ISSUE 39 SEPTEMBER

2019

ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 1 0 2 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 3 EDITOR ‘S NOTE ISSUE 39 / SEPTEMBER 2019

ได้อ่านหนังสือ “มูซาชิ ล�าดับ 1 ภาคดิน” โดย อ.สุวินัย ภรณ BLAST‘S TEAM วลัย ซึ่งเป็นภาคต่อจาก “มูซาชิ ฉบับท่าพระจันทร์” ที่ตีพิมพ์มาเมื่อ Founder & Editor : ศรันยพงศ สุขภานนท 24 ปีที่แล้ว รายละเอียดหนังสือจะเป็นอย่างไรขอแนะน�าให้อ่าน แต่ที่ Art Director : กฤษณะ โชคเชาววัฒน จะมาเขียนเล่าให้ฟังนิดนึงตรงที่ มูซาชิเป็นซามูไรไร้พ่าย คือ ประลอง Photographer : เตชนันท จิรโชติรวี แล้วไม่เคยแพ้ใคร ที่ไม่เคยแพ้ใครก็เพราะด้วยฝีมือระดับปรมาจารย์ กฤษฎาพันธ กิจพิทักษ การเข้าถึงในวิถีแห่งดาบและการคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ มีอยู่ตอน Editorial Staff : กชกร มุสิกรัตน นึง มูซาชิเกือบได้ประลองดาบกับ “ฮาดะ โคะไซยิ” ปรมาจารย์ดาบผู้ Digital Media : ณรงคพล เกสรประทุม แข็งแกร่งอีกคนที่มูซาชิยังถึงกับไม่แน่ใจว่าถ้าได้ประลองกันเขาจะชนะ พิสูจนอักษร : ลลนี เสียงลํ้า หรือไม่ เรียกว่าแค่คิดก็ขนลุก “วิถีของนักดาบที่จริงแท้คือ ต้องชนะ Contributor : บอบูŽ / อัษฏา อาทรไผท / ไผ‹ A.M.P / โดยไม่หวังโชคช่วย” หน้าที่ของนักดาบหรือนักกลยุทธ์คือต้องพยายาม เทพ ปลันธน พงษพานิช / ฐิติวัฒน บุญวิวัฒน / พอล โซลิส / ทุกวิถีทางเพื่อให้ชนะเท่านั้น มูซาชิพยายามเลี่ยงไม่อยากปะทะ เพราะ ป‚เตอร เดอะ อีแรŒง / นิพนธ ยิ้มประเสริฐ / จักรธิป ปุญญทลังค / เขาต้องประลองกับ “ทัมบะ อุเคียว” นักดาบฝีมือธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ฐานิศ ชาตะธนะบุ / จันทนี ป˜นทรสเพิ่ม / มิกข วรนิสรา / ศรัณยู ตรีสุคนธ / แต่ผู้ช่วยของเขานี่สิคือ โคะไซยิ มูซาชิจึงวางแผนจะใช้กลยุทธ์มาสาย หนึ่งชั่วยามเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามรอ หกโมงเช้าเวลาประลองมูซาชิไป รัฐพงศ เทียมทองใบ / วรัญู ศิริเคารพ / วัชตรี บัวสาย / ตรงเวลา เจอแต่อุเคียวที่มายืนรอ ส่วนโคะไซยิยังไม่มา ไม่รอช้ามูซา ชานนท บุญญศิริ / อธิวัฒน อุตŒน / มนูญศักดิ์ ช‹วยรอดหมด ชิชักดาบวิ่งเข้าหาอุเคียวด้วยความเร็วสุดฝีเท้า ดาบยาวมือซ้ายรับดาบ ติดต‹อลงโฆษณา : ศรันยพงศ สุขภานนท 08-1692-3961 ของอุเคียว ดาบสั้นในมือขวากรีดล�าคอด้านข้างของอุเคียวเลือดพุ่ง พิมพที่ : คอสมิคพริ้นทแอนดดีไซน จํากัด โทรศัพท 02-417-7783 กระฉูด แต่มูซาชิก็ไม่ได้หยุดวิ่งเลย เข้าก�าลังใช้กลยุทธ์หนีสุดชีวิต ขŒอเขียน รูปภาพ และพื้นที่โฆษณาทั้งหมดในนิตยสารบลาสต สงวนสิทธิ์ตาม การประเมินตนเอง คิดไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะท�า กฎหมาย หากจะนําไปเผยแพร‹ซํ้า ไม‹ว‹าจะเปšนบางส‹วนหรือทั้งหมด ตŒองไดŒรับการ อะไรในยุคนี้ เริ่มมีความส�าคัญมากขึ้น โดยเฉพาะบรรดาผู้นิยมไลฟ์ ยินยอมเปšนลายลักษณอักษรจาก บริษัท บลาสต เดอะ บีท จํากัด สด หรือท�าคอนเทนต์ปล่อยโลกโซเชียล ต่อให้เก่งกาจขนาดไหนก็มี วันพลาด ต่อให้ดังขนาดไหนก็มีวันดับ กรณีตัวอย่างล่าสุดที่มีคู่ชาย หญิงท�าคลิปความอดทนของแอร์โฮสเตจสายการบินแห่งหนึ่ง ไม่ต้อง CONTACT ถามถึงความเหมาะสม เหมือนเอาผู้โดยสารบนเครื่องบินทั้งล�าเป็นตัว บริษัท บลาสต เดอะ บีท จํากัด ประกันถ้าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด การกล่าวขอโทษหลังจากโดน 116 ซอยเทียนทะเล 24 ถนนบางขุนเทียน – ชายทะเล แขวงท‹าขŒาม วิจารณ์ก็ไม่ทันเสียแล้ว เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 โทร.02-451-1324 แฟšกซ 02-451-1325 หนีใช่ว่าน่าอาย แต่หนีเพื่อตั้งรับ ลองใช้กลยุทธ์นี้ดู blastmagth OLD RECORD STILL ALIVE

WHERE TO FIND รŒานอุปกรณดนตรีชั้นนํา Music Concept / Rock Planet / Beatspot / Music Center / CMC / VRK Sport and Music / Super8 / อินเตอร มิวสิค / เอเชีย มิวสิค / ธีระ มิวสิค / VEE Music ฟวเจอรพารค รังสิต ชั้น 3 / Music Store เมกา บางนา ชั้น 2 / รŒานสินธทอง หลังกระทรวง / CONTENTS M.I. Engineering / มิวสิค ซิตี้ เซ็นทรัล เวสตเกต บางใหญ‹ / 08 PRODUCT TEST 026-027 OLD RECORD STILL ALIVE และรŒานจําหน‹ายอุปกรณดนตรีทั่วประเทศ 010 BUILD TO BLAST 028-029 BLAH BLAH BLAST 012 BLAST FROM THE PAST 030-031 BLAST TRIP สถาบันสอนดนตรี 014 ยŒอนเกร็ด / HISTORIC TELLING 032-033 ALBUM REVIEW Rockademy / Overtone 016 BLAST THE BEAT 034-037 COVER STORY (ปกหลัง) หŒองบันทึกเสียง หŒองซŒอมดนตรีชั้นนํา และ รŒานกาแฟต‹าง ๆ 018-025 COVER STORY A.M.P. สวนจตุจักร / US And Them สวนจตุจักร / รŒานนŒองท‹าพระจันทร / รŒาน Grahm สยามพารากอน / รŒาน Burgundy Dipper สาขาแยกรัชดา-ลาดพรŒาว และสาขา สถานีรถไฟฟ‡า MRT พหลโยธิน

0 4 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 5 0 6 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 7 product test POP UNCOMPRESSED STL TONES WILL PUTNEY จะถูก Boost ด้วย 808 ซึ่งถือว่า เป็น อะไรที่ตอบโจทย์มาก ๆ และ ยัง ปรับให้ได้ Gain ที่เพิ่มขึ้น และ ลักษณะ clipping stage ด้วย Delay กับ Reverb นั้นเสียงดีมากกกกก และเลือกได้ว่าจะวางไว้หน้าหรือหลัง แอมป์ก็ได้ และค่าที่สามารถปรับได้ ก็จะช่วยให้เสียงกีตาร์ของคุณเสียงดี จบในตัวเดียวจริง ๆ ในภาค cab นั้นใช้ไม่ยาก มาถึงป‚ 2019 เทคโนโลยีได้ ใช่แล้วครับ 2 ชื่อนี้หลาย ๆ เหมือนจริงมาก ๆ ยิ่งไปอยู่ใน Band เพราะมีให้เลือก เป็น Cab ที่ ดําเนินมาถึงจุดที่ทําให้เราทํางานได้ คนคงคุ้นชื่อกันดีอยู่เพราะว่า เป็นชื่อ mix นี่ฟังแทบไม่ออกเลย ซึ่งการ Matching กับหัว Amp และ ง่ายข�้นมาก ๆ และคงปฎิเสธไม่ได้ ของ Producer ชื่อดังอย่างตัวที่น�ามา Respond ของ Low end ความ สามารถใช้ ir ของเราเองได้เพื่อ ว่า Plug In สําหรับกีตารนั้นได้เข้า Review ให้เพื่อน ๆ อ่านกันวันนี้ สากของเสียงและ การบีบอัดของ เพิ่มความหลากหลายของเสียงที่เรา มามีบทบาท กับเรา ๆ นักดนตร�มาก Will Putney นั้นคือ Producer, ปลายแหลม นั้นท�าได้ดีมาก ๆ ซึ่ง ต้องการ ข�้น เพราะนอกจากจะทําให้เราสะดวก Mixer และ Engineered ให้กับวงดัง ๆ สามารถแสดงภาพของ Amp ที่ถูก ประหยัดและได้เสียงที่ดีแล้ว เรายัง อย่าง Thy Art Is Murder, Every จ�าลองมาได้อย่างชัดเจน ทั้งลักษณะ สรุป ทํางานกันได้ที่บ้านและเปลี่ยนเสียงที่ Time I Die, Gojira, Northlane, การ compressed ของย่านเสียง STL Tonality Will Putney นั้น เราต้องการได้ภายในไม่กี่ click Norma Jean, Unearth และอื่น ๆ แตกแต่ละ Amp อย่างเสียงกลางที่ ให้เสียงที่ดีมาก ๆ และครบจบในตัว เทคโนโลยี Amp Sim นั้นนอกจาก อีกมากมาย มีการบีบอัดและซาวนด์ที่ Dark ของ เดียว ปัญหาหลัก ๆ คือ Model ที่ Hardware อย่างพวก Line6 , STL Tonality Will Putney นั้น 5150 หรือ Low end ที่ใหญ่มาก ๆ น้อยและ Cab ที่ไม่สามารถเลือก Headrush, AXE-FX และอื่น ๆ อีก ผมเลือกมาเพราะค่อนข้างครบเครื่อง และความหนาในย่านกลางต�่าของ เสียงต�าแหน่งประเภทของไมค์ได้ แต่ มากมายที่สมัยนี้นักดนตร�ทั้งมือ และมี Amp ชื่อดังส�าหรับสายหนัก Uberschall และกลางแหลมอันเป็น เอาจริง ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะว่า อาชีพ และมือสมัครเล่น หร�อแม้แต่ หน่วงที่หาได้ยากมาก ๆ ใน Plug In เอกลักษณ์รวมถึงการ compressed เสียงที่เลือกให้มานั้นเป็นเสียงที่ดีมาก ๆ ศิลปนดัง ๆ ก็เริ่มหันมาเลือกใช้ในการ ซึ่งจะประกอบไปด้วย Amplifier 5 อันเป็นเอกลักษณ์ของ VH4 และ และ Balance และ Represent cab เล่นสดและซ้อมที่บ้าน หร�อแม้กระทั่ง ตัว ที่เป็นต้นแบบ (Peavey 5150, เสียง Clean อันหนาและเสียง และ Amp นั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี การอัดเสียงกันแล้ว คุณภาพมันมา Bogner Uberschall, Mesa Triple แตกของ MESA BOOGIE Triple หรือถ้าใครมี ir ที่ชอบก็สามารถใส่ ถึงจุดที่เรา ๆ ยอมรับได้แล้วหล่ะ Crown, Diezel VH4, Ampeg SVT Crown ที่น่าเป็นเสียง Style Mesa ที่ เข้าไปได้โดยที่ไม่ต้องใช้ โปรแกรม คราวนี้นอกจากยี่ห้อดัง ๆ ที่ Classic) พร้อม Cab sim และ Modern มากขึ้นซึ่ง AMP3 (Triple อื่น ๆ ใครเป็นสาย Rock, Metal ท�า Plug In ส�าหรับกีตาร์อย่าง สามารถใช้ 2 amp พร้อมกันได้และ Crown) นั้นจะมี switch tight เพิ่ม จนถึง Djent น่าจะรัก Program นี้ Amplitube, Guitar Rig, BIAS หรือ ยัง Blend เสียงรวมกันได้ และยังมี ขึ้นมาที่จะช่วยจัดการกับย่านเสียง มาก ๆ เลยหล่ะ เพราะส�าหรับผม Amp Farm แล้วยังมีบริษัทเล็ก ๆ ที่ Effect Delay, Reverb, Distortion ให้กระชับขึ้นอันเป็นเอกลักษณ์ของ แล้วเท่าที่ลองมาแทบจะเป็น Plug ท�าออกมาได้คุณภาพสูงมาก ๆ อีก ให้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ ext IR Amp ต้นแบบ นอกจากนั้นยังมี In หลักในตอนนี้เพราะมิติและการ หลาย ๆ บริษัทอย่าง STL Tones ได้ และยังมี Master EQ ที่จ�าลองมา Parameter เพิ่มขึ้นมาซึ่งก็คือ Focus compressed ของย่านที่แทบไม่ต่าง จาก EQ Hardware ที่ Putney ชอบ ที่จะช่วย จัดการ Low end ไม่ให้บวม และนี่ยังไม่รวมเสียง delay ที่ไม่ได้มี STL Tonality Will Putney ใช้อย่าง Focusrite ISA เกินไปในทุก ๆ แอมป์ และยังเปลี่ยน เฉย ๆ แต่เสียงมีความ 3 มิติอีกด้วย STL Tones นั้นสร้างชื่อมาจาก หลอด Power amp ได้อีกด้วย และ การเป็น 3rd Party ที่ ท�า profiler Performance AMP5 ที่เป็น Amp Bass นั้นก็เก็บ Kemper และ CAB ir ส�าหรับ AXE STL Tonality นั้นมีค่า คาแรคเตอร์ได้เป็นอย่างดี FX ที่มีคุณภาพมาก ๆ และก็ได้เริ่ม Lantency ที่ค่อนข้างต�่า (ทั้งนี้ทั้งนั้น ในส่วนของ Effect นั้นสามารถ ใครสนใจก็เขาไปที่ www. ท�า Plug In ส�าหรับ กีตาร์ออกมา อยู่ที่ spec computer และ Audio ปรับได้อย่างหลากหลายอย่าง stltones.com ไดเลยนะครับมีให อย่าง Ignite Emissery และตาม Interface ของเพื่อน ๆ ด้วยนะครับ) Distortion สามารถเลือก Mode ได้ ทดลองใชฟรี 10 วันดวยนะ แลว มาด้วย STL Tonality ซึ่งตอนนี้ออก เสียงแต่ละ Model Amp นั้น STL ว่าเป็น TS9 หรือ 808 ซึ่งมันดีงาม อยาลืมติดตามพรอมกดกระดิ่งที่ มา 2 version คือ Howard Benson Tonality ท�าได้ดีมาก ๆ และมี มาก ๆ เพราะ Amp อย่าง Amp1,3 YouTube.com/uncompressedth และล่าสุด Will Putney คาแรคเตอร์และ Feel การเล่นที่ นั้น Classic sound ที่เราได้ยินมัน กันดวยนะครับ

0 8 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 WA_BC150_300_Combo_213x140.indd 1 01.02.17 15:17

WA_BC10_LittleBigCombo_213x140.indd 1 บริษัท เอเชียมิวสิค (2518) จํากัด02.01.17 08:27 facebook.com/AsiaMusicThailand ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 164/1 ถนนดํารงรักษ์ แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย- BLAST กรุงเทพฯ magazine 10100 - 0 9 facebook.com/WarwickFramusThailand T 02-282-8600 / 086-480-0226 / Email: [email protected] Build To Blast JACKASS Atletico Madrid / Barcelona / Realmadrid สวัสดี “ลา ลีก้า 2019” ทีเด็ด “3 สตาร์” เขย่าตาข่าย กลับมาสู่ช่วงเวลาแห่งความบันเทิงของเหล่าคอลูกหนัง (และนักกา นักลงทุนทั้งหลาย... ฮา ๆ) กันแล้วนะครับเมื่อลีกฟุตบอลใหญ่ ๆ ทั้ง พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ, บุนเดสลีกา เยอรมนี, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, ลีก เอิง ฝรั่งเศส และ ลา ลีก้า สเปน รูดม่านเปิดฉากฟาดแข้งกันอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะ พรีเมียร์ ลีก ที่เหล่าสาวก ลิเวอร์พูล ทีมรักขวัญใจคนทั่วโลก ได้ลุ้นกันอีกครั้งว่าปีนี้พวกเขาจะไปถึงฝั่งฝันหยิบแชปม์ลีกสูงสุดได้แล้วหรือยัง โดยมี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า คู่อริที่ยังเก่งกาจไม่เปลี่ยน เป็นก้างขวางคอ ขณะที่ความสนใจของคอบอลส่วนใหญ่พุ่งไปที่เกมฟุตบอลจากเมืองหลวงลูกหนังที่อังกฤษ กระนั้นตัวผมเองปีนี้กลับสนใจไปที่ ลา ลีก้า สเปน มากกว่า ช่วง หลังหลายคนอาจจะเบื่อเพราะเป็นลีกที่ดูแล้วไม่มีความตื่นเต้นเร้าใจใด ๆ ลุ้นแชมป์กันแค่สองทีมคือ รีล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ทีมที่เหลือก็ดูออกจะเป็นไม้ประดับ เสียมากกว่า แต่ผมบอกเลยว่าฤดูกาลนี้จะไม่เหมือนเดิมแน่ ๆ หลังสังเกตการณ์โยกย้ายในตลาดรอบที่ผ่านมา ซึ่งน่าสนใจผสมขนลุกขนชันทั้งสตาร์ใหม่ที่เข้ามา เสริม หรือโยกย้ายไปเล่นกับทีมอื่น และนี่ 3 นักฟุตบอลที่น่าสนใจมาก ๆ ที่จะท�ำให้การโม่เกือก ลา ลีก้า สเปน ปีนี้สะเด่าพริก 10 เม็ด

