ดื �าจ น้ มง ระ าป น ัฒ ะพ แล จิ ยั กว นั ส้า ดื �าจ น้ มง ระ าป น ัฒ ะพ แล จิ ยั กว นั ส้า ดื �าจ น้ มง ระ าป น ัฒ ะพ แล จิ ยั กว นั ส้า ดื �าจ น้ มง ระ าป น ัฒ ะพ แล จิ ยั กว นั ส้า ดื �าจ น้ มง ระ าป น ัฒ ะพ แล จิ ยั กว นั ส้า การเดินทางของปลาผ่านบันไดปลาฝายร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด

จามิกร พิลาศเอมอร

ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงนําจืดร้อยเอ็ด หมู ่ ๔ ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ๔๕๑๗๐ วชิระ กว้างขวาง

ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงนําจืดอุบลราชธานี อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ๓๔๐๐๐ เบญจมาศ มุสิแก้ว ดื ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงนําจืดขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น ๔๐๐๐๐ จ ้�า

บทคัดย่อ น ง การศึกษาการเดินทางของปลาผา่ นบันไดปลาฝายร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ดม ตลอดฤดูกาลเก็บกกนํั า ของฝาย ระหวางเดือนธันวาคม่ 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548 เพื.อศึกษาชนิดปริมาณปลาในรอบวันของการระ เดินทาง ความสัมพันธ์ของการเดินทางต่อช่วงเวลาข้างขึนข้างแรมป ปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมง ของเครื.องมือข่ายบริเวณเหนือฝายและท้ายฝาย ข้อมูลที.ได้นํามาวิเคราะห์โดยการหาคา ่าความถี. ความสัมพันธ์ เป็นคาเฉลี.ยและค่ าร้อยละ่ น ผลการศึกษาพบวา่ ปลาสามารถเดินทางผานบันได่ ปลารวมทังสิน 24 ชนิด จาก 2 วงศ์ ได้แก่ Cobitidae วงศ์ปลาตะเพียน ( ) จํานวน 21 ชนิด และวงศ์ปลาหมูัฒ ( ) จํานวน 3 ชนิด ปลาชนิดเด่น Henicorhynchus siamensis ที.เดินทางผ่านบันไดปลาได้เป็นจํานวนมากพ 4 ชนิด คือ ปลาสร้อยขาว( ) Crossocheilus reticulatus Botia ร้อยละ 61.35 รองลงมาได้แก่ ปลาจิงจอก ะ( ) ร้อยละ 9.88 ปลาหมูข้างลาย ( helodes ล Acantopsis choirorhynchos ) ร้อยละ 6.21 และปลารากกล้วย ( ) ร้อยละ 5.33 มีปลา 3 ชนิดที.เดิน แ Barbodes altus ทางผานบันไดปลา่ ในช่วงเวลากลางคืนทัยั งหมด คือ ปลาตะเพียนทอง ( ) ปลาสร้อยนกเขา Osteochilus hasselti Osteochilus lini ( จิ) และปลาหน้าหมอง ( ) และพบปลา 4 ชนิดที.เดินทางเฉพาะในเวลา Rasbora dusonensis oxygastroides กลางวัน คือ ปลาซิวควายว ( ) ปลาแปบ (1) ( ) ปลากระแห Barbodes schwanefeldiัก Osteochilus melanopleurus ( น ) และปลาพรมหัวเหม็น ( ) ช่วงเวลาข้างขึนมีปลา เดินทางผ้าานบันไดปลาร้อยละ่ 98.45 มากกวาข้างแรมที.มีเพียงร้อยละ่ 1.55 ค่าเฉลี.ยปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลง แรงประมงส ในบริเวณท้ายฝายมีค่า 22.70 กรัมต่อพืนที.ข่าย 100 ตารางเมตรต่อชัวโมง. ซึ.งสูงกวาในบริเวณเหนือ่ ฝายที.มีคา่ 13.72 กรัมตอพื่ นที.ขาย่ 100 ตารางเมตรตอชั่ วโมง.

คําสําคัญ : ฝายร้อยเอ็ด บันไดปลา การเดินทางของปลา

2 MIGRATION OF FISH THROUGH FISH PASSWAY AT ROI ET DAM

Chamikorn Pilasemorn Roi Et Inland Fisheries Research and Development Center, Roi Et Province 45170, Thailand

Wachira Kwangkhwang Ubolratchathani Inland Fisheries Research and Development Center, Ubolratchathani Province 32000, Thailand

Benjamas Musikaew ดื Khon Kaen Inland Fisheries Research and Development Center, จ Khon Kaen Province 40000, Thailand ้�า น ABSTRACT ง ม A study on migration of fish through fish passwayะ was conducted during December 2004 to April 2005 at Roi Et dam. Detailed dataร was collected on fish species, number of migrated fish, migration time of day, relationาป of migration and full moon cycle period, catch per unit effort of gill net. น The result showed that 24 species could migrate through the fish passway. Twenty one species were Cyprinidae and otherัฒ three species were Cobitidae. Four dominant species migrated to the fish ladder wereพ Henicorhynchus siamensis 61.35 %, Crossocheilus reticulatus 9.88 %, Botia helodes 6.21ะ % and Acantopsis choirorhynchos 5.33 %. Barbodes altus, Osteochilus hasselti,and Osteochilusล lini were only 3 species that migrated in night time. Day time migrated fish wasแ found 4 species, Rasbora dusonensis, , Barbodes schwanefeldiจิ ยั and Osteochilus melanopleurus. 98.45 % of fish migrated in fullmoon period and only ว1.55 % migrated in dark period. CPUE at lower area of the dam was 22.70 gram/100 m2ัก/hour, and CPUE at higher dam area was 13.72 gram/100 m2/hour. น Key ้าwords : Roi Et dam, Fish passway, Fish migration. ส

3

คํานํา

การใช้ประโยชน์จากแหล่งนําธรรมชาติในปัจจุบัน ได้กาหนดให้มีการใช้ประโยชน์หลายๆํ ด้าน ไปพร้อมกนั ทังเพื.อการอุปโภค บริโภค เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การทองเที.ยวและแหล่ ่งพลังงาน การสร้างเขื.อน ฝาย ประตูนํา และโรงไฟฟ้าพลังนําเป็นสิ.งที.จําเป็นอยางยิ่ .งในการพัฒนาประเทศ แต่การก่อสร้างดังกล่าวทําให้ เกิดการเปลี.ยนแปลงขวางกนทิศทางการไหลของมวลนํั าธรรมชาติซึ.งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสัตว์นํา ที.เดินทางเพื.อเสาะแสวงหาอาหารและอพยพย้ายถิ.นตามวงจรชีวิต เป็นสาเหตุให้ปลาและสัตว์นําบางชนิด ไม่สามารถเดินทางไปผสมพันธุ์วางไข่และหาแหล่งอาหารที.อุดมสมบูรณ์ได้เหมือนในอดีต จ ส่ดืงผลให้ เกิดการเปลี.ยนแปลงโครงสร้างของประชากร การแพร่กระจายและความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์นํ้�า าลดลง ฝายร้อยเอ็ดเป็นอีกโครงการหนึ.งที.สร้างเพื.อกกเกั ็บนําไว้ใช้ในการเกษตรและอุปโภคบริโภคน ช่วงขาดแคลนนําภายใต้การดูแลของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตังงอยูห่ ่างจากอําเภอเมือง ร้อยเอ็ด เป็นระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร กนแมั ่นําชีที.บริเวณบ้านดอนวิเวก ตําบลพระธาตุม ก.ิงอําเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด (รูปที. 1) ลักษณะฝายเป็นแบบใช้บานประตูบังคับนําแบบเหล็กโค้งะ 6 บาน กว้างช่องละ 12.5 เมตร เกบก็ กนํั าได้สูง 6 เมตร จากระดับพืนท้องแมนํ่ า (124 เมตร รทก.) มีช่องบันไดปลาขนาดกว้างร 4 เมตร (รูปที. 2) fish way fish ladder ป บันไดปลา ( หรือ ) เป็นอุปกรณ์อยา างหนึ.งที.สร้างขึ่ นมา เพื.อช่วยให้สัตว์นํา อาทิ กุง้ ปู ปลา สามารถเดินทางผานโตรกผา่ นําตกที.สูงชันและเขื.อนที.สร้างขึน นในแมนํ่ าลําคลองไปได้ บันไดปลา เป็นทางเลือกทางหนึ.งที.ช่วยลดผลกระทบที.จะเกัฒิดต่อสัตว์นําที.เคยอาศัยอย่างเสรีและเดินทางขึนล่องตาม วัฏจักรในรอบปี ในประเทศไทยมีการสร้างบันไดปลาพ เช่น บึงบรเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ หนองหาร จังหวัด สกลนคร กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา เขื.อนเพชระ จังหวัดเพชรบุรี เขื.อนพระรามหก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเขื.อนปากมูล จังหวัดอุบลราชธานีล (เสน่ห์, 2521) การศึกษาการเดินทางของปลาผแ านบันไดปลาฝายร้อยเอ็ด่ เพื.อต้องการทราบข้อมูลการเดินทาง ของปลาผานบันไดปลา่ ทังชนิดยั ปริมาณ ช่วงเวลาในรอบวัน และความสัมพันธ์ของการเดินทางของปลาต่อ ช่วงเวลาข้างขึนข้างแรมรวมทัวจิ งศึกษาปัจจัยทางเคมีและกายภาพของแมนํ่ า โดยดําเนินการตลอดฤดูกกเกั ็บนํา ของฝายร้อยเอ็ดัก ซึ.งข้อมูลที.ได้จะสามารถนํามาใช้ในการบริหารจัดการบันไดปลาของฝายร้อยเอ็ด และ ประกอบการพิจารณาเพื.อตัดสินใจในการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์จากแหลน ่งนําธรรมชาติอื.นๆ ที. จําเป็นต้องสร้างเขื.อน้า หรือฝายตอไป่ ส

