi Et Rajabhat University (Thailand) Jena University (Germany) Waseda University (Japan) West Visayas State University (Philippines) University of South East Asia (Cambodia) Vinh University (Vietnam) National University of Laos (Laos) SEAMEO Regional Centre for Education in Science and Mathematics: RECSAM (Malaysia) The 4th International Conference on Sciences and Social Sciences 2014: Integrated Creative Research for Local Development toward the ASEAN Economic Community (ICSSS 2014) September 18-19, 2014 at Rajabhat Maha Sarakham University ********************************************************************************************** Contents Page Conference Information III Organizers IV Committees V Reviewers VI Welcome Speech and Opening Address XI Keynote Speakers X Invited Speakers XIII Conference Program XXIII Invited Speakers Abstract XXVI Presentation Program XXXIV Oral Presentation Abstract 1 Poster Presentation Abstract 51 Proceeding Assemble Staff 179 II The 4th International Conference on Sciences and Social Sciences 2014: Integrated Creative Research for Local Development toward the ASEAN Economic Community (ICSSS 2014) September 18-19, 2014 at Rajabhat Maha Sarakham University **********************************************************************************************
    [Show full text]
  • Agro-Environmental Determinants of Leptospirosis: a Retrospective Spatiotemporal Analysis (2004–2014) in Mahasarakham Province (Thailand)
    Tropical Medicine and Infectious Disease Article Agro-Environmental Determinants of Leptospirosis: A Retrospective Spatiotemporal Analysis (2004–2014) in Mahasarakham Province (Thailand) Jaruwan Viroj 1, Julien Claude 2, Claire Lajaunie 3 , Julien Cappelle 4,5 , Anamika Kritiyakan 6, Pornsit Thuainan 7, Worachead Chewnarupai 8 and Serge Morand 4,7,* 1 Faculty of Public Health, Mahasarakham University, Mahasarakham 44150, Thailand; [email protected] 2 Institut des Sciences de l’Evolution, CNRS/UM/IRD/EPHE, Montpellier Université, 35095 Montpellier, France; [email protected] 3 Inserm, UMR LPED (IRD, Aix-Marseille Université), 13001 Marseille, France; [email protected] 4 CIRAD, UMR ASTRE, 34398 Montpellier, France; [email protected] 5 UMR EpiA, INRA, VetAgro Sup, 69280 Marcy l’Etoile, France 6 Faculty of Veterinary Technology, Kasetsart University, Bangkok 10200, Thailand; [email protected] 7 Mahasarakham Provincial Public Health Office, Mahasarakham 44000, Thailand; [email protected] 8 Ban Ke Health Promotion Hospital, Mahasarakham 44150, Thailand; [email protected] * Correspondence: [email protected] Abstract: Leptospirosis has been recognized as a major public health concern in Thailand follow- Citation: Viroj, J.; Claude, J.; ing dramatic outbreaks. We analyzed human leptospirosis incidence between 2004 and 2014 in Lajaunie, C.; Cappelle, J.; Kritiyakan, Mahasarakham province, Northeastern Thailand, in order to identify the agronomical and environ- A.; Thuainan, P.; Chewnarupai, W.; mental factors likely to explain incidence at the level of 133 sub-districts and 1982 villages of the Morand, S. Agro-Environmental province. We performed general additive modeling (GAM) in order to take the spatial-temporal Determinants of Leptospirosis: A epidemiological dynamics into account.