ชูเอา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด) อองตวน กรีซมันน์ (บาร์เซโลน่า) ทาเคฟุสะ คุโบะ (รีล มาดริด) ไอ้หนูวัย 19 ปีจากเบนฟิก้า ฉายแสง คนนี้ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมาก นอกเหนือจากวอดวายเงินมหาศาลเอาตัว เปล่งรัศมีบนฟลอร์หญ้ามาตั้งแต่ ยูโรป้า ลีก เพราะดังมานานแล้วส�ำหรับดาวเตะดีกรีแชมป์ เอเดน อาซาร์ ยอดดาวเตะที่กุนซือหัวไข่ดาว ซีเนอ ฤดูกาลที่แล้ว หลังโชว์ฟอร์มยิงแฮตทริกใส่ โลกกับทีมชาติฝรั่งเศสใน เวิลด์ คัพ หนล่าสุด ดีน ซีดาน ปรารถนามานานจนสมดังใจปอง รีล ไอน์ทรัคต์ แฟรงเฟิร์ต ในเกมที่ชนะ 4-2 จน ที่รัสเซีย ชื่อเสียง ฝีตีน ความสามารถ ก็เป็นที่ มาดริด ปีนี้ยังมาแปลกด้วยการเซ็นสัญญากับแข้ง กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ยิงแฮตทริคได้ ประจักษ์มายาวนานสมัยโม่แข้งให้กับ แอตเลติโก้ ดาวรุ่งรายหนึ่งจากญี่ปุ่นที่ชื่อ ทาเคฟุสะ คุโบะ กอง ในรายการนี้ แม้ที่สุดแล้วทีมจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน มาดริด ทว่าความน่าสนใจคือการที่ อองตวน กลางจาก เอฟซี โตเกียว มาร่วมทีม แน่นอนว่าก็ ถึงการหยิบถ้วยแชมป์ แต่ก็ยกระดับโปรไฟล์ กรีซมันน์ โยกย้ายตัวเองไปอยู่กับโคตรทีมแห่ง เป็นกระแสข่าวสุดฮือฮาในวงการลูกหนังแดนปลาดิบ ของตัวเองขึ้นมาได้มากโข จนสื่อต่างประเทศ ลีกอย่าง “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ท�ำนองปลาบปลื้มดีใจที่เห็นชาวซามูไร ลงเล่นให้กับ ให้ความสนใจเขียนชื่นชมสรรเสริญกันอย่าง หากจ�ำกันได้ก่อนจบฤดูกาล กรีซมันน์ โคตรทีมระดับโลก ราวกับการ์ตูนดัง “กัปตันซึบาสะ” ล้นหลาม ออกมาประกาศอ�ำลา “ตราหมี” ท่ามกลาง ที่ โอโซระ สึบาสะ เจ้าหนูสิงห์นักเตะนามกระเดื่อง ซัมเมอร์ที่ผ่านมา ผลผลิตจากอะคาเด ความสงสัยว่าเจ้าตัวจะไปอยู่ที่ไหนต่อ แต่ เล่นให้กับ บาร์เซโลน่า มี่ของ เบนฟิก้า ได้รับความสนใจจากทีมยักษ์ สุดท้ายก็เป็นโคตรทีมสีน�้ำเงิน-เลือดหมู ก่อนหน้านี้ คุโบะ เคยเป็นเด็กปั้นของ บาร์เซ ล้นหลามทั้งอังกฤษและสเปน แต่สุดท้ายก็เป็น กระชากตัวไปด้วยสนนราคา 120 ล้านยูโร โลน่า ได้เข้ามาพัฒนาฝีเท้ากับทีมเยาวชนอยู่ระยะ แอตเลติโก้ มาดริด ที่ไปสอยตัวมาในราคา (ประมาณ 4,140 ล้านบาท) ฝีเท้าไม่มีปัญหา ใหญ่ แต่เพราะ “เจ้าบุญทุ่ม” แอบเซ็นสัญญาแข้ง 113 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,200 ล้านบาท) แถมยังเล่นอยู่ในสเปนด้วย ไม่ต้องปรับตัวกัน เยาวชนคนอื่นแบบผิดกฎจนถูก ยูฟ่า ลงโทษห้ามซื้อ ถึงจะราคาสูงไปหน่อยส�ำหรับนักเตะดาวรุ่งแต่ มาก ทว่าการต้องอยู่ร่วมทีมมนุษย์ต่างดาวที่มี ขาย ท�ำให้ คุโบะ ต้องกลับบ้านไปเล่นที่ญี่ปุ่นอย่าง “ตราหมี” ก็มองว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต โคตรนักเตะเสือ สิงห์ กระทิง แรด มากมาย เจ็บช�้ำ อย่างไรก็ตาม เหมือนสวรรค์มีตา โชคชะตา เพราะเซ็นสัญญายาวถึง 7 ปี และที่ส�ำคัญ โดยเฉพาะ ลิโอเนล เมสซี่ ลูกรักเบอร์ 1 และ ฟ้าลิขิต เจ้าหนูวัย 18 ปี ก็ได้กลับมาที่สเปนอีกครั้ง ช่วงอุ่นเครื่องพรีซีซัน แอต.มาดริด ลงสนาม หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงจอมกัด ร่วมค�้ำจุนแดนหน้า แต่เปลี่ยนโลเกชั่นเช็คอินเป็น ซานติเอโก้ เบร์นาบิว เจอกับ ยูเวนตุส ซึ่งอีกฝ่ายนั้นมีซูเปอร์สตาร์ กรีซมันน์ จะปรับตัวเล่นเข้ากับพี่ ๆ เขาได้ไหม ของ “ราชันชุดขาว” โดยทีแรกนั้น ซีดาน ตั้งใจให้ แข้งทองชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แถมยังเป็น จะยิงระเบิดได้เหมือนเดิมร่วมกันพา บาร์เซโลน่า นักเตะไปสั่งสมฝีเท้ากับทีมส�ำรองก่อน แต่เพราะ ชาวโปรตุกีสรุ่นพี่ ลงเป็นตัวจริง กระนั้น ยิ่งใหญ่เกรียงไกร หรือท�ำงานร่วมกันไม่เข้าขา ช่วงพรีซีซั่นฉายแววฝึกซ้อมได้ดี ก็ท�ำให้ คุโบะ ได้รับ เฟลิกซ์ ก็โชว์ฟอร์มสุดติ่งยิงคนเดียว 2 ประตู จนต้องถอยไปส�ำรอง โดน เมสซี่ บดบังรัศมี การพิจารณาติดทีมชุดใหญ่มาเลย น่าสนใจมากกว่า พาทีมชนะ 2-1 แบบที่ “เจ๊ทโด้” ได้แต่มอง เหมือน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ย้ายจาก ลิเวอร์พูล อดีตแข้ง เอฟซี โตเกียว ที่ยิงไป 5 ประตูกับ 4 แอส – เท่านี้โลกก็รู้จักเจ้าหนู ชูเอา เฟลิกซ์ เป็น ตอนชื่อเสียงโด่งดัง มาตกระก�ำล�ำบากอยู่ที่ ซิสต์ใน เจ-ลีก จะฉกฉวยโอกาสทองครั้งนี้มาไว้กับ ที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเกมลีก 38 นัดฟอร์มจะ คัมป์ นู แถมขายไม่ออกด้วยเพราะไม่มีทีมไหน ตัวและแจ้งเกิดโด่งดังไปทั่วโลกในฐานะแข้งเบอร์ 1 กระฉูดขนาดไหนต้องดูกัน สนใจเซ้งต่อ แห่งเอเชียได้หรือไม่

0 10 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 11 Blast FROM THE PAST BLAST TEAM

HOTELMACHINE DIABLO GUN WORLD KELLY TOUR

TWO DOOR

LIVECINEMA IN BANGKOK CLUB

มาเป็นรอบที่สองแล้วส�ำหรับวงจาก ไอร์แลนด์เหนือวงนี้เจ้าของเพลงดัง What You Know ที่แฟนเพลงชาวไทยคุ้นหูกันเป็นอย่าง ดี งานนี้ผู้จัดใจถึง Be Hear Now ดึงมาให้ชม กันเต็มตาเมื่อวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2562 ระเบิดความมันส์กันเต็มอิ่ม 2 ชั่วโมง แฟนเพลง ที่ผ่านมา เรียกว่าเล่นดีกว่าครั้งแรกที่มาเยอะ หลายคนต่างเฝ้ารอมาหลายปี ในที่สุด MGK แร็ปเปอร์ กราฟฟิก แสง สี เสียงจัดเต็มเริ่ดอลังการ หนุ่มผิวขาวลายพร้อยก็มาเยือนจนได้เมื่อวันอังคารที่ เพลงฮิตงัดจนคนดูหยุดโยกไม่ได้ อาทิ Talk , 13 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา แม้คนดูจะไม่เข้าเป้าแต่ Undercover , I Can Talk , Are We Ready ความมันส์ทะลุเพดาน เต็มเหนี่ยวแบบไม่มีผ่อนทั้งโดด (Wreck) แน่นอนว่าเพลงที่โดนก็อปปี้ก็ต้อง สเตจไดรว์หาคนดู ปีนล�ำโพง สุดติ่งกันไป หยาดเยิ้ม งัดมาให้กระโดดโลดเต้น (ฮา) ปิดท้ายเพลง ทั้งคนเล่นคนดู เพลงเด่นดังขนมาครบ อาทิ Sex Drive Something Good Can Work และ Sun ปิด , Habits , Breaking News 2 , El Diablo , I think I’m จบเต็มอิ่มแยกย้ายฝันดีกันถ้วนหน้า Okay , Bad Things 1 Vs , Rap Devil, HOME, B.M.F, REHAB งานนี้ต้องขอขอบคุณ ไอเอ็มอี โปรดักชันส์ (ประเทศไทย) ที่ดึงมาให้ดูกันแบบเป็น ๆ

0 12 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 13 ย้อนเกร็ด / Historic Telling พรชัย (เสือ) นวการพิศุทธิ์ / facebook.com/ponchai.nawakanpisut ปัญหามา - ปัญญามี

"ปัญหามา ปัญญามี" เสียงแทบทุกชิ้นล้วนถูกวาดขึ้นขณะเขา ศิลปินผิวสี Lionel Richie และ MJ : ชาติเดียวกันเองก็ทยอยผลิตผลงานน่า คือวลีติดหูจากเพลง 'ไม่เป็นไร' อยู่กับสภาวะวิกลจริตจวนเจียนจะเดิน Michael Jackson พร้อมเรียนเชิญ ชื่นชมอย่างมากมาย ในปริมาณหลาย (บ้าหอบฟาง / พ.ศ. 2529) งานฮาร์ด ถึงประตูแห่งความตาย นักร้อง นักดนตรีผู้มีชื่อเสียงทั่วทวีป เท่าทบทวีกว่าช่วงบ้านเมืองสงบ ทั้ง ร็อกชิ้นมาสเตอร์พีซของ 'อัสนี & วสันต์' นอกเหนือจาก 'ปัญหาอันก่อเกิด อเมริกามาบันทึกเสียง จนเบ็ดเสร็จ ศิลปกรรม วรรณกรรม ภาพยนตร์ สองแม่ทัพใหญ่แห่งกองก�ำลังร็อก ปัญญา' ภายในตนแล้ว ปัญหาระดับ ปิดฉากภายในสองสัปดาห์! ส่ง 'We ฯลฯ แอนด์โรลล์สัญชาติไทย ซึ่งอันที่จริงพี่ สังคมรอบข้างก็มีส่วนสร้างผลงานดี ๆ are the World' ทะยานขึ้นสู่อันดับ ในส่วนของวงการเพลง ว่ากันว่า ท่านหยิบยืม 'ค�ำพระ' หรือ 'พุทธวจนะ' แก่โลกเช่นกัน - 'USA for Africa' คือ 1 บนชาร์ตบิลล์บอร์ดแทบจะทันทีที่ มากกว่า 200 ซิงเกิ้ล เกิน 50 อัลบั้ม (ทั้งเพลง) มาอธิบายถึงพุทธิปัญญา แบบอย่างโคตรดีงามนั้น เปิดเผยแพร่ พร้อม ๆ กับภาพของ ถูกคิดและผลิตออกมาระหว่างปี 2001 เกิดขึ้นได้เมื่อพบความคับขัน (ปัญหา) ย้อนไปเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2528 American Hero ผู้เกื้อการุณย์ - 2011 เพื่อปลอบโยนผ่อนคลายฝัน นั่นเอง (ค.ศ. 1985) บางพื้นที่ของโลกประสบ เรียกว่าเพลงอันเป็นต�ำนานนี้ ร้ายแห่งอดีต "เกิดมาแล้วอย่าโศกา ปัญหามา ภาวะขาดแคลนอาหาร โดยเฉพาะแผ่น ประสบความส�ำเร็จบนความบีบคั้นทั้ง นายใหญ่ 'The Boss - Bruce ปัญญามี" - เนาะ (เนาะ) ดินกาฬทวีป (แอฟริกา) มีผู้คนล้มตาย ทางสังคม และเวลาอันจ�ำกัดจ�ำเขี่ยของ Springsteen' อุทิศทุกเพลงทั้งอัลบั้ม สอดคล้องกับความเห็นส่วนตัว เพราะไม่มีอะไรกินนับแสนนับล้านคน ผู้รังสรรค์ The Rising ซับน�้ำตาอเมริกันชน ของผมที่เฝ้าสังเกตนานมาแล้วว่า ช่วง จนเหล่าประเทศพัฒนาแล้ว น�ำโดย ใครเลยจะรู้ว่าอีก 16 ปีต่อ แม้ 'ปัญหา' นั้นช่างเจ็บปวด แต่ เวลากดดันทางความคิด (หรืออารมณ์) สหรัฐอเมริกา ผลักดันรณรงค์กิจกรรม มา สหรัฐอเมริกาในฐานะผู้ให้จะแปร หากมองในแง่ดี หลายครั้งมันคือต้น นั้น บรรดาศิลปินจะรีดเค้นงานคุณภาพ ชื่อ 'USA for Africa' เพื่อระดมเงินทุน เปลี่ยนมาเป็นผู้รับ ธารแห่ง 'ปัญญา' และ 'ก�ำลังใจ' ได้ดีกว่าระยะปกติ ยกตัวอย่างแบบ ส่งมอบแด่น้องผู้หิวโหยตาด�ำ ๆ หลังวิกฤตการณ์ก่อการร้าย งานศิลปะก็เช่นกัน เห็นภาพก็ท่าน 'ฟินเซนต์ ฟาน โคค' โดยใช้เพลงเอก 'We are the 911 (11 กันยายน 2001) โลกต่าง < end > (Vincent van Gogh) จิตรกรอิมเพรส World' เป็นแกนกลางของแคมเปญ หยิบยื่นความเห็นอกเห็นใจมอบแด่ชาว ชั่นนิสม์นามอุโฆษ โดยงานสร้างชื่อ เพลงถูกเขียนขึ้นโดยสองอัคร อเมริกันในรูปแบบต่าง ๆ นานา ศิลปิน

0 14 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 15 Blast THE BEAT ATIWAT UTON 4.Big Mountain Music Festival อีกหนึ่งเทศกาลดนตรีไซซ์ยักษ์ 5 เทศกาลดนตร�ส‹งทŒายป‚ ประจ�าปี ถือเป็นงานประเพณีส�าหรับ นักท่องเที่ยวทุกเจเนอเรชัน ไม่ว่าใคร ที่พลาดแลŒวอาจจะตŒองเสียใจ จะเป็น หมอ พนักงานออฟฟิศ ฟรีแล๊นซ์ หรือนักเรียน ‘กรุงเทพเมืองคอนเสิรต’ กลายเปšนวลีที่ ถือว่าประสบความส�าเร็จถูกพูดถึงกันอย่างมาก ชนิด นักศึกษา ฯลฯ จะมารวมตัวเพื่อไปสนุกกันในเทศกาล ถูกใชŒไดŒอย‹างเต็มปากเต็มคําแลŒว เมื่อเราพบว‹า ที่ว่า ‘จัดอีกจะไม่พลาดแน่นอน’ มาวันนี้มหรสพฯ ก็ ดนตรีชื่อ Big Mountain Music Festival หากใคร ตารางงานดนตร�ที่กําลังจะเกิดข�้นในช‹วงป‚หลัง ล็อกวันแสดงไว้ตั้งแต่หลังจบงานครั้งแรก เริ่มเปิดขาย เคยได้ไปเยือนบ้างแล้วจะเห็นความเคลื่อนไหวตลอด มีจํานวนมากแน‹นเอียดเบียดกระเป‰าเง�นจนเบา บัตรไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะจัดงานครั้งที่ 2 ในวัน สองวันของรถยนต์จ�านวนมากที่มุ่งหน้าเข้างาน ผู้คน โหวง ไม‹ว‹าจะงานเล็ก งานใหญ‹ จะแนว K-Pop ที่ 16-17 พ.ย. ดังนั้นจึงมีศึกใหญ่ที่จัดวันชนกันนั่นก็ มหาศาลที่เดินขวักไขว่จ้าละหวั่น เพราะในงานมันใหญ่ สาย Rock Hip-Hop ฯลฯ ศิลปน วงดนตร� คือ VERY FESTIVAL เรื่องหนักใจหาใช่จะตกอยู่กับ มากสมชื่อ ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 ครบรอบทศวรรษ ทั้งในไทยหร�อต‹างชาติบินมาเยือนก็ทําใหŒเรารูŒ ทางผู้จัดเพียงฝ่ายเดียว ทว่าแฟนเพลงก็หนักอกในการ พอดี ซึ่งจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์แฟน ๆ บ้าง ก็ต้อง เลยว‹า เง�นออกแต‹ละเดือนส‹วนหนึ่งตŒองออมไวŒ เลือกจ่ายเงินเข้าประตูไปเที่ยวงานเช่นเดียวกัน หาก ตามลุ้นกันให้ดี แต่ที่แน่ ๆ วงดนตรี ศิลปิน ที่จะยก เปšนค‹าตั๋วสนองตัณหาตัวเองอยู‹รํ่าไป วันนี้เรา จะมองว่ามหรสพมีอะไรน่าสนใจ อยากให้มองกลับไป ทัพมายังคงเนืองแน่นเหมือนเดิมทั้ง วงในต�านาน วง จ�งอยากแนะนํางานเทศกาลดนตร�ช‹วงปลายป‚ ถึงการจัดงานของปีที่แล้วว่า ดีงามแค่ไหน ในส่วนของ หน้าเก่า-ใหม่ ตลอดจนถึงคณะตลกก็ยังมา! พูดง่าย ๆ น‹าจ‹ายเง�นไปเยือน ไวŒเปšนตัวเลือกสําหรับ คน รายชื่อ ศิลปิน วงดนตรีนั้น มหรสพก็ไม่ท�าให้แฟน คือ มากกว่า 200 รายชื่อ ให้ได้เลือกเดินชมกันเมื่อยล้า หลายใจที่รักจะดูหลายวง มีงานอะไรและความ ๆ ต้องผิดหวัง หลังจากเราได้เห็นชื่อของ Bombay เพราะไม่ใช่แค่ชื่องานที่ใหญ่แต่สถานที่เองก็ใช่ย่อย พ�เศษคุŒมค‹าแค‹ไหนไปตามเช็กกันไดŒเลย Bicycle Club วงดนตรีจากเกาะอังกฤษที่ชูธงน�าทัพ ส�าหรับงานครบรอบ 10 ปีนี้จะมีใครมาบ้าง เวทีไหน มา ตามด้วย The Horrors ร็อกจากอังกฤษอีกวง พิเศษ กิจกรรมในงานจะเป็นอย่างไรนั้นก็อาจจะต้อง 1.VERY FESTIVAL และ King Gizzard & The Lizard Wizard หรือ The ติดตามกันให้ดี ๆ เพราะน่าจะมีข่าวคราวทยอยออก เริ่มต้นที่เทศกาล Drums ก็ท�าให้งานน่าสนใจไม่น้อย ทางโซนเอเชียก็ มาให้เราได้ตื่นเต้นกันจนตัวสั่น เงินอยากกระโดดออก แรกด้วยงานของ The Very มีตัวแทนจากญี่ปุ่นทั้ง 4 วงได้แก่ The fin, never จากกระเปาจะแย่อยู่แล้ว! Company โปรโมเตอร์ที่พา young beach, LITE, และ CHAI จากไทยเองก็น�า วันที่: 7-8 ธ.ค. ศิลปิน วงดนตรีขวัญใจมหาชนทั่วโลกมาให้แฟนเพลง โชว์หาดูยากมาเสิร์ฟเช่น YOUNGOHM & YOUNG สถานที่: The Ocean เขาใหญ่ ไทยได้ชมอยู่เสมอ ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้จัดชื่อนี้ผุดงาน BONG มีวงโฟล์กร็อกน่าจับตามองอย่าง STOIC หรือ เทศกาลดนตรีชื่อว่า VERY FESTIVAL ขึ้นมา ดูจาก วงไทยสายไฮบริดจ์ Folk9 และ อีกเพียบ ที่รวมเป็น 5.Wonderfruit การปล่อยรายชื่อของแต่ละวงที่จะมาแสดงในเทศกาล ความหลากหลายเฉพาะทางสุด ๆ ให้ผู้ชื่นชอบ ออกจากกรุงเทพเดิน แล้วต้องบอกเลยว่า คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม เพราะยกทัพกัน ความแปลกใหม่ได้เข้ามาสัมผัสกันได้อย่างไม่ผิดหวัง ทางเพียง 2 ชั่วโมงนิด ๆ จะ มาเป็น 20 กว่ารายชื่อผสมกันทั้งไทยและต่างประเทศ แน่นอน! ได้พบกับเทศกาลที่มีเสียง ให้ได้สนุกเต็มอิ่มกัน 2 วันเต็ม ๆ คือ 16-17 พ.ย. วันที่: 16-17 พ.ย. 62 ลือว่า เป็นงานปาร์ตี้ของเหล่า ไฮโซ เซเลป รวมถึง มีบางวงที่เคยสร้างความประทับใจที่ไทยแล้วอย่าง สถานที่: Live Park Rama 9 บรรดาของคนกระเปาหนักทั้งหลายที่มีก�าลังในการ Nothing But Thieves, Sticky Fingers, FKJ, หรือ จ่ายค่าบัตร ค่าครองชีพได้ เทศกาลผลไม้มหัศจรรย์ Tahiti 80 แม้จะเคยมาแล้วก็ตามแต่เชื่อว่าหลายคน 3.Cat Expo 6 อย่าง Wonderfruit จัดงานที่พัทยาทุก ๆ ช่วงสิ้น ยังไม่เคยได้ดู และอีกมากที่อยากไปดูพวกเขาอีกครั้ง ก�าลังจะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 6 ปี เชื่อว่าหลายคนรอคอยเทศกาลนี้กันอยู่ไม่น้อย (แม้ นอกจากนี้ยังมีวงเซอร์ไพรส์อย่าง FUR, The Kooks, ส�าหรับเทศกาลดนตรีประจ�าปีของ จะมีเงินน้อยก็ตาม) โดยจัดขึ้นมาแล้ว 5 ปี ภายใต้ PALE WAVES , The Marías หรือ Sunrai ต่าง ๆ คลื่นวิทยุขวัญใจเด็กแมว Cat Radio แนวคิดสร้างสรรค์และเน้นเรื่องความยั่งยืน ความ เหล่านี้ก็เตรียมบินมาท�าการแสดง ส่วนในฝั่งไทย นี่ไม่ใช่งานดนตรีที่แค่นักฟังเพลง หลากหลาย ทั้ง Art & Architecture, Farm to เองก็ได้วงดนตรีอินดี้หัวแถวมากมาย TELEx TELEXs รอคอยเท่านั้น แต่บรรดาศิลปินทั้ง Feasts, Music, Family, Talks & Workshops และ , Safeplanet , Whal & Dolph , my life as ali หลายที่เป็นผู้ผลิตก็รอคอยเช่นกัน เพราะงาน ๆ นี้ Wellness งานที่รวมเอาความเป็น ศิลปะทั้งงานวาด thomas , Somkiat , Bomb at Track เป็นต้น ทาง กลายเป็นจุดรวมทั้งผู้ขายและผู้เสพ (ดนตรี) ในฐานะ และ สถาปัตยกรรม มาจัดแสดงเป็นแกลเลอรีกลาง ผู้จัดเองก็บอกว่าที่ปล่อยออกมานั้นยังไม่ใช่ทั้งหมด ของตลาดค้าเพลงไทยที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดจากยอด แจ้งให้ได้เดินชมกันตื่นตาตื่นใจ รวบรวมเอาแนว หรอกนะ เพราะก�าลังทยอยมาให้ได้ตื่นเต้นกันอีก การซื้อขายถล่มทลายในแต่ละปีแล้ว Cat Expo จึง ดนตรีหลายแขนง หลากสัญชาติมาแสดงโชว์ให้ได้ เพียบ! เป็นอีกงานที่จุดไฟความหวังให้กับศิลปินไทยได้ขยับ เต้นร�า เพลิดเพลินจ�าเริญจิต แถมยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม วันที่: 16-17 พ.ย. 62 พัฒนาผลงานที่ดีกันต่อไป ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมกับ ด้วยการรณรงค์ให้ผู้มาร่วมงานงดใช้พลาสติกหรือ สถานที่: Show DC Arena การมีวงดนตรีหน้าเก่า-ใหม่ น่าสนใจ น่าจับตาดู กว่า จ�าพวกขยะใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง จัดกิจกรรมเสวนาพูด 100 วง มากมายด้วยเวทีที่เดินกันเพลินสับรางกัน คุยให้ความรู้กับผู้ที่สนใจ มีกิจกรรมครอบครัวมากมาย 2. Maho Rasop Festival ไม่ทัน ส�าหรับปีนี้ก็มีหนึ่งความพิเศษเกิดขึ้นเพราะ ไม่ว่าจะเป็นการเวิร์คชอป หรือท�ากิจกรรมเพื่อสุขภาพ Maho Rasop Festival ถือ สถานที่จัดงานได้เปลี่ยนไปเป็นอีกสวน จากสวนสนุก ส�าหรับสาว ๆ ที่ส�าคัญในเทศกาลนี้จะได้พบกับความ เป็นเทศกาลดนตรีที่สร้างชื่อจารึก ร้างวันเดอเวิลด์ ย้ายเป็นสวนสยามที่เครื่องเล่นยังมี เป็นแฟชั่นนิสต้ามหาศาลที่จะเดินอวดหุ่น อวดความ ไว้ในหน้าประวัติศาสตร์การจัดงาน ชีวิต สามารถสนุกไปกับทั้งเพลงทั้งเครื่องเล่น บอกได้ สวย-หล่อ กันในงานอย่างครึกครื้น ดีไม่ดีอาจได้เดิน ของเมืองไทยเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการ เลยว่าออกก�าลังเตรียมร่างกายให้แข็งแรงพร้อมลุยไว้ กระทบไหล่ดารา ศิลปินและเหล่าคนดังที่ชื่นชอบอีก รวมวงดนตรีต่างประเทศและใน แต่เนิ่น ๆ งานนี้จะเกิดขึ้นในวันที่ 23-24 พ.ย. นี้ จะ ด้วยนะ เก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ ปีนี้จะต้องไปให้ได้! ไทยมาเล่นร่วมกันในงานเดียว แม้จะเป็นปีแรกที่ได้ เด็กแนว เด็กแมว หรือเด็กไหน ๆ ก็ห้ามพลาด! วันที่: 12-16 ธ.ค. รังสรรค์งานนี้ขึ้นมาก็ตาม อาจจะมีติดขัดเล็กน้อย วันที่: 23-24 พ.ย.62 สถานที่: The Fields at Siam Country Club ตามประสาของการเริ่มต้น แต่โดยภาพรวมแล้วงานนี้ สถานที่: สวนสยาม พัทยา, จังหวัดชลบุรี

