อิสลามาบัด ฮุนซ่า กิลกิต พาสสุ คุนจิราบ หุบเขาสกาดูร์ บอลติสถาน ตักศิลา เส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ (KKH) (-China)

ปากีสถาน .....ประเทศนี้ครั้งนึงเคยเป็นเส้นทางที่สวยที่สุด และ โด่งดังไปทั่วโลก ในชื่อของ คาราโครัมไฮเวย์ เส้นทางการค้า

โบราณ ที่สวยงามบนเทือกเขาหิมาลัย..และหลายปีที่ผ่านมาแล้ว

ข่าวที่กระจายไปทั่วโลก ของประเทศปากีสถาน ภาพที่มน่ากลัว กับ

..ความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย!!... ปากีสถาน ณ วันนี้ ร่วมเดินทางไปเปิดมุมมองของปากีสถาน

...เราจะแสดงให้คุณเห็นว่า ประเทศปากีสถาน สวรรค์ในดงระเบิด

นั้น ..สวยงามเพียงใด….แต่เค้ามีความสวยงามทางธรรมชาติที่

หลายประเทศเทียบไม่ได้ และ ผู้คนที่น่ารัก..ธรรมชาติที่สวยสุดยอด ... การบริการที่ราวกับว่าเราเป็นคนส าคัญ ความหลากหลายทาง วัฒนธรรม ประเพณี สิ่งเหล่านี้จะท าให้คุณลืมทุกอย่าง ภาพที่มันน่า กลัว ข่าวที่กระจายไปทั่วโลก..ร่วมเดินทางไปเปิดมุมมอง และเปิด

โลกกว้างในประสบการณ์ครั้งใหม่ของคุณ ที่ปากีสถาน.กับ หิมาลา ยัน ฮอลิเดย์.เสน่ห์รัฐอิสลามที่ยากไปเยือนและยากจะลืม ทริปนี้...ท่านจะได้สัมผัสวิวที่งดงาม ผู้คนที่น่ารัก เน้นเที่ยวถ่ายภาพ แวะจอดถ่ายรูปตามจุดที่สวยงาม… คาราโครัม ไฮเวย์ ( highway) เส้นทางใน ฝันของนักเดินทางมืออาชีพ

รายละเอียดตารางบิน ระหว่างวันที่ 12-22 เมษายน 2560

12 เม.ย. TG349 BKK-ISB 19.00-22.10 13 เม.ย. PK451 ISB-SKARDU 07.00-08.15 21 เม.ย. TG350 ISB-BKK 23.20-06.25+1 (ถึงกรุงเทพฯ วันที่ 22 เม.ย. 60 เวลา 06.25 น.)

ตารางการเดินทาง:ระหว่างวันที่ 12-22 เมษายน 2560 วันที่ 1 ของการเดินทาง กรุงเทพฯ – อิสลามาบัด (ประเทศปากีสถาน) วันพุธ ที่ 17 เมษายน 2560 16.00น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชน้ั 4 ประตู 4 เคาน์เตอร์การบินไทย หมายเลข H1 – H18 และ J3 – J16 สายการบินไทย (TG) พบเจ้าหน้าที่บริษัท คอยต้อนรับและอานวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน (ใช้เวลาบิน 4.30 ชม. เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 2 ชม.) บินตรงสู่เมืองอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน 19.00น. ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG349 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง 22.10น. เดินทางถึงสนามบิน Benazir Bhutto เมืองอิสลามาบัด เมืองหลวงของประเทศปากีสถาน... น าท่านผ่านกระบวนการ ตรวจ คนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระพร้อมแล้ว ขอน าท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก..ไม่ไกลจากสนามบิน Welcome to Islamabad (Pakistan)

“เมืองอิสลามาบัด” (Islamabad) ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 เป็นต้นมาเมืองอิสลามาบัดได้กลายเป็นเมืองหลวงของปากีสถาน โดยได้มีการวางแผนก่อสร้างอย่างเป็นระเบียบและรอบคอบ แบ่งเป็นสัดส่วนด้วยถนนสายต่างๆ ที่สะอาดสะอ้านและร่มรื่นด้วย แนวต้นไม้ ภูเขา Margalla ซึ่งเป็นเชิงเขาหิมาลัยให้ความร่มรื่นกับเมืองเส้นทางเดินทางไกลหลายเส้นทางสิ้นสุดลงที่ Daman-e- Koh ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่งดงามของทั้งเมือง

ที่พัก ณ GC Hotel Rawalpindi หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 2 ของการเดินทาง อิสลามาบัด(Islamabad) - สการ์ดู (Skardu) - ป้อมชิการ์ (Shigar Fort) – วันพฤหัสบดี ที่ 13 เมษายน 2560 ทะเลสาบคาชูร่า (Kachura Lake) 06.00 น. บริการอาหารเช้าแบบกล่องจากทางโรงแรม 07.00 น. ออกเดินทางจากเมืองหลวงอิสลามาบัด สู่แคว้น “สการ์ดู” (Skardu) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ส าคัญและศูนย์กลางของ นักท่องเที่ยวที่นิยมปีนเขาเดินป่าใน ภาคเหนือของปากีสถาน มีภูเขาที่มี ความสูงเกินกว่า 8,000 เมตรถึง 14 ยอด รวมถึงยอดเขา K2 ที่สูง เป็นอันดับสองของโลกที่ความสูง 8,611 เมตร รองจากยอดเขาเอ เวอร์เรสต์ (สูง 8,840 เมตร) จึง เป็นที่ดึงดูดความสนใจของ นักท่องเที่ยวบรรดาเทรคเกอร์ และ นักปีนเขาจากทั่วโลก ฤดูท่องเที่ยว หลักเริ่มต้นระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนตุลาคม นอกเวลานี้พื้นที่จะ ถูกตัดขาดเนื่องจากหิมะตกและอากาศหนาวเย็นและเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสัน และความหลากหลายของผู้คนจากหลายกลุ่ม ชาติพันธุ์ที่มักอพยพมาอยู่รวมกันที่นี่ได้แก่ เผ่าชินส์ (Shins), พาสชตันส์ (Pashtuns), ปัญจาบ (Punjabis), ฮุนซ่าคุสซ์ (Hunzakuts) และเผ่าอุยกูร์ (Uyghur) แต่ชนส่วนใหญ่จะเป็นชาวบัลติ-ทิเบต ซึ่งในอดีตเคยนับถือศาสนาพุทธ แต่ปัจจุบันได้หัน มานับถือศาสนาอิสลาม ชุมชนชาวบัลติ-ทิเบต มีความหนาแน่นจนบางครั้งจะเรียกเมืองนี้ว่าทิเบตน้อยของปากีสถาน เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้น ชมทะเลสาบแซตพารา (Satpara Lake) เป็นทะเลสาบหลักของหุบเขาสการ์ดู เป็นแหล่งจัดเก็บน้าส าหรับเมือง และมีชื่อเสียง ในเรื่องเป็นหนึ่งในทะเลสาบงดงามที่สุดในปากีสถาน และเป็นทะเลสาบน้าจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นแหล่งที่มีปลาเท ราท์ตามธรรมชาติ ทะเลสาบแซตทาราตั้งอยู่บนที่ราบสูง Deosai ( 4,114 เมตร)...... เดินทางกลับสการ์ดู.... น าท่านชมเมืองสการ์ดูตลาดท้องถิ่นย่าน Yadgar Chowk , บาซ่าร์..สมควรแก่เวลา น าท่านเดินทางสู่ที่พัก ค ่า บริการอาหารค ่า ณ โรงแรม ที่พัก Concordia Hotel หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย วันที่ 3 ของการเดินทาง สการ์ดู (Skardu) - กิลกิต (Gilgit )- พระพุทธรูป Kargah วันศุกร์ ที่ 14 เมษายน 2560 07.00 น. บริการอาหารเช้าแบบกล่องจากทางโรงแรม 08.00 น. นาท่านเข้าชม ป้อมชิการ์ (Shigar Fort Palace ) ถูกสร้างโดย 22 ข่านฮัสซัน (Hassan Khan) ที่ปกครองในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 สร้างอยู่บน22แพลตฟอร์มที่สูง 5 เมตรจากพื้นดิน 22 และส่วนหนึ่งล้อมรอบหินรูปทรงกรวยขนาดยักษ์ (จึงเป็นที่มาของ ชื่อFong - Khar หรือ"Palace on Rock") 22ส่วนที่เป็นโครงสร้างเก่าแก่ที่สุดมีอายุกว่า 400 ปีชมห้องโถงใหญ่ห้องพักอาศัยที่ ได้รับการบูรณะโครงการให้22ยังคงเป็นสถาปัตยกรรมเดิมของอาคารให้มากที่สุด cและเดินทางชมหมู่บ้าน ชิก้า ชื่นชม