4

ดื จ ้�า งน ม ะ ร ป า รูปท ี 1 แผนที.สังเขปแสดงที.ตังโครงการฝายร้อยเอ็ด หมู ่ 4 บ้านดอนวิเวกน ต.พระธาตุ ก.ิง อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ัฒ พ ะ ล แ ยั บันไดปลาจิ ว ั ก น ส้า

รูปท ี 2 ภาพถ่ายแสดงลักษณะท้ายฝายร้อยเอ็ด (ซ้าย) และบันไดปลาฝายร้อยเอ็ด (ขวา)

5

วัตถุประสงค์

ศึกษาการเดินทางของปลาผา่ นบันไดปลาฝายร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด เพื.อทราบ 1. ชนิดและปริมาณปลาที.เดินทางผานบั่ นไดปลา 2. ช่วงเวลาในรอบวันที.ปลาเดินทางผานบันไดปลา่ 3. ความสัมพันธ์ของการเดินทางของปลาผานบันไดปลาต่ ่อช่วงเวลาข้างขึนและข้างแรม 4. ปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมงของเครื.องมือข่ายบริเวณเหนือและท้ายฝาย 5. คุณภาพนําและการเปลี.ยนแปลง ดื จ วิธีดําเนินการ �า น้ ศึกษาการเดินทางของปลาผา่ นบันไดปลาฝายร้อยเอ็ด ดําเนินการตลอดระยะเวลาชง ่วงปิดฝายและ เปิดระบบบันไดปลา ระหวางเดือนธันวาคม่ 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548 ของโครงการฝายร้อยเอ็ดม กรมชลประทาน มีวิธีดําเนินการดังนี ะ ปร 1. วางแผนการวิจัย า น ประสานงานกบั หน่วยงานรับผิดชอบโครงการฝายร้อยเอ็ด เกี.ยวกบแผนการเกั ็บกกนํั า แผนการเปิด ระบบบันไดปลาในปี พ.ศ. 2547 ถึง 2548 เพื.อนํามากัฒาหนดชํ ่วงเวลารวบรวมข้อมูล และขออนุญาตหน่วยงานที. รับผิดชอบโครงการฝายร้อยเอ็ด ในการดําเนินการเกพ ็บรวบรวมข้อมูล แล้วดําเนินการจัดเตรียมเครื.องมือที.ใช้ เกบข้อมูลดั็ งนี ะ 1.1 เครืองมือรวบรวมปลาบริเวณบันไดปลาล สร้างกระชังที.มีขนาดเทแ าก่ บทางออกของบันไดปลาขัั นสุดท้ายที.สามารถเก็บรวบรวมปลา ยั orifice ได้ทังหมดทังปลาที.กระโดดและปลาที.ลอดจิ ช่องระบาย ( )ผ แ นก่ นห้วงพักนํั าของบันไดปลา เพื.อเก็บ ข้อมูลชนิดและปริมาณปลาที.เดินทว างผ่านบันไดปลา ช่วงเวลาในรอบวันที.ปลาเดินทางผ่านบันไดปลา ความสัมพันธ์ ั ก ของการเดินทางของปลาผานบันไดปลาต่ อช่ ่วงเวลาข้างขึนและข้างแรม น 1.2 เครืองมือส่มตัวอย่างปลาุ ้า เตรียมเครื.องกาเนิดไฟฟ้าขนาดํ 650 วัตต์ ความต่างศักย์ 220 โวลต์ เพื.อเก็บตัวอยางป่ ลา ในบริเวณเหนือฝายส ท้ายฝาย และบริเวณขันแรกของบันไดปลา เตรียมเครื.องมือข่ายที.มีขนาดช่องตา 20, 30, 40, 55 และ 70 มิลลิเมตร ที.ความยาว 15, 30, 30, 50 และ 50 เมตร ตามลําดับ โดยข่ายมีความลึก 2 เมตร ทุกขนาดช่องตา จํานวน 6 ชุด เพื.อนําไปศึกษาปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมงของเครื.องมือข่ายบริเวณเหนือและท้าย ฝาย 1.3 เครืองมือวิเคราะห์คุณภาพนํ#า เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ และเครื.องมือวิเคราะห์คุณภาพนํา ได้แก่ อุณหภูมิ ความโปร่งแสง ปริมาณออกซิเจนละลาย ความเป็นกรดเป็นด่าง ความเป็นด่าง และปริมาณแอมโมเนีย บันทึกปริมาณนําที.ผานฝาย่ ระดับนําหน้าฝายและท้ายฝาย เพื.อเกบข้อมูลนํามาเปรียบเทียบการเปลี.ยนแปลงตลอดช็ ่วงระยะเวลาดําเนินการวิจัย

6

2. การรวบรวมข้อมูล

2.1 ชนิดและปริมาณปลาทีเดินทางผ่านบันไดปลา รวบรวมข้อมูลการเดินทางผ่านบันไดปลาฝายร้อยเอ็ดตลอดฤดูกาลเก็บกักนําของฝาย ในระหวางเดือนธันวาคม่ 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548 โดยกาหนดเกํ บข้อมูลเดือนละ็ 2 วัน รวมเก็บข้อมูลเป็นเวลา 10 วัน เกบข้อมูลตลอด็ 24 ชัวโมงในแต. ละวัน่ นําข้อมูลปลาที.เดินทางผานบันไดปลามาจําแนกชนิดเปรียบเทียบ่ กบชนิดที.จับได้โดยใช้กระแสไฟฟ้าั นําปลาที.เดินทางผานบันไดปลามานับจํานวนและชั่ งวัดนํ. าหนักจ แล้วนํามาดื คํานวณเป็นร้อยละของนําหนักปลาแตละชนิดต่ อนํ่ าหนักปลาทังหมดที.เดินทางผานบันไดปลา่ ้�า 2.2 ช่วงเวลาในรอบวันทีปลาเดินทางผ่านบันไดปลา น รวบรวมข้อมูลการเดินทางผานบันไดปลาฝายร้อยเอ็ด่ เดือนละ 2 วัน งตลอด 24 ชัวโมงในแต. ่ละ วัน โดยเกบตัวอย็ างปลาเพื.อนํามาชั่ งนํ. าหนักและวัดความยาวทุก 3 ชัวโมง. รวมวันละม 8 ครัง แบ่งเป็นกลางวัน 4 ครัง คือเวลา 6.01 - 9.00 นาฬิกา 9.01-12.00 นาฬิกา 12.01-15.00 นาฬิกา และร 15.01-18.00ะ นาฬิกา กลางคืน 4 ครัง คือเวลา 18.01 - 21.00 นาฬิกา 21.01-24.00 นาฬิกา 0.01-3.00 นาฬิกาป และเวลา 3.01-6.00 นาฬิกา นําปลามา จําแนกชนิดเพื.อรายงานจํานวนปลาแต่ละชนิดเดินทางผานบันไดปลาต่ า ่อชัวโมง. และร้อยละของการเดินทางของ ปลาแตละชนิด่ ในแตละช่ ่วงเวลา น 2.3 ความสัมพันธ์ของการเดินทางของปลาผ่านัฒ บันไดปลาต่อช่วงเวลาข้างขึ#นและข้างแรม รวบรวมข้อมูลการเดินทางผพ่านบันไดปลาฝายร้อยเอ็ดในช่วงวันข้างขึนและวันข้างแรม โดยเก็บข้อมูลในวันต่างๆ รวม 10 ครัง ดังนีะ แรม 15 คํ.าในวันที. 11 ธันวาคม 2547 ขึน 15 คํ.าในวันที. 26 ธันวาคม 2547 แรม 14 คํ.าในวันที. 9 มกราคม 2548ล ขึน 15 คํ.าในวันที. 24 มกราคม 2548 แรม 15 คํ.าในวันที. 8 กุมภาพันธ์ 2548 ขึน 15 คํ.าในวันที. 23 กุมภาพันธ์แ 2548 แรม 14 คํ.าในวันที. 9 มีนาคม 2548 ขึน 15 คํ.าในวันที. 24 มีนาคม 2548 แรม 15 คํ.าในวันที. 8 เมษายนยั 2548 และขึน 15 คํ.าในวันที. 23 เมษายน 2548 นําข้อมูลชนิดปลามาจําแนก และรายงานเป็นร้อยละเปรียบเทียบวจิ ความสัมพันธ์ของการเดินทางผานบันไดปลาของปลาต่ ่อช่วงเวลาข้างขึน และข้างแรม ัก น2.4 ปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมงของเครืองมือข่ายบริเวณเหนือและท้ายฝาย ้า นําข่ายที.มีขนาดช่องตาต่างๆ กนทัั ง 5 ขนาดช่องตา มารวบรวมตัวอยางเพื.อศึกษาปริมาณผลจับ่ ปลาตส่อหน่วยลงแรงประมงบริเวณเหนือฝายห่างบันไดปลา 200 เมตร และบริเวณท้ายฝายห่างบันไดปลา 200 เมตร โดยรวบรวมตัวอยางจุดละ่ 3 ซํา ในช่วงเวลากลางวัน 12 ชัวโมง. เวลากลางคืน 12 ชัวโมง. แล้วนําปลาที. จับได้ มาแยกชนิด ชังนํ. าหนัก ด้วยเครื.องชังที.มีความละเอียด. 2 กรัม และวัดความยาวด้วยไม้วัดความยาวที.มีความ ละเอียด 0.1 เซนติเมตร เพื.อนําข้อมูลไปคํานวณตามสูตรและวิธีการต่าง ๆ ส่วนชนิดปลาที.ยังไม่สามารถ จําแนกได้ จะเก็บรักษาไว้ในฟอร์มาลินเข้มข้น 10 เปอร์เซ็นต์ เพื.อนําไปแยกชนิดในห้องปฏิบัติการตาม Smith Taki Rainboth หนังสือของ (1945); (1974) ; (1996) และ ชวลิตและคณะ (2540) ตอไป่