    [Show full text]
  • Tourist Attractions in Kalasin. [Online]
    รายงานการวิจัย เรื่อง การพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของมัคคุเทศก์ ในจังหวัดมหาสารคามเพื่อรองรับการเข้าส่ประชาคมอาเซียนโดยบู ูรณาการแนวคิด ของการเรียนการสอนภาษา 3 รูปแบบ และเน้นการใช้ภาษาอังกฤษ ในสถานการณ์จริง English Language Competency Development of Tour Guides in Maha Sarakham Province in Preparation for the ASEAN Community by Integrating Three Concept-Centered Instructional Models and Using English in Actual Situations ณรงค์ฤทธิ์ โสภา พูลศักดิ์ ศิริโสม เกตน์สิรี จาปีหอม มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม 2559 ลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (งานวิจัยนี้ได้รับทุนอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน ปีงบประมาณ 2559) รายงานการวิจัย เรื่อง การพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของมัคคุเทศก ์ ในจังหวัดมหาสารคามเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนโดยบูรณาการแนวคิด ของการเรียนการสอนภาษา 3 รูปแบบ และเน้นการใช้ภาษาอังกฤษ ในสถานการณ์จริง English Language Competency Development of Tour Guides in Maha Sarakham Province in Preparation for the ASEAN Community by Integrating Three Concept-Centered Instructional Models and Using English in Actual Situations ณรงค์ฤทธิ์ โสภา พูลศักดิ์ ศิริโสม เกตน์สิรี จาปีหอม มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม 2559 ลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (งานวิจัยนี้ได้รับทุนอุดหนุนจากงบประมาณแผนดิน่ ปีงบประมาณ 2559) ก กิตติกรรมประกาศ งานวิจัย เรื่องการพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของมัคคุเทศกในจังหวัด์ มหาสารคามเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนโดยบูรณาการแนวคิดของการเรียนการสอนภาษา 3 รูปแบบและเน้นการใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริง สาเร็จลงได้ด้วยดี เพราะได้รับการสนับสนุน ด้านงบประมาณจากสภาวิจัยแห่งชาติ (วช) มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
    [Show full text]
  • Collaboration for Solving Problem of Poverty, Social Development and Community Happiness Condition in Mahasarakham Province
    Collaboration for Solving problem of Poverty, Social Development and Community Happiness Condition in Mahasarakham Province Chalard Chantarasombat1 Abstract This study aimed to: 1) create a collaboration between the state (Local government) and local communities to solve the problem of poverty and develop appropriate sanitation for local communities, 2) developing a community database to help formulate policies for developing solutions to poverty, social development and community happiness 3) developing learning produces and knowledge management. Samples were based on 202 families form 12 villages, 6 sub-district, and 6 districts in Maha Sarakham province. Research methods included 1) a household account diary; living development plan, operational handbook, community plan handbook, and sanitation data, and 2) Factors of failure consisted of a lack of joined up thinking, consensus amongst stakeholders and volunteer attitudes to community development. 3) The issue of debts accrued by farmers should be highlighted. The purpose 1) to construct mechanisms of collaborative parties for development in solving problem of poverty, social and community happiness condition 2) to develop the data base system for community base to policy determination to development at different level, 3) to construct the learning process of community knowledge management leading to solving problem of economic and 1 Associate Professor Dr., Faculty of Education, Northeastern University E-mail: [email protected] Journal of Education, Volume 13 Number 4 Mahasarakham
    [Show full text]
  • Annals of the Romanian Society for Cell Biology
    Annals of R.S.C.B., ISSN: 1583-6258, Vol. 25, Issue 5, 2021, Pages. 5081 - 5088 Received 15 May 2021; Accepted 20 May 2021. The Project Feasibility Study of Electric Power Plant from Waste of MahaSarakham Province, Thailand Prayoon Wongchantra1, Kuantean Wongchantra2, Likhit Junkaew3, Kannika Sookngam4, Uraiwan Praimee5, Surasak Kaeongam6, Suparat Ongon7* 1,3,4,5,6,7 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahasarakham University, Mahasarakham,Thailand 2 Srimahasarakham Nursing College, Faculty of Nursing, Praboromarajhanok Institute, MahaSarakham, Thailand * Corresponding Author :[email protected] ABSTRACT The purpose of this study was to study the project feasibility study of electric power plant from waste of MahaSarakham province, Thailand. The data were collected from primary data by actual recording and secondary data from documents for analysis the feasibility of area and waste state in area, technical, economics and management of solid waste transfer station. The findings revealed that there were the feasibility and appropriate in area and waste state in area, technical, economics and management of electric power plant from waste. Keywords project feasibility study; electric power plant from waste; MahaSarakham Introduction At present, the countries almost everywhere in the world have increased the population rapidly economic growth, society and politics, the development of the industry. And technological advances make everything changes brought environmental problems especially in urban areas waste quantity rapidly rising from each family practice activities in daily life and solid waste present often contains a material removal and biodegradable difficult, such as plastic, foam, cans, glass, etc. Due to the growth in science and modern technology, production of various articles changed the living conditions of the people must be fast and convenient.