ดอกไม้นานาพันธุ์ อาทิ แอฟพีคอด เชอรี่ อัลมอลล์ วัลเล่ย์ (Shigar Valley) นาท่านชมทะเลสาบคาชูร่า (Kachura Lake)หรือ รู้จักกันดีในนามทะเลสาบแชงกรีล่า(Shangri-La Lake) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบแห่งนี้ อิสระจนได้เวลาพอสมควร อาลาสการ์ดูวัลเวย์ แห่งแคว้นบอลติสถานหรือทิเบตน้อยแห่งปากีสถาน ขอนาท่านเดินทางสู่ เมืองกิลกิต (ประมาณ7ชม.) เมืองที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาคาราโครัม พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนี้เต็มไปด้วย ภูเขาซึ่งภูเขาที่นี้ มีความน่าสนใจอย่างมากเพราะได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งความงามบริสุทธ์ที่ถูกตกสารวจจากชาวโลก นอกจากนี้ เมืองกิลกิตยังเป็นเมืองสาคัญที่เส้นทางสายไหมในอดีตตัดผ่านและใช้เป็นเส้นทางการเผยแผ่ศาสนาพุทธจากอินเดียสู่ดินแดน ต่างๆ ในเอเชีย ทาให้พบหลักฐานทางพุทธศาสนาในเมือ งนี้เป็นจานวนมาก เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมืองกิลกิต บ่าย นาท่านชมพระพุทธรูป (Kargah Buddah) เป็นศิลปะแบบทิเบตในราวศตวรรษที่ 7-8 เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักบนหน้าผา องค์พระพุทธรูปแกะสลักในกรอบล้อมรอบบนหน้าผาสูง เบื้องหน้าเป็นลาธาร หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก เป็น ถูกค้นพบ พร้อมกับเจดีย์ 3 องค์ซึ่งสูง 400 เมตรในช่วงปี ค.ศ.1938-1939 เคยมีต านานของคนในท้องถิ่นเกี่ยวกับพระพุทธรูปนี้ได้ กล่าวถึง ชายผู้หนึ่งได้ปราบผีสาวที่เรียกกันว่าYakhshini ซึ่งอาศัยอยู่ใน Kargah ลงได้ จากน้นั นาท่านเดินชมเมือง กิลกิต ผ่านย่านร้านค้าตลาดไปรษณีย์ สุเหร่ารวมทั้งสนามแข่งโปโล ที่เป็นกีฬาที่นิยมมากในทางเหนือของ ปากีสถาน ปิดท้ายวันด้วยการชม ตลาดเมืองกิลกิต ซึ่งตลาดแห่งนี้เปรียบเสมือนจุดกึ่งกลางของเส้นทางการค้า ขนส่งบน เส้นทางคาราโครัมย์ไฮเวย์ ท่านจะพบกับสินค้าพื้นเมืองอาทิหมวก ผ้าพันคอ แบบที่ชาวปากีสถานชอบใส่กัน และให้ท่านมีเวลาช้ อปปิ้ งสินค้าที่ระลึก สะพานแขวนกิลกิต (Gilgit Suspension Bridge) ซึ่งเป็นสะพานแขวนในสมัยโบราณ เคยสะพานแขวนที่รถสามารถวิ่งผ่านได้ สร้างโดยกองทัพอังกฤษ ในช่วง ค.ศ. ที่ 19 ปัจจุบันเลิกใช้งานแล้ว และกาลัง มีการก่อสร้างสะพานคอนกรีตแห่งใหม่..สมควรแก่ เวลาน าท่านเดินทางสู่ที่พักในเมืองกิลกิต ค ่า บริการอาหารค ่า ณ โรงแรม ที่พัก GILGIT EMBASSY HOTAL หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย วันที่ 4 ของการเดินทาง กิลกิต(Gilgit) - กากูช (Gakuch) - กูปีส (Gupis) – หมู่บ้านพันเดอร์ (Phander Valley) วันเสาร์ที่ 15 เมษายน 2560 06.00 น. บริการอาหารเช้า แบบกล่องจากทางโรงแรม 07.00 น. ออกเดินทางจากเมืองกิลกิต สู่ เมืองกูปีส (ประมาณ 4ชม.) ระหว่างผ่าน เมือง กากูซ Gakuch เรียกว่าเป็นเมืองหลวงของเขต หุบเขา Ghizar ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาฮินดูกูช ( Hindu Kush) ตลอดเส้นทางจะขนานไปกับแม่น้า กีซาร์ (Ghizer) ที่คดเคี้ยวไป มา แต่ละโค้งของแม่น้า สวยงามไปด้วยวิวของยอดเขาสี เทาอมฟ้า มีสีขาวของหิมะอยู่บนยอด ขนาบไปด้วยแม่น้า เขียวอมฟ้า สวยงาม หุบเขากีซาร์ เป็นดินแดนที่เต็มไป ด้วยโตรกผา ล าธาร แม่น้า กีซาร์ ที่มีน้าสีเขียวใสแจ๋วไหล ผ่าน บางช่วงแม่น้าก็ขยายกว้างเป็นทะเลสาบ ซึ่งมีอยู่ หลายแห่งมาก จนได้รับสมญานามว่า The land of Lakes เป็นทะเลสาบสีเขียวเทอร์คอยซ์ ในหุบเขาเต็มไปด้วยพืช เมืองหนาวเช่น แอ๊ปเปิ้ ล เชอรี่ แอ็ปปริคอต วอลนัท ระหว่างฤดูใบไม้ผลิ เดือนเมษายน พืชพรรณเหล่านี้จะ ออกดอกบานสะพรั่ง ชมพู ขาว สวยงาม.....ระหว่างทางแวะจอดถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ตลอดเส้นทาง...