7

2.5 คุณภาพนํ#าและการเปลียนแปลง ทําการศึกษาคุณภาพนําโดยการวัดและวิเคราะห์คุณภาพนํา โดยเก็บตัวอยางนํ่ าที.ระดับผิวนํา kemmerer ในช่วงเวลา 9.00-10.00 น. โดยใช้กระบอกเกบนํ็ าแบบ เพื.อทําการวิเคราะห์คุณภาพนํา ดังนี thermometer probe SOLOMAT c -อุณหภูมิของนํา (องศาเซลเซียส) โดยใช้ เครื.อง 520 secchi disc plate -ความโปร่งแสง (เซนติเมตร) โดยใช้ titrimetric method -ปริมาณออกซิเจนละลาย (มิลลิกรัมตอลิตร่ ) โดยวิธี -ความเป็นกรดเป็นด่าง โดยใช้วิธีเทียบสี CaCO itrimetric method -ความเป็นด่าง (มิลลิกรัมตอลิตร่ ) ในรูป 3 โดยวิธี t ดื total ammonia จ -ปริมาณแอมโมเนีย (มิลลิกรัมตอลิตร่ ) ในรูป โดยใช้วิธีเทียบสี้�า -บันทึกข้อมูลระดับนําเหนือฝายและท้ายฝาย (เมตร รทก.) น -บันทึกข้อมูลปริมาณนําผานฝาย่ (ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ง ม 2. การวิเคราะห์ข้อมูล ระ ป ดําเนินการเปรียบเทียบชนิดและปริมาณปลาที.เดินทางผา ่านบันไดปลา และที.จับได้ด้วย กระแสไฟฟ้าบริเวณเหนือฝายและท้ายฝาย รวบรวมข้อมูลปลาที.เดินทางผน ่านบันไดปลาเป็นจํานวนตัวและ นําหนัก รายงานผลในรูปจํานวนร้อยละ นําข้อมูลจํานวนปลาที.เดินทางผัฒ านบันไดปลาในแต่ ่ละช่วงเวลามา หาความถี.การเดินทางแล้วรายงานผลเป็นจํานวนตัวตพ ่อชัวโมง. ร้อยละของการเดินทางตามช่วงเวลากลางวัน และกลางคืน ะ เปรียบเทียบความสัมพันธ์ของการเดินทางผล ่านบันไดปลาของปลาต่อช่วงเวลาข้างขึนและ ข้างแรม โดยนําข้อมูลจํานวนตัวของปลาแตแ ่ละชนิดมาคํานวณหาค่าร้อยละ วิเคราะห้อมูลปริมาณผลจับปลา ต่อหน่วย ลงแรงประมงของเครื.องมือข่ายบริเวณเหนือฝายและท้ายฝาย ในการศึกษาครังนีได้กาหนดหนํ ่วย ยั catch per unit of effort ; ผลจับเป็นกรัม ต่อพืนที.ขจิ ่าย 100 ตารางเมตรต่อชัวโมง. โดยใช้ค่าผลจับต่อหน่วยเวลา ( CPUE ) ซึ.งเป็นคาที.แสดงถึงปริมาณปลาที.จับได้ต่ ว ่อหนึ.งหน่วยเวลาของการใช้เครื.องมือประมงชนิดใดชนิดหนึ.ง Swingle, หรือผลตอบแทนตักอการทําการประมงในช่ ่วงเวลานันๆ ( 1950) คํานวณจากสูตร น ้า CPUE = นําหนักปลาทังหมด (กรัมต่อพืนที.ขาย่ 100 ตารางเมตร) ส ระยะเวลาที.จับปลา (ชัวโมง. )

วิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพนํา ระดับนํา ในบริเวณเหนือฝายท้ายฝาย และบันไดปลา ตลอดจนข้อมูล ปริมาณนําที.ไหลผานฝาย่ แล้วรายงานผลในรูปของคาพิสัย่ และคาเฉลี.ย่

8

ผลการศึกษา

1. ชนิดและปริมาณทีเดินทางผ่านบันไดปลา

ผลการศึกษาชนิดปลาที.เดินทางผา่ นบันไดปลาฝายร้อยเอ็ดและชนิดปลาที.จับได้ด้วยข่ายและ กระแสไฟฟ้าบริเวณเหนือฝายและท้ายฝาย ตลอดฤดูกาลเก็บกกนํั าระหว่างเดือนธันวาคม 2547 ถึงเดือน เมษายน 2548 พบผลการศึกษาดังแสดงไว้ในตารางที. 1 ดังนี ดื ้�าจ 1.1 ชนิดปลาทีเดินทางผ่านบันไดปลา และทีพบบริเวณเหนือฝายและท้ายฝาย น Cyprinidae ปลาสามารถเดินทางผา่ นบันไดปลารวมทังสิน 24 ชนิด จาก 2 วงศ์ คือวงศ์ปลาตะเพียนง ( ) Cobitidae จํานวน 21 ชนิด และวงศ์ปลาหมู ( ) จํานวน 3 ชนิด ซึ.งปลาในวงศ์ปลาตะเพียนเดินทางผม านบันไดปลา่ ะ X โดยการกระโดด ส่วนวงศ์ปลาหมูส่วนใหญเดินทางผ่ านบันไดปลาโดยลอดช่ ร่องระบายขนาด 15 20 เซนติเมตร ที.เจาะทะลุติดพืนของแผนก่ นห้วงพักปลาั 2 ช่องในแตละแผ่ นก่ นั ป การสํารวจชนิดปลาในบริเวณเหนือฝายและท้ายฝายโดยกระแสไฟฟ้าโดยา เครื.องกาเํ นิดไฟฟ้าขนาด 650 วัตต์ ความต่างศักย์ 220 โวลต์ ช๊อตเป็นเวลา 30 นาทีน ในวันที.รวบรวมข้อมูล พบปลาบริเวณเหนือฝาย จํานวน 66 ชนิด จาก 17 วงศ์ และบริเวณท้ายฝายจํานวนัฒ 60 ชนิด จาก 17 วงศ์ เมื.อเปรียบเทียบชนิดปลา ที.เดินทางผานบันไดปลาก่ บชนิดที.พบบริเวณท้ายฝายและเหนือฝายั พ พบวาปลาทุกชนิดที.พบเดินทางผ่ านบันได่ ปลาพบในบริเวณท้ายฝายหรือเหนือฝายด้วยะ ชนิดปลาที.พบในบริเวณท้ายฝายที.ไมล พบเดินทางผ่ านบันไดปลามีจํานวน่ 36 ชนิด ได้แก่ ปลาสลาด ปลาซิวแกว้ ปลาซิวหางแดง ปลาซิวข้างลายแ ปลาไส้ตันตาแดง ปลาหนามหลัง ปลาตะเพียนขาว ปลาตะเพียน ทราย ปลาแกมชํ้ า ปลากระสูบจุดจิ ยั ปลากระสูบขีด ปลาหมูหางแดง ปลาหมูคอก ปลาแขยงหิน ปลาแขยงใบข้าว ปลากดเหลือง ปลาปีกไกว ่ ปลานําเงิน ปลาชะโอน ปลาเค้าขาว ปลาหลดจุด ปลาหลดลาย ปลากระทิง ปลาสังกะวาด ปลากระทุงเหว กปลาไหล ปลาแป้นแกว้ ปลาหมอช้างเหยียบ ปลานิล ปลาบู่ ปลาหมอไทย ปลากระดี.หม้อ ปลากริม ปลากระสง ปลากั าง้ (กงั ) และปลาลินหมา น   ้า ส

9

ตารางที 1 ชนิดปลาที.เดินทางผานบันไดปลา่ และพบบริเวณเหนือฝายและท้ายฝายที.จับได้โดยกระแสไฟฟ้า ในฤดูเกบก็ กนํั าระหว่างเดือนธันวาคม 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548

ชนิดปลา ชื.อวิทยาศาสตร์ เหนือฝาย ท้ายฝาย ผานบันได่ Family Notopteridae

Notopterus notopterus (Pallas,1780)

1. สลาด + + - Chilata ornata (Gray,1831) 2. กราย + - ดื - Family Clupeidae จ

Clupeichthys aesarnensis Wongratana,1983 ้�า 3. ซิวแกว้ + + - Family Cyprinidae น

ง Parachela oxygastroides (Bleeker,1852) 4. แปบ (1) ม+ + + (Gunther,1868) ะ 5. แปบ (2) + + + Rasbora dusonensis (Bleeker,1851) ร 6. ซิวควาย + + + Rasbora borapetensis Smith,1934 ป 7. ซิวหางแดง า + + - Rasbora trilineata Steindachner,1870 8. ซิวหางกรรไกร น + + + Rasbora daniconius (Hamilton,1822) 9. ซิวข้างลาย + + - Barilius ornatus (Bleeker,1853)ัฒ 10. นําหมึก + + + Cyclocheilichthys พenoplos (Bleeker,1850) 11. ตะโกก + - - Cyclocheilichthysะ apogon (Valenciennes,1842) 12. ไส้ตันตาแดง ล + + - Cyclocheilichthys repasson (Bleeker,1853) 13. ไส้ตันตาขาว แ + + + Mystacoleucus marginatus (Valenciennes,1842) 14. หนามหลัง ยั + + - Puntioplites proctozysron (Bleeker,1865 15. กระมัง จิ + + + วBarbodes gonionotus (Bleeker,1850) 16. ตะเพียนขาว + + - ัก Barbodes altus (Gunther,1868) 17. ตะเพียนทอง + + + น Barbodes schwanefeldi (Bleeker,1853) 18. กระแห้า + + + Puntius brevis (Bleeker,1860) 19.ส ตะเพียนทราย - + - Systomus orphoides (Valenciennes,1842) 20. แกมชํ้ า + + - Hampala dispar Smith,1934 21. กระสูบจุด + + - Hampala macrolepidota (Valenciennes,1842) 22. กระสูบขีด + + - Thynnichthys thynnoides (Bleeker,1852) 23. เกล็ดถี. + - - Henicorhynchus siamensis (de Beaufort,1927) 24. สร้อยขาว + + + Henicorhynchus cryptopogon Fowler,1935 25. สร้อย + + +