    [Show full text]
  • Agro-Environmental Determinants of Leptospirosis
    Agro-Environmental Determinants of Leptospirosis: A Retrospective Spatiotemporal Analysis (2004–2014) in Mahasarakham Province (Thailand) Jaruwan Viroj, Julien Claude, Claire Lajaunie, Julien Cappelle, Anamika Kritiyakan, Pornsit Thuainan, Worachead Chewnarupai, Serge Morand To cite this version: Jaruwan Viroj, Julien Claude, Claire Lajaunie, Julien Cappelle, Anamika Kritiyakan, et al.. Agro- Environmental Determinants of Leptospirosis: A Retrospective Spatiotemporal Analysis (2004–2014) in Mahasarakham Province (Thailand). Tropical Medicine and Infectious Disease, MDPI, 2021, 6 (3), pp.115. 10.3390/tropicalmed6030115. halshs-03290644 HAL Id: halshs-03290644 https://halshs.archives-ouvertes.fr/halshs-03290644 Submitted on 19 Jul 2021 HAL is a multi-disciplinary open access L’archive ouverte pluridisciplinaire HAL, est archive for the deposit and dissemination of sci- destinée au dépôt et à la diffusion de documents entific research documents, whether they are pub- scientifiques de niveau recherche, publiés ou non, lished or not. The documents may come from émanant des établissements d’enseignement et de teaching and research institutions in France or recherche français ou étrangers, des laboratoires abroad, or from public or private research centers. publics ou privés. Distributed under a Creative Commons Attribution| 4.0 International License Tropical Medicine and Infectious Disease Article Agro-Environmental Determinants of Leptospirosis: A Retrospective Spatiotemporal Analysis (2004–2014) in Mahasarakham Province (Thailand) Jaruwan
    [Show full text]
  • The Ancestral Spirit Forest (Don Pu Ta) 2 and the Role Behavior of Elders (Thao Cham) in Northeastern Thailand
    Boonyong Kettate 1 The Ancestral Spirit Forest (Don Pu Ta) 2 and the Role Behavior of Elders (Thao Cham) in Northeastern Thailand Introduction or the centuries that human beings have lived The structure built as the residence for the Fclosely with nature, despite changing Pu Ta spirits is known variously as the Ho Pu conditions and the increasing role played in daily. Ta, San Pu Ta, Tup Pu Ta, or Hong Pu Ta. 4 life by technological advances, forest resources There are two types of structures. The first is a and produce have had continued value. This has small house placed atop a single pillar similar been true regardless of whether the produce is in form to a San Phra Phum (spirit house). The wild greens, herbs, dyestuffs, items of apparel, or second is built using four pillars. There are both objects that could be used as agricultural tools. large and small structures. Generally there is a The value of these products from the forest has single room in the house to make it easy to served to evoke within the peoples of different place offerings or figurines of human beings communities the desire to preserve the balance of which it is believed the spirits desire. One such nature and protect watershed sources, soil quality, figurine, made of sculpted wood in the shape of and the rich diversity of wildlife. a servant or retainer providing utensils to the According to northeastern Thai tradition, spirit, is placed at the front of the room. On when a village was established, the villagers another side may be a kind ofbalcony on which built a small bamboo shrine or hut of some sort offerings can be placed.
    [Show full text]
  • Anti-Corruption Regime and Corruption Resolutions In
    ANTI-CORRUPTION REGIME AND CORRUPTION RESOLUTIONS IN LOCAL SELF-GOVERNMENT: A CASE STUDY OF SUBDISTRICT ADMINISTRATIVE ORGANIZATION (SAO) IN SOUTHERN PART OF NORTHEASTERN REGION OF THAILAND Pratueng Moung-On A Dissertation Submitted in Partial Fulfillment of the Requirement for the Degree of Doctor of Public Administration School of Public Administration National Institute of Development Administration 2013 ABSTRACT Title of Dissertation Anti-Corruption Regime and Corruption Resolutions in Local Self-Government: A Case Study of Subdistrict Administrative Organization (SAO) in Southern Part of Northeastern Region of Thailand Author Mr. Pratueng Moung-On Degree Doctor of Public Administration. Year 2013 _____________________________________________________________________ Research on the systems regarding the anti-corruption regime and corruption resolution in local self-government: A case study of Sub-District Administrative Organizations (SAO) in the Southern part of the Northeastern region of Thailand aims to study the following: 1) Forms of corruption within the Sub-District Administrative Organizations. 2) Anti-corruption systems in Thailand. 3) Problems in the anti- corruption regime and corruption resolution within Sub-District Administrative Organization. A qualitative research method was employed to study documents regarding the National Anti-Corruption Commission (NACC) pressing charges and cases are still undergoing investigations, and also by interviewing 63 key informants with the following results: 1) Most forms of corruption acts within SAOs were mostly related to procurement procedure bidding and hiring and employment cases, and also the misappropriation of income of SAOs and documentation fraud. Third place in the rankings are cases related to bribery regarding promotions and appointments. Most of the cases were against the Chief Executives of the SAOs and most of the acts were done in collaboration with other related personnel such as government officers, employees and other SAO officers.
    [Show full text]