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (เมืองกูปีส) บ่าย ออกจากเมืองกูปีส เดินทางไป หมู่บ้านพันเดอร์ (Phandar Valley) ตั้งอยู่ทางตะวันออก ของ หมู่บ้านกูปีส(Gupis) ประมาณ 50 km โดยระหว่างทางท่านจะได้สัมผัส กับต้น ผลไม้ต่างๆ เช่น แอปปริคอท , เชอร์รี่ , แอป เปิ้ ล Blossom ทั้งหุบเขา พร้อมกับวิวสายน้า พร้อม แนวเทือกเขาฮินดูกูช อันยิ่งใหญ่ ถึงทะเลสาบ Khalti อิสระถ่ายภาพตามมุมกล้องของท่านจนไม่ อยากหยุดกดชัตเตอร์เลยทีเดียวเดินทาง ... โดย ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับวิวสายน้า Ghizer ... ตลอดเส้นจนถึงหมู่บ้านพันเดอร์ (Phandur Valley) ขอนาท่านเ ดินเล่นเที่ยวชมหมู่บ้าน และ ชมพระอาทิตย์ตกดินในหุบเขาที่สวยที่สุด ณ ทะเลสาบ Phandur Lake ทะเลสาบกลางหุบเขาน้า ใสราบเรียบดุจกระจกสีมรกต...และชมวิถีชิวิตของชาวบ้านท้องถิ่นด้วยความมีไมตรี และรอยยิ้มจากทุกคนที่นั้นอิสระถ่ายภาพ ตามอัธยาศัย ** วนั น้ ีแนะนา ว่านา ปากกา ขนม ไปแจกเด็ก ถ่ายรูปกบั เด็กๆ แลว้ จะรูว้ ่าเด็กๆที่นี่น้นั น่ารกั ขนาดไหน ค ่า ค ่า บริการอาหารค ่า ณ โรงแรม เข้าพักที่ PTDC Hotel Khalti lake หรือเทียบเท่า ที่หมู่บ้านกูปีส(Gupis) อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย (เป็ นโรงแรมที่ดีที่สุดในแถบน้นั ) วันที่ 5 ของการเดินทาง หมู่บ้านพันเดอร์ (Phander Valley)-Phander Lake - หมู่บ้านกูปีส (Gupis)- วันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน 2560 หุบเขายาซิน (Yasin)- กากูช (Gakuch) - กิลกิต(Gilgit) 07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม ยามเช้า (ออกจากหมู่บ้านพันเดอร์ สู่ กิลกิต ประมาณ5 ชม.) ก่อนออกเดิน ขอพาคณะ..อาลา หมู่บ้านพันเดอร์ (Phandur Valley)ชม วิวและถ่ายภาพทะเลสาบ Khalti Lake ในช่วงเช้า ชม ทะเลสาบ Khalti หรือ ทะเลสาบพันเดอร์ (Phander Lake) เป็น ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์คอยซ์งดงาม ช่วงเช้าๆน้าจะนิ่งใสเหมือนกระจก ทะเลสาบนี้เกิดจากหินถล่มลงมาก กลายเป็นเขื่อน ธรรมชาติ ปิดกั้นแม่น้ากลายเป็นทะเลสาบแล้ว Khalti Lake ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตปลาเทร้าที่โด่งดัง จากน้นั มุ่งหน้าสู่เมืองยาซิน (Yasin) ถือว่าเป็นไฮไลต์ที่สวยงามของทิวทัศน์แถบนี้ หุบเขายาซินเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่บนเทือกเขา ฮินดูกูช (Hindu Kush) มีบ้านเรือนปลูกอยู่บนไหล่เขาริมทาง มองลงไปจะเห็นพื้นที่ราบลุ่มระหว่างหุบเขาสวยงาม แวะชม หมู่บ้านยาซิน ดื่มด ่ากับความงดงามของธรรมชาติ เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ( เมืองกากูช) บ่าย นาท่านเดินทาง สู่เมืองกิลกิต (Gilgit) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาคาราโครัม พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนี้เต็มไปด้วยภูเขา ซึ่งภูเขา ที่นี้มีความน่าสนใจอย่างมากเพราะได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งความงามบริสุทธ์ที่ตกสารวจจากชาวโลก นอกจากนี้เมืองกิลกิตยัง เป็นเมืองสาคัญที่เส้นทางสายไหมในอดีตตัดผ่าน และใช้เป็นเส้นทางการเผยแผ่ศาสนาพุทธจากอินเดียสู่ดินแดนต่างๆ ในเอเชีย ทาให้พบหลักฐานทางพุทธศาสนาในเมืองนี้เป็นจ านวนมาก อิสระช้อปปิ้ งในเมืองกิลกิตยามเย็น...ได้เวลาอันสมควรเดินทางสู่ที่พัก ค ่า บริการอาหารค ่า ณ โรงแรม