10

Cirrhinus macrosemion Fowler,1935 26. ปีกแดง + + +

ตารางท ี 1 (ตอ)่

ชนิดปลา ชื.อวิทยาศาสตร์ เหนือฝาย ท้ายฝาย ผานบันได่

Dangila lineata (Sauvage,1878) 27. ซ่า + + + Morulius chrysophekadion (Bleeker,1850) 28. กาดํา + + + Epalzeorhynchos munense (Smith,1934) 29. กาแดง + + + Osteochilus hasselti Val.in Cuv.& Val.,1842 ดื 30. สร้อยนกเขา + + + Osteochilus melanopleurus (Bleeker,1852) จ 31. พรหมหัวเหม็น + + ้�า + Osteochilus microcephalus Val.in Cuv.& Val.,1842 32. ร่องไม้ตับ + น + + Osteochilus lini Fowler, 1935 33. หน้าหมอง + ง + + Crossocheilus reticulatus (Fowler,1934) 34. จิงจอก ม+ + + Crossocheilus siamensis (Smith, 1931) ะ 35. เล็บมือนาง + + + Family Cobitidae ร

Botia eos Taki,1972 ป 36. หมูหางแดง า + + - Botia helodes Sauvage,1876 37. หมูข้างลาย น + + + Botia morleti Tirant,1885 38. หมูคอก + + - Botia modesta Bleeker,1865ัฒ 39. หมูขาว + + + Acantopsis choirorhynchosพ (Bleeker,1854) 40. รากกล้วย + + + ะ Family Bagridae ล Leiocassis siamensis Regan,1913 41. แขยงหิน แ + + - Mystus singaringan (Bleeker,1846) 42. แขยงใบข้าว ยั + + - จิMystus mysticetus Roberts,1992 43. แขยงข้างลาย + - - วMystus nemurus (Valenciennes,1839) 44. กดเหลือง + + - Family Siluridaeัก

น Belodontichthys dinema (Bleeker,1835) 45. คางเบือน้า + - - Kryptopterus cryptopterus (Bleeker,1851) 46.ส ปีกไก่ + + - Micronema apogon (Bleeker,1851) 47. นําเงิน + + - Ompok bimaculatus (Bloch,1797) 48. ชะโอน + + - Wallago attu (Schneider,1801) 49. เค้าขาว + + - Family Mastacembelidae

Macrognathus siamensis (Gunther,1861) 50. หลดจุด + + - Macrognathus taeniagaster (Fowler,1935) 51. หลดลาย + + -

11

Mastacembelus armatus (Lacepede,1800) 52. กระทิง + + -

ตารางท ี 1 (ตอ)่

ชนิดปลา ชื.อวิทยาศาสตร์ เหนือฝาย ท้ายฝาย ผานบันได่

Family Clariidae

Clarias batrachus (Linnaeus,1758) + - - 53. ดุกด้าน Family Pangasiidae

Helicophagus waandersi Bleeker,1858 + - - 54. สวายหนู ดื Pangasius siamensis Steindachner,1879 + + - 55. สังกะวาด จ Family Belonidae ้�า

Xenentodon cancila (Hamilton,1822) + น + - 56. กระทุงเหว Monopterus albus (Zuiew,1793) + ง + - 57. ไหล Family Chandidae ม ะ Parambassis siamensis (Fowler,1937) - + - 58. แป้นแกว้ ร Family Nandidae ป Pristolepsis fasciata (Bleeker,1851)า + + - 59. หมอช้างเหยียบ Family Cichlidae น Oreochromis nilotica (Linnaeus,1757) + + - 60. นิล ัฒ Family Eleotridae

Oxyeleotris marmoratusพ (Bleeker,1852) + + - 61. บู่ ะ Family Anabantidae ล Anabas testudineus (Bloch,1792) + + - 62. หมอไทย แ Family Belontiidae ยั Trichogaster trichopterus (Pallas,1770) + + - 63. กระดี.หม้อ จิ วTrichopsis vittata (Cuvier,1831) + + - 64. กริม Family Channidaeัก

น Channa striata (Bloch,1795) + - - 65. ช่อน ้า Channa lucius (Cuvier,1831) + + - 66.ส กระสง Channa limbata (Cuvier,1831) + + - 67. กาง้ (กงั ) Family Soleidae

Euryglossa harmandi (Sauvage,1878) - + - 68. ลินหมา Family Tetraodontidae

Chelonodon nigroviridis (Proce,1822) + - - 69. ปักเป้าจุด

รวมชนิดปลา 66 60 24

รวมวงศ์ 17 17 2

12

1.2 ชน ิดความชุกชุมและนํ#าหนักปลาทีเดินทางผ่านบันไดปลา

จากจํานวนชนิดปลาที.เดินทางผา่ นบันไดปลาทังสิน 24 ชนิดได้แสดงไว้ในตารางที. 2 พบวา่ ปลาสร้อยขาวเป็นชนิดเด่นที.เดินทางผานบันไดปลามากถึงร้อยละ่ 61.35 รองลงมาได้แก่ ปลาจิงจอกร้อยละ 9.88 ปลาหมูข้างลายร้อยละ 6.21 ปลารากกล้วยร้อยละ 5.33 ปลาซ่าร้อยละ 3.89 ปลาสร้อยนกเขาร้อยละ 3.82 ปลาแปบ (1) ร้อยละ 1.86 ปลากาแดงร้อยละ 1.72 ปลาร่องไม้ตับร้อยละ 1.59 และปลาซิวควายร้อยละ 1.58 ส่วนที. เหลือ 14 ชนิด มีจํานวนร้อยละ 2.77 ดื เมื.อนํานําหนักปลาแตละชนิดที.เดินทางผ่ านบันไดปลามาวิเคราะห์โครงสร้างโดยนํ่ าหนักจ พบวา่ ปลาสร้อยขาวเป็นชนิดเด่นที.มีนําหนักร้อยละ 67.37 รองลงมาคือ ปลาหมูข้างลายร้อยละ 7.49้�า ปลาซ่าร้อย ละ 6.39 ปลาจิงจอกร้อยละ 6.09 ปลาสร้อยนกเขาร้อยละ 4.64 ปลารากกล้วยร้อยละง 1.56น ปลากาแดงร้อยละ 1.22 ปลาร่องไม้ตับร้อยละ 1.20 ส่วนที.เหลือ 16 ชนิดมีนําหนักร้อยละ 3.24 ะ ม ตารางที 2 ชนิดความชุกชุมและนําหนักปลาที.เดินทางผานบันไดปลาฝายร้อยเอ็ด่ ร ในฤดูเก็บกกนํั าระหวาง่ เดือนธันวาคม 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548 าป ชนิดปลา จํานวน ร้อยละ ร้อยละ น ชนิดปลา นําหนัก ร้อยละ ร้อยละ (ตัว) สะสม ัฒ (กรัม) สะสม สร้อยขาว 5,407 61.35 61.35พ สร้อยขาว 65,267 67.37 67.37 จิงจอก 871 9.88 ะ 71.23 หมูข้างลาย 7,254 7.49 74.86 หมูข้างลาย 547 6.21ล 77.44 ซ่า 6,188 6.39 81.25 รากกล้วย 470 แ 5.33 82.77 จิงจอก 5,899 6.09 87.34 ซ่า 343จิ ยั 3.89 86.66 สร้อยนกเขา 4,493 4.64 91.98 สร้อยนกเขา ว 337 3.82 90.48 รากกล้วย 1,513 1.56 93.54 แปบ (1) ัก 164 1.86 92.34 กาแดง 1,179 1.22 94.76 กาแดง น 152 1.72 94.06 ร่องไม้ตับ 1,160 1.20 95.96 ร่องไม้ตับ้า 140 1.59 95.65 ซิวควาย 786 0.81 96.77 ซิวควายส 139 1.58 97.23 กาดํา 713 0.73 97.50 นําหมึก 86 0.98 98.21 แปบ (1) 690 0.71 98.21 ไส้ตันตาขาว 45 0.51 98.72 ไส้ตันตาขาว 587 0.61 98.82 ซิวหางกรรไกร 34 0.39 99.11 สร้อย 216 0.22 99.04 กาดํา 20 0.23 99.34 นําหมึก 193 0.20 99.24 ปีกแดง 16 0.18 99.52 ซิวหางกรรไกร 189 0.19 99.43 สร้อย 16 0.18 99.70 กระมัง 161 0.17 99.60