0 16 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 ISSUE 3937 - SEPTEMBERJULY 2019 2019 - BLAST magazine - 0 17 COVER STORY

0 18 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 TECHANUN JIRACHOTRAWEE

ชายคนนี้ เป็นอีกคนที่ไม่ต้องสาธยายสรรพคุณทางดนตรีอะไรกันมาก กว่าจะได้คิวเชิญมาขึ้นปกเรียก ว่ารอกันเป็นเดือน ๆ ด้วยเพราะช่วงนี้ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ก�ำลังลุยตลาดประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก�ำลังไป ได้สวยและก�ำลังมีผลงานแรกกับค่ายยักษ์ใหญ่ที่นั่น รวมถึงการขึ้นเวทีในเทศกาลดนตรีระดับเอเชีย Summer Sonic เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากเราจะเห็นเพลงสากลผ่านชายคนนี้เพิ่มขึ้น เพลงไทยสากลปรกติก็ ยังท�ำต่อเนื่อง และเพลง “ทั้งจ�ำทั้งปรับ” เราก็เริ่มเห็นทิศทางดนตรีที่เน้นฟีทเจอริ่ง สนุกสนาน หลากหลาย ตาม สไตล์ผู้ชายโรแมนติก เฮฮา และติดเกม (ฮา)

ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 19 ค�ำถามขายของกันก่อนเลย พูดถึงซิงเกิ้ล 2 เพลงที่ปล่อยออกมาติด ๆ กัน “ทั้งจ�ำทั้ง ปรับ” กับ Bangkok Summer แสตมป์ : จริง ๆ แล้วมันเป็นสองเพลง ที่ปล่อยมาคนละโปรเจคส์ “ทั้งจ�ำทั้งปรับ” นี่เป็นเพลงที่ท�ำปรกติของผมอยู่แล้ว ส่วน Bangkok Summer เป็นโปรเจคส์ญี่ปุ่นที่เกิด ขึ้นในช่วงไทม์ไลน์ใกล้กันครับ

แล้วไปร่วมงานกับค่าย Toy’s Factory ของ ญี่ปุ่นได้ยังไงครับ ค่ายนี้มันใหญ่มากเลย นะ ? แสตมป์ : กับค่ายนี้ ก็ตื่นเต้นมากก ครับพี่ ซึ่งก็เริ่มมาจากเมื่อ 2 ปีก่อนที่ผมท�ำ อัลบั้ม STAMP STH สากลล้วนเลยครั้งแรกใน ชีวิตเลย ท�ำเองท�ำกับโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกา ชื่อ คริสโตเฟอร์ ชู ครับ ก็ตอนนั้นท�ำโดยไม่มี ค่ายอะไร กะปล่อยเองนี่แหละ แล้วเผอิญก็ ไปเจอกับคนจากค่าย Parabolica จากญี่ปุ่น ค่ายนี้จะท�ำโปรเจคส์เอาเพลงไทยท�ำไปขายที่ ประเทศญี่ปุ่น ก่อนหน้าผมก็มี สิงโต น�ำโชค แล้วเห็นว่า แม็กซ์ เจนมานะ ก�ำลังจะไป แล้ว ผมก็เอาผลงานชุด STAMP STH ไปลองทัวร์ ที่ญี่ปุ่นดู เอาเพลงจากชุดนี้ไปเล่นตามไลฟ์ เฮ้าส์ที่นั่น แล้วค่าย Parabolica เอาผมไป เล่นตามเฟสติวัลต่าง ๆ ผมก็เล่น ๆ จนมีคน ตามดูเยอะขึ้นแล้วก็เจอสตาฟ์จากค่าย Toy’s Factory แล้วก็มีค่ายเพลงต่าง ๆ มาคุยด้วย เหมือนกัน แล้วตอนนั้นก็มีไปเล่นเปิดให้วง Five New Old (วงญี่ปุ่นที่เคยเล่นในบ้านเรา มาแล้ว) ซึ่งวงเขาก็ร้องภาษาอังกฤษเหมือน กัน เขาก็ชวนให้ลองมาท�ำเพลงด้วยกัน ก็เลย มีโอกาสได้ฟีทเจอริ่งกับทางวงซึ่งอัลบั้มนี้ก็ ออกกับค่าย Toy’s Factory มันก็เลยเป็นที่มา ได้รู้จักกับทีมงานของค่าย แล้วก็มีการพูดคุย กันว่าเป็นไปได้ไหมที่เราจะเอาอัลบั้มมาออก กับทางค่ายที่นี่ ก็เลยมีโอกาสได้ท�ำด้วยกัน ครับ

ก็เลยเป็นที่มาของชื่ออัลบั้ม EKAMAI DREM 1 แสตมป์ : คือมันเป็นที่ ๆ คอนโดฯ ผม ตั้งอยู่ที่เอกมัยครับ ฮา แล้วก็ผมชอบอัลบั้ม ของ Cornelius ชื่อ From Nakameguro to Everywhere คือคอนโดของวงอยู่ที่นากะเม กุโระ แล้วเขาก็ไปทัวร์ทั่วโลกเลย คือมันเริ่ม ต้นมาจากห้องเขาเลย ผมเลยคิดว่า เราน่า จะมีอะไรจากห้องที่เอกมัยบ้าง ฮา แล้วค�ำว่า EKAMAI มันยังออกเสียงอ่านเป็นญี่ปุ่นได้ว่า เอ กะ มา อิ ได้ด้วย ถ้าผมไปอยู่ที่อื่นนี่น่าจะ อ่านกันล�ำบากแน่ ๆ ฮา

0 20 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 หลายปีมานี้ก็มีวง ศิลปิน ไปสร้างฐานแฟนเพลงที่ประเทศญี่ปุ่นกันเยอะ แสตมป์คิดว่าวงจากบ้านเราใช้เวลานานไปหรือเปล่าที่กว่าวงจากบ้าน เราจะไปถึงตรงนั้นและได้รับการยอมรับจากคนที่นั่น เอาจริง ๆ วงจาก บ้านเราก็เก่ง ๆ กันเยอะด้วย แสตมป์ : ผมก็ว่าไม่นะครับ อาจจะเป็นเพราะว่าด้วยยุคที่มี อินเตอร์เน็ต แล้วก็ผมว่าคนทางนั้นเองก็เริ่มเปิดใจยอมรับมากขึ้นนะครับ เริ่มมีคนฟังหลายกลุ่ม ผมว่ามันเป็นประสบการณ์ที่วงไทยอยากไปนะ คือ ศิลปินไทยอยากไปจริง ๆ นะ อย่างผมเองชีวิตก็เล่นตามผับ โรงเบียร์ อีเว้นท์ตามห้างฯ มันก็จะมีบรรยกาศอีกแบบนึง คนดูก็จะเป็นแบบมาดื่มกินกัน มากกว่า แต่ไลฟ์เฮ้าส์ที่บ้านเราไม่ค่อยมีเนี้ย เมื่อก่อนแทบไม่มีเลย มันเป็น บรรยากาศแบบปิด เพื่อให้คนที่มาฟังได้ดูกันจริง ๆ เสพดนตรีกันจริง ๆ แล้วความเป็นนักดนตรีอย่างผมมันโหยหาอะ มันท�ำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นนัก ดนตรีจริง ๆ อะ เป็นนักเอนเตอร์เทนเนอร์จริง ๆ

มาถึงจุดที่งานเฟสติวัล Summer Sonic ของประเทศญี่ปุ่นมีศิลปิน วงไทยถึง 3 เบอร์ในปีนี้เลย ทั้งแสตมป์ ภูมิ วิภูริศ Telex Telex ปรกติแสตมป์ก็เป็นแฟนติดตามเทศกาลนี้อยู่แล้ว บินไปดูทุกปี จากคนดูกลายเป็นหนึ่งในไลน์อัพด้วย รู้สึกยังไงบ้างครับ แล้วโดนเชิญ ไปได้ยังไง ? แสตมป์ : โดนเชิญไปได้ยังไง ผมว่าทางค่ายคงจะจัดการให้นะครับ ส่วนความรู้สึกนี่ ตอนแรกนึกไม่ออกเลย ช็อตความรู้สึกตื้นเต้นเลยคือเห็น โปสเตอร์ ปรกติผมจะตามอินสตราแกรมของเฟสติวัลนี้อยู่แล้ว ทุก ๆ ปีผมก็จะดูว่ามีใครมาเล่นบ้าง แล้วเมื่อเดือนก่อนก็เห็นชื่อตัวเองอยู่บน โปสเตอร์ปีนี้ด้วย ตื่นเต้นน�้ำตาไหลเลย เพราะเป็นแฟน Summer Sonic จริง ๆ แล้วไลน์อัพแต่ละปีมันก็ดีจริง ๆ ผมบินไปดูทุกปี

มาถึงเรื่องค่ายส่วนตัว 123เรคคอร์ด ตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ หนึ่งปี แล้วนี่ ? แสตมป์ : ตอนนี้ผลประกอบการยังเป็นบวกอยู่ เพราะเราก็ยังไม่ได้ ลงทุนอะไรมาก ก็ด้วยปีนี้มีโปรเจคส์กับทางญี่ปุ่น ทางไทยเลยยังไม่ได้ลง อะไรมากครับ ก็เลยเป็นช่วงที่ลุยที่นู้นอยู่ ส่วนน้อง ๆ ในค่ายก็ท�ำเพลงกัน อยู่ด้วย

อยากให้แสตมป์แนะน�ำศิลปินใหม่ ๆ ในการเอาตัวรอดในยุค “กลียุค” คือเพลง ข้อมูล มันล้นจนฟัง เสพย์กันไม่ทันแล้ว แสตมป์ : ฮาฮา ใช่อะพี่ กลียุคจริง ๆ เดือนนึงเป็นร้อยเพลงนะผม เคยนั่งดูอยู่ มันยากเหมือนกันนะที่จะดึงความสนใจของคนทั้งหมดมาสนใจ ก็มันต้องเป็นกระแสจริง ๆ แต่ว่าเราต้องเข้มแข็งจริง ๆ นะ อย่าให้อะไร มาท�ำให้งานเราโอนอ่อนลงไป ผมว่ามันก็มีข้อดีและไม่ดีนะ ข้อไม่ดีคือ มัน อาจจะโผล่ยากลืมง่ายกันหน่อยเพราะมันมีของใหม่โผล่มาตลอด แต่ถ้าโผล่ แล้วก็โผล่เลย ส่วนข้อดีคือ เราจะสนิทกับแฟนเพลงมากขึ้นนะ ผมเห็นน้อง ๆ อยู่หลายคนเลย เมื่อก่อนเนี้ยถ้าเป็นผมเนี้ยผมก็จะรอสามสี่เดือนกว่าจะ ปล่อยเพลงนึง ผมเห็นน้องหลายคนอย่าง “ยังโอม” เนี้ยที่ปล่อยเพลงแบบ โอ้โห้ เดือนละสามสี่เพลง ไหนจะมีฟีทเจอริ่งกับคนอื่นอีก กลายเป็นว่าสมัย นี้มันไม่ต้องไปยืมช่วงเวลาคนอื่นหรือแอร์ไทม์ของวิทยุแล้วไง คือสมัยก่อน เรายังต้องยืมเวลาแอร์ไทม์วิทยุอยู่ไง เรายังต้องรอเข้าคิว เออเพลงนี้ของ เขาลงมาละเรารอปล่อยต่ออะไรแบบนี้ คือแสดงว่ายุคนี้มันมีที่ปล่อยของ เยอะมากขึ้น แล้วอัลกอริทึ่มของยูทูปเนี้ยมันกลายเป็นว่า สมมติเราแนะน�ำ เพลงยังโอม ๆ ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าเรามีแฟนเพลงของเราอยู่แล้วเราก็จะ ได้สื่อสารกับแฟนเพลงได้เร็วขึ้น ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องรออะไร ผมก็คิดว่า อะไรที่มันไวรัลไปแล้วมันก็จะไวรัลไปอีกสักพักนึง

ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 21 0 22 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 แสดงว่าเพลง “ทั้งจ�ำทั้งปรับ” นี่ก็โอ้โห้สิบล้านกว่าวิว แล้วช่วงนี้นอนน้อยเหมือนเดิมไหม แล้ววันนึงท�ำอะไรบ้าง นี่เป็นผู้ขายที่ แล้วเนี้ย คิวแน่นยาวเหยียดมาก แสตมป์ : ก็ต้องขอขอบคุณ “ยังโอม” ด้วยนะ ฮา แสตมป์ : ฮาฮา ผมเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ครับ เรียนตอนเช้า 10 โมง ฮา “กาน เดอะ พาร์คินสัน” ด้วย โซโล่กีตาร์ได้เปรี้ยว แล้วเนี่ยเอาหนังสือมาอ่านด้วย ท�ำธุระต่าง ๆ เล่นเกม ท�ำเพลง มาก ฮาฮา แล้วงานจ้างที่เล่นแต่ละเดือน อย่างรายการที่ท�ำอยู่ “แตมไปดู” เป็นยังไงบ้างครับ แสตมป์ : ไม่ค่อยเยอะครับ ไปญี่ปุ่นสะเยอะ ไปเที่ยวนี่แหละครับ แสตมป์ : ก็เป็นรายการดูคอนเสิร์ตนี่แหละครับ ก็ พาซอกแซกไปในงาน เดี๋ยวนี่จะไป Summer Sonic ก็จะ ช่วยย้อนถึงตอนเจอกับวงกล้วยไทยกันหน่อยครับ ทุกวันนี้หลายคนยัง ไปถ่ายเบื้องหลังกันด้วย สงสัยว่าไปแจมกันได้ยังไง แสตมป์ : ตอนนั้นผมเรียนอยู่คณะสถาปัตย์ฯ จุฬาฯ แล้วก็มีโอกาส มาถึงค�ำถามสนุก ๆ กันบ้าง ค�ำถามจากทางบ้านเลย ท�ำละครถาปัด ซึ่งตอนนั้นย้อนไป 15-16 ปีก่อนการอัดเพลงในบ้านมัน ตอนนี้แสตมป์ติดเกมอะไรบ้าง สะสมฟิกเกอร์ โมเดล ยังไม่ดี เราก็ต้องการห้องอัด ก็มีรุ่นพี่แนะน�ำให้ไป Cine Digital Sound อะไรไหม ? Studio ซึ่งพี่ต๋อย เทิดศักดิ์ จันทร์ปาน เป็นเจ้าของอยู่และเป็นหัวหน้าค่าย แสตมป์ : เป็นค�ำถามที่ดีมากครับ ผมไม่ใช่สายฟิก บานาน่า เร็คคอร์ด ณ ตอนนั้นแหละ ก็มีโอกาสได้ไปใช้ห้องอัดที่นั่น ก็ เกอร์ครับ บ้านค่อนข้างเล็ก ซื้อมาเมียด่าไม่มีที่เก็บ ฮา นั่งเล่นกีตาร์ไปเรื่อย พี่แกคงเห็นหน่วยก้านผมละมั่ง แล้วทางวงกล้วยไทย เนี้ยเมื่อวันก่อนผมเพิ่งซื้อ Nintendo Switch มาใหม่ ก่อน ก�ำลังขาดคนด้วย เหมือนมือกีตาร์อีกคนเขาไปไหนไม่รู้ เขาก็เลยชวนให้ผม หน้านั้นขายทิ้งไปเครื่องแล้ว ซื้อมาเล่น Final Fantasy อิอิ ไปเล่นแทนช่วงนึง น่าจะเป็นชุด “เพลงรักระดับโลก” นี่แหละ ก็มีโอกาส คือได้เล่นไฟนอลฯ แล้วเนี้ยเหมือนกลับไปเป็นเด็ก ได้ไปเล่นแปปเดียว สองสามเดือนเอง มีไปขึ้นคอนเสิร์ตด้วย มีฟุตเทจตอน เล่นกันในห้องซ้อมด้วยที่ตอนนี้เขาแชร์ ๆ กันอยู่ แล้วผมก็งานยุ่งเรียนหนัก แล้วพวกคอมมิคมีอ่านอะไรใหม่ ๆ บ้างไหม ? ก็เลยไม่ได้เล่นกับกล้วยไทย ตอนนั้นผมยังไม่มีกีตาร์ พี่ต๋อยเอา Ibanez แสตมป์ : ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้อ่านเรื่องใหม่ ๆ เลย ก็ มาให้แล้วพี่เขาเปลี่ยนใส่สายเบสเล่น C ต�่ำแบบ Slipknot เลย ฮาฮา โหด พยายามลองตามอะไรใน Jump นะ (นิตยสารการ์ตูน ชื่อดังของญี่ปุ่น) แต่เรารู้สึกว่าเราโตเกินไปละ ก็เลยไป มีโอกาสได้ไปแจมกันอีกไหม ? ตามพวกการ์ตูนดาร์ค ๆ ใต้ดินแบบโหดโคตร ๆ อย่างไป แสตมป์ : ยังไม่มีโอกาสเลยครับ บางรายการยังเอาพี่เอส (วสกร ญี่ปุ่นนี่หาอ่านพวกนี้แหละ แล้วก็อ่านตามเวบฯ เดชสุธรรม) มาเป็นแขกเซอร์ไพรซ์ผมในรายการเลย ฮาฮา

ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 23 หลังจาก “กล้วยไทย” ก็มีเล่นในวง “เซเว่นธ์ ซีน” จนมาถึงออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว เอา ส่วนตัวเลยนะครับผมชอบเพลง “ความคิด” มากเพราะช่วงอกหักพอดี ช่วยพูดถึงเพลง นี้ให้ผมฟังอีกซะที แสตมป์ : เอ้า อกหักเหรอครับ เสียใจ ด้วย ว่าแต่ตอนนี้ไม่มีแล้วมั่ง ฮา ตอนนั้นปี 2008 11 ปีมาละ เป็นช่วงที่เขียนเพลงให้กับ หลาย ๆ คน เพลงนี้ผมเขียนให้กับ “แน็ตตี้ จิรุตถ์ ตันติวรอังกูร” มือกีตาร์วงลิปตาและ ทีมเสือร้องไห้ เขาอยากให้ผมแต่งให้ไง คือชุด แรกชุดเดี่ยวของผมเนี้ย มีบางเพลงผมหวงนะ ไม่อยากให้ใคร คือแต่งแล้วนะ ชอบวะ ขอเก็บ ไว้เอง ชุดแรกนี้เหมือนคอมพิเลชั่นของเพลง ที่หวง ฮา แล้ว เพลง “ความคิด” เนี้ยผมแต่ง ให้เขาแล้วนะ หวงวะ มันรู้สึกมีความหมาย ส�ำหรับเรามากก็เลยเก็บไว้เอง ตอนนั้นเขาให้ โจทย์มาว่าไปที่ที่เราไปด้วยกันนะเราก็จะคิดถึง กันทุกที คือผมเป็นคนชอบอดีต ชอบหวน นึกถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้ว เพลงนี้ก็คืออดีต จะ สังเกตเห็นได้ว่าเพลงของผมนี่จะเป็นเรื่องอดีต เยอะ กาลครั้งหนึ่ง ครั้งสุดท้าย อะไรแบบนี้ เพลงนี้ก็อารมณ์เหมือนว่า..สมตติว่าเราไปที่ มหาวิทยาลัยก็จะแบบความคิดมันพรั่งพรูมาก เลยนะ แล้วมันก็มีความรู้สึกว่า ถ้าคนที่เรา สนิทด้วยเขามาอยู่ที่นี่เหมือนกันเขาจะคิดถึง เราไหม ผมเลยแต่งเพลงนี้ขึ้นมาครับ