ที่พัก GILGIT EMBASSY HOTAL หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย วันที่ 6 ของการเดินทาง กิลกิต (Gilgit) - คาริมาบัด (Karimabad) – ยอดเขาดุยเกอร์ (Duiker ) - ฮุนซ่า ( วันจันทร์ ที่ 17 เมษายน 2560 Valley) 07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม 08.30 น เวลาโดยประมาณ (ออกจากเมืองกิลกิต สู่ หุบเขาฮุนซ่า ประมาณ2ชม.) มุ่งหน้าสู่เมืองคาริมาบัด (Karimabad) เมืองหลวง ของฮุนซ่า ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขต ฮุนซ่า () บนเส้นทาง KKH ขึ้นไปทางเหนือไปยังเมืองคาริมาบัด เมืองหลวง ของอาณาจักรฮุนซ่า (Hunza) ที่ได้รับการบันทึกว่า ผู้คนที่นี่อายุยืนยาวที่สุดในโลก เมืองฮุนซ่าสูงจากระดับน้าทะเล 2,438 เมตร มีเมืองหลักคือเมืองบัลติท (Baltit) หรือที่รู้จักกันในชื่อเมืองคาริมาบัด (Karim Abad)ในอดีตฮุนซ่าเป็นรัฐอิสระที่มีอ านาจ ปกครองตนเองเป็นเวลากว่า900ปี ชาวฮุนซ่าส่วนใหญ่นับถือมุสลิมนิกายอิสไมลี่ชีอ (Ismaili Shia) แต่ก็สามารถเข้าใจภาษา อูรดู (Urdu)และภาษาอังกฤษ สาหรับภาษา Brushuski เป็นภาษาท้องถิ่นเฉพาะ พูดกันเฉพาะในเขตพื้นที่ฮุนซ่า 10.30 น เวลาโดยประมาณ ก่อนถึงฮุนซ่า แวะ จุดชมวิวราคาโปชิ (Rakaposhi View Point) เพื่อชมบรรยากาศยอดเขาและความ งดงามของยอดเขาราคาโปชิอย่างใกล้ชิด จนรู้สึกเหมือนจะสัมผัสได้ ยอดเขาแห่งนี้ถูกจัดความสูงอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลก ซึ่ง สูงถึง 7,790 เมตร 12.30 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ( ณ จุดชมวิวราคาโปชิ) 13.30 น. นาท่าน ออกเดินทาง....ต่อทางไปยังหุบเขาฮุนซ่าและชมทัศนียภาพของเส้นทางหลวงคาราโครัม (Karakoram Highway) ผ่านหุบเขาผลไม้อันอุดมสมบูรณ์ของฮุนซ่าและนาการ์ อันเป็นเมืองโบราณที่ช่อนตัวอยุ่ในหุบเขา ห่างจากมลพิษทั้งปวง ไม่น่า แปลกเลยที่คนในฮุน ซ่ามีอายุเฉลี่ยยาวนานมากเป็นอันดับต้นของโลกถึง85ปีคนแก่หลายๆคนมีอายุถึง120 ปี เพราะเมืองจะ ถูกโอบล้อมโดยยอดเขาสูงมากมายที่มีความสูงมากกว่า7000 เมตรเที่ยวชมเมืองที่มีสีสันสดใสจากดอกไม้ที่แข่งกันอวดสีสันที่ สวยงามกับแม่น้าฮุนซ่าทอดตัวโค้งยาวงดงามราวภาพวาดขึ้น 14.30 น. เวลาโดยประมาณเดินทางถึง หุบเขาฮุนซา (Hunza Valley) จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้ คือ ทิวทัศน์ที่สวยงามของนาขั้นบันได ซึ่งโอบล้อม ด้วยหุบเขาสูงยอดแหลมปกคลุมไปด้วยหิมะ ด้านล่างเป็นแม่น้าใสไหลเย็น กลุ่มบ้านเรือน ปลูกลดหลั่นตามไหล่สันเขา ดอกไม้ป่าขึ้น กระจายแซมทั่วบริเวณในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สภาพแวดล้อมที่งดงามเช่นนี้เองที่ท าให้เมือง ฮุนซ่าได้ชื่อว่าเป็น ดินแดนที่มีประชากรอายุยืน ยาวที่สุดในโลก เนื่องจากมีโอโซนในปริมาณสูง ที่เป็นผลมาจากความมหัศจรรย์แห่งเทือกเขา หิมาลัย ท าให้อากาศบริสุทธ์ิเป็นอย่างมาก อีกทั้งโอโซนยังมีผลต่อพืชและผักที่ปลูกในบริเวณนี้ มีเชื้อโรคต ่า และวิถีแห่ง ธรรมชาติดั้งเดิมของชาวฮุนซ่าท าให้ประชากรมีสุขภาพดี เมืองฮุนซ่า (Hunza) สูงจากระดับน้าทะเล 2,438 เมตร และมีพื้นที่ ประมาณ 7,900 ตารางกิโลเมตร มีเมืองหลักคือเมืองบัลติท (Baltit) หรือที่รู้จักกันในชื่อเมืองคาริมาบัด (Karimabad) ในอดีต ฮุนซ่าเป็นรัฐอิสระที่มีอ านาจปกครองตนเองเป็นเวลากว่า 900 ปี ชาวฮุนซ่าส่วนใหญ่นับถือมุสลิมนิกายอิสไมลี่ชีอะ (Ismaili Shia) ใช้ภาษาดั้งเดิมคือภาษา Brushuski แต่ก็สามารถเข้าใจภาษาอูรดู (Urdu)และภาษาอังกฤษ สาหรับภาษา Brushuski เป็น ภาษาท้องถิ่นเฉพาะ พูดกันเฉพาะในเขตพื้นที่ฮุนซ่า

นาท่านเที่ยวชมเมืองคาริมาบัด Karimabad เมืองสาคัญของหุบเขาฮุนซ่า เยือน ป้อมปราการบอลติต (Baltit Fort) ที่มีความ เก่าแก่ถึง 750 ปี ซึ่งสร้างโดยเจ้าหญิงแห่งเมืองบอลติสตาน (Baltistan) ภายหลังการอภิเษกสมรสกับเจ้าชายเมืองทุม (Thum) ป้อมปราการบอลติตแห่งนี้ เป็นอดีตพระราชวังหลวงที่มีสถาปัตยกรรมรูปแบบผสมผสานแบบท้องถิ่นผสมแคชเมียร์และทิเบต ต่อมาพระราชวังแห่งนี้ได้ถูกต่อเติม ขยายส่วนต่างๆมากมาย เช่น ระเบียง หน้าต่าง กาแพงชั้ นนอก พระราชวังและป้อมปราการ โบราณบอลติตได้ถูกทิ้งร้างในช่วงหนึ่งที่มีการย้ายเมืองหลวงมาที่เมืองคาริมาบัด (Karimabad) ผ่านการบูรณะมาหลายครั้งเป็น ป้อมที่สร้างอยู่บนทาเลที่สวยงาม จนกระทั่งมีรูปแบบดั่งเช่นปัจจุบันปัจจุบันป้อมปราการบอลติต ได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่ง ดาเนินการโดย Baltit Heritage Trust นอกจากนั้น ยังอยู่ในรายชื่อเตรียมพิจารณาให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในอนาคตอีกด้วย ชมป้อม“อัลติฟอร์ท” (Altit Fort) เป็นโบราณสถานที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในเมือง Gilgit-Baliststan มีอายุถึง 900 ปี ตั้งอยู่บน หน้าผาริมแม่น้าฮุ นซ่า มีหอคอยสูงสูดบนป้อมเรียกว่า Shikari tower มองลงมาเห็นหมู่บ้าน Karimabad เรียงรายตามเนินเขา เป็นภาพที่สวยงามมาก ท่านสามารถมองเห็นวิวของหุบเขาฮุนซ่าในมุม360 องศา และสามารถชมยอดเขาสาคัญได้แก่ Sar, Rakaposhi, Bojahagur Duanasir II,Ghenta Peak, Hunza Peak, Passu Peak, Diran Peak และ Bublimotin (Ladyfinger Peak) จากนั้น พาไปเยี่ยมชมย่านการค้าของเมือง Karimabad ชมวิถีชีวิตของคนพื้นเมืองที่อยู่อย่างพอเพียง อิสระเดินเล่นชมร้านค้าจ าหน่าย ของที่ระลึกที่ตั้งตลอดแนวบนถนนสายหลักของเมืองและช้อปปิ้ งสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมายน าท่านเข้าสู๋ที่ พัก ค ่า บริการอาหารค ่า ณ โรงแรม ที่พัก Eagle Nest Resort หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย เป็นรีสอร์ทที่อยู่สูงที่สุดในเมืองคาริมาบัดสามารถมองเห็นหุบเขาเบื้องล่างได้อย่างสวยงามรวมถึงยอดเขาต่าง ที่อยู่รายรอบๆ โดยเฉพาะ เลดี้ฟิงเกอร์ ซึ่งมาจากรูปทรงที่เหมือนนิ้วของหญิงสาว