13

แปบ (2) 7 0.08 99.78 ปีกแดง 139 0.14 99.74 ตารางที 2 (ตอ)่

ชนิดปลา จํานวน ร้อยละ ร้อยละ ชนิดปลา นําหนัก ร้อยละ ร้อยละ (ตัว) สะสม (กรัม) สะสม เล็บมือนาง 5 0.06 99.84 ตะเพียนทอง 85 0.09 99.83 หมูขาว 5 0.06 99.90 หมูขาว 39 0.04 99.87 กระมัง 3 0.04 99.94 แปบ (2) 32 0.03 จ 99.90ดื กระแห 2 0.02 99.96 เล็บมือนาง 28 0.03้ �า 99.93 ตะเพียนทอง 2 0.02 99.98 กระแห 27 น 0.03 99.96 พรมหัวเหม็น 1 0.01 99.99 หน้าหมอง 20 ง 0.02 99.98 หน้าหมอง 1 0.01 100.00 พรมหัวเหม็น ม 15 0.02 100.00 ระ 2. ช่วงเวลาในรอบวันทีปลาเดินทางผ่านบันไดปลา ป า ความถี.ในการเดินทางของปลาผา่ นบันไดปลาฝายร้อยเอ็ดน จําแนกตามช่วงเวลาต่างๆ ในรอบวัน ได้แสดงไว้ ในตารางที. 3 พบวา่ ปลามีการเดินทางผานบันไดปลาเฉลี.ย่ ัฒ 36.82 ตัวต่อชัวโมง. โดยแบ่งเป็นกลางวัน เฉลี.ย 41.34 ตัวตอชั่ วโมง. และกลางคืนเฉลี.ย 32.21พ ตัวตอชั่ วโมง. มีปลาจํานวน 17 ชนิด ที.มีพฤติกรรมการเดินทาง ทังกลางวันและกลางคืน โดยแต่ละชนิดมีความถี.ในการเดินทางเฉลี.ยะ ดังนี ปลาสร้อยขาว 22.53 ตัวต่อชัวโมง. ปลาจิงจอก 3.64 ตัวตอชั่ วโมง. ปลาหมูข้างลายล 2.29 ตัวตอชั่ วโมง. ปลารากกล้วย 1.96 ตัวตอชั่ วโมง. ปลาซ่า 1.43 ตัว ต่อชัวโมง. ปลากาแดง 0.64 ตัวตแ่อชัวโมง. ปลาไส้ตันตาขาว 0.19 ตัวต่อชัวโมง. ปลากาดํา 0.09 ตัวต่อชัวโมง. ปลาแปบ (2) 0.69 ตัวต่อชัยั วโมง. ปลาร่องไม้ตับ 0.59 ตัวต่อชัวโมง. ปลานําหมึก 0.36 ตัวต่อชัวโมง. ปลาซิว หางกรรไกร 0.15 ตัวตวจิ่อชัวโมง. ปลาปีกแดง และปลาสร้อย 0.07 ตัวต่อชัวโม. ง ปลาเล็บมือนางและปลาหมูขาว 0.02 ตัวต่อชัวโมง. ัก และปลากระมัง 0.03 ตัวต่อชัวโมง. พบปลาจํานวน 3 ชนิดที.เดินทางเฉพาะในเวลากลางคืน โดยมีความถี.ในการเดินทางเฉลี.ยน ดังนี ปลาสร้อยนกเขา 1.41 ตัวต่อชัวโมง. ปลาตะเพียนทอง และปลาหน้าหมอง 0.01 ้ตัวตา ่อชัวโมง. นอกจากนียังพบปลา 4 ชนิดที.เดินทางเฉพาะในเวลากลางวัน โดยมีความถี.ในการเดินทาง เฉลี.ยดังนีส  ปลาซิวควาย 0.58 ตัวต่อชัวโมง. ปลาแปบ (1) 0.03 ตัวต่อชัวโมง. ปลากระแหและปลาพรมหัวเหม็น 0.01 ตัวตอชั่ วโมง. เมื.อเปรียบเทียบปริมาณปลาแต่ละชนิดที.เดินทางผ่านบันไดปลาในช่วงกลางวันและกลางคืน ดังแสดงในตารางที. 4 พบวา่ ปลาที.เดินทางผานบันไดปลาทั่ งกลางวันและกลางคืน มีปลาจํานวน 5 ชนิดที.มี แนวโน้มการเดินทางในช่วงเวลากลางคืนมากกวากลางวัน่ ได้แก่ ปลานําหมึก เดินทางในเวลากลางคืนร้อยละ 78.05 ปลาซิวหางกรรไกร เดินทางในเวลากลางคืนร้อยละ 67.83 ปลากระมัง เดินทางในเวลากลางคืนร้อยละ 66.66 ปลากาดําเดินทางในเวลากลางคืนร้อยละ 65.67 และปลาสร้อยขาว เดินทางในเวลากลางคืนร้อยละ 52.89

14

ตารางที 3 ความถี.ในการเดินทางของปลาเฉลี.ย (ตัวต่อชั.วโมง) ที.เดินทางผ่านบันไดปลาฝายร้อยเอ็ด แตละช่ ่วงเวลา ในฤดูเกบก็ กนํั าระหวางเดือนธันวาคม่ 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548

ความถี.ในการเดินทางของปลาเฉลี.ย (ตัวต่อชัวโมง. )

ชนิดปลา 6.01-9.00 9.01-12.00 กลางวัน 12.01-15.00 (นาฬิกา) 15.01-18.00 กลางวัน 18.01-21.00 21.01-24.00กลางคืน 0.01-3.00 (นาฬิกา) 3.01-6.00 กลางคืน เฉลี.ย เฉลีย เฉลีย ดื สร้อยขาว 69.43 2.27 0.40 12.80 21.23 3.00 27.87 51.06 13.37 23.83จ 22.53 จิงจอก 13.54 4.47 0.57 3.70 5.57 0.20 1.34 2.44 2.80 ้�า 1.70 3.64 หมูข้างลาย 4.00 0.84 0.77 6.06 2.92 2.44 1.90 1.67 0.57น 1.65 2.29 รากกล้วย 0.17 13.50 0.94 0.60 3.80 0.17 0.03 0.07 ง 0.20 0.12 1.96 ซ่า 1.10 0.17 0.24 8.97 2.62 0.47 0.37 ะ 0.03ม 0.10 0.24 1.43 กาแดง 1.37 1.03 0.24 1.06 0.93 0.14 0.44ร 0.74 0.07 0.35 0.64 ไส้ตันตาขาว 0.03 0.64 0.14 0.46 0.32 0.14 ป 0.03 0.03 0.03 0.06 0.19 กาดํา 0.10 0.07 0.03 0.03 0.06 0.07า 0.17 0.17 0.03 0.11 0.09 แปบ (2) 0.27 1.54 0.77 1.54 1.03 น 0.03 0.07 - 1.27 0.34 0.69 ร่องไม้ตับ 0.27 1.14 0.30 2.63 1.09ัฒ 0.14 0.20 - - 0.09 0.59 นําหมึก - 0.03 - 0.60 พ 0.16 1.47 0.37 0.40 - 0.56 0.36 ซิวหางกรรไกร - - - 0.37ะ 0.09 0.44 0.07 0.17 0.10 0.20 0.15 ปีกแดง - 0.03 0.20 ล 0.17 0.10 - 0.07 0.07 - 0.04 0.07 สร้อย 0.40 - แ - 0.03 0.11 0.07 0.03 - - 0.03 0.07 เล็บมือนาง - จิ 0.03ยั 0.03 0.03 0.02 0.07 - - - 0.02 0.02 หมูขาว - ว 0.10 - 0.03 0.03 - 0.03 - - 0.01 0.02 กระมัง ัก - - 0.03 - 0.01 - 0.03 - 0.03 0.02 0.02 แปบ (1) น - 0.07 - 0.17 0.06 - - - - - 0.03 กระแห้า 0.03 - - 0.03 0.02 - - - - - 0.01 ตะเพียนทองส - - - - - 0.03 - - 0.03 0.02 0.01 สร้อยนกเขา - - - - - 11.24 - - - 2.81 1.41 ซิวควาย - 4.64 - - 1.16 - - - - - 0.58 พรมหัวเหม็น - - - 0.03 0.01 - - - - - 0.01 หน้าหมอง - - - - - 0.03 - - - 0.01 0.01 รวม 90.71 30.57 4.66 39.31 41.34 20.15 33.02 56.85 18.60 32.21 36.82

15

ตารางที 4 ปริมาณปลา (ร้อยละ) ที.พบเดินทางผานบันไดปลาฝายร้อยเอ็ด่ แต่ละช่วงเวลาในฤดูเก็บกกนํั า ระหวางเดือนธันวาคม่ 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548

ปริมาณปลาเดินทางผานบันไดปลา่ (ร้อยละ)

ชนิดปลา 6.01-9.00 9.01-12.00 กลางวัน 12.01-15.00 (นาฬิกา) 15.01-18.00 รวม 18.01-21.00 21.01-24.00กลางคืน 0.01-3.00 (นาฬิกา) 3.01-6.00 รวม กลางวัน กลางคืน

สร้อยขาว 38.53 1.26 0.22 7.10 47.11 1.66 15.47 28.34 7.42 52.89ดื จิงจอก 46.59 15.38 1.96 12.73 76.66 0.69 4.61 8.40 9.64 จ 23.34 หมูข้างลาย 21.92 4.60 4.22 33.21 63.95 13.37 10.41 9.15 3.12้�า 36.05 รากกล้วย 1.08 86.10 5.99 3.83 97.00 1.08 0.19 0.45 น 1.28 3.00 ซ่า 9.61 1.48 2.11 78.34 91.54 4.10 3.23 0.26 ง 0.87 8.46 กาแดง 26.92 20.24 4.71 20.83 72.70 2.75 8.64 ะ 14.54ม 1.37 27.30 ไส้ตันตาขาว 2.00 42.67 9.33 30.67 84.67 9.33 2.00ร 2.00 2.00 15.33 กาดํา 14.93 10.44 4.48 4.48 34.33 10.45 ป25.37 25.37 4.48 65.67 แปบ (2) 4.92 28.05 14.02 28.05 75.04 0.55า 1.28 - 23.13 24.96 ร่องไม้ตับ 5.77 24.36 6.41 56.20 92.74 น 2.99 4.27 - - 7.26 นําหมึก - 1.05 - 20.90 21.95ัฒ 51.22 12.89 13.94 - 78.05 ซิวหางกรรไกร - - - 32.17พ 32.17 38.26 6.09 14.78 8.70 67.83 ปีกแดง - 5.56 37.04 31.48ะ 74.08 - 12.96 12.96 - 25.92 สร้อย 75.47 - - ล 5.66 81.13 13.21 5.66 - - 18.87 เล็บมือนาง - 18.75 18.75แ 18.75 56.25 43.75 - - - 43.75 หมูขาว - 62.50ยั - 18.75 81.25 - 18.75 - - 18.75 กระมัง - วจิ - 33.34 - 33.34 - 33.33 - 33.33 66.66 แปบ (1) ัก - 29.17 - 70.83 100.00 - - - - - กระแห น 50.00 - - 50.00 100.00 - - - - - ตะเพียนทอง้า - - - - - 50.00 - - 50.00 100.00 สร้อยนกเขาส - - - - - 100.00 - - - 100.00 ซิวควาย - 100.00 - - 100.00 - - - - - พรมหัวเหม็น - - - 100.00 100.00 - - - - - หน้าหมอง - - - - - 100.00 - - - 100.00