0 24 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 PICK IT UP B Y STAMP

เอ้า..มีค�าถามจากทางบ้านสด ๆ เลย พูดถึงเพลง “Karma” King Gnu หน่อยครับ Sympa แสตมป์ : โห้ เพลงนี้เหรอครับ เป็นเพลงที่ผมชอบมาก ๆ เหมือนกันเลยนะแต่ไม่ฮิต ผมสนิทกับ “กอฟล์ ฟักกลิ้ง ฮีโร่” มาก คือเมื่อก่อนนี่ยังไม่มีแชทไลน์หรือช่องแชทสะดวก ๆ เท่าตอนนี้ ผม คุยกับกอล์ฟทาง MSN (ช่องทางแชทของ Microsoft) คุยกันเรื่อง เลว ๆ เรื่องลามกแลกรูปโปกัน ฮา ช่วงนั้นผมเริ่มศึกษาอ่านหนังสือ ธรรมะ อย่างศาสนาคริสต์เชื่อแบบนี้ ท�าไมคนไทยเชื่อเรื่อง “กรรม” เรื่องกรรมเนี้ยตอนนั้นผมมีความรู้สึกแบบ แอบรู้สึกว่าเรื่องชาติก่อน Tyler , The Creator กับตอนนี้เนี้ยมันแอบไม่แฟร์อะ เราไม่รู้เรื่องด้วยอะ เราเกิดมาเป็น IGOR คนแบบนี้ ชาติก่อนเราท�าอะไรอะ ท�าไมเราต้องมารับผิดชอบแทน ด้วยวะ ? อะไรแบบนี้ เพลงนี้เลยออกมาแบบฉันไปท�าอะไรไว้ถึงต้อง มารับกรรมนี้ มันเป็นช่วงที่ผมสงสัยเรื่องเกี่ยวกับชาติภพ แล้วพอดี กอล์ฟก็เหมือนก�าลังอัดอั้นเรื่องความรักเลยเชิญมาแร็พ แล้วเขาก็ แร็พแบบน�้าตาไหลเลยอะ มันอินมาก ฮา Suchmos อยากจะมีฟ�ทเจอริ่งกับใครอีกไหมครับ ? เห็นร่วมงานกับหลาย The Kids คนจนแทบจะหมดวงการแล้ว แสตมป์ : ก็ยังอยากฟีทฯ เรื่อย ๆ นะครับ ผมรู้สึกว่าตัวเอง มีอินพุทจ�ากัด ถ้าได้น้อง ๆ เนี้ย อย่าง “ยังโอม” เวลาเขาเขียน แร็พเนี้ยผมคิดเองไม่ได้แน่นอน อย่างตอนเพลง “ทั้งจ�าทั้งปรับ” ที่ผม ไปท�าร่วมกับ “นีโน่ (เกริก ชาญกว้าง)” เขาบอกให้ผมแร็พเองเลย ผมก็พยายามเขียนแล้วนะ รู้สึกเขินมากเลยอะ ก็เลยลองหาแร็ปเปอร์ มาแร็พ ก็เออคือมันเป็นสิ่งที่เราไม่มีทางท�าได้อย่างนี้เอง คือชีวิตเขา Kevin Abstract โตมากับสิ่งนี้ เราก็ไม่มีทางยืมความสามารถของเขามาได้ ก็เลยดึง Arizona Baby ตัวเขามาเลย ก็เลยชอบที่จะฟีทเจอริ่งกับคนต่าง ๆ ซึ่งไม่เหมือนเรา ถ้าถามว่าอยากฟีทฯ กับใครก็เดี๋ยวดู อย่างตอนนี้ก็อยากฟีทฯ กับวัย รุ่น รุ่นใหม่ ๆ

สุดท้ายครับ ฝากถึงแฟนคลับแฟนเพลงกันหน่อย เล่มนี้ก็ออก ปลายปี พูดถึงงานช่วงนั้นเลย แสตมป์ : เล่มนี้ออกก็น่าจะช่วง EKAMAI DREAM 1 คืออัลบั้ม Billie Eilish When We All Fall นี้ก็ท�าที่ประเทศญี่ปุ่น ถ้าอยากจับจองจริง ๆ ก็สั่งออนไลน์ได้นะครับ Asleep Where Do เก็บสะสมแผ่นญี่ปุ่นน่าเก็บนะ ฮา ส่วนงานเฟสติวัลอย่าง Cat Expo We Go ? คงมีท�าอะไรพิเศษ ๆ ไว้เจอกันนะครับ

ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 25 OLD RECORD STILL ALIVE

BIG ASS (ตอนจบ)

ทิ้งช่วงห่างไปในราวปีครึ่ง ก้าวเข้าสู่ปี 2552 ทางวง ทางวงอีกครั้ง ส่วนตัวผมเองได้ฟัง ก็คือนักร้องน�ำคนปัจจุบันของทาง ในที่สุด Love ผลงานสตูดิโออัลบั้ม ก็ได้กลายเป็นอีก 1 ในวงดนตรี แล้วก็ต้องบอกว่าพวกเขาท�ำได้ดีชนิด วง) โดยที่ในตอนนั้นเจ๋งยังเล่นดนตรี ล�ำดับที่ 6 ของพวกเขาก็ได้ฤกษ์ออก ที่มีส่วนร่วมในงานโปรเจ็คท์ใหญ่ ที่เรียกว่าไม่แพ้ต้นฉบับเลยละครับ กลางคืนอยู่เลย หลังจากได้พบปะ วางจ�ำหน่ายในช่วงวันที่ 12 ธันวาคม ฉลองครบรอบ 25 ปีของทาง GMM ก้าวเข้าสู่ปี 2554 ทางวงก็ได้ พูดคุยกันแล้วทางวงก็ได้เชื้อเชิญให้ 2551 โดยมีแทร็คเด็ดอย่าง “สู้ Grammy ภายใต้ชื่อ Play Project แต่งเพลง “ทุ้มอยู่ในใจ” ซึ่งเพลง “เจ๋ง” มาร่วมออดิชั่นกับทางวง แต่ โว้ย”, “ส่งท้ายคนเก่า ต้อนรับคน ร่วมกับวงดนตรีอีกหลายรายอาทิ ดังกล่าวร้องน�ำโดย “อ๊อฟ” และ ปรากฏว่าในครั้งแรก ๆ นั้นทุกอย่าง ใหม่” และ “รัก” ที่ถือเป็นแทร็คเด็ด เช่น Bodyslam, Paradox, Clash, มันก็ถูกน�ำไปเป็นเพลงประกอบ ดูจะไม่ลงตัวเอาเสียเลย จนในที่สุด ประจ�ำอัลบั้ม โดยเฉพาะเพลงหลัง No More Tear, Sweet Mullet, ภาพยนตร์เรื่อง “Suck Seed ห่วยขั้น ทางวงก็มาคิดกันว่าควรปล่อยวาง สุดนอกจากเนื้อหาดีแล้วยังโดดเด่น Retrospect, Zeal, Hangman และ เทพ” และเมื่อตัวภาพยนตร์ประสบ เรื่องดนตรีออกไปจากความทรงจ�ำ แล้วท่อนอินโทรและเอาท์โทรที่เปิด อีกหลายวงด้วยกัน โดยทางวงได้ ความส�ำเร็จแล้วก็เลยส่งผลให้เพลง เสียก่อนพร้อมกับมารักษาหัวใจที่เจ็บ ขึ้นมาด้วยเสียงขลุ่ยโดด ๆ ถือเป็น ตัดสินใจเลือกเพลง “บันทึกหน้า นี้ประสบความส�ำเร็จไปด้วย แต่แล้ว ปวดให้หายขาด ซึ่งวิธีการของทางวง ไอเดียการน�ำเสนอที่น่าสนใจเลยที สุดท้าย” ของ “พี่เบิร์ด” ธงไชย พวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับวิบาก ก็คือให้ทุกคนมาใช้ชีวิตอยู่รวมกันใน เดียว (ก่อนที่จะอัดกันหนักแน่นใน แมคอินไตย์ มาท�ำใหม่ในสไตล์ของ กรรมกันอีกหนเมื่อสมาชิกทั้ง 4 คน บ้าน เพื่อให้ “เจ๋ง” ได้ท�ำความรู้จัก แบบฉบับของพวกเขา) ขณะที่เพลง พวกเขา ซึ่งทาง “แด๊ก” ได้ให้ความ ได้ตัดสินใจแยกทางกับ “แด๊ก” นัก ตัวตนของแต่ละคนให้มากที่สุด อย่าง “ฝุ่น”, “หัวใจ” และ “ชีวิตฉัน เห็นที่เลือกเพลงนี้ว่า “เป็นเพลงที่ “พี่ ร้องน�ำที่อยู่ร่วมหัวจมท้ายกับทางวง โดยจะพูดถึงเรื่องของดนตรีให้ ไม่ได้เป็นของเธอ” ก็ถือเป็นเพลงช้า เต๋อ” เรวัติ พุทธินันท์ เป็นผู้แต่งซึ่ง มาตั้งแต่เริ่มต้น เรียกได้ว่าเหตุการณ์ น้อยที่สุด และด้วยวิธีการละลาย แนวถนัดที่น่าจะถูกหูแฟนเพลงใน พวกเขามองว่าทั้ง 2 ท่านนั้นถือเป็น มันได้สร้างความเจ็บปวดให้กับพวก พฤติกรรมเช่นนี้ในวันหนึ่งมันก็ได้ บ้านเราได้ไม่ยากเลย ขณะที่เพลง บุคคลส�ำคัญของทางแกรมมี่มาอย่าง เขาชนิดที่จ�ำได้ไม่ลืมเลือนกันเลยที กลายเป็นจุดเริ่มให้พวกเขาได้กลับ “อย่างน้อย” ก็ได้ถูกน�ำไปเป็นเพลง ยาวนาน อีกทั้งดนตรีและเนื้อหาดูจะ เดียว และมันก็ได้ส่งผลให้พวกเขา มาร่วมแจมดนตรีกันอีกหน จนใน ประกอบภาพยนตร์เรื่อง “ปิดเทอม ตรงข้ามกับตัวตนของ Big Ass อย่าง รู้สึกหมดไฟไม่อยากเล่นดนตรีต่อ ที่สุดมันก็ได้กลายเป็นที่มาของเพลง ใหญ่หัวใจว้าวุ่น” ซึ่งทางวงเองก็ได้ไป สิ้นเชิง และมันก็ได้กลายเป็นความ ไปอีกเลย อย่างไรก็ดีโชคก็ยังพอ “แดนเนรมิต” ก่อนที่จะต่อยอดได้ ปรากฏในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย (ฉาก ท้าทายของพวกเขาในการที่จะน�ำ เข้าข้างพวกเขาอยู่บ้างเมื่อได้พบปะ เพลงอื่น ๆ ตามออกมาในภายหลัง ที่เล่นดนตรีอยู่ในผับ) เพลงนี้มาปรับแต่งในแบบฉบับของ กับ “เจ๋ง” เดชา โคนาโล (ที่ต่อมา ไม่นานหลังจากนั้นเดโมอย่าง

0 26 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 METALMANIAC

คร่าว ๆ จ�ำนวน 5 เพลงก็เสร็จสิ้นลง เพลงจะถูกส่งออกไล่หลังตามออกมา Sweet Mullet รวมไปถึง “พี่ป้าง ความท้าทายความสามารถของพวก ทางวงก็ได้น�ำไปเสนอกับผู้ใหญ่ของ ซึ่งทั้ง 3 แทร็คดังกล่าวนี้ก็ยังคงความ นครินทร์” และ “ปาล์มมี่” เป็นต้น เขาว่าจะยืนหยัดไปได้ต่อหรือไม่ ภาย สังกัดว่าพวกเขาจะท�ำงานเพลงเหล่า เด็ดขาดในแบบฉบับของ Big Ass ได้ ขณะเดียวกันในปีนี้พวกเขาก็ยังกลาย หลังจากที่สามารถคว้ารางวัล “สีสัน นี้ หลังจากนั้นทุกอย่างก็ได้เริ่มต้น เป็นอย่างดี โอเคว่า ซาวด์หนักหน่วง เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีโอกาสร่วมงาน อวอร์ดส์” ในสาขา “ศิลปินหน้าใหม่ เดินหน้าอย่างเต็มตัวจวบจนกระทั่ง ในแบบนูเมทัลที่เราคุ้นเคยอาจจะ กับศิลปินรุ่นใหญ่อยาง “พี่เบิร์ด” ธง ยอดเยี่ยม” จากผลงานอัลบั้ม Not วันที่ 25 เมษายน 2556 ผลงาน “Ep. หดหายไปบ้าง แต่ความเข้มข้นของ ไชย แมคอินไตย์ ในโปรเจ็คท์ Mini Bad ที่ถือเป็นอัลบั้มเปิดซิงของพวก แดนเนรมิต” ก็ออกวางจ�ำหน่าย และ ดนตรีร็อกก็ยังคงมีให้ได้ฟังกันเต็ม Marathon ซึ่งบทเพลง “สิ้นสุดคือ เขานั่นเอง อีกจุดหนึ่งก็คืออัลบั้มนี้มี ถึงแม้ว่างานเพลงชุดนี้จะมีเพียง อิ่มเหมือนเช่นเคย จุดเริ่มต้น” ที่ทาง “กบ” แกนหลัก เพลงดังอย่าง “ก่อนตาย” ที่นับได้ 5 เพลงแต่ก็พูดได้ว่าเป็นงานเพลง ก้าวเข้าสู่ปี 2560 ภายหลังจาก คนส�ำคัญเป็นผู้แต่งเพลงนี้ทางเจ้า ว่าเป็นเพลงตอกย�้ำความส�ำเร็จให้ชื่อ คุณภาพชนิดไม่มีเศษเพลงมาปน รอคอยกันมาอย่างยาวนาน “The ตัวก็ได้เผยว่าเขาแต่งมาจากชีวิต ของเขาได้เป็นที่จดจ�ำของแฟนเพลง เปื้อนอยู่แม้แต่น้อย ที่ดูจะถูกใจผม Lion” ผลงานอัลบั้มเต็มล�ำดับที่ 7 ของตัวเองที่ครั้งหนึ่งเคยตัดสินใจสิ้น ในวงกว้าง ขณะที่แทร็คอื่น ๆ ก็ล้วน เป็นพิเศษนอกจากเพลงชื่อเดียวกับอี ก็ได้ออกวางจ�ำหน่ายในช่วงวันที่ 23 สุดชีวิตเดิมเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ โดยใน แล้วแต่มีความเด็ดขาดไม่แพ้กันอาทิ พีแล้วก็ยังมีอย่าง “ดนตรี...เพื่อชีวิต” กุมภาพันธ์ 2560 โดยที่นอกจาก 3 ตอนนั้นเจ้าตัวตัดสินใจออกจากงาน เช่น “ศักดิ์เอ๋ย”, “เพื่อนชวนไปแอบ และ “ลมเปลี่ยนทิศ” แทร็คในสไตล์ เพลงที่ถูกส่งออกมาให้ได้ฟังกันก่อน ไปรษณีย์ที่ท�ำประจ�ำอยู่ เพื่อมาเป็น ดู”, “ผู้ชายมือสอง” และ “บ๋อย” บัลลาดที่โดดเด่นด้วยพาร์ตเครื่องสาย หน้านี้แล้ว อัลบั้มชุดนี้ยังมีเพลงชั้น นักดนตรีเต็มตัว แม้จะรู้ว่าอาจจะอด โดยเฉพาะเพลงแรกนี่ท�ำเอาผมนึกว่า ที่คอยบรรเลงคลอไปตลอดทั้งเพลง ดีที่ถูกหูผมอีกหลายเพลงด้วยกัน ที่ ตายก็เป็นได้ แต่ด้วยความที่ไม่ยอม “นี่ข้าก�ำลังฟังงานของ Limp Bizkit ฟังแล้วก็รู้สึกหลงรักในบัดดลครับ ดูจะโดดเด่นถูกใจเป็นพิเศษก็คงไม่ แพ้ในที่สุดเขาก็ผ่านมันมาจนถึงจุดนี้ อยู่หรือเปล่า?” เช่นเดียวกันกับ “เธอ ในส่วนของ “แด๊ก” เองนั้น หนีไปจาก “เชิดสิงโต”, “No Hero” ได้ นอกจากนี้แล้วในปีนี้ทางวงยังได้ เก็บฉันไว้ท�ำไม” และ “รักเขาให้เท่า ภายหลังออกจากวงแล้วเขาก็หันไป รวมไปถึง “ไม้ขีดไฟ” ขณะที่แทร็ค มีส่วนร่วมในงาน Play Project Vol.2 ฉัน” สองเพลงอย่างบัลลาดอย่างขาย จับงานทางด้านโทรทัศน์ท�ำรายการ บัลลาดช้าเนิบอย่าง “เหมือนที่เคย ซึ่งพวกเขาก็ได้ตัดสินใจเลือกเพลง ที่พิสูจน์ให้แฟนเพลงได้เห็นกันเป็น ท่องเที่ยวใช้ชีวิตอยู่บนหลังอาน เป็นมา” และ “คงไม่เป็นไร” ก็ถือ “อย่ากลับไป” ของไบรโอนี่มาท�ำใหม่ อย่างดีอยู่แล้ว มอเตอร์ไซส์ เรียกได้ว่าหายหน้าไป เป็นเพลงที่ไม่ควรพลาดด้วยเช่น ในสไตล์ของตนเองโดยภาพรวมแล้ว ส่วนตัวแล้วผมเองก็หวังกันว่า จากวงการเพลงอยู่นานพอตัว ก่อนที่ เดียวกัน โดยเฉพาะ ซาวด์เครื่องสาย ก็ถือได้ว่าท�ำได้ดีทีเดียวครับ ทางวงนั้นจะยังคงมีไฟในการท�ำงาน จะกลับมามีผลงานเพลงอีกครั้งกับซิง ที่บรรเลงคลอไปด้วยถูกใจผมสุด ๆ เฮ้อ! ลากยาวมาถึงตรงนี้ก็ได้ เพลงอย่างต่อเนื่องนะครับ เพราะนี่ เกิ้ล “คนตายที่หายใจ” โดยได้มือดี ครับ เวลา “ฟันธงกันอีกแล้ว” ผมเองบอก ก็เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วนับจากที่พวก อย่าง “หรั่ง” และ “ต้น” 2 สมาชิก ขึ้นปี 2561 ได้ไม่นานนัก ได้เลยว่าถือเป็นการเลือกอัลบั้มยาก เขาวางจ�ำหน่ายอัลบั้ม The Lion ไป แห่งวง Silly Fools เป็นหัวเรี่ยว ทาง Genie Records ก็เดินหน้าจัด ที่สุดอีกครั้งเลยก็ว่าได้ เพราะผลงาน ในช่วงปี 2560 สุดท้ายนี้เรา ๆ ท่าน หัวแรงในการเขียนเพลงให้ พร้อมใช้ คอนเสิร์ตใหญ่ภายใต้ชื่อ “คอนเสิร์ต หลาย ๆ ชุดของ Big Ass ก็ล้วนแต่ ๆ คงท�ำได้เพียงแค่เฝ้ารอกันต่อไปว่า ชื่อใหม่ว่า “แด๊ก ร็อกไรเดอร์” ซึ่ง G19 กว่าจะร็อกเท่าวันนี้” แน่นอนว่า มีความโดดเด่นเฉพาะตัวน่าฟังไม่แพ้ เมื่อไหร่กันแน่ที่พวกเขาจะมีผลงาน ผลงานเพลงชิ้นล่าสุดของเจ้าตัวก็คือ งานนี้ทางวงก็มีชื่อไปขึ้นเวทีร่วมกับ กันเลย แต่ในที่สุดแล้วผมก็ขอเลือก ชิ้นใหม่ออกมาให้ได้ฟังกัน แต่ส�ำหรับ เพลง “ครึ่งฝัน” ที่เพิ่งถูกตัดออกมา วงดนตรีรายอื่น ๆ อย่าง Bodyslam, อัลบั้ม “XL” ก็แล้วกันทั้งนี้ส่วนหนึ่ง ผมแล้วก็อยากจะบอกว่า “ขอให้ออก ให้ได้ฟังกันเมื่อไม่นานมานี้นี่เอง Paradox, Potato, Retrospect, ก็เป็นเพราะว่ามันเป็นงานที่ถือเป็น มาไว ๆ หน่อยนะครับ” ย้อนกลับมาที่ทางวง Big Ass กันอีกหนภายหลังจากออก Ep.แดนเนรมิต แล้วในช่วงปี 2557 BIG ASS DISCOGRAPHY พวกเขาก็ได้โอกาสท�ำเพลง “อาบน�้ำ Not Bad สังกัด Music Bug 2540 ร้อน” เพื่อใช้เป็นเพลงประกอบซีรีย์ XL สังกัด Music Bug 2543 “ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น” ซีซั่น 2 และมัน My World สังกัด Music Bug 2546 ก็ได้กลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยม Seven สังกัด Genie Records 2547 จากแฟนเพลงวัยรุ่นเหมือนเช่นทุก Begins สังกัด Genie Records 2549 ครั้งที่ผ่านมา ขณะที่ปีถัดมาทางวง Love สังกัด Genie Records 2551 ก็ได้เริ่มขยับขยายเดินหน้าสร้างสรรค์ The Lion สังกัด Genie Records 2560 ผลงานอัลบั้มที่ 7 ของทางวงกันบ้าง EXTENDED PLAY แล้ว โดยที่ในช่วงปลายปีพวกเขาก็ได้ แดนเนรมิต สังกัด Genie Records 2556 จัดการส่งเพลงอย่าง “เพลงรักของ คนแพ้” และ “รักเหอะ” ออกมาให้ COMPILATION ALBUM แฟนเพลงได้สัมผัสกันในระยะเวลา Big Ass Big Hits สังกัด Genie Records 2557 ที่ไม่ห่างกันนัก ก่อนที่ในช่วงต้นปี 2559 “ไม่เดียงสา” แทร็คชวนฟังอีก

ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 27 BLAH BLAH Blast

ดอกไม้ที่ยังคงเบ่งบาน จากจุดเริ่มต้น… สู่การเสื่อมสลายของ “ฮิปปี้” เรื่องนี้มีที่มาจากการที่ผมเพิ่งย้อนกลับไปดูหนังเรื่อง Almost Famous จุดเริ่มต้น อเมริกาก�ำลังเร่งฟื้นฟูประเทศจากที่ และ Talking Woodstock ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนังโปรดในดวงใจของผมเลยก็ว่า ต้องเท้าความก่อนว่า ช่วงหลัง สูญเสียไปในช่วงสงคราม จึงเกิดการ ได้ โดยสองเรื่องนี้มีความคล้ายคลึงกันอยู่พอสมควร คือเกี่ยวข้องกับดนตรี และ สงครามโลกครั้งที่สอง เป็นยุคของ จ้างงานอย่างล้นหลาม เป็นเหตุให้ เกิดขึ้นในช่วงปี 69-75s โดยประมาณ ซึ่งเป็นยุคที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของ เบบี้บูมครับ (1946-1964) ประชาชน ชนชั้นแรงงานในสังคมสามารถสร้าง เหล่าบุพผาชน หรือที่หลายคนคุ้นหูกันในชื่อ “ฮิปปี้” เอาเข้าจริง ๆ ผมรู้สึกว่ายุค อเมริกันต่างอยู่ในช่วงเฉลิมฉลองที่ตน เนื้อสร้างตัว และขยับตัวเองขึ้นมาอยู่ นั้นเป็นยุคที่มีเสน่ห์มาก ๆ เลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแฟชั่น ดนตรี วิถีชีวิต เป็นฝ่ายชนะสงคราม บรรยากาศใน ในระดับชนชั้นกลาง มีฐานะ มีเงิน หรือวัฒนธรรม ทุกอย่างล้วนชวนให้หลงใหลใคร่รู้ไปหมด แน่นอนว่าหลายคนน่า สมัยนั้นจึงเต็มไปด้วยความสุข และ และมีการงานที่มั่นคงมากขึ้น ท�ำให้ จะเกิดไม่ทันในยุคทองของ “ฮิปปี้” แน่ ๆ ล�ำพังจะดูผ่านหนังเพียงอย่างเดียวก็อาจ เกิดมโนภาพยอดฮิตอันหนึ่งที่เรียกว่า วัยรุ่นในยุค 60s (ซึ่งก็คือลูกหลานของ จะท�ำให้ไม่เห็นที่มาที่ไปของพวกเขาครบถ้วนมากนัก เลยถือโอกาสนี้ น�ำเรื่องราว American Dream คือต้องมีงาน มี ชนชั้นแรงงานเหล่านั้น) เติบโตมาใน ของเหล่าบุพผาชนผู้ปลูกดอกไม้แห่งสันติภาพให้เบ่งบานในใจของคนทั้งโลกมาให้ บ้าน มีรถ มีครอบครัว มีลูก และมี ครอบครัวที่สุขสบาย และไม่ต้องดิ้นรน ได้อ่านกันในฉบับนี้ครับ หมาอีกหนึ่งตัว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ หรือเผชิญกับความยากล�ำบากเหมือน

0 28 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 ต้นไม้ไขลาน allthatsinteresting / Pinterest / vanityfair / allthatsinteresting

คนสมัยก่อน จึงเกิดความฟุ่มเฟือย นอกจากนี้ อีกหนึ่งภาพที่เรา คดีสุดอื้อฉาวที่สร้างความโกรธเคือง Tune In : การปรับตัวเองให้เป็น และลุ่มหลงในวัตถุนิยมมากกว่าจะให้ สามารถพบเห็นได้ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ให้กับผู้คนเป็นจ�ำนวนมาก รวมไปถึง ส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ยกระดับจิตใจ ความส�ำคัญกับจริยธรรม ก็คือ ภาพของคนหนุ่มสาวที่มีดอกไม้ โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในเทศกาลดนตรี ของตนเอง พยายามเปิดใจเรียนรู้ผู้คน เมื่อผู้คนหลงใหลได้ปลื้มในวัตถุ ทัดหูก�ำลังเต้นร�ำอย่างมีความสุขอยู่กับ Altamont Music ในปี 1970 เมื่อแก๊ง เรียนรู้โลก รักและเมตตาผู้อื่นอย่างใจ มากขึ้น จึงเกิดกระแสต่อต้านลัทธิ เสียงดนตรีจากบรรดาไอคอนแห่งยุคทั้ง Hell Angels (ซึ่งได้รับการว่าจ้างให้เป็น จริง ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา หรือ วัตถุนิยม คนหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งที่ไม่เชื่อ หลาย (Jimmie Hendrix, The Who, ผู้ดูแลความปลอดภัยของงาน) ได้ฆ่า เพศ และมองคน ๆ นั้นในฐานะเพื่อน ในภาพมายาเหล่านั้น เริ่มปลีกตัวออก Jefferson Airplane ฯลฯ) ซึ่งส�ำหรับ หนุ่มผิวสีรายหนึ่ง (โดยไม่จ�ำเป็น) ใน ร่วมโลกคนหนึ่ง เพื่อความสันติสุข จากสังคม รวมตัวกันและเรียกตัวเอง เหล่า “ฮิปปี้” ดอกไม้เปรียบเสมือน ขณะที่วง Rolling Stones ก�ำลังขึ้น Drop Out : ละวางทุกสิ่ง แล้ว ว่า “ฮิปปี้” (ซึ่งแผลงมาจากค�ำว่า Hip สัญลักษณ์แห่งความสวยงามและ แสดงอยู่บนเวที และยังมีอีกหลากหลาย ด�ำเนินชีวิตตามใจปรารถนา เป็นอิสระ ที่แปลว่า เท่หรือเจ๋ง เป็นศัพท์เฉพาะ สันติภาพ และยังเป็นสิ่งที่พวกเขานิยม เหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการจับกลุ่มมั่ว ต่อตนเอง ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ หรือ ที่นักดนตรีแจ๊สผิวสีนิยมใช้กันในยุค หยิบยื่นให้กับทหาร ต�ำรวจ หรืออัยการ เซ็กส์กัน หรือการลักเล็กขโมยน้อย เมื่อ รูปแบบใดตายตัว 40s) เพื่อมุ่งหน้าสู่ความเป็นอิสระชน ที่น�ำตนขึ้นฟ้องร้องต่อศาลมากกว่าจะ ประกอบกันแล้ว เหตุการณ์เหล่านี้ล้วน เห็นได้ชัดว่าพฤติกรรมและ แสวงหาความรัก สันติภาพ และความ แสดงความก้าวร้าวหรือความรุนแรง เป็นสิ่งที่ท�ำให้ภาพของเหล่า “ฮิปปี้” บิด บุคลิกภาพของเหล่า “ฮิปปี้” ส่วนใหญ่ ซื่อสัตย์ ผ่านเสียงดนตรี ยาเสพติด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าท�ำไม “ฮิปปี้” จึง เบี้ยวไปในสายตาของคนทั่วไป ล้วนเป็นผลผลิตมาจากปรัชญาดังกล่าว และการเดินทางอย่างไร้จุดมุ่งหมาย มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “Flower People” จนเข้าสู่ยุค 70s สงคราม แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการเมายามัน (อารมณ์ประมาณค�่ำไหนนอนนั่น) หรือ “บุพผาชน” นั่นเอง และหลังจาก เวียดนาม (1959-1975) ซึ่งเป็น ทั้งวัน โลกสวย หรือการฉีกแหกทุกกฎ ก่อเกิดเป็นซับคัลเจอร์ที่ฉีกออก เหตุการณ์ในครั้งนั้น San Francisco ประเด็นส�ำคัญที่เหล่าบุพผาชนต่อต้าน เกณฑ์ของสังคม ซึ่งผมมองว่าหากเรา จากวัฒนธรรมกระแสหลักอย่างสิ้น ก็ได้ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงของ อย่างรุนแรงได้คลี่คลายและสิ้นสุด น�ำแนวคิดนี้ไปปรับใช้อย่างเหมาะสม เชิง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายมอซอ เหล่า “ฮิปปี้” และได้กลายเป็นแรง ลง ท�ำให้สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป ก็น่าจะมีประโยชน์ต่อชีวิตเราไม่มากก็ สวมเสื้อคลุม Kaftan ผมยาว ไว้หนวด บันดาลใจให้ Scott McKenzie แต่ง ประกอบกับเหล่า “ฮิปปี้” ที่รอดชีวิต น้อยเลยนะครับ ทั้งนี้เราอาจไม่จ�ำเป็น เครารุงรัง ห้อยลูกประค�ำ ไม่สนใจใส่ เพลง San Francisco ขึ้นในเวลาต่อมา จากการต่อสู้ทางอุดมการณ์ก็เริ่มเติบโต ต้องไว้ผมยาว แต่งตัวฮิป ๆ หรือเสพ สูทผูกไทด์ ชิงชังการสะสมความมั่งคั่ง เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ต่างก็แยกย้ายกัน ยาอย่างพวกพี่ ๆ เขา ถึงจะสามารถ นิยมสูบกัญชา/LSD มีความสัมพันธ์ไม่ การเสื่อมสลาย เดินทางกลับบ้าน กลับไปเรียนต่อ หรือ เข้าถึงอะไรแบบนี้ได้ เพราะท้ายที่สุด ผูกมัด เปิดกว้างทางความคิด ไม่แบ่ง อย่างไรตาม เหรียญย่อมมีสอง มุ่งหน้าหางานท�ำอย่างปกติชนทั่วไป แล้วก็ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ให้เหมาะ แยกเชื้อชาติ สีผิว ศาสนา ไม่สนใจ ด้านเสมอครับ ยาเสพติด ความรักเสรี จึงท�ำให้ชุมชนของเหล่า “ฮิปปี้” เริ่ม สมกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ขนบธรรมเนียมประเพณีใด ๆ ปล่อย และดนตรีร็อก ยังคงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ กระจัดกระจาย และสลายตัวไปในที่สุด ของแต่ละคนมากกว่า ไม่มีกระบวนท่า ตนตามสบาย อยู่อย่างสงบ ไม่นิยม ส�ำหรับบรรดาหนุ่มสาวนักแสวงหาทุก หรือสูตรส�ำเร็จตายตัว เหมือนอย่างค�ำ ความรุนแรง ไม่ว่าจะด้วยก�ำลังหรือ คน เป็นยุคสมัยที่มีการเล่นยากันหนัก ปรัชญาชีวิต (Turn On, Tune In, ว่า Drop Out นั่นแหละครับ หากท�ำ วาจา เรียกร้องแต่ความรัก ความ สุด ๆ ถึงขนาดที่เคยมีคนเปรียบช่วง Drop Out) อะไรตามใจแล้วไม่เดือดร้อนใคร ก็ลง ซื่อสัตย์ และอิสรภาพ เวลานั้นว่าเป็นยุค ‘อลิซแห่งดินแดน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าหลายคน มืออิมโพรไวส์ให้เต็มที่ไปเลย ในความรู้สึกผม “ฮิปปี้” ก็คือ ยาเสพติด” เลยทีเดียว และเมื่อดูจาก อาจจะมองว่า “ฮิปปี้” เป็นพวกขี้ยา หัว นักเคลื่อนไหวทางสังคมรูปแบบหนึ่ง ที่ สถิติก็ยิ่งตกใจเข้าไปอีก เพราะในปี กบฏต่อต้านสังคม และชอบท�ำตัวบ้า มรดก มองเห็นความบิดเบี้ยวของสังคมที่พวก 1969 กรมสุขภาพจิตสหรัฐฯ รายงาน บอคอแตก จนถึงขั้นเป็นปัญหาสังคม หลังจากที่เขียนมาถึงตรงนี้ผม เขาเติบโตมา จนน�ำไปสู่การตั้งค�ำถาม ว่า มีคนอเมริกันกว่าแสนคนที่เข้าข่าย แต่ถึงกระนั้น ก็ใช่ว่าพวกเขาจะไร้สาระ เริ่มมีความรู้สึกอย่างหนึ่งครับว่า บางที และหาค�ำตอบในวิธีของพวกเขา ใน ติดยาขั้นรุนแรง และมีไม่ต�่ำกว่า 10 ไปเสียหมดนะครับ หากได้รู้ถึงแก่นสาร “ฮิปปี้” อาจไม่ได้เสื่อมสลายไปอย่างที่ ช่วงยุค 60s เป็นช่วงที่ “ฮิปปี้” ออก ล้านคนที่เคยลองพี้กัญชามาแล้วอย่าง ในการใช้ชีวิตของพวกเขา ต้องบอกว่า เราคิดก็ได้นะครับ หากมองในเชิงรูป มาเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิมนุษยชนกัน น้อย 1 ครั้ง ค่อนข้างมีความลึกซึ้งไม่แพ้ปรัชญาของ ธรรมอาจจะใช่ แต่ถ้ามองในแง่ของ เป็นจ�ำนวนมาก แต่หนึ่งในเหตุการณ์ แน่นอนครับว่าภาพของ “ฮิปปี้” ส�ำนักอื่นเลยทีเดียว โดยปรัชญาชีวิต จิตวิญญาณ ผมว่าสิ่งเหล่านี้ยังคงเป็น ที่ถูกพูดถึงและเป็นที่จดจ�ำมากที่สุดก็ หนุ่มสาวติดยาจนร่างกายผอมแห้งและ ของเหล่า “ฮิปปี้” จะประกอบไปด้วย 3 อมตะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปรัชญาที่ คือเทศกาล Summer of Love ในปี มีอาการเศร้าซึมนั้นเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ ค�ำด้วยกัน คือ ถูกส่งต่อมายังปัจจุบัน (ซึ่งยังไม่เอาท์!) 1967 ที่มีเหล่าบุพผาชนนับแสนคนจาก ทั่วไป และได้สร้างความสลดใจให้แก่ Turn On : การแสวงหาทัศนะ แนวคิดเรื่องสันติภาพที่ยังคงซึมลึกอยู่ ทั่วทุกสารทิศเดินทางมารวมตัวกันยัง ประชาชนเป็นอย่างมาก ในบรรดาหนุ่ม แปลกใหม่ของชีวิต และการเดินทาง ในใจใครหลายคน ดนตรีแนวไซเคเดลิก ละแวก Haight Ashbury ในเมือง San สาวเหล่านั้น มีจ�ำนวนไม่น้อยที่กลาย เข้าไปส�ำรวจภายในจิตใจของตน ใน ที่น�ำมาพัฒนาใหม่อย่างไม่รู้จบ การ Francisco ซึ่งส่วนหนึ่งมีจุดมุ่งหมาย เป็นคนข้างถนน ไม่ก็ติดคุกติดตาราง ยุคนั้นอาจเป็นการพาตัวเองเข้าสู่ความ ฟรีเซ็กส์ของพวกฝรั่ง (และอีกหลาย เพื่อต้องการแสดงพลังในการต่อต้าน หรือจบชีวิตด้วยความตายจากพิษร้าย มึนเมา (ด้วยยาเสพติด) เพื่อค้นหา ประเทศ) หรือแม้กระทั่งการแต่งกายที่ สงครามเวียดนามที่ก�ำลังประทุอยู่ใน ของยาเสพติด แก่นแท้ของชีวิต แต่อาจารย์ Timothy มีความหลากหลายมากขึ้น รวมถึงการ ขณะนั้น โดยชูสโลแกน Make Love, เมื่อใกล้จะสิ้นทศวรรษที่ 60 ภาพ Leary (ผู้บัญญัติปรัชญานี้) ก็ได้บอก ปล่อยผมยาวหรือไว้หนวดเคราที่แทบ Not War เพื่อเผยแพร่ปรัชญาความ ลักษณ์ของ “ฮิปปี้” ก็ยิ่งเลวร้ายขึ้นไป ว่าในยุคนี้เราไม่จ�ำเป็นต้องท�ำแบบนั้น จะเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน ก็ล้วนมีจุด รัก/สันติภาพให้คนทั่วไปได้รับรู้ รวม อีก เมื่อนักแสดง Sharon Tate ที่ก�ำลัง แล้ว เพราะยังมีอีกหลากหลายวิธีที่เรา เริ่มต้นมาจากการกรุยทางของเหล่าบุพ ถึงยังเป็นการเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก ตั้งครรภ์ถูกฆาตกรรมอย่างทารุณโดย จะสามารถแสวงหาสิ่งเหล่านั้นได้ ไม่ว่า ผาชนคนหนุ่มสาวในวันนั้นแทบทั้งสิ้น การส่งทหารไปรบในสงครามเวียดนาม หญิง 3 คน ผู้เป็นสมาชิกของครอบครัว จะด้วยการดูหนัง อ่านหนังสือ หรือแม้ และคงจะเป็นเช่นนี้ต่อไป ตราบใดที่ อีกด้วย ฮิปปี้-Charles Manson ซึ่งถือเป็น กระทั่งการนั่งสมาธิ ดอกไม้นั้นยังคงไม่หยุดเบ่งบาน...

ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 29 BLAST TRIP

วกกลับมาที่งาน ฟูจิ ร็อค กัน Day 1 ต่อ งาน ฟูจิ ร็อค ปีนี้จัดในวันศุกร์ที่ 26 งาน ฟูจิ ร็อค ถือว่าเป็นเฟสติวัลที่ FUJI ROCK 2019 ถึงวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม ส่วนผม ใหญ่โคตร ๆ ครับ สถานที่จัดงานทั้งหมด สุดยอดเทศกาลดนตร�ที่ตŒองมา “โดน” สักครั้งในชีว�ต และเพื่อนรุ่นน้องไปถึงงานกันตั้งแต่วัน นี่กินพื้นที่ของเนินเขารวมทั้งหมด 3 ลูก พฤหัสบดีที่ 25 ช่วงบ่ายแก่ ๆ เพราะแลน กันเลยทีเดียว ส่วนเวทีคอนเสิร์ตนอกจาก ดิ้งถึงสนามบินนาริตะตั้งแต่ช่วงสาย ๆ จะมีเวทีใหญ่กลางแจ้งอย่าง Green Stage ของวันที่ 25 หลังจากนั้นก็ใช้ตั๋ว JR East ซึ่งเป็นเวทีหลักของงาน White Stage Pass ที่จ่ายตังส์ซื้อมาตั้งแต่ที่เมืองไทย ซึ่งเป็นเวทีรอง รวมถึง Red Marquee (ราคาราว ๆ 4,500 บาท) ซื้อตั๋วรถไฟ ซึ่งเป็นเวทีเดียวของงานที่เป็นอินดอร์ Joetsu Shinkansen จากสถานีรถไฟ แล้ว เวทีการแสดง, การละเล่น, การท�า โตเกียว เพื่อที่จะเดินทางไปยังสถานี กิจกรรม, บูธดีเจ, โซนสนามเด็กเล่น, Echigo-Yuzawa ถ้านั่งชินคันเซ็นจะใช้ สวนสนุก และอื่น ๆ มีรวม ๆ กันแล้ว เวลาเดินทางราว ๆ ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น ประมาณ 15 แห่ง ซึ่งการจะเดินให้ทั่วงาน (ถ้าจ�าไม่ผิด) พอถึงสถานีปลายทางแล้ว หรือไปให้ครบทุกเวทีนี่อาจจะต้องใช้เวลา ก็ต้องต่อคิวเพื่อขึ้นรถบัสเพื่อที่จะไปงาน เกือบจะทั้งวันเลยทีเดียว มีอยู่เวทีนึงที่ชื่อ อีกทีซึ่งต้องเสียค่าเดินทางคนละ 500 Daydream and Silent Breeze เวทีนี้ตั้ง เยน ซึ่งราคานี้รวมขากลับแล้วด้วย ซึ่ง อยู่บนจุดสูงเกือบจะที่สุดของยอดเขาที่ ตอนไปถึงคนญี่ปุ่นก็ต่อคิวรอขึ้นรถบัสกัน มองลงมาแล้วจะเห็นภูเขา นาเอบะ ทั้งลูก นานมาแล้วผมเคยมีโอกาสได้ ทัวร์คอนเสิร์ตของวง The Cure นี่แทบจะ เป็นร้อย ๆ แล้ว และก็ยังมีตามมาสมทบ เลย เวทีนี้จะต้องนั่งกระเช้า Dragondola สัมภาษณ์ เอมิลี่ เอวิส ผู้ร่วมจัดงาน ไม่เคยโฉบมาแถบ ๆเอเชียมาก่อน (ครั้ง เรื่อย ๆ ทุกคนมีกระเปาเสื้อผ้าและเต้นท์ ซึ่งต้องเสียเงินคนละ 1,500 เยน ขึ้นไป เทศกาลดนตรี แกลสตันบิวรี่ เฟสติวัล สุดท้ายที่มาก็คือที่ญี่ปุ่น ซึ่งนานเกือบ ที่หอบหิ้วกันพะรุงพะรัง เพื่อเตรียมกาง บนนั้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีกว่าจะ ของอังกฤษ ค�าถามหนึ่งที่ผมอยากรู้จาก จะ 20 ปีแล้วมั้งครับ) ส่วนวงเฮดไลน์ เต้นท์ก่อนงานเริ่ม 1 วันกันหมด เพราะ ถึง ซึ่งบนนั้นจะมีบูธดีเจเล่นเพลง เทค เธอก็คือมี มิวสิค เฟสติวัล แห่งไหนอีกที่ วงอื่น ๆ คือ The Chemical Brothers, ถ้าไปกางแต่เนิ่น ๆ จะได้พื้นที่ดี ๆ ไม่ โน เฮ้าส์ ให้เต้นกันเต็มที่ นอกจากนี้ก็ยัง เธอคิดว่ามันยอดเยี่ยมและควรค่าที่จะไป Thom Yorke Tomorrow’s Modern ต้องกางตรงส่วนที่เป็นเนินเพราะจะนอน มีร้านอาหารขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วย สิ่งที่น่า ลองดูให้ได้สักครั้งในชีวิต เธอตอบมาว่า Boxes, James Blakes, Sia, Death Cab กันล�าบากมาก ส่วนวันที่ 25 ก็จะมีการ สนใจก็คือ Dragondola เป็นกระเช้าขึ้น ฟูจิ ร็อค ในญี่ปุ่น เพราะไม่ใช่แค่มันเป็น for Cutie และอีกมากมาย ฟูจิ ร็อค ปี จัด พรี-ปาร์ตี้ จุดพลุฉลองกันด้วย เขาที่มีระยะทางยาวที่สุดในโลก มาที่นี่ เทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและ นี้ส�าหรับนักฟังเพลงที่เป็นผู้ใหญ่หน่อยดู ก่อนที่จะเข้าสู่การพูดถึงการจัด ทั้งทีต้องขึ้นให้คุ้มครับ ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ในเอเชียเท่านั้น แต่ จากไลน์อัพแล้วคุ้มยิ่งกว่าคุ้มครับ งานขอพูดถึงไลฟ์สไตล์ของชาวญี่ปุ่น ผมตื่นขึ้นมาวันแรกประมาณ 8 วิธีการจัดระบบและระเบียบตลอดจนนิสัย ขึ้นชื่อว่า ฟูจิ ร็อค แล้ว งานไม่ได้ กันก่อน งาน ฟูจิ ร็อค นี่เป็นตัวอย่างที่ โมงเช้าเห็นจะได้ หลังจากนั้นก็ใช้เวลา ในการเอาใจใส่ดูแลธรรมชาติสิ่งแวดล้อม จัดที่ภูเขาไฟ ฟูจิ หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียก ชัดเจนเลยว่าคนญี่ปุ่นเป็นกลุ่มคนที่เสพ ประมาณ 3 ชั่วโมงในการต่อแถวซื้อเสื้อวง ก็ยังท�าให้ ฟูจิ ร็อค ได้รับการยอมรับว่า ว่า ฟูจิ ซัง นะฮะ คือจัดที่ ฟูจิ เทนจินยา ติดการฟังเพลงและเทิดทูนวงที่ตัวเองชื่น และฝากเพื่อนซื้อเสื้อเทศกาล ซื้อเสร็จก็ เป็นเทศกาลดนตรีที่สะอาดที่สุดในโลก มะ สกี รีสอร์ท แค่ปีแรกคือปี 1997 ปี ชอบมาก เวลาดูคอนเสิร์ตของแต่ละวง กินข้าวหน้าเนื้อดรายเอจที่อยู่ใกล้ ๆ ต้อง อีกด้วย ซึ่งก็เป็นจริงดังว่าเพราะหลังจาก เดียว และยังเป็นปีที่งานจัดกัน 2 วันอยู่ นี่จะสัมผัสได้ถึงพลังที่ส่งออกมา เรียก ขอบอกว่าอร่อยมาก ๆ และที่น่าสนใจก็ ที่ได้ไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง หลังจากที่ แต่วันที่ 2 ต้องยกเลิกไปเพราะพายุไต้ฝุ่น ได้ว่าเดินไปตามเวทีต่าง ๆ ได้ทั้งวันเพื่อ คือโดยปรกติแล้วอาหารในเทศกาลดนตรี โชว์สุดท้ายของเวทีหลักซึ่งมีชื่อว่า Green เข้า ปีที่ 2 ไปจัดกันที่โตเกียว กว่าจะมา ที่จะดูวงโปรดให้ครบมากที่สุดแบบไม่ จะอยู่ในระดับพอทานได้หรือพอประทัง Stage จบลง ผมแทบจะไม่เห็นขยะที่ถูก จัดกันที่ นาเอบะ สกี รีสอร์ท ในเมือง ยู เหน็ดไม่เหนื่อยกันเลย แต่ก็ยังมีชาวญี่ปุ่น ชีวิตเท่านั้น แต่อาหารในงาน ฟูจิ ร็อค นี่ ทิ้งลงบนพื้นเลย อาจจะมีบ้างแต่ก็มีชาว ซาว่า จังหวัด นีงาตะ ซึ่งเป็นสถานที่ ๆ บางกลุ่มที่มางาน ฟูจิ ร็อค ในแบบเรื่อง ต้องขอบอกเลยว่าอร่อยสัส ๆ ครับ ผม ญี่ปุ่นเดินเก็บขยะเป็นระยะ ๆ ส่วนโซน จัดงานมาจนถึงปีล่าสุดก็คือปี 1999 ที่มี การดูคอนเสิร์ตเป็นเรื่องรอง แต่จะเน้น ลองหมดทั้งโซบะ, อูด้ง, ข้าวแกงกะหรี่, ทิ้งขยะขนาดที่ว่าจะเที่ยงคืนอยู่แล้วแถม Rage Against the Machine, Blur และ การสัมผัสบรรยากาศเฟสติวัลมากกว่า เคบับ และอื่น ๆ ที่ราคาก็ถือว่ารับได้คือ ฝนยังไม่หยุดตกก็ยังมีพนักงานยืนบอก ZZ Top เป็นวงเฮดไลน์ ถ้าคุณผู้อ่านว่าง คนกลุ่มนี้จะกางเสื่อขนที่นั่งแบบพกพา อยู่ที่ประมาณจานละ 700 ถึง 800 เยน ให้ผู้ร่วมงานที่จะทิ้งขยะแยกขยะที่เป็น ๆ อยากให้ลองเซิร์ชไลน์อัพวงที่เล่นงาน กันมาแล้วหาท�าเลอยู่ไกล ๆ จากเวที ส่วนเบียร์นอกจากจะมีเบียร์ยี่ห้อดังก็ยัง พลาสติก, โฟม และอื่น ๆให้เป็นระเบียบ ฟูจิ ร็อค แต่ละปีดูครับ รับรองได้ว่ามี เพื่อกินดื่มสังสรรค์กันแล้วมีเสียงดนตรี มี คราฟต์ เบียร์ ขายในหลายจุดในราคา เรียบร้อย ซี๊ดปากแน่นอน จริง ๆ แล้วไลน์อัพงาน เป็นแบ็คกราวด์ ซึ่งผมเองก็ได้ลองนั่งดู ที่ไม่แพงมากด้วย งานนี้นอกจากจะได้ ผมเคยดูเทศกาลดนตรีที่ญี่ปุ่นและ ฟูจิ ร็อค แต่ละปีนี่การันตีได้ว่าคุณภาพ โชว์กับกลุ่มเพื่อนใหม่ที่ไปเจอกันที่งาน เสพคอนเสิร์ตระดับโลกแล้ว ก็ยังได้เสพ อีกหลายงานในเอเชีย ซึ่งจ�ากันไม่หวาด ทัดเทียมหรือใกล้เคียงกับไลน์อัพเทศกาล แบบไกล ๆ จากเวทีแล้วเน้นการพูดคุย อาหารรสเลิศจิบเบียร์นุ่ม ๆ ท่ามกลางป่า ไม่ไหว แต่ที่ไปดูบ่อยที่สุดก็คือ Summer ดนตรีในยุโรปเลยนะครับ เพียงแต่ว่านัก สังสรรค์จิบเบียร์จิบแอลกอฮอล์กันไป เขาอีกด้วย สวรรค์ชัด ๆ ครับ Sonic ที่ไปดูน่าจะเกือบสิบครั้งได้ แต่ ฟังเพลงชาวไทยจะไปดู Summer Sonic เรื่อย ๆ มันก็ได้บรรยากาศที่สนุกไปอีก ส่วนวงที่ได้ดูเป็นวงแรกก็คือ ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปเทศกาลดนตรีที่ กันมากกว่า เพราะดูสะดวกกว่าไม่ต้อง แบบนะครับ เพราะปรกติผมจะเป็นพวก Shame วงพั้งก์บ้าพลังจากลอนดอนที่ ต้องกางเต้นท์นอนมาก่อน จริง ๆ อยาก มาพะวงเรื่องกางเต้นท์นอน เพราะวง ที่จะต้องเน้นการดูคอนเสิร์ตเท่านั้น หรือ ผมอยากให้วงนี้มาไทยมาก ๆ เพราะเล่น ไป ฟูจิ ร็อค มานานแล้ว แต่ด้วยค่าบัตร สุดท้ายที่เล่นก็ดูทันรถไฟเที่ยวสุดท้าย แต่ วงที่ชอบก็จะเข้าไปใกล้เวทีให้ได้มากที่สุด สดกันได้มันเหมือนจะเล่นโชว์นี้เป็นโชว์ ที่แพงมาก (ประมาณ 14,000 กว่าบาท ช่วงหลัง ๆ มานี้ Summer Sonic มันจะ ซึ่งบรรยากาศการดูเฟสติวัลแบบแคมปิ้ง สุดท้ายในชีวิตแล้ว จบจาก Shame ที่ ส�าหรับ 3 วัน รวมแคมป์ไซต์ด้วย) ก็ มีคอนเสิร์ตที่จัดตั้งแต่เที่ยงคืนถึงเช้าด้วย ท่ามกลางหุบเขาและธรรมชาติที่รายล้อม เล่นเวที Red Marquee ผมที่เอาเก้าอี้พับ เลยไม่เคยได้ไป แต่ปีนี้เห็นชื่อ The Cure ถ้าจะดูทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ก็ต้องเตรียมตัว ไปด้วยเนี่ย ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ ไปด้วยก็นั่งดูโชว์ของ Sabrina Claudio เป็นวงเฮดไลน์แล้วก็ตัดสินใจกดซื้อบัตร ด้วยการจองโรงแรมให้ใกล้ที่สุด ซึ่งก็มี เทศกาลดนตรีแบบไปดูแล้วกลับบ้านให้ นักร้องอาร์แอนด์บีสาวแบบชิลล์ ๆ โดย งานทั้ง 3 วันไปแบบไม่ต้องคิดเลย เพราะ หลายแห่งให้เลือกจองกัน ไม่ได้แน่นอน จิบคราฟต์เบียร์ไปด้วย ได้บรรยากาศดี

0 30 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 ศรัณยู ตรีสุคนธ

มาก จากนั้นผมก็ย้ายตัวเองจากเวทีนี้ไป Day 2 จบเทศกาล ข้อแนะน�าที่ส�าคัญมาก ๆ แบบ เพราะโชว์ของวงก็ดีตามมาตรฐาน ยัง White Stage เพื่อดูวง King Gizzard วันที่ 2 นี่ถือว่าเป็นวันนรกมากจริง ส�าหรับใครก็ตามที่อยากจะมากางเต้นท์ ซาวด์ดีพอสมควรเพราะเบสบวมไปนิด and the Lizard Wizard ซึ่งใช้เวลาเดิน ๆ ครับ คือฝนเริ่มเทลงมาตั้งแต่ผมยืนดู ดูคอนเสิร์ตที่ ฟูจิ ร็อค นะครับ สิ่งแรก นึง แต่การได้ฟังเพลง Pictures of You, ประมาณ 20 นาทีกันเลยทีเดียว วงนี้ โชว์ของวง Jay Som วง ดรีม/ป็อป และ ที่ต้องค�านึงถึงเลยก็คือ เต้นท์ที่เตรียมมา Friday I’m in Love, Boys Don’t Cry, เรียกว่าท�าเพลงได้บ้าพลังมากอีกวงหนึ่ง อินดี้/ร็อค จาก ลอส แองเจลิส อยู่ที่เวที ต้องเป็นของคุณภาพสูงเท่านั้น อย่าใช้ Just Like Heaven, In Between Days เพราะปี 2017 ปีเดียวมีอัลบั้มออกมา 5 Red Marquee วงนี้นี่โชว์ดีมาก เล่นสดได้ เต้นท์สนามแบบเต้นท์ รด. อะไรแบบนั้น และอื่น ๆ อีกมากจากโชว์ของวงที่เล่น ชุด ส่วนปีนี้พี่ ๆ เค้ามีอัลบั้มออกมา 2 อรรถรสของความเป็นวง ดรีม/ป็อป ลอย เพราะรับรองได้ว่าน�้าจะท่วมเต้นท์แบบ อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรก็ถือว่าเป็นที่สุด ชุด ชุดแรกเป็นแนว ไซคีเดลิก ร็อค ส่วน ๆ ติดกลิ่น ชูเกสเซอร์ นิด ๆ พอวงเล่นจบ อาจจะต้องสละเต้นท์ทิ้งเลยก็ได้ ผมเห็น ของการดูคอนเสิร์ตอีกครั้งในชีวิต วัน ชุด 2 เป็นแนว แทรช เมทัล ซึ่งเล่นสด ก็เดินฝ่าฝนไปดู Cake ที่ผมเองหมายมั่น สภาพเต้นท์คุณภาพต�่าในระหว่างเดิน นี้ถือว่าโชคดีมากที่ฝนแทบจะไม่ตกเลย ได้สนุกและมันมากและการที่มีคนดูเต็ม เอาไว้เลยว่าจะต้องดูให้ได้ เนื่องจากเป็น กลับเต้นท์แล้ว เจอเต้นท์ที่น�้าท่วมเต้นท์ ก่อนที่จะปิดฉากงาน ฟูจิ ร็อค ครั้งแรก พื้นที่ก็บ่งบอกว่าวงนี้มีแฟนเพลงในญี่ปุ่น วงโปรดมานานตั้งแต่สมัยเรียนเมื่อ 20 ปี และพับลงไปกองกับพื้นหลายเต้นท์มาก ๆ ในชีวิตด้วยการดูโชว์วงแนว นู แจ๊ซซ์ เยอะมาก ใครที่อยากจะดูโชว์วงนี้ปีนี้ทาง ที่แล้วโน่น วงนี้เป็นวงสายฮาที่มี Sense of สิ่งที่ต้องค�านึงเป็นอันดับต่อมาก็คือ และ สเปซ ร็อค อย่างวง The Comet is วงจะมาเล่นที่งาน มหรสพ ในไทยด้วย Humor อยู่ในบทเพลงอย่างชัดเจน ตอน พื้นที่ ๆ กางเต้นท์จะต้องเป็นพื้นที่มีหญ้า Coming จากกรุงลอนดอนที่เล่นสดได้ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ดูฝนจากที่ตกปรอย ๆ กลับตกมาโคตร ปกคลุมอย่างแน่นหนาเท่านั้น ห้ามกาง โคตรดีและสุดยอดมาก ๆ ต่อจากวงนี้ผมก็ยังอยู่ที่เวทีเดิม หนัก หนักมาก ๆ หนักแบบต้องจับฮู้ดกัน เต้นท์บนพื้นที่ ๆ มีแต่ดินเป็นอันขาด โดยรวมแล้ว ฟูจิ ร็อค ถือเป็น เพื่อรอดู Gary Clark Jr. นักร้องและมือ ฝนเอาไว้แน่น ๆ ตลอดเวลา แต่คนดูก็ไม่ เพราะพอฝนตกหนักมาก ๆ จากดินมันก็ มิวสิค เฟสติวัล ที่มีระบบการจัดการ กีตาร์แนว อิเล็กทริก บลูส์ ฝีมืออันดับ หวั่นยังคงยืน, นั่ง หรือแม้กระทั่งนอนดูวง จะกลายเป็นโคลนที่เต็มไปด้วยน�้า เต้นท์ ดีมากทีเดียว โดยเฉพาะในวันที่ 2 ที่ ต้น ๆ ของโลกในเวลานี้ที่บอกเลยว่าถ้า เล่นอย่างสบายอารมณ์ ต่อจากวงนี้ผมก็ ต่อให้คุณภาพสูงยังไงก็นอนไม่ได้ฮะ ฝนตกทั้งวันทั้งคืนจนน�้าท่วมบางส่วน ไม่ได้ดูที่ ฟูจิ ร็อค แล้ว คงไม่มีโอกาสได้ ยังนั่ง ๆ ยืน ๆ ดูโชว์ของวง Asian Kung- ต้องถอดเต้นท์ไปกางที่อื่นสถานเดียว ของงานจนถึงขั้นเดินผ่านไม่ได้ แต่ทีม ดูในไทยแน่นอน ซึ่งโชว์ก็ดีสมกับที่หวัง Fu Generation ต่อ ซึ่งสายฝนก็ยังคงท�า วันนี้เปิดวันด้วยการเดินไกล งานก็สามารถสูบน�้าให้หายไปทั้งหมด เอาไว้สูง ช่วงนี้ฝนเริ่มที่จะตก ๆ หยุด ๆ หน้าที่ของมันอย่างซื่อตรง กล่าวคือตก ในระยะทางนับกิโลไปเวที Field of ได้ภายคืนเดียวและกลับเข้ามาสู่ภาวะ บางครั้งแรงบางครั้งก็เบาเหมือนเป็นไบ กระหน�่าแบบไม่ลืมหูลืมตา ดีที่ว่าไม่มีพายุ Heaven เพื่อดูวง The Paradise ปรกติอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ที่ส�าคัญคือ โพล่าร์ แต่ทุกคนที่มางานนี้รู้ดีว่าฝนต้อง หรือลมพัดแรง ไม่งั้นจะนรกกว่านี้แน่นอน Bangkok Molam International Band มันไม่ได้เป็นเทศกาลดนตรีที่เหมาะ ตกแน่ ๆ ก็เลยเตรียมเสื้อกันฝนอย่างดี พอวงเล่นเสร็จผมก็รีบแบบกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ซึ่งก็เป็นวงไทยที่เคยดูมาแล้วหลายครั้ง ส�าหรับคนรักเสียงดนตรีเท่านั้น แต่มัน มากันหมด รวมทั้งผมเองด้วย หลังจาก ไปยัง Red Marquee โดยไม่สนใจแล้วว่ะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการดูโชว์ของวงนี้ที่สนุก เป็นงานที่เหมาะส�าหรับการพักผ่อน จบโชว์ของเวทีนี้แล้วผมก็เดินไปเวที Red ว่ามีวงอะไรเล่นอยู่ ผลปรากฎว่าวงที่เล่น ที่สุด เพราะเพิ่งรู้ว่าวงนี้มีแฟนเพลงชาว ของครอบครัว, การนัดเจอเพื่อน ๆ มา Marquee อีกครั้งเพื่อดูวง Toro Y Moi อยู่คือวง Alvvays ที่คนแน่นแบบไม่มีทาง ญี่ปุ่นเยอะมาก ๆ แล้วทุกคนเต้นร�ากัน สังสรรค์ท่ามกลางเสียงเพลง มีอาหาร ที่ตอนนั้นฝนตกอย่างยับ พื้นเต็มไปด้วย ที่จะเข้าไปดูได้ด้วยประการทั้งปวง มาถึง อย่างเมามัน ส่วนผมและเพื่อน ๆ ที่พอที่ รสชาติเยี่ยม, เบียร์ และเครื่องดื่มนานา โคลนไปหมด คนเข้าไปหลบฝนในเวทีนี้ เวลานี้ขนาดผมใส่เสื้อกันฝนอย่างดี แต่ จะร�าจะเซิ้งไปกับเพลงหมอล�าได้ก็เซิ้ง ชนิดไว้คอยบริการ มีโซนการแสดง กันหมด ผมก็เลยต้องดูอยู่ด้านนอก ก่อน น�้าเริ่มไหลเข้าไปด้านในจนตัวเปียกเกือบ กันอย่างเต็มที่ พร้อมเว้าภาษาอีสานไป หลากหลายรูปแบบให้ได้ชมทั้งวันทั้ง ที่จะได้ดูวง MITSKI ศิลปินสาวที่เล่น หมดทั้งตัว พอรู้ว่าเข้าไปดูไม่ได้ (จริง ๆ หลายค�าตลอดโชว์เป็นการเสริมสร้าง คืน (เวที Red Marquee พอตกดึกก็ โชว์ในแบบเน้นเพอร์ฟอมานซ์ด้วยลีลา ดูวงนี้แล้วที่เมืองไทย แต่อยากจะเข้าไป บรรยากาศ ผลปรากฏว่ามีชาวญี่ปุ่น จะกลายสภาพเป็นคลับฮอลล์และผับที่ การเต้นประกอบโชว์บนโต๊ะด้วยท่วงท่า หลบฝนตะหาก) ก็เลยต้องเดินฝ่าฝนไป มามันกับกลุ่มเรากันเพียบ ม่วนหลาย มีทั้งดีเจและศิลปินเพลงเต้นร�ามาเล่น ที่ไม่ธรรมดา จบจากโชว์นี้ก็เดินลุยฝน เวที White Stage เพื่อดูวง American กันสุด ๆ วันนี้เป็นวันที่ผมกับเพื่อน ๆ จนเกือบถึงเช้า) นี่ยังไม่นับรวมวงอิน ไป Green Stage เพื่อดู ELLEGARDEN Football วงสายอีโม, โพสต์/ร็อค ที่เล่น ดูคอนเสิร์ตกันแบบชิลล์ ๆ เพราะวง ดี้ญี่ปุ่นอีกมากมายที่เปิดโชว์เล็ก ๆ ใน วงป็อป/พั้งก์ที่บอกได้เลยว่าเป็นวงที่มี สดกันได้เนิบนาบเชื่องช้าแต่ซาวด์ดีสัส ๆ ที่อยากดูจริง ๆมีอยู่วงเดียวคือ The บริเวณทางเข้างาน รวมถึงผับหลาก แฟนเพลงดูเยอะที่สุดในงาน ฟูจิ ร็อค ปี ตัดกับฟ้าฝนที่เทกระหน�่าในตอนนั้นมาก Cure วันนี้ก็เลยถือโอกาสนั่งกระเช้า หลายรูปแบบให้ได้เลือกเข้าไปเสพความ นี้ คาดจากสายตาน่าจะไม่ต�่ากว่า 4 หมื่น ๆ หลังจากนั้นก็รอดูวง Death Cab for Dragondola ด้วย ซึ่งระหว่างที่นั่งเห็น สุขกันเป็นสิบ ๆ ร้านที่จัดเต็มสุด ๆ ใน คนและวงก็เล่นสดได้โคตรมันจริง ๆ Cutie กันต่อ ซึ่งมีความรู้สึกว่าวงนี้เซ็ต ทิวทัศน์เป็นต้นน�้าล�าธารแม่น�้าน้อยใหญ่ วันสุดท้ายของเทศกาล ในส่วนของข้อ ELLEGARDEN เป็นวงร็อคที่ดังมากใน เครื่องดนตรีกันนานโคตร ๆ น่าจะเกิน ที่สวยมาก ๆ เสร็จแล้วก็พกเก้าอี้พับไป เสียที่ควรบ่นน่าจะมีอยู่อย่างเดียวคือ ญี่ปุ่นครับ แต่พวกเขาพักวงไปนานนับ ครึ่งชั่วโมง แต่โชว์ของวงก็สมราคาจริง นั่งดูโชว์ของศิลปินที่ไม่รู้จักบ้างอย่าง ห้องอาบน�้าที่ทุกคนต้องเปลือยเปล่า สิบปีก่อนที่จะกลับมารวมตัวกันอีกเมื่อปี ๆ ซาวด์ดีมากเล่นสดกันดีมาก ยิ่งเป็น Stella Donelly ศิลปินแนวอินดี้/ป็อป เข้าไปอาบในห้องเหมือน ๆ กันหมด ที่แล้ว ความดังของวงนี้พิสูจน์ได้จากแถว แฟนเพลงวงนี้อยู่แล้วพอมาได้ดูคอนเสิร์ต สายเพราะจากเวลส์ เดินเล่นไปนั่งพัก ทั้งหญิงและชาย (แต่แยกชายหญิงนะ) ต่อคิวซื้อเสื้อวงที่แยกออกไปเป็นของตัว วงนี้อีกครั้งก็ลืมความนรกของฝนที่ตก ดูโชว์ข้าง ๆ เวทีของวงอินดี้เกาหลีใต้ เพราะข้างในนอกจากจะสกปรกเละเทะ เอง แล้วคนที่ต่อคิวรอซื้อเสื้อนี่เผลอ ๆ กระหน�่าลงมาไปเลย ซึ่งโดยส่วนตัวผมยก อย่าง Hyukoh วงแนว Math Rock และ เอามาก ๆ แล้วก็ยังมีให้อาบแค่คราวละ อาจจะเยอะกว่าแถวต่อคิวซื้อเสื้อวงทุก ให้โชว์ของวง Death Cab for Cuite เป็น Progressive Rock อย่าง Chon ทุกวงดู ไม่กี่คนเท่านั้น อย่างผมเองได้ใช้บริการ วงรวมกันซะอีก ปิดท้ายวันแรกด้วยคอน โชว์ที่ดีที่สุดในสองวันแรกเลยครับ แบบไกล ๆ เวทีเน้นกินดื่มกับกลุ่มเพื่อน อาบน�้าแค่ครั้งเดียว (4 วันอาบน�้าครั้ง เสิร์ตวิช่วลโคตรล�้าของวง The Chemical สนุกสนานเฮฮา ซึ่งก็ได้บรรยากาศที่ดี เดียวน่ะแหละครับ) เจอหนุ่มญี่ปุ่นยืน Brothers ที่ปลุกผู้คนรวมถึงเจ้าป่าเจ้า Day 3 ไปอีกแบบ ก่อนที่จะแยกย้ายกับเพื่อน ต่อคิวอยู่ข้างหลังใกล้ชนิดที่จู๋ห่างจากตูด เขาให้ลุกขึ้นมาเต้นกันอย่างยับ มันเชี้ย วันสุดท้ายของ ฟูจิ ร็อค แล้ว ๆ ไปดู Jason Mraz ในช่วงกลางโชว์ ตัวเองเพียงแค่ 5 เซ็นติเมตรเท่านั้น ๆ แต่ก่อนที่โชว์จะจบผมเดินไปดูโชว์ของ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ล่อเข้าไปเกือบ เพื่อที่จะได้รีบไปจับจองที่บริเวณด้าน แต่ถึงจะอย่างไรก็ตาม ฟูจิ ร็อค Thom York Tomorrow’s Modern Boxes ตีสอง เพราะต้องจัดของในเต้นท์ใหม่ หน้าเวทีเพื่อดูโชว์ของวง The Cure ซึ่ง ถือเป็นเทศกาลดนตรีที่นักฟังเพลงที่เสพ ซึ่งเป็นโชว์แนว IDM และ อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งหมด เนื่องด้วยน�้าฝนได้ซึมเข้ามาบ้าง โชว์ของวง The Cure ที่ผมยืนอยู่แถวที่ ติดดนตรีเป็นชีวิตจิตใจควรจะลองมา ที่เล่นกันโคตรเนียนและหลอนใช้ได้ ถือ เล็กน้อย แต่ก็ต้องเอาผ้าเช็ดพื้นเต้นท์ให้ 3 จากด้านหน้ากลางเวทีนี่ก็เป็นการเติม สร้างประสบการณ์ให้ตัวเองสักครั้งใน เป็นบุญหูในอีกรูปแบบหนึ่ง แห้งเพื่อที่จะได้ไม่เป็นปอดบวมก่อนที่จะ เต็มความฝันของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ ชีวิตนะ เพราะมันดีมากจริง ๆ เชื่อผม

ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 31 Album Review DEADBIRD BETTER OBLIVION COMMUNITY CENTER Album : III:The Forest Within the Tree Album : Better Oblivion Community Center Label : 20 Buck Spin Label : Dead Oceans RIYL : Neurosis, Rwake, Inter Arma RIYL : Bright Eyes, Big Thief, Jenny Lewis ตอบสนองย่านความเสียว : 8.5 ตอบสนองย่านความเสียว : 9.5 ดนตรีสลัดจ์เมทัลถือเป็นเมทัล เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา อยู่ดี ๆ ก็มีโปรเจ็คออกมา แขนงหนึ่งที่จัดว่าไม่ค่อยได้รับ เซอร์ไพรส์นักฟังเพลง จากการเล่นสดออกอากาศ ความนิยมมากนักในบ้านเรา ของรายการ The Late Show with Stephen มีเพียงกลุ่มคนฟังเล็ก ๆ แต่มี Colbert เป็นโปรเจ็คภายใต้ชื่อ Better Oblivion วงดนตรีสลัดจ์,ดูมเมทัลอยู่วง Community Center ของสองนักดนตรี Conor หนึ่งที่ท�ำเพลงได้น่าสนใจและ Oberst และ Phoebe Bridgers ซึ่งทั้งคู่เป็นนักร้อง มีเอกลักษณ์ จึงอยากแนะน�ำ นักแต่งเพลงฝีมือเยี่ยม Conor มีผลงานตั้งแต่ปลาย ให้รู้จักกัน วงดนตรีที่ว่านี้ ยุค 90’s ภายใต้ชื่อ Bright Eyes และในช่วงหลังกับผลงานภายใต้ชื่อตัวเอง ส่วน คือ Deadbird วงดนตรีจาก สาว Phoebe ก็เป็นนักร้องนักแต่งเพลงรุ่นใหม่ที่น่าจับตากับอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้ม ฟาเยตต์วิลล์ อาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งกันมาตั้งแต่ปี 2002 แรก Stranger in the Alps ที่ออกมาในปี 2017 และโปรเจ็ค boygenius ที่ร่วม สมาชิกในยุคปัจจุบันประกอบไปด้วย Alan Short กีตาร์, ร้อง Jeff งานกับ Julien Baker และ Lucy Dacus ที่ออกอีพีมาในปลายปีที่แล้ว Conor และ Morgan เบส, ร้อง Phillip Schaaf กลอง Reid Raley เบส, Phoebe ไม่ใช่คนแปลกหน้าอะไร เพราะ Conor เคยไปร่วมร้องเพลงในอัลบั้ม ร้อง Chris Terry ซินธ์, แซมเปิ้ล, ร้อง และ Chuck Schaaf กีตาร์, เดี่ยวของเธอกับเพลง Would You Rather ซึ่งเป็นเพลงที่เพราะมาก ๆ โปรเจ็ค ร้อง อัลบั้ม III:The Forest Within the Tree เป็นอัลบั้มเต็มที่สาม Better Oblivion Community Center เป็นการร่วมแต่งเพลงของทั้งคู่ที่ยังโปรดิวซ์

ของวงซึ่งออกห่างจากอัลบั้มที่สอง Twilight Ritual อยู่ถึงสิบปี อัลบั้ม Like ร่วมกับ Andy Lemaster ที่เขายังรับหน้าที่เอนจิเนียร์อีกด้วย Andy เป็นอดีตสมาชิก ล่าสุดนี้โปรดิวซ์โดยวงเองร่วมกับ Alan Burcham ที่รับหน้าที่เอนจิเนียร์ วง Now It’s Overhead วงเพื่อนร่วมสังกัด Saddle Creek กับ Bright Eyes เขา You

และมิกซ์ด้วย อาร์ตเวิร์คของอัลบั้มนี้เป็นผลงานของ Santos ที่เคย If เคยร่วมงานกับ Drive-By Truckers, Azure Ray และงานเดี่ยวของ Michael Stipe ฝากฝีมือไว้กับปกอัลบั้มของ Mutoid Man ดนตรีของ Deadbird นักร้องน�ำของ R.E.M. ส่วนหน้าที่มิกซ์เป็นของ John Congleton ที่เคยร่วมงานกับ จะน่าสนใจและมีเอกลักษณ์ขนาดไหนไปฟังกันเลย เปิดอัลบั้มมา Explosions in the Sky, Baroness, Swans และอีกมากมาย อัลบั้มนี้มีนักดนตรี กับ The Singularity เป็นกีตาร์โปร่งเพราะ ๆ กับส�ำเนียงแบบคัน มาช่วยอัดเสียงหลายคน แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดน่าจะเป็น Nick Zinner มือกีตาร์ของ

ทรี่โฟล์คบวกกับซาวนด์แอมเบียนท์หึ่ง ๆ Luciferous Heart อินโทร Recommend Yeah Yeah Yeahs และ Head Wound City เล่ามาซะยาว คงอยากจะฟังอัลบั้มนี้

โคตรผงาด โซโล่กีตาร์อย่างเจ๋ง พาร์ทริธึมกีตาร์ก็ไม่เบา มีมิติเป็น = กันแล้ว ไปฟังกันเลย เปิดอัลบั้มมากับ Didn’t Know What I Was in For แค่เพลง อย่างมาก ส�ำเนียงดนตรีอเมริกันสุด ๆ ซึ่งนี่แหละคือเอกลักษณ์ของ แรกก็เพราะสุด ๆ เสียงหวาน ๆ ของสาว Phoebe กับเสียงกีตาร์โปร่ง ท่อนฮุค

Deadbird กีตาร์ประสานกันได้ลงตัว ท้ายเพลงดนตรีอย่างหนืด *RIYL เป็นเสียงดูเอทของทั้งคู่ ทั้งเศร้าทั้งเหงา เอาตายไปเลย Sleepwalkin ท่อนแรกขึ้น Heyday ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย มีส�ำเนียงแบบ Mastodon เล็กน้อย มานึกว่าจะเป็นเพลงเร็ว ท่อนฮุคมีเร่งจังหวะนิดนึงแล้วดึงจังหวะลงไปอีก ดนตรีฟัง กีตาร์เยี่ยมยอด จังหวะประหลาด ช่วงกลางเพลงฟังผ่อนคลายมาก แปร่ง ๆ แปลกหูเล็กน้อย Dylan Thomas ซิงเกิ้ลแรก คือเพลงที่ไปเล่นในรายการ เป็นเพลงที่ยาวสุดในอัลบั้ม Alexandria สั้นกระชับได้ใจความ ของ Stephen Colbert ซึ่งวันถัดมาอัลบั้มนี้ก็ออกวางแผงแบบเซอร์ไพรส์ เป็นเพลง จังหวะกลองเจ๋ง กีตาร์ก็ยังโชว์อยู่ ไม่ได้ยินสลัดจ์เมทัลส�ำเนียงแบบ จังหวะสนุก โจ๊ะ ๆ แค่ฟังครั้งแรกก็ติดหูจนอยากฟังซ�้ำอีกหลาย ๆ ครั้ง ได้ Nick นี้มาหลายปีแล้ว 11:34 เป็นเพลงบรรเลง อินโทรเป็นเสียงเบสกับ Zinner มาเล่นกีตาร์ด้วย Service Road เพราะมาก ๆ เสียงแปร่ง ๆ ของ Conor เอฟเฟ็กส์ต่าง ๆ ท้ายเพลงเพิ่มกีตาร์เข้ามาฟังผ่อนคลาย Brought กับเสียงหวาน ๆ ของ Phoebe เข้ากันได้ดีสุด ๆ Exception to the Rule เสียง Low อินโทรลึกลับ นึกถึง Neurosis เสียงร้องคลีน เพราะมาก ๆ ซินธ์โดดเด่นตั้งแต่อินโทร เป็นตัวด�ำเนินเรื่องทั้งเพลง ท่อนฮุคฟังเป็น Conor สุด ๆ ดนตรีอคูสติกที่เป็นแบ็คกราวนด์เจ๋งดี พอเข้าท่อนตะโกนก็เจ๋งเหมือน Chesapeake แค่เสียงกีตาร์ตอนอินโทรก็เอาตายแล้ว ฟังเหงาแต่ก็รู้สึกอบอุ่นไป กัน ดนตรีครบเครื่องลูกเล่นเยอะ เป็นเพลงที่ชอบมากจากอัลบั้ม ด้วย ไพเราะเกินค�ำอธิบาย My City มีจังหวะขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังฟังเพราะอยู่ นี้ Bone & Ash ขึ้นมาหนัก ๆ เลย ใส่กันตั้งแต่ต้นเพลง ริฟฟ์กีตาร์ Forest Lawn โอย จะเพราะอะไรขนาดนั้น เพลงนี้ Conor เด่นกว่าเล็กน้อย หนักหน่วงมาก เป็นสลัดจ์ดูมแบบสกปรก ๆ ไม่ได้ฟังสะอาดเหมือน เสียงกีตาร์เพราะมาก ๆ Big Black Heart เมโลดี้กีตาร์สุด ๆ ไปเลย ดนตรีเล่นคุม ๆ วงรุ่นใหม่ ๆ โยกหัวตามได้มัน บางท่อนนี่ฟังพั้งก์เลย จังหวะเปลี่ยน ท้ายเพลงเริ่มหม่น หน่วงทางอารมณ์ Dominos เพลงปิดอัลบั้ม เป็นเพลงที่ทั้งคู่ไม่ ไปเปลี่ยนมา โชว์ความเก๋าของนักดนตรี Ending สมชื่อ เพลงสุดท้าย ได้แต่ง แต่งโดย Taylor Hollingworth ที่เคยร่วมงานกับ Conor มาหลายอัลบั้ม เป็นซาวด์เอฟเฟ็กส์ผสมกับกีตาร์ ฟังเพลินดี เป็นอีกเพลงที่ Nick Zinner ร่วมเล่น เมโลดี้ฟังคล้ายกับเพลงส่วนใหญ่ของ Conor Deadbird เป็นวงดนตรีที่มีอายุนานพอสมควรแต่ออกอัลบั้ม ท่อนที่ Phoebe ร้องเพราะสุด ๆ เสียดายจบห้วนไปนิด มาน้อย การกลับมาออกอัลบั้มในรอบสิบปีก็เลยท�ำให้แฟนเพลงเก่า ๆ Better Oblivion Community Center เป็นโปรเจ็คที่เต็มไปด้วยเพลงเพราะ, คาดหวังอยู่พอสมควร ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่ได้ท�ำให้แฟนเพลง เพราะมาก ๆ และเพราะสุด ๆ เคมีของทั้ง Conor และ Phoebe เข้ากันได้ดีมาก ๆ ผิดหวัง Deadbird อาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงมากนักแต่อัลบั้ม III:The ดีจนขนาดอยากให้ทั้งคู่เป็นแฟนกันเลย อยู่ด้วยกันแล้วดูน่ารักสุด ๆ ฝีมือการแต่ง Forest Within the Tree ก็มีดีพอที่จะท�ำให้นักฟังเพลงให้ความ เพลงของ Conor คงไม่ต้องพูดถึง โดดเด่นมาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของ Bright Eyes สนใจ ใครที่ชอบดนตรีสลัดจ์เมทัล ดูมเมทัล ไปจนถึงสโตนเนอร์ร็อก แล้ว แต่ฝีมือของ Phoebe นี่น่าจับตามองมาก ๆ ทั้งกับอัลบั้มเดี่ยวกับ boygenius แนะน�ำให้ฟังอัลบั้มนี้ ถ้าชอบก็ลองไปหาอัลบั้มเก่ามาฟังด้วย หรือ และกับอัลบั้มนี้ อนาคตเธอไกลแน่นอน อัลบั้มนี้แฟนเพลงอินดี้ร็อก อินดี้ป็อป ไป ใครที่อยากท�ำความรู้จักสลัดจ์เมทัลในแนวทางที่ต่างออกไปก็ลองฟัง จนถึงอเมริกันร็อกแนะน�ำให้หามาฟังเลย เป็นอัลบั้มที่อัดแน่นไปด้วยความไพเราะ อัลบั้มนี้กันได้ น่าจะท�ำให้รู้จักดนตรีแปลก ๆ เพิ่มขึ้นอีก และเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย หวังว่าคงจะไม่ออกมาแค่อัลบั้มเดี่ยว น่าจะเป็นโปร เจ็คถาวรของทั้งคู่ไปเลยด้วยซ�้ำ