คาริมาบัด (Karimabad)–ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad lake)-อุทยานแห่งชาติ ช่องเขากุนจี วันที่ 7 ของการเดินทาง ราบพาส (Khunjerab Pass and National Park)-สะพานแขวน–พาสสุกราเซีย-ทะเลสาบบอ วันอังคารที่ 18 เมษายน 2560 ริท-ฮุนซ่า ปลุกตื่น(ตีห้า) นา ท่านเดินข้ ึนไปยงั ดุยเกอร์ (Duiker) เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่ง พร้อมให้ท่านได้เก็บภาพ บรรยากาศแสงพระอาทิตย์กระทบยอดเขาหิมะ ชมทัศนียภาพโดยรอบโดย ณจุดนี้ท่านจะได้เห็นยอดเขาที่มีรูปร่างโดดเด่นแปลก ตาที่เรียกว่า เลดี้ ฟิงเกอร์ (Lady Finger) รูปทรงของยอดเขาไม่ต่างไปจากนิ้วมือของหญิงสาวที่เพรียวงามได้สัดส่วน รวมทั้งได้ เห็นยอดเขาระดับโลกถึง 5 เขาด้วยกัน ทั้ง Rakaposhi (7,788 M), Diran (7,265 M), Golden Peak (7,028 M), Uter Peak (7,388 M) และ Mulogianting Peak 06.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

07.00 น. (ออกจากเมืองคามาบัดสู่ อุทยานแห่งชาติ ช่องเขากุนจีราบประมาณ4ชม.) นาท่านเดินทางไปช่องเขา คุนจีราบ(Khunjerab Pass )ใส่เสื้อกันหนาวหนาๆวันนี้เราจะขึ้นไปที่ คุนจิราบพาสความสูง 4,800เมตร ระหว่างทางแวะชมทะเลสาบอัตตาบัด ( Attabad Lake ) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ที่ตั้งชื่อตามชื่อหมู่บ้าน เกิดเนื่องจากแผ่นดินถล่ม เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2553 และทาให้เกิดเขื่อนและทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าทะเลสาบ Attabad ทาให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน Attabad เสียชีวิตทันที 20 คน และจานวนที่เหลือกว่า 6 พันคนที่อยู่ต้นแม่น้าต้องอพยพหนีน ้าในทะเสสาบที่สูงขึ้นเรื่อยๆและถูก ตัดขาดจากแผ่นดิน แวะถ่ายภาพทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake ชื่นชมวิวทิวทัศน์ความงดงามของทะเลสายสีฟ้าเทอคอยต์ เห็นความงดงาม ของภูเขาสูง… จากน้นั ออกเดินทางต่อ นาท่าน เดินทางต่อสู่ เมืองซอสท์ (Sost) สู่ช่องเขาคุนจีราบและอุทยานแห่งชาติ(Khunjerab Pass and National Park ) ซึ่งตั้งอยู่ในช่วงเขตพรมแดนระหว่างปากีสถานและจีน ที่นี่คือด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลก ชายแดนก่อนจะเข้า อุทยานแห่งชาติ ซึ่ง มีความสูง 4,730 เมตร เหนือระดับน้าทะเล ซึ่งเป็นจุดที่มีความสูงที่สุดบนถนนหลวงลอยฟ้าคาราโครัม ซึ่งจีนและปากีสถานตกลงที่จะสร้างเส้นทางนี้ในปี ค.ศ. 1964 โดยมีเทือกเขาคาราโครัมเป็นเส้นแบ่งแนวตามธรรมชาติขวางอยู่ หลังจากจีนได้สร้างในส่วนของตนตั้งแต่เมืองคัชการ์ (ประเทศจีน) ถึงเมืองกุลมิทประเทศปากีสถานเสร็จในปีค.ศ.1979 ปากีสถานก็สร้างต่อตั้งแต่เมืองกุลมิทตอนใต้ลงไปจรดเมืองราวัลพินดี และแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมปีค.ศ.1982 พร้อมกับเปิด ให้เป็นเส้นทางสาหรับการท่องเที่ยว ส่วนพรมแดนช่องเขากุนจีราบ เปิดให้มีการเดินทางข้ามแดนได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ.1986 เป็นต้น…มาจุดบรรจบแห่งอารยะธรรมโบราณบนเส้นทางสายไหมอันเก่าแก่ด่านช่องเขาคุนจีราบ (Khunjerab Pass) ที่นี่คือด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลกบนเทือกเขา คาราโคลัมซึ่งเดินทางตามแนวเส้นทางสายไหมโบราณที่เชื่อมเอเชียกลางสุด ยุโรป …. เราไปทาเรื่องผ่านด่านที่ เมืองซอสท์ sost วนั น้ ี เราจะผ่านเขตรกั ษาพนั ธส์ ตั วป์ ่ าอุทยานแห่งชาติ คุนจีราบ ที่มีกวางมาร์โค โปโลพรมแดนแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติกุนจีราบ ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์พืชพันธุ์ไม้ป่า รวมทั้งสัตว์ป่าสงวนที่หาดูได้ยาก เช่น แกะมาร์โคโปโลเป็นต้น ตลอดเส้นทางเป็นเทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนบรรยากาศราวสวิสเซอร์แลนด์ สามารถพบเห็นสัตว์หา ยาก เช่นตัว Ibex หรือแพะเขาYak ก็มีที่อาศัยอยู่ตามไหล่เขาสูงจนถึงจุดสุดท้ายที่ด่านชายแดนระหว่าง ปากีสถาน และ จีน ก่อนที่จะออกไปยังประเทศจีนบนเส้นทางสายให้ที่ซิเกี่ยงสร้างประวัติศาสตร์ให้ตัวท่านเองว่าได้มายืนอยู่ ณ เส้นทาง ประวัติศาสตร์โลกลงมาเล่นหิมะกันจนหน าใจบนบรรยากาศเย็นฉ ่าถ่ายรูปกับยอดเขารายล้อม (หมายเหตุ: การข้ ึน Khunjerab Pass and National Park ก็ข้ ึนอยู่กับสภาพอากาศด้วยเช่นกัน)