16

3. ความสัมพันธ์ของการเดินทางของปลาผ่านบันไดปลาต่อช่วงเวลาข้างขึ#นและข้างแรม

การเดินทางของปลาผานบ่ ันไดปลาฝายร้อยเอ็ดในช่วงเวลาข้างขึนและข้างแรม ได้แสดงไว้ใน ตารางที. 5 พบวา่ ชนิดและจํานวนปลาที.เดินทางผานบันไดปลาในช่ ่วงเวลาข้างขึนมีจํานวนมากกวาช่ ่วงเวลา ข้างแรม โดยในช่วงข้างขึนมีปลาผ่านบันไดปลาจํานวน 8,676 ตัวคิดเป็นร้อยละ 98.45 ของปลาที.เดิน ทางผานฝายทั่ งหมด ซึ.งในจํานวนปลาที.เดินทางในช่วงข้างขึนร้อยละ 62.25 เป็นปลาสร้อยขาว รองลงมา ร้อยละ 9.98, 6.10 และ 5.42 เป็นปลาจิงจอก ปลาหมูข้างลาย และปลารากกล้วย ตามลําดับ ส่วนในช่วงเวลาข้างแรม พบปลาเดินทางผานบันไดปลาน้อย่ โดยมีจํานวนเพียง 137 ตัวคิดเป็นดื ร้อยละ 1.55 ของปลาที.เดินทางผานฝายทั่ งหมด ซึ.งในจํานวนปลาที.เดินทางในช่วงข้างแรมส่วนใหญ้�าจ่เป็นปลา ร่องไม้ตับ ร้อยละ 23.36 รองลงมาร้อยละ 13.14, 9.49 และ 8.76 เป็นปลาหมูข้างลาย ปลาซิวควายน และปลากาแดง ตามลําดับ นอกจากนียังพบวา่ มีปลาอีก 6 ชนิดที.เดินทางเฉพาะในช่วงเวลาข้างขึน งแต่ไม่พบการเดินทางใน ่ ่ ชวงเวลาข้างแรม ได้แก ปลารากกล้วย ปลาปีกแดง ปลาสร้อย ปลาแปบ (2) ปลาเล็บมือนางะม และปลากระแห ตารางที 5 ชนิดและจํานวนปลาที.พบเดินทางผานบันไดปลาฝายร้อยเอ็ด่ ร ช่วงเวลาข้างขึนข้างแรม ในฤดูเก็บกกั นํา .ระหวางเดือนธันวาคม่ 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548า ป ข้างขึน น ข้างแรม ชนิดปลา จํานวน ร้อยละ ร้อยละ ัฒ ชนิดปลา จํานวน ร้อยละ ร้อยละ (ตัว) สะสมพ (ตัว) สะสม สร้อยขาว 5,401 62.25 ะ 62.25 ร่องไม้ตับ 32 23.36 23.36 จิงจอก 866 9.98ล 72.23 หมูข้างลาย 18 13.14 36.50 หมูข้างลาย 529 แ 6.10 78.33 ซิวควาย 13 9.49 45.99 รากกล้วย 470จิ ยั 5.42 83.75 กาแดง 12 8.76 54.75 สร้อยนกเขา ว 337 3.88 87.63 ซิวหางกรรไกร 11 8.03 62.78 ซ่า ัก 331 3.82 91.45 แปบ (1) 10 7.30 70.08 กาแดง น 152 1.75 93.20 นําหมึก 8 5.84 75.91 ซิวควาย้า 139 1.60 94.80 สร้อยขาว 6 4.38 80.29 แปบส (1) 130 1.50 96.30 สร้อยนกเขา 6 4.38 84.67 ร่องไม้ตับ 107 1.23 97.53 ซ่า 6 4.38 89.05 นําหมึก 78 0.90 98.43 จิงจอก 5 3.65 92.70 ซิวหางกรรไกร 34 0.39 98.82 กาดํา 3 2.19 94.89 ไส้ตันตาขาว 33 0.38 99.20 หมูขาว 3 2.19 97.08 กาดํา 17 0.20 99.40 ไส้ตันตาขาว 1 0.73 97.81 ปีกแดง 16 0.18 99.58 กระมัง 1 0.73 98.54

17

ตารางที 5 (ต่อ)

ข้างขึน ข้างแรม ชนิดปลา จํานวน ร้อยละ ร้อยละ ชนิดปลา จํานวน ร้อยละ ร้อยละ (ตัว) สะสม (ตัว) สะสม สร้อย 16 0.18 99.77 ตะเพียนทอง 1 0.73 99.27 แปบ (2) 7 0.08 99.85 หน้าหมอง 1 0.73 100.00 เล็บมือนาง 5 0.06 99.91 จดื หมูขาว 2 0.02 99.93 ้�า กระมัง 2 0.02 99.95 น กระแห 2 0.02 99.97 ง ตะเพียนทอง 1 0.01 99.99 ม หน้าหมอง 1 0.01 100.00 ระ รวม 8,676 ตัว คิดเป็นร้อยละ 98.45 ปรวม 137 ตัว คิดเป็นร้อยละ 1.55 า 4. ปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมงของเครืองมือข่ายบริเวณเหน นือและท้ายฝาย

ัฒCPUE ปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมงพ (กรัมต่อพืนที.ข่าย 100 ตารางเมตรต่อชัวโมง. ) ของเครื.องมือข่ายทุกขนาดช่องตา ในบริเวณเหนือฝายและท้ายฝายะ ได้แสดงไว้ในตารางที. 6 พบวา่ ค่าเฉลี.ย ปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมงในบริเวณท้ายฝายมีคล ่า 22.70 กรัมต่อพืนที.ข่าย 100 ตารางเมตรต่อ ชัวโมง. ซึ.งสูงกวา่ ในบริเวณเหนือฝายที.มีคแ า่ 13.72 กรัมตอพื่ นที.ขาย่ 100 ตารางเมตรตอชั่ วโมง. ในบริเวณเหนือฝายจิ ยั ปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงของเครื.องมือข่ายขนาดช่องตา 20 มิลลิเมตร มีประสิทธิภาพสูงสุดคือว 27.32 กรัมตอพื่ นที.ขาย่ 100 ตารางเมตรตอชั่ วโมง. รองลงมาคือข่ายขนาด ช่องตา 30, 55,ั ก 70 และ 40 มิลลิเมตร ที.มีปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมง เท่ากบั 11.07, 10.52, 10.02 และ 9.69น กรัมตอพื่ นที.ขาย่ 100 ตารางเมตรตอชั่ วโมง. ตามลําดับ ้า ในบริเวณท้ายฝาย ปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงของเครื.องมือข่ายขนาดช่องตา 20 มิลลิเมตรส มีประสิทธิภาพสูงสุดคือ 51.19 กรัมตอพื่ นที.ขาย่ 100 ตารางเมตรตอชั่ วโมง. รองลงมาคือข่ายขนาด ช่องตา 40, 30, 55 และ 70 มิลลิเมตร ที.มีปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมง เท่ากบั 19.66, 16.11, 13.48 และ 13.10 กรัมตอพื่ นที.ขา่ ย 100 ตารางเมตรตอชั่ วโมง. ตามลําดับ

18

CPUE ตารางที 6 ปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมง (กรัมต่อพืนที.ข่าย 100 ตารางเมตรต่อชัวโมง. ) ของเครื.องมือข่ายแต่ละขนาดช่องตา บริเวณเหนือและท้ายฝายร้อยเอ็ด ในฤดูเก็บกกนํั าระหวาง่ เดือนธันวาคม 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548

เหนือฝาย ท้ายฝาย ชนิดปลา ขนาดช่องตาขาย่ (มิลลิเมตร) ขนาดช่องตาขาย่ (มิลลิเมตร) 20 30 40 55 70 20 30 40 55 70 สลาด - - - - 1.58 - - - -จ ดื 2.02 กราย - - - - 2.70 - - - ้�า - - แปบ (1) 2.28 - - - - 2.39 0.27 -น - - แปบ (2) 0.55 - - - - 0.27 - ง - - - ซิวควาย 1.41 - - - - 1.20 - ม - - - ซิวหางกรรไกร 0.66 - - - - 3.01ร ะ - - - - นําหมึก 0.15 0.01 - - - ป0.01 0.18 0.08 - - ตะโกก - - - 0.54 - า - - 0.83 - - ไส้ตันตาขาว 3.92 0.73 0.69 - น - 3.56 3.35 1.45 - - หนามหลัง - 0.22 - - ัฒ - 0.77 - - - - กระมัง 0.97 1.89 0.30 พ 1.02 1.25 - - 0.76 2.04 - ตะเพียนขาว - - 2.36ะ - - - - 1.87 2.12 11.08 ตะเพียนทอง 0.50 0.52 ล - 1.83 3.45 0.11 0.45 2.64 1.99 - กระแห 0.75 แ - - - - 0.75 - - - - ตะเพียนทราย - ยั - - - - 0.05 - - - - เกล็ดถี. วจ -ิ 0.77 ------สร้อยขาว ัก 1.57 0.57 1.25 - - 3.20 1.71 3.68 - - สร้อย น 0.26 ------ปีกแดง้า 0.94 0.14 - - - 0.78 - - - - ซส่า 4.32 1.73 - - - 0.27 1.46 - - - กาดํา - - 1.80 - - - 0.34 2.58 - - กาแดง 1.53 - - - - 10.27 - - - - สร้อยนกเขา 0.47 0.55 - - - 0.47 0.66 0.55 - - พรหมหัวเหม็น - 0.13 - - - - 0.27 1.39 - - ร่องไม้ตับ 1.60 0.83 - - - 7.16 1.41 0.34 - - หน้าหมอง - 0.93 - - - - 1.14 - - -