0 32 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 NOTE CLASSIC ALBUM VANUM SAVES THE DAY Album : Ageless Fire Album : Stay What You Are Label : Profound Lore Label : Vagrant RIYL : Wolves in the Throne Room, Mgla, Yellow RIYL : The Get Up Kids, Taking Back Sunday, Say Eyes Anything ตอบสนองย่านความเสียว : 9 เคยเขียนคลาสสิคอัลบั้มถึงวงอีโมยุคที่สองไปแล้วนั่นก็คือ Sunny Day Real Estate คราว มีวงดนตรีแบล็ค เมทัลแปลก ๆ มา นี้จะเขียนถึงวงอีโมในยุคที่สามบ้าง ซึ่งก็อยู่ในช่วงต้นยุค 2000’s หรือเป็นช่วงที่อินเตอร์เน็ตเฟื่อง แนะน�าให้รู้จักกัน วงที่ว่านี้คือ Vanum ฟูนั่นเอง วงดนตรีที่เกาะกระแสกันมาในช่วงนั้นก็มีวงอย่าง Dashboard Confessional, Taking วงดนตรีจากซานตาเฟ นิวเม็กซิโก และ Back Sunday, Brand New ไปจนถึง Thursday วงดนตรีหัวแถวในช่วงนั้นอีกวงหนึ่งก็คือ Saves บลู๊คลิน นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ก่อตั้ง the Day วงดนตรีจากพรินซ์ตัน นิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เริ่มแรกก่อตั้งวงมาตั้งแต่ปี 1994 ใช้ ในปี 2014 จากสมาชิกหลักทั้งสองได้แก่ ชื่อวงว่า Sefler และเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Saves the Day ในปี 1997 ออกอัลบั้มแรก Can’t Slow M.Rekevics จาก Fell Voices และ K.Morgan จาก Ash Borer Down (1998) และอัลบั้มที่สอง Through Being Cool (1999) ซึ่งเป็นอัลบั้มที่เริ่มสร้างชื่อเสียง ซึ่งทั้งสองคนมีชื่อเสียงอยู่พอสมควรในวงการอันเดอร์กราวนด์ ให้กับวงแต่ยังไม่เป็นวงกว้างมากนัก อัลบั้มที่เป็นคลาสสิคอัลบั้มของเราคืออัลบั้มที่สาม Stay แบล็ค เมทัลฝั่งอเมริกา เคยออกผลงานภายใต้ชื่อ Vanum มา What You Are ที่ออกมาในปี 2001 เป็นช่วงที่ดนตรีอีโมเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จน แล้วหนึ่งอัลบั้มคือ Realm of Sacrifice ในปี 2015 ซึ่งตอนนั้น เรียกติดปากว่าเป็นอีโมยุคที่สาม อัลบั้มนี้สมาชิกประกอบไปด้วย Chris Conley ร้องน�า David ยังท�างานกันแค่สองคนจนอัลบั้มล่าสุดนี้ได้สมาชิกเพิ่มได้แก่ Soloway ลีดกีตาร์ Ted Alexander ริธึ่มกีตาร์ Eben D’Amico เบส และ Bryan Newman E.Priesner และ L.Sheppard ซึ่งสมาชิกทั้งหมดในวงเล่นอะไร กลอง ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกจากอัลบั้มที่สอง Stay What You Are โปรดิวซ์และมิกซ์โดย Rob กันบ้างในปกไม่มีเครดิตบอกเอาไว้ อัลบั้ม Ageless Fire เป็น Schnapf ที่เคยร่วมงานกับ Beck, Elliott Smith และ Guided by Voices อีกคนที่ร่วมมิกซ์คือ อัลบั้มเต็มที่สองของวง มิกซ์และอัดเสียงโดย Andrew Oswald Doug Boehm ที่เคยร่วมงานกับ Rob มาหลายครั้ง Stay What You Are เป็นอัลบั้มที่ Saves ซึ่งเคยร่วมงานกับวงของแกนน�าหลักทั้งสอง ไปฟังเพลงของ the Day เริ่มเข้าหาซาวด์ที่เบาลงหลังจากที่อัลบั้มแรกหนักจนแทบจะเป็นเมโลดิก ฮาร์ดคอร์ใน Vanum กันเลยดีกว่า เพลงแรก War เป็นเพลงบรรเลง อินโทร แบบซาวด์ของวง Lifetime และเริ่มลดความหนักลงมาในอัลบั้มที่สอง แต่กับ Stay What You ขึ้นมาดนตรีค่อนข้างจะเมโลดิค ไม่ได้หนักหน่วงนัก ฟังเพราะ Are นี่เอง Saves the Day ได้สร้างแนวทางใหม่ให้กับวง และเป็นแนวทางของวงจนถึงปัจจุบัน ด้วยซ�้า ถือว่าเป็นเพลงเปิดอัลบั้มที่ดีมาก ๆ Jaws of Rapture เปิดอัลบั้มมากับเพลงชาติ At Your Funeral หนึ่งในเพลงที่ดีที่สุดของวง ทุกคนที่เป็น นี่สิของจริง เสียงกลองบลาสต์บีทกระแทกอารมณ์แต่กีตาร์โคตร แฟนของวงหรือฟังเพลงในยุคนั้นต้องร้องเพลงนี้กันได้แน่ ๆ ร้องตามทีแทบจะยืนตะเบ๊ะไป จะเมโลดิกสร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างมาก แถมยังฟังเพราะอีก ด้วย ทุกคนในยุคนั้นต้องพยายามท�าเสียงสูง ๆ แบบ Chris Conley เป็นเพลงที่ตอบโจทย์ ด้วย เสียงร้องก็ดี ไม่ได้ฟังปีศาจจนเกินไป ดนตรีมีหลายพาร์ท ความเป็นอีโมในยุคนั้นได้ดีสุด ๆ คิดว่าเพื่อนร่วมรุ่นหลาย ๆ คนต้องมีความหลังกับเพลงนี้เป็น โซโล่กีตาร์มาน้อย ๆ แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดี ยิ่งช่วงท้ายเพลงนี่โคตรจะ แน่ See You จังหวะโจ๊ะ ๆ ฟังและร้องตามได้สนุก ดนตรีใกล้เคียงกับอัลบั้มก่อนหน้า Cars & เพราะ Eternity อินโทรอย่างเท่ ได้กลิ่นนอร์วีเจียนแบล็คอยู่พอ Calories จังหวะกลองยก ๆ กีตาร์ฟังเพลินมาก เป็นพาวเวอร์ป็อปชั้นดี มีเสียงออร์แกนมาเพิ่ม สมควร สับคอร์ดกีตาร์อย่างเมามัน จังหวะกลองก็โดดเด่น ไม่ บรรยากาศ Certain Tragedy อีกเพลงที่จังหวะสนุก ชวนกระโดดและร้องตาม โซโล่กีตาร์ท้าย ได้มีแต่บลาสต์อย่างเดียว โซโล่กีตาร์ก็สุด ๆ ฟังเมโลดี้แล้วไม่น่า เพลงท�าได้ดี Jukebox Breakdown อินโทรฟังแล้วนึกถึง New Found Glory เพื่อนร่วมรุ่นที่เริ่ม เชื่อว่าจะเป็นวงอเมริกันเลย ได้ส�าเนียงยุโรปมาก ๆ เพลงนี้ถือว่า มีชื่อเสียงมาพร้อม ๆ กัน กีตาร์ฟังเพลิน ๆ ร้องประสานได้โดดเด่น ถือเป็นหนึ่งในเพลงเด่นของ เอาส�าเนียงแบล็ค เมทัลแบบต้นฉบับมาดัดแปลงได้ดี ได้ความ อัลบั้ม Freakish อีกหนึ่งเพลงดังของวง หลายคนน่าจะเคยมีความหลังกับเพลงนี้ มั่นใจว่าท่อน หนาวเหน็บมาเต็ม ๆ ท่อนที่มีแต่เสียงกีตาร์กลางเพลงฟังแล้ว ฮุคร้องตามกันได้ทุกคนแน่นอน เป็นเพลงที่เพราะมาก As Your Ghost Takes Flight อีกเพลง ที่ชอบมาก จังหวะเร็วขึ้นมาหน่อย เป็นเพลงที่หนักแน่นทางอารมณ์ ฟังแล้วค่อนข้างจะฮึกเหิม นึกถึง Agalloch เล็กน้อย Under the Banner of Death Nightingale ส�าหรับผมเพลงนี้คือที่สุดแล้วส�าหรับ Saves the Day ชอบมาก ๆ ทั้งดนตรีและ อินโทรโคตรผงาด รุ่นใหญ่สุด ๆ พอเข้าท่อนร้องก็เจ๋ง ดึงจังหวะ เนื้อหา เป็นเพลงที่เพราะมากและมีความหมายส่วนตัวกับตัวเองเป็นอย่างมาก All I’m Losing ลงมาเล็กน้อย กีตาร์โคตรดี แต่เพลงนี้เมโลดี้ฟังไม่นอร์วีเจียน is Me จังหวะโจ๊ะ ๆ ท่อนฮุคติดหูมาก ๆ ไลน์กีตาร์เท่ดี This is Not an Exit เป็นอีกเพลงที่ชอบ แล้ว กลับมาเป็นอเมริกันแบล็คสาด ๆ เหมือนเดิม เป็นอีกเพลง มาก ท่อนฮุคเพราะเอาตาย แต่เป็นเพลงจังหวะกลาง ๆนะ ไม่ได้ช้าขนาดนั้น กีตาร์ในเพลงนี้ก็ ที่กลองโดดเด่น ได้โชว์หลายจังหวะ โซโล่กีตาร์ท้ายเพลงเอา ดี ท่อนคอรัสเพราะมาก ๆ Firefly เพลงปิดอัลบั้ม คิดว่าเป็นเพลงสุดท้ายแล้วจะเป็นเพลงช้าใช่ คะแนนเต็มไปเลย Ageless Fire อินโทรได้อารมณ์ไซคีเดลิคเลย มั้ย แต่เพลงนี้ไม่ใช่เลย แทบจะเร็วที่สุดในอัลบั้ม สมัยนั้นชอบเพลงนี้มาก ๆ ถึงขนาดใช้เป็นชื่อ ถือว่าเจ๋งมาก ๆ ท่อนร้องก็ดี จังหวะเร่งขึ้นเร่งลง ลูกล่อลูกชน ในแชท ICQ เลย สุด ๆ จังหวะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ดนตรีมีหลายพาร์ทมาก ๆ หลังจากออกอัลบั้ม Stay What You Are วง Saves the Day ก็ประสบความส�าเร็จ ฟังประหลาด เพลงนี้แทบจะไม่เหมือนอะไรที่เคยได้ยินมาก่อน ในวงกว้างและได้ร่วมทัวร์กับวงใหญ่ ๆ ในยุคนั้นจนท�าให้วงได้เซ็นกับสังกัดเมเจอร์อย่าง เป็นเพลงที่ชอบมาก ๆ Erebus เพลงบรรเลงปิดอัลบั้มเป็น Dreamworks และได้ออกอัลบั้มที่สี่ In Reverie ในปี 2003 แนวทางในอัลบั้มป็อปกว่า Stay บรรยากาศล่องลอย ฟังผ่อนคลาย What You Are มาก แต่ยอดขายอัลบั้มไม่ประสบความส�าเร็จตามที่สังกัดตั้งเป้าไว้ ท�าให้ Saves Ageless Fire เป็นอัลบั้มที่เพลงมีความยาวเฉลี่ย 8-9 the Day กลับมาอยู่สังกัดอินดี้อีกและกลับไปท�าเพลงเหมือนสมัยก่อน Saves the Day ยังคง นาที แต่ไม่มีความน่าเบื่อเลย ทุกเพลงในอัลบั้มมีเอกลักษณ์และ ออกอัลบั้มมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันออกผลงานมาแล้วทั้งหมดเก้าอัลบั้ม ผลงานล่าสุดออก ส�าเนียงแตกต่างกันไป วงหลักของสมาชิกหลักทั้งสองอย่าง Fell มาเมื่อปี 2018 ภายใต้ชื่อง่าย ๆ ว่า 9 ปัจจุบันสมาชิกจากยุคแรกของ Saves the Day เหลือ Voices และ Ash Borer จัดอยู่ในประเภทแบล็คสายบรรยากาศ เพียง Chris Conley คนเดียว โดยที่มีสมาชิกเข้าออกวงเยอะมากแทบจะถึง 20 คนเลยทีเดียว แต่ Vanum ไม่ได้ท�าให้นึกถึงวงทั้งสองเลย แต่กลับสร้าง อัลบั้มต่าง ๆ ที่ออกมาก็มีดีบ้างแย่บ้างต่างกันไป แต่ส�าหรับผมแล้ว Stay What You Are คือ เอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม ฝีมือในการเล่นก็ท�าได้ อัลบั้มที่ดีที่สุดของ Saves the Day เป็นอัลบั้มที่มีความหมายกับชีวิต และเป็นเพลงประกอบ ดีและเข้าขากันสุด ๆ จัดเป็นอัลบั้มแบล็ค เมทัลน่าสนใจของปีนี้ ชีวิตช่วงวัย 20 ปี วัยที่ก�าลังใช้ชีวิตอย่างสนุกสุดเหวี่ยงที่สุด ตอนที่สั่งซีดีอัลบั้มนี้ เป็นอัลบั้มที่ ใครที่อยากฟังแบล็ค เมทัลจากวงแปลก ๆ ลองหาอัลบั้มนี้มาฟัง ร้องตามได้ทุกเพลงและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟัง ยังคงเก็บโปสเตอร์กับโปสการ์ดที่แถมมาจาก กัน อาจจะเข้าถึงยากซักเล็กน้อย แต่รับประกันความยอดเยี่ยม Vagrant Records ไว้อย่างดี

ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 33 0 34 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 BLAST TEAM WARNER MUSIC

ใครจะไปคาดคิดว่าวันหนึ่งเราก�ำลังได้ดู ฮิปฮอปสาย เขียวขวัญใจวัยโจ๋ทั่วโลกมาเล่น ณ ไทยแลนด์แดนสไมล์ จากการได้เห็นโปสเตอร์โปรโมตงานทัวร์ของ วิซ คาลิฟา ณ จังหวัดภูเก็ต สร้างความฉงนให้กับแฟนเพลงชาวไทยไม่ น้อย “เฮ้ย มาจริงเหรอวะ?” ที่ส�ำคัญเล่นที่ภาคใต้ มีแฟน เพลงหลายคนถึงกับจองตั๋วเครื่องบิน ตั๋วงานคอนเสิร์ต เรียบร้อย แต่แล้วถัดจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ Viji Corp. ผู้จัด เจ้าใหญ่ใจถึงก็ดึง Wiz Khalifa มา Live In Bangkok สมใจอยาก แฟนเพลงเมืองหลวงเฮลั่น ไม่ต้องถ่อตัวเองไป ถึงจังหวัดภูเก็ตแล้ว

ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 35 ประวัติความเป็นมาของวิซ คา อยู่ค่าย Benjy Grinberg เจ้าของ ดันจนติดชาร์ตบิลบอร์ดแบบไม่น่า ดาวน์โหลดกันฟรี ๆ เอาใจสาวก ลิฟา เกิดเมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. Rostrum Records ก็ไปเจอเพชรงาม เกลียด ปี 2008 – 2009 ออกงาน แฟนเพลงจนถึงขั้นติดอันดับหนึ่ง 1987 ในชื่อจริง Cameron Jibril หนุ่มแร็ปเปอร์วัย 16 ปีที่ชื่อ วิซ คา มิกซ์เทปล�ำดับที่ 4และ5 Star Power Trending Topic บน ทวิตเตอร์ Thomaz ณ เมืองไมนอต์, นอร์ทดา ลิฟา จากผลงานรวม Mixtapes แร็ป กับ Flight School กับค่าย Rostrum #kushandorangejuice เดือน โกตา พ่อแม่หย่ากันตั้งแต่เขาอายุ เปอร์ตัวเด็ดของเมืองพิตต์สเบิร์ก ใน Records ในที่สุด วิซ คาลิฟา ก็แยก กรกฎาคม ค.ศ.2010 วิซ คาลิฟาก็ 3 ขวบ ย้ายที่พ�ำนักกับครอบครัว ที่สุด วิซ คาลิฟาก็เซ็นเข้าสังกัด จาก ทางกับค่ายวอร์เนอร์ฯ ออกมายืนยันว่าเขาเซ็นเข้าสังกัด ทั้งที่ประเทศเยอรมัน, อังกฤษ และ นั้นก็ปล่อยงานมิกซ์เทป Prince of กว่าจะถึงผลงานเต็มจริง ๆ Atlantic Records เรียบร้อย ญี่ปุ่น และกลับมาปักหลักที่สุดท้าย the City : Welcome to Pistolvania ล�ำดับที่สอง Deal or No Deal ปี สร้างชื่อเสียงมาได้ในระดับหนึ่ง ที่เมืองพิตต์สเบิร์ก, รัฐเพนซิลวาเนีย แร็ปสดใหม่ไฟแรงเฟอร์ที่แฟนเพลง 2009 วิซ คาลิฟายังมีงานมิกซ์เทป อยู่หลายปี Black and Yellow ซิงเกิ้ล ในปี ค.ศ.1996 ซึ่งจากการกลับมา ที่ตามงานเขาตั้งแต่แรกยกให้เป็น ชุด How Fly ร่วมงานกับ Curren$y สร้างชื่อภายใต้สังกัดใหม่ เรียกว่าพีค ประเทศบ้านเกิด เขาลงมือแต่งเพลง งานแร็ปชั้นยอดจนปูทางไปสู่ผลงาน แร็ปเปอร์ชื่อก้องจากนิวออลีนส์ และ จนถึงพีคสุด ๆ ด้วยเนื้อหาเพลงที่ใช้ ของตัวเองทันที เมื่ออายุ 15 ขวบ เต็มชิ้นแรก Show and Prove ในปี ยังมีมิกซ์เทป Burn After Rolling ที่ สีประจ�ำเมืองพิตต์สเบิร์กด�ำเหลือง ดี วิซ ก็เริ่มเข้าสตูดิโอท�ำผลงานของ 2006 โดยมีเพลง Pittsburgh Sound แฟนเพลงต่างเทใจให้กับงานแบบนี้ ชูโรง เมโลดี้เพลงติดหูจนติดชาร์ท เขา โดย Eric “E” Dan โปรดิวเซอร์ เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัว อายุไม่ทัน 20 ปีก็ ของ วิซ คาลิฟามากกว่า จากผล บิลบอร์ดอันดับ 1 และมีนาคม ค.ศ. และเจ้าของของ I.D.Labs รู้สึกถูกใจ มีผลงานขายได้ระดับหมื่นแผ่นแล้ว งาน Deal or No Deal ทางค่ายก็ท�ำ 2011 อัลบั้มสร้างชื่อ Rolling Papers ใช่เลยกับวิซ ให้ใช้สตูดิโอฟรี ๆ ไม่ ไหนนิตยสาร Rolling Stone อันทรง ทัวร์สนับสนุนอัลบั้มแบบสั้น ๆ ให้ มี ก็คลอดออกมาให้แฟนเพลงได้ซิงอะ ต้องเสียเงิน โอ้โห้ งานนี่ วิซ จัดยาว อิทธิพลถึงกับการันตีเป็นศิลปินที่น่า Yelawolf แร็ปเปอร์ผิวขาวหน้าตา ลอง ติดอันดับชาร์ทบิลบอร์ด 200 สิคร้าบบ จับตามอง กระทั้งอีกปีถัดมา เขา ดีร่วมทัวร์ครั้งนี้ด้วย จากการที่ พร้อมด้วยยอดขายแผ่นแตะหลักแสน เหมือนอย่างที่เราเคยดูใน ก็เซ็นเข้าสังกัดยักษ์ใหญ่ Warner เป็นคนที่ชอบเล่นทวิตเตอร์ ติดตาม แค่เพียงสัปดาห์เดียว ถึงตอนนี้คงไม่ ภาพยนตร์ 8 Miles ที่บรรดาแร็ป Bros. Records ปล่อยงานมิกซ์เทป โลกสังคมออนไลน์ประจ�ำเจ้าตัวงัด ต้องบอกว่าชื่อ Wiz Khalifa กระฉ่อน เปอร์ต่างต้องท�ำมิกซ์เทปเพื่อฉาย อีกสองชุดก่อนที่จะปล่อยซิงเกิ้ลเปิด ไอเดียเด็กปล่อยงานมิกซ์เทป Kush ขนาดไหนกันแล้ว นอกจากเพลง แววให้บรรดาแมวมองได้สอยตัวไป ตัวกับค่ายในเพลง Say Yeah ซึ่งก็ and Orange Juice (2010) ให้ Black and Yellow ยังมีเพลงทีเด็ด

0 36 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 On My Level ให้สโม้กวี้ดฟังกันล่อง 2014 งานชุดที่ 5 Blacc Hollywood ลอยไปข้าง ปล่อยออกมาเขย่าชาร์ทบิลบอร์ดอีก คนจะดังก็ฉุดไม่อยู่ งานนี้ ครั้ง ศิลปินดัง ๆ มาฟีทเจอริ่ง พี่ใหญ่ของวงการฮิพฮอพ Snoop ครบถ้วน อาทิ Ty Dolla Sign , Dogg ยังมาร่วมฟีทเจอริ่งในเพลง Currensy , Nicki Minaj ข้ามมา Black and Yellow ฉบับมิกซ์ท�าใหม่ ที่ปี 2018 อัลบั้มล�าดับที่ 6 Rolling ไหนจะชวนไปเล่นภาพยนตร์โคตรไฮ Papers 2 ออกวางจ�าหน่ายในเดือน Mac & Devin Go to High School กรกฎาคมภายใต้ค่าย Taylor Gang และอัลบั้มซาวด์แทร็คประกอบหนัง Entertainment ของตัวเอง (แต่ ในชื่อเดียวกันก็พลอยฮิตขายดีไป จัดจ�าหน่ายโดย Atlantic Records ด้วย มีเพลง Young, Wild & Free ที่ เหมือนเดิม) ผลงานชุดนี้ตั้งใจท�าให้ แฟนเพลงชาวไทยร้องตามได้แน่นอน เหมือนกับภาคแรก เสริมด้วยเมโลดี้ เพราะได้ Bruno Mars มาร่วมฟีทเจอ Trap ที่ก�าลังฮิตติดกระแสวัยรุ่น ริ่งด้วย สายเขียวตัวพ่อ สายเขียว ยุคใหม่ เพราะศิลปินที่มาร่วมฟีทฯ รุ่นใหม่กลายเป็นเพื่อนซี้กันจนแยก Gucci Mane , Swae Lee ท�าเอา ไม่ออก เพลงน่าฟังขึ้นเยอะ ลองฟังแทร็ค หลังจากนี้ วิซ คาลิฟา ก็ Hopeless Romantic น่าจะติดใจ ปล่อยงานยกระดับตัวเองให้แมสขึ้น กันแน่นอน นอกจากอัลบั้มเต็มชุด ด้วย O.N.I.F.C. (Only Nigga In ล่าสุดนี้ ลองหาฟังงานมิกซ์เทปของ นอกจากเราจะได้ฟังเพลง See You เพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ย้อนหลังให้เจ้า First Class) ปลายปี 2012 มีศิลปิน คาลิฟากัน ซึ่งยังมีอีกหลายชุดที่ไม่ Again เพลงสุดฮิตติดหูชาวไทยจาก ตัวด้วยแน่ ๆ หรืออาจจะเห็นลีลาแม่ ดังร่วมตบเท้ามาฟีทมากมายอาทิ ได้กล่าวถึง ภาพยนตร์ Furious 7 ที่ได้ Charlie ไม้มวยไทยบนเวทีก็เป็นได้ ฮาฮา เจอ The Weeknd, Akon กลางปี ส�าหรับวันงาน 11 กันยายน นี้ Puth มาร่วมฟีทฯ เราอาจจะได้ร้อง กันวันงานนะจ้ะทุกคน

So what we get drunk So what we smoke weed We’re just having fun We don’t care who sees So what we go out That’s how it’s supposed to be Living young and wild and free….

ISSUE 39 -SEPTEMBER- SEPTEMBER 20192019 - BLAST magazine - 0 37 0 38 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019 - BLAST magazine - 0 39 0 40 - BLAST magazine - ISSUE 39 - SEPTEMBER 2019