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นาท่า นชม สะพานแขวนโกจาว ( Gojal Suspension Bridge )สะพานที่ใช้ข้ามแม่น้า ของคนท้องถิ่นชม ทะเลสาบบอริท (Borit Lake) ทะเลสาบน้าจืดสีเขียวใส ที่หลบ ซ่อนตัวอยู่อย่างสงบท่ามกลางหุบเขาสวย แวะถ่ายรูป พาสสุกราเซีย (Passu Glacier) (น าท่านเดินขึ้นไปชมยอดพาสสุกราเซีย อย่างไกล้ชิดประมาณ 10 นาที) หรือเรียกชื่ออีกอย่างว่าธารน้าแข็งสีขาว ชมเส้นทาง ธรรมชาติที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกพาสสุตั้งอยู่บนความสูง 2,400 เมตรเหนือ ระดับน้าทะเล เมืองนี้ตั้งอยู่ระหว่างธารน้าแข็งขนาดใหญ่ 2 แห่งคือ ธารน้าแข็งสีด าบา ทูร่า (Black Batura Glacier) และ ธารน้าแข็งสี ขาวพาสสุ (White Passu Glacier) และยอดเขาฟันเลื่อยที่ยิ่งใหญ่และสวยงามเดินทางกลับสู่หุบเขาฮุนซ่า ..ผ่านหมู่บ้าน กุลมิท (Gulmit Village) น าท่านเดินชม หมู่บ้านเล็กๆ แล้วท่านจะประทับใจกับเสน่ห์ของพวกเค้า ณ ที่นื้ …เดินทางกลับสู่หุบเขาฮุนซ่า ค ่า บริการอาหารค ่า ณ โรงแรม ที่พัก HUNZA EMBASSY HOTEL หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 8 ของการเดินทาง หุบเขาฮุนซ่า-กราเซียฮอปเปอร์ - หุบเขาฮุนซ่า วันพุธ ที่ 19 เมษายน 2560 07.00 น. บริการ อาหารเช้า ณ โรงแรม 08.00 น. นาท่านเปลี่ย นรถเป็ นรถจ๊ีบมุ่งหนา้ ไป ฮอปเปอร์ วัลเล่ย์ (Hopper Valley) เพื่อไปชม กราเซียฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) (ใช้เวลาประมาณ 1.30 ช.ม.) ซึ่งนับเป็นจุด เข้าชมกราเซียที่ใกล้มากท่านจะได้เห็นก ราเซียที่สั่งสมกาลเวลามายาวนานจนแทบ เปลี่ยนจากน้าแข็งกลายเป็นหินซึ่งเห็นได้ จากความเก่าแก่สีออกเทาของกราเซียแห่งนี้ และระหว่างทางไปหุบเขาฮอปเปอร์นอกจาก วิวทิวทัศน์และธรรมชาติที่งดงามแล้วที่ ปลายทางท่านจะได้พบกับความงามของ ธารน้าแข็งฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) ซึ่ง มีความยาวประมาณ 38 กิโลเมตร โดยรอบ

เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคาราโครัม สัมผัสธารน้าแข็งฮอปเปอร์ ที่มาจากยอดเขา Diran และ Rakapochi ให้ท่านได้เก็บภาพ ความประทับใจกันอย่างจุใจ ** วนั น้ ีแนะนา ว่านาปากกา ขนม ไปแจกเด็ก ถ่ายรูปกับเด็กๆ แล้วจะรู้ว่าเด็กๆที่นี่น้นั น่ารกั ขนาดไหน เดินทางกลับเมืองฮุนซ่า.. เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (ฮอปเปอร์ วัลเล่ย์) จากนั้น น าท่านเดินทางกลับสู่หุบเขาฮุนซา เดินชมหมู่บ้านกาเนช (Ganesh Village) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งตั้งถิ่นฐานในยุคสายไหมโบราณในหมู่บ้านฮุนซ่า ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาฮุนซ่า ที่ระดับความสูง 2,440 เมตรเหนือระดับน้าทะเล ในอดีตเรียกหมู่บ้านนี้ว่า หมู่บ้านนักรบ เพราะ กษัตริย์ และนักต่อสู้หลายท่านเกิดที่หมู่บ้านแห่งนี้ ถนนที่ตัดผ่านในหมู่บ้านเป็นรูปตัวเอส "S" มีหินโบราณศักด์ิสิทธ์ิอยู่ใกล้ หมู่บ้านด้วย ลักษณะสถาปัตยกรรมของบ้านแบบเก่าท าเฉพาะในหมู่บ้านนี้ สร้างอย่างประณีต ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ระเบียงบ้าน สวน จนได้รับรางวัลยูเนสโก้ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม อิสระช้อปปิ้ งสินค้าพื้นเมือง....จนถึงเวลานัดหมายน าท่านกลับสู่โรงแรมที่พัก ค ่า บริการอาหารค ่า ณ โรงแรม ที่พัก EMBASSY HOTEL หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย วันที่ 9 ของการเดินทาง หุบเขาฮุนซ่า (Hunza)- จุดที่เชื่อมต่อระหว่างเทือกเขาสาคัญของโลก 3 เทือกเขา วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2560 (junction Point) - ชีราส (Chilas) - บิสซาม (Besham) 06.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม 07.00 น. ออกหุบเขาฮุนซ่า สู่ ซีราส (ประมาณ 4ชม.) บนเส้นทางคาราโครัม ไฮเวย์เรียบไปตาม แม่น้าสินธุชมความงามตามเส้นทางที่ มีน้าตกสายเล็กๆอันเกิดจากหิมะและกราเซียละลาย ระหว่างทางแวะชมจุดที่เชื่อมต่อระหว่างเทือกเขาสาคัญ ของโลก 3 เทือกเขา (junction point) บริเวณเทือกเขาคารา โครัมเป็นเขตติดต่อกันสามประเทศได้แก่ ปากีสถาน จีนและ ของเทือกเขาหิมาลัย ประกอบด้วย เทือกเขาหิมาลัย คารา โครัม และ ฮินดุกุช อินเดีย และเทือกเขาฮินดูกูชเป็นจุดที่ แม่น้าฮุนซ่า มารวมกับแม่น้าสินธุ และเทือกเขา คาราโครัม ฮินดูกูษ และ หิมาลัยมาบรรจบกัน… เราจะแวะพัก รับประทานอาหารกลางวันที่เมืองชีลาส เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (เมืองชีราส) ออกเดินทางสู่ ชีราส (Chilas)-เมืองบีสชาม (Besham) (ประมาณ 7 ชม.) เมืองเบชาม โดยใช้เส้นทางสายคาราโครัมไฮเวย์ (Karakoram Highway – KKH) ตลอดเส้นทางท่านจะได้ชื่นชมกับความงดงามของธรรมชาติที่ปรากฏบนเส้นทางสายนี้ ชมวิว ระหว่างสองข้างทาง....จนถึงโรงแรมที่พักในตอนเย็น ค ่า บริการอาหารค ่า ณ โรงแรม พักที่ PTDC Hotel หรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 10 ของการเดินทาง บีสซาม (Besham) – ตักศิลา (Taxila) – อิสลามาบัด - มัสยิดไฟชอล วันศุกร์ ที่ 21 เมษายน 2560 อิสระชอ้ ปป้ ิ ง - กรุงเทพฯ 05.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม 06.00 น. เมืองบิสชาม –ตักศิลา(ประมาณ 5-6 ชม) เมืองตักศิลา (Taxila) ยูเนสโกได้ให้ความสาคัญกับเมืองตักศิลาและได้รับการ ประกาศว่าเป็นเมืองมรดกโลกทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองโบราณที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัย อเล็กซานเดอร์ มหาราชหลังจาก พระเจ้าอเลกซานเดอร์สวรรคต พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงวางรากฐานพุทธศาสนาในเมืองตักศิลาต่อในพุทธศตวรรษที่ 10-11 พวกฮั่นขาวได้ทาลายวัดพุ ทธศาสนาในเมืองตักศิลาเป็นเมืองโบราณที่อุดมไปด้วยสถาปัตยกรรมและประติมากรรมเก่าแก่และ อดีตราชธานีอันยิ่งใหญ่ของแคว้นคันธาระเมื่อสองพันกว่าปีมาแล้ว เป็นศูนย์กลางแห่งความรู้และปรัชญา เดิมมีชื่อว่า ตักชาศิลา (Takshasila) ซึ่งเป็นภาษาสันสกฤตต่อมาเมื่ออเล็กซานเดอร์มหาราชรุกรานอินเดียเมื่อ 326 ปีก่อนคริสตกาล ทรงมาหยุดพักที่ เมืองนี้ และได้เปลี่ยนชื่อเป็นตักศิลา(Taxila)ในอดีตเมืองนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะเมืองตัดหิน (City of Cut Stone) เพราะหินที่ ใช้สร้างโบราณสถานต่างๆน ามาจากที่นี่นั่นเอง ปัจจุบันก็ยังเห็นชาวบ้านแกะสลักหินอยู่ทั่วไป เช่น ทาครกหิน ป้ายหิน เป็นต้น 12.30 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ระหว่างทาง 14.00 น. เดินทางต่อไป....ถึงเมืองน าท่านชม พิพิธภัณฑ์ตักศิลา (Taxila Museum) ซึ่งรวบรวมสิ่งของล้าค่าไว้มากมายกว่า 7,000 ชิ้น ทั้ง เครื่องประดับที่ทาจากเงิน ทอง และทองเหลืองสมัยเก่า รวมทั้งเพชรพลอย เหรียญเก่าแก่ที่มีอายุไม่ต ่ากว่า 2,000 ปี ซึ่งส่วน หนึ่งเป็นเหรียญกรีกในยุคสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช และพระพุทธรูปสมัยคันธาระ ชิ้นที่งดงามที่สุด คือ พระพักตร์ของ พระพุทธเจ้ายามเมื่อทรงตรัสรู้ งดงามและสงบนิ่ง เป็นผลงานมาสเตอร์พีชที่แสดงให้เห็นถึงฝีมือของศิลปินในยุคนั้น 15.00 น. เมืองตักศิลา- เมืองหลวงอิสลามาบัด(ประมาณ 1 ชม) ถึงเมืองหลวงอิสลามาบัด(Islamabad) ปลายเส้นทางคารา โครัมไฮเวย์เป็นเมืองหลวงของประเทศปากีสถาน มีพื้นที่ 906 ตารางกิโลเมตร ประชากรราว 2 ล้านคน (พ.ศ. 2557) กรุงอิสลามาบัด ถูกสร้างขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1960 เพื่อใช้ เป็นเมืองหลวงของประเทศแทนนครการาจี นาท่าน แวะชม และถ่ายภาพที่ มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) เป็นมัสยิดที่ ใหญ่ที่สุดในอิสลามาบัด สร้างเสร็จในปี 1986 ออกแบบโดย

สถาปนิกชาวตุรกี ลักษณะคล้ายเต็นท์กลางทะเลทรายซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งเป็นมัสยิดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของ เอเชีย และเป็นมัสยิดที่สวยที่สุดและใหญ่ที่สุดในปากีสถาน ตั้งอยู่ที่เมืองอิสลามาบัด มัสยิดไฟซาลสร้างเป็นทรงคล้ายกระโจม 8 เหลี่ยมกลาง ทะเลทราย มัสยิดนี้ได้ชื่อตามพระนามของ กษัตริย์ไฟซาล บิน อับดุล เอซิส แห่ง ราชวงศ์ของซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากได้บริจาคค่าก่อสร้างเป็นเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐมัสยิดสามารถจุคนได้ 74,000 คน ในขณะที่มีพื้นที่ครอบคลุมหลัก ประมาณ 5,000 ตารางเมตร มีสี่หออะซานที่สวยงาม และพื้นสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดในโลก ก่อนอาลาปากีสถาน น าท่านช้อปปิ้ งของฝากที่ Centaurus Department Store ที่ใหญ่ที่สุดของปากีสถานอิสระ ช้อปปิ้ ง จนถึง เวลานัดหมายน าท่านเดินทางสู่สนามบิน 20.00 น. ท่านเดินทางสู่สนามบิน (อิสระอาหารค ่าภายในสนามบินอิสลามาบัดเพื่อความสะดวกในการเช็คอิน) 23.20น. ออกเดินทางจาก อิสลามาบัด โดยสายการบิน เที่ยวบินที่ TG350 (ใช้เวลาเดินทาง 4 ชม. 30 นาที) รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่อง วันที่ 11 ของการเดินทาง กรุงเทพฯ วันเสาร์ 22 เมษายน 2560 06.25น. ✈เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ H I M A L A Y A N H O L I D A Y S