19

ตารางที 6 (ตอ)่

เหนือฝาย ท้ายฝาย ชนิดปลา ขนาดช่องตาขาย่ (มิลลิเมตร) ขนาดช่องตาขาย่ (มิลลิเมตร) 20 30 40 55 70 20 30 40 55 70 จิงจอก 2.22 - - - - 5.36 - - - - เล็บมือนาง 0.22 - - - - 0.27 - - - - หมูข้างลาย 0.52 - - - - 0.27 - - -จ ดื - หมูขาว 0.17 0.27 - - - 3.89 0.62 - ้�า - - รากกล้วย 0.41 - - - - 0.55 - -น - - แขยงหิน - 0.27 - - - 0.13 0.27 ง - - - แขยงใบข้าว 0.43 0.97 - - - 0.15 1.46ม - - - แขยงข้างลาย - 0.27 - - - - ระ - - - - กดเหลือง - - - - 1.04 ป0.22 1.04 2.39 4.67 - คางเบือน - - 0.79 - - า - - - - - ปีกไก่ 0.83 0.27 - - น - 0.23 - - - - นําเงิน - - - 1.08ัฒ - - - - 1.06 - ชะโอน - - 0.62 พ - - - - 0.76 0.48 - สวายหนู - - 1.19ะ 0.58 ------สังกะวาด 0.64 - ล - - - 5.14 0.72 - - - แป้นแกว้ - แ - - - - 0.30 - - - - บู่ - ยั - 0.69 1.89 - 0.41 0.76 - 1.12 - ช่อน วจ -ิ - - 3.08 ------ลินหมา ัก ------0.34 - - ปักเป้าจุดน - - - 0.50 ------้ารวม 27.32 11.07 9.69 10.52 10.02 51.19 16.11 19.66 13.48 13.10 ส เฉลี.ย 13.72 22.70

20

5. คุณภาพนํ#าและการเปลียนแปลง

คาเฉลี.ยคุณภาพนํ่ าที.วัดได้บริเวณฝายร้อยเอ็ดระหวางเดือนธันวาคม่ 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548 ดังแสดงในตารางที. 8 อุณหภูมินํามีคาพิสัยระหว่ าง่ 22.5-29.0 องศาเซลเซียส ความโปร่งแสงมีค่าพิสัยระหวาง่ 19-40 เซนติเมตร ปริมาณออกซิเจนละลายมีค่าพิสัยระหวาง่ 4.0-5.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ค่าความเป็นกรดเป็นด่างมี CaCO คาพิสัยระหว่ าง่ 7.0-7.5 คาความเป็นด่ ่างมีคาพิสัยระหว่ าง่ 51-52 มิลลิกรัมต่อลิตร (ในรูป 3) การศึกษา total ammonia) ครังนีตรวจไมพบปริมาณแอมโมเนีย่ (ในรูป ฝายร้อยเอ็ดได้ดําเนินการควบคุมระดับนําเหนือฝายตลอดฤดูเก็บกกเฉลี.ยั 129.67จ เมตรดื รทก. ซึ.งแสดงถึงความลึกของนําบริเวณเหนือฝายเฉลี.ยเท่ากบั 5.67 เมตร และมีระดับนําท้ายฝายเฉลี.ย้�า 126.32 เมตร รทก.แสดงถึงความลึกของนําบริเวณท้ายฝายเฉลี.ยเทาก่ บั 2.32 เมตร มีปริมาณนําไหลผานฝายเฉลี.ย่ น 29.40 ลูกบาศก์ เมตรตอวินาที่ ง ม ตารางที 7 คุณภาพนําในบริเวณฝายร้อยเอ็ด ในฤดูเก็บกกนํั าระหวางเดือนธันวาคม่ ระ 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548 ป า

วัน/เดือน/ปี คาเฉลี.ยคุ่ ณภาพนํา น ระดับนํา (เมตร รทก.) ปริมาณ อุณหภูมิ ความ DO PH Alk เหนือฝาย ท้ายฝาย นําผานฝาย่ ๐ (mg/l) (mg/l) ( C) โปร่งแสง ัฒ (ลบม./วินาที) (cm) ะพ 11 ธ.ค. 2547 24.0 22 ล 4.0 7.5 51 129.09 126.01 16.50 26 ธ.ค. 2547 23.0 19แ 4.5 7.5 51 129.13 126.33 19.60 9 ม.ค. 2548 22.5 ยั 20 5.0 7.0 51 129.58 126.22 16.46 24 ม.ค. 2548 24.0 จิ 25 5.5 7.0 52 129.83 126.48 32.40 8 ก.พ. 2548 29.0ว 27 5.0 7.5 51 129.83 126.15 17.22 23 ก.พ. 2548 ัก27.0 25 5.0 7.5 51 129.85 126.2 21.51 9 มี.ค.้า 2548น 25.0 35 5.0 7.5 51 129.82 126.03 17.35 24ส มี.ค. 2548 27.0 40 5.0 7.5 51 129.84 126.31 29.38 8 เม.ย. 2548 28.0 35 5.5 7.5 51 129.88 126.85 70.48 23 เม.ย. 2548 29.0 30 5.5 7.5 51 129.85 126.65 53.11 คาพิสัย่ 22.5-29.0 19-40 4.0-5.5 7.0-7.5 51-52 129.09-129.88 126.01-126.85 16.46-70.48 คาเฉ่ ลี.ย 25.8 27.0 5.0 7.4 51 129.67 126.32 29.40

21

สรุปและวิจารณ์ผลการศึกษา

1. ชนิดและปริมาณปลาทีเดินทางผ่านบันไดปลา

จากการศึกษาพบปลาที.จับได้ท้ายฝายจํานวน 60 ชนิด ซึ.งมี 24 ชนิดที.สามารถเดินทางผาน่ บันไดปลา โดยปลาที.เดินทางผานบันไดปลาเป็นวงศ์ปลาตะเพียน่ 21 ชนิด และเป็นวงศ์ปลาหมูอีก 3 ชนิด เมื.อพิจารณาชนิดปลาที.ถูกจับได้โดยกระแสไฟฟ้าในการศึกษาครังนี พบวาปลาแทบทุกชนิดที.พบท้ายฝาย่ ดื จะพบเหนือฝายด้วย สันนิษฐานได้ว่าจากสภาพนิเวศน์ของแหล่งนําทังเหนือฝายและท้ายฝายมีลักษณะที.จ ไม่แตกต่างกันมากนัก กอรปกับลักษณะการปิดฝายเพื.อเก็บกักนําของฝายร้อยเอ็ดจะเก็บก้�าักนําเพื.อการ เกษตรกรรมในช่วงระยะเวลาไม่นาน โดยจะเก็บกกในชั ่วงฤดูแล้ง เมื.อหมดฤดูเก็บกกั 5น เดือนโครงการฝาย ร้อยเอ็ดจะยกประตูบังคับนําขึนหมดทัง 6 บาน ทําให้ระดับนําบริเวณเหนือฝายและท้ายฝายอยูง ในระดับ่ เดียวกนั ม pool type รูปร่างของบันไดปลาของฝายร้อยเอ็ดมีลักษณะเป็นแบบ ะ์ (เสน่หและคณะ, 2540 อ้างตาม Rounsefell and Harry, ร 1965) เป็นรางนํ าที.มีขนาดใหญ่ มีความกว้าง 4 เมตร มีความลึกของแต่ละห้วงพักปลา cistern weir ป X ( ) 1.2 เมตร ยาว 1.8 เมตร ขนาดของแผนก่ นห้วงนํั า ( ) สูงา 0.60 เมตร ขนาดของช่องระบาย 0.15 0.15 เมตร มีอยูแผ่ นละสองช่ ่อง (โครงการชลประทานจังหวัดร้อยเอ็ด,น 2546) ห้วงพักปลาชันบนสุดมีแผนเหล็ก่ บังคับนําล่อปลาที.สามารถหมุนเปิดนําจนล้นแผนก่ ัฒนห้วงนํั าได้ทุกห้วงและใช้เป็นตัวควบคุมนําล่อปลาให้ วายทวนกระแสนํ่ าขึนมา ในการศึกษาครังนีขณะที.ไมได้หมุนเปิดแผ่ นเหล็กบังคับนํ่ าเพื.อเปิดนําล่อปลาจะไม่ Pavlovพ พบปลากระโดดข้ามห้วงพัก สอดคล้องกะบั (1989) ที.รายงานวา่ ปลามีพฤติกรรมในการปรับทิศทาง เพื.อวายทวนกระแสนํ่ าเมื.อมีกระแสนํลามากระตุ้น ถึงแม้การศึกษาพบปลาบริเวณท้ายฝายอีกจํานวนแ 36 ชนิด ที.ไม่พบเดินทางผานบันไดปลา่ แต่ก็ ไม่ได้หมายความวาปลาทั่ ง ยั36 ชนิดนีเดินทางผ่านบันไดปลาไม่ได้ เพราะในการศึกษาครังนีไม่ได้ดําเนินการ ตอเนื.องตลอดทุกวันทั่ งชจิ ่วงฤดู โดยแผนการทดลองได้กาหนดเกํ บข้อมูลในช็ ่วงวันข้างขึนกบข้างแรมเดือนละสองั วันเท่านัน และในวันที.ดําเนินการเกว ็บข้อมูลได้ทดลองสุ่มลากปลาบริเวณต้นบันไดปลาปรากฏวา่ พบปลาชนิด เดียวกบที.เดินทางผั ักานบันไดปลาได้แทบทั่ งสิน แตไม่ พบปลาจํานวน่ 36 ชนิดที.ไม่เดินทางผานบันไดปลา่ มาอยู่ บริเวณต้นบันไดปลา้าน สาเหตุอาจเกิดจากกระแสนําที.เปิดล่อให้ปลาเดินทางผานบันไดปลาในช่ ่วงเก็บข้อมูลไม่ได้ มีอิทธิพลพอที.จะกระตุ้นพฤติกรรมการเดินทางของปลาจํานวนส 36 ชนิดดังกล่าว

2. ช่วงเวลาในรอบวันทีปลาเดินทางผ่านบันไดปลา

ช่วงเวลาในรอบวันเป็นปัจจัยที.มีผลต่อการเดินทางผานบันไดปลาแต่ ่ละชนิดแตกต่างกนออกไปั การศึกษาครังนีปลาเดินทางผานบันไดปลาเฉลี.ย่ 36.82 ตัวตอชั่ วโมง. โดยแบงเป็นกลางวันเฉลี.ย่ 41.34 ตัวตอชั่ วโมง. มากกว่ากลางคืนที.ปลาเดินทางเฉลี.ย 32.21 ตัวต่อชัวโมง. ซึ.งผลการศึกษาครังนีได้ผลไปในทิศทางเดียวกบั การศึกษาของ เสน่ห์ และคณะ (2540) ที.ศึกษาการเดินทางของปลาผานบันไดปลาเขื.อนปากมูลและรายงานไว้ว่ า่ มีปริมาณปลาเดินทางผานบันไดปลาในเวลากลางวันมากกว่ ากลางคืน่

22

เมื.อพิจารณาถึงรายละเอียดของการเดินทางของปลาแต่ละชนิดพบวา่ มีปลาจํานวน 4 ชนิด เดินทางผานบันไดปลาเฉพาะในช่ ่วงเวลากลางวัน ปลาจํานวน 17 ชนิดเดินทางทังกลางวันกลางคืน และมี ปลาเพียง 3 ชนิดเท่านัน ที.พบเดินทางเฉพาะในเวลากลางคืน คือปลาตะเพียนทอง ปลาสร้อยนกเขา และปลาหน้า

หมอง ซึ.งจากผลการศึกษาของ เสน่ห์และคณะ (2540) ได้รายงานการสํารวจพบปลาสร้อยนกเขา และปลา ตะเพียนทองสามารถเดินทางผานบันไดปลาโจนเขื.อนปากมูลได้ทั่ งในช่วงกลางวันและกลางคืน แม้การศึกษาดื ครังนีจะไม่พบปลา 3 ชนิดดังกล่าวเดินทางผานบันไดในเวลากลางวัน่ แต่ก็สํารวจพบปลาทัง 3 ชนิดดังกล้�าจ ่าว ทัง บริเวณเหนือฝายและท้ายฝายร้อยเอ็ด โดยมีนําหนักและความยาวโดยเฉลี.ยใกล้เคียงกนั หากฝายร้อยเอ็ดไมน ่เปิด ระบบบันไดปลาในเวลากลางคืนกคงไม็ ส่ ่งผลกระทบตอปลาทั่ ง 3 ชนิดดังกล่าวมากนัก เพราะถึงจะเปิดระบบบันไดง ปลาในเวลากลางคืน ปลา 3 ชนิดนีก็เดินทางผานบันไดน้อยมาก่ คือ ปลาสร้อยนกเขาเฉลี.ยเดินทางกลางคืนเฉลี.ยม 2.81 ตัวต่อชั.วโมง ปลาตะเพียนทอง และปลาหน้ามองเดินทางกลางคืนเฉลี.ยะ 0.01 ตัวต่อชั.วโมง นอกจากนีจากการสอบถามเจ้าหน้าที.ผู้ดูแลบันไดปลายังได้ข้อมูลวา่ มีการเปิดร แผนเหล็กบังคับนํ่ าตลอดเวลาทัง กลางวันกลางคืน โดยในขณะที.เปิดแผ่นบังคับนําในเวลากลางคืนนัาป นยากแก่การดูแลห้ามปรามไม่ให้ ชาวประมงมาลักลอบจับปลาในบริเวณหน้าบันไดปลา น จากข้อมูลที.ได้นีจึงสามารถนํามาพิจารณาประกอบการบริหารการเปิดแผนเหล็กบังคับนํ่ าล่อปลา โดยสามารถเลือกเปิดเฉพาะเวลากลางวันได้ เพราะการเปิดัฒ แผนเหล็กบังคับนํ่ าตลอดเวลาทังกลางวันกลางคืน เป็นเหตุให้ปริมาณการเก็บกกนํั าในฝายลดลงเร็วขึะพน ดังนันหากโครงการฝายร้อยเอ็ดมีความจําเป็นต้องเก็บกกั นําให้มีเหลือเพียงพอกบการให้บริการแกั ล ่การเกษตรและการบริโภคของเกษตรกรในพืนที.บริการ ควรเลือก เปิดแผนเหล็กบังคับนํ่ าบันไดปลาในเวลากลางวันดีกวแ าเปิดแผ่ นเหล็กบังคับนํ่ าบันไดปลาในเวลากลางคืน 3. ความสัมพันธ์ของการเดินทางของปลาผ่านบันไดยั ปลาต่อช่วงเวลาข้างขึ#นและข้างแรม วจิ ัจากผลการศึกษาที.พบชนิดและจํานวนปลาที.เดินทางผก ่านบันไดปลาในช่วงเวลาข้างขึน มีจํานวนมากกวน าช่ ่วงเวลาข้างแรม โดยในช่วงข้างขึนมีปลาผานบันไดปลาคิดเป็นร้อยละ่ 98.45 ของปลาที. เดินทางผ้า านฝายทั่ งหมด ส่วนในช่วงเวลาข้างแรม พบปลาเดินทางผานบันไดปลาน้อยมาก่ คิดเป็นร้อยละ 1.55 ของปลาที.เดินทางผส ่านฝายทังหมด แสดงให้ทราบว่าอิทธิพลของแสงในช่วงเวลาข้างขึนหรือคืนเดือนหงาย มีผลตอการเดินทางของปลาอย่ างมาก่ เช่นเดียวกบผลการศึกษาของั เสน่ห์ และคณะ (2540) ที.กล่าววาแสงมีอิทธิพล่ ตอพฤติกรรมการเดินทางของปลา่ นอกจากนีผลการศึกษายังพบวามีปลาอีก่ 6 ชนิดที.เดินทางเฉพาะในช่วงเวลาข้างขึน แต่ไม่พบ เดินทางในช่วงเวลาข้างแรม ได้แก่ ปลารากกล้วย ปลาปีกแดง ปลาสร้อย ปลาแปบ (2) ปลาเล็บมือนาง และ Pavlov ปลากระแห สอดคล้องกบั (1989) ที.รายงานวา่ ปลาผิวนําและกลางนําบางชนิดใช้กลไกประสาทตา ในการเดินทางย้ายถิ.น ซึ.งจะวายขึ่ นสู่ผิวนําหรือตามชายตลิ.งตืนของแม่นําโดยมีปัจจัยความเข้มแสงเป็นหลัก

23

ในการเดินทาง ดังนันหากโครงการฝายร้อยเอ็ดมีความจําเป็นที.จะควบคุมปริมาณการเก็บกกนํั าควรเลือกเปิด แผนเ่ หล็กบังคับนําบันไดปลาในวันข้างขึนดีกวาเปิดแผ่ นเหล็กบังคับนํ่ าบันไดปลาในช่วงเวลาข้างแรม

4. ปริมาณผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมงของเครืองมือข่ายบริเวณเหนือและท้ายฝาย

จากการศึกษาครังนีใช้ข่าย 5 ขนาดช่องตา วางขวางลํานํา พบค่าเฉลี.ยปริมาณผลจับปลา ต่อหน่วยลงแรงประมงในบริเวณท้ายฝายมีค่า 22.70 กรัมต่อพืนที.ข่าย 100 ตารางเมตรต่อชัวโมง. ซึ.งสูงกวา่ ในบริเวณเหนือฝายที.มีค่า 13.72 กรัมต่อพืนที.ข่าย 100 ตารางเมตรต่อชัวโมง. จากข้อมูลอาจชีให้เห็นวดื า่ การใช้เครื.องมือขายจับปลาในบริเวณท้ายฝายจะได้ปลามากกว่ า่ นอกจากนียังพบวาชาวประมงนิยมวางข่ จ ่าย  ้�า ในบริเวณท้ายฝาย แตไม่ พบชาวประมงวางข่ ายจับปลาในบริเวณเหนือฝาย่ น เนื.องจากปริมาณนําในบริเวณเหนือฝายและท้ายฝายมีความลึกแตกต่างกงนั (ระดับนําเหนือฝาย ลึกเฉลี.ย 5.67 เมตร และระดับนําท้ายฝายลึกเฉลี.ยเทาก่ บั 2.32 เมตร) ระดับนําที.ลึกมากอาจทําให้ให้ประสิทธิภาพม ในการจับปลาของเครื.องมือข่ายลดลง การศึกษาประสิทธิภาพของเครื.องมือขะ่ายต่อหน่วยลงแรงประมงครังนีจึง ไมสามารถสรุปได้อย่ างชัดเจนว่ า่ ปลาในบริเวณท้ายฝายมีความชุกชุมกวาปลาในบริเวณท้ายฝาย่ ร เมื.อนําค่าเฉลี.ยผลจับปลาต่อหน่วยลงแรงประมงโดยเครื.องมือขป ่ายในการศึกษาครังนีไป า เปรียบเทียบกบการศึกษาในแมั ่นําชีเช่นเดียวกนของั มานพนและคณะ (2547) ที.รายงานค่าเฉลี.ยปริมาณผลจับ ปลา ต่อหน่วยลงแรงประมงในแม่นําชี เท่ากบั 57.2 กรัมต่อ 180 ตารางเมตรต่อชัวโมง. (31.7 กรัมต่อ 100 ตารางเมตรต่อชัวโมง). พบวา่ ค่าเฉลี.ยผลจับปลาต่อหนัฒ่วยลงแรงประมงโดยเครื.องมือข่ายในการศึกษาครังนีมี คาน้อยกว่ า่ พ ะ 5. คุณภาพนํ#าและการเปลียนแปลง ล ยั แ ฝายร้อยเอ็ดได้ดําเนินการควบคุมระดับนํจิ าเหนือฝายตลอดฤดูเก็บกกคั ่อนข้างคงที.ทําให้ความลึก ของนําบริเวณเหนือฝายคงที.เฉลี.ยว 5.67 เมตร ค่าเฉลี.ยคุณภาพนําที.วัดได้บริเวณฝายร้อยเอ็ดระหว่างเดือน ธันวาคม 2547ั ก ถึงเดือนเมษายน 2548 อุณหภูมินําค่อนข้างตํ.าในช่วงเดือนธันวาคม