หมายเหตุ : 1. เวลาที่ปรากฏในโปรแกรมกับการปฏิบัติจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขอให้ท่านรับทราบคาแนะน าการเปลี่ยนแปลงการนัด หมายเวลาใน การทากิจกรรมอีกครั้งจากหัวหน้าทัวร์ 2. บริษัทอาจทาการเปลี่ยนแปลงรายการ ได้ตามความจ าเป็นและเหมาะสม แต่จะยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสาคัญ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาวะ ของสายการบิน โรงแรมที่พัก ภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงานฯลฯ ตลอดจนสภาวะทาง เศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมือง ภายใน อันเป็นสาเหตุให้ต้องเลื่อนการเดินทางหรือไม่สามารถจัดพาคณะท่องเที่ยว ได้ตามรายการ อัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ (พักห้อง 2-3 ท่าน) ท่านละ 69,900.- บาท พักเดี่ยวจ่ายเพิ่ม ท่านละ 15,500.- บาท เงื่อนไขในการจองทัวร์ กรุณาจองที่นั่งล่วงหน้า อย่างน้อย 1เดือน ก่อนการเดินทาง พร้อมชาระเงินมัดจ าท่านละ 20,000 บาท เมื่อทาการจอง พร้อมกับส่ง หน้าพาสปอร์ตและเอกสารสาหรับการท าวีซ่า ส่วนที่เหลือชาระภา ยใน 20 วันก่อนการเดินทางมิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ ค่าบริการรวม

 ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัด โดยสายการบินไทย เส้นทาง กรุงเทพฯ – อิสลามาบัด - กรุงเทพฯ (กระเป๋าเดินทางน้าหนัก ตามที่สายการบินกาหนด )  ค่าภาษีสนามบิน ค่าภาษีน้ามัน และค่าประกันภัยทางอากาศ  ค่าที่พักโรงแรมตามที่ระบุ ตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)  ค่าอาหารตามโปรแกรมที่ระบุ  ค่าเครื่องดื่ม (น้าเปล่า ) ภายในภัตตาคาร ระหว่างมื้ออาหาร และบนรถโค้ช  ค่าพาหนะ รถรับ-ส่ง ตลอดการเดินทาง  ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ตามระบุในโปรแกรม  ค่าวีซ่าปากีสถาน สาหรับหนังสือเดินทางประเทศไทย (แบบเข้า-ออก ครั้งเดียว)  ค่าบริการน าทัวร์ และคอยดูแลอานวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 1 ท่าน  ค่าประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางส่วนบุคคล จานวนเงินประกันภัย 1,000,000 บาท, ค่ารักษาพยาบาล จานวนเงินประกันภัย 500,000 บาท, ค่าเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากต่างประเทศ จานวนเงินประกันภัย 1,00,000 บาท ค่าบริการไม่รวม  ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น 4 USD / คน / วัน  ค่าทิปคนขับรถ 3 USD / คน / วัน  ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน  ค่าทาหนังสือเดินทาง (PASSPORT) และเอกสารวีซ่าของคนต่างด้าว  ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มในห้องพัก และค่าอาหารที่สั่งมาในห้องพักค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ ในร้านอาหารนอกเหนือจากรายการ  ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ  ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%  ค่าธรรมเนียมน้ามันของสายการบิน (หากมีการปรับขึ้น) การยกเลิก และการเปลี่ยนแปลง . ยกเลิกก่อนออกเดินทาง 30 วัน . คืนค่ามัดจา 100% . ยกเลิกก่อนออกเดินทาง 20-29 วัน . หักมัดจา 20,000 บาท/ท่าน หรือเรียกเก็บตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง . ยกเลิกก่อนออกเดินทาง 1-19 วัน . เก็บค่าบริการ 100% เงื่อนไขอื่นๆ . บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ิการเปลี่ยนแปลงโปรแกรม ราคา และเงื่อนไขท้งั หมดโดยมิตอ้ งแจง้ ใหท้ ราบล่วงหนา้ . บริษัทฯ มีสิทธ์ิที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทวั รน์ ้ี เมื่อเกิดเหตุสุดวิสยั จนไมอ่ าจแกไ้ ขได ้ . รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เนื่องจากความล่าช้าของสายการบิน โรงแรมที่พักในต่างประเทศ เหตุการณ์ทาง การเมือง และภัยธรรมชาติ ฯลฯ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯ หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การ

เจ็บป่วย การถูกทาร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะคานึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกของผู้ เดินทางเป็นสาคัญ . บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง ห้ามผู้เดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือสิ่งของห้ามน าเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ ความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย หรือด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว ทาง บริษัทฯ ไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ ไม่ว่าจานวนทั้งหมด หรือ บางส่วน . รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สา รองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศ เป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม . บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย งดออกเอกสารเข้าเมืองให้กับชาวต่างชาติ หรือ คนต่างด้าวที่พานัก อยู่ในประเทศไทย . บริษัทขอสงวนสิทธ์ิที่จะเลื่อนการเดินทางในกรณีที่มีผรู้ ว่ มคณะไมถ่ ึง 10 ท่าน . การไม่รับประทานอาหารบางมื้อไม่เที่ยวตามรายการ

เอกสารการยื่นวีซ่าวีซ่าปากีสถาน 1. หนังสือเดินทาง/ทั้งเล่มเก่าและเล่มใหม่ (ถ้ามี)/(พร้อมสาเนา ) 2. รูปสีพื้นหลังขาว 2 นิ้ว/ 2 ใบ (รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมแว่นถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน) 3. จดหมายรับรองการทางาน (ภาษาอังกฤษ) ระบุ ตาแหน่ง เงินเดือน และ วันเดือนปี ที่เริ่มเข้าทางาน (ฉบับจริง) 4. จดหมายชี้แจงการทางาน (ภาษาอังกฤษ)/(กรณีประกอบอาชีพโดยไม่มีใบทะเบียนการค้า) ระบุ ตา แหน่ง เงินเดือน และ วันเดือนปี ที่ เริ่มทา 5. สาเนาหนังสือรับรองของบริษัท (กรณีเป็นเจ้าของบริษัท)/(แปลเป็นภาษาอังกฤษ) และ หลักฐานการเงินของบริษัท **หมายเหตุ สาหรับท่านที่ปลดเกษียณหรือไม่ได้ท างานงานแล้ว รบกวนช่วยแจ้งรายเลียดสาหรับอาชีพเก่าพร้อมสถานที่ท างาน ทางเราจะทา หนังสือแนะน าตัวให้ 6. สาเนาบัตรประชาชน 7. สาเนาทะเบียนบ้าน 8. หลักฐานการเงินใช้ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน( ใช้เล่มบัญชีธนาคารถ่ายเอกสารและเซ็นรับรองสาเนาทุกใบได้ค่ะ ) (ส่วนตัว) 9. หนังสือเชิญจากต่างประเทศ (ธุรกิจ) 10. สาเนาใบสมรส /ใบหย่า/ใบมรณะ (ถ้ามี)/(แปลเป็นภาษาอังกฤษ) 11. สาเนาใบเปลี่ยนชื่อ -สกุล (ถ้ามี)/(แปลเป็นภาษาอังกฤษ)

** จึงเรียนเพื่อให้ท่านทราบและกราบขออภัยในความไม่สะดวกล่วงหน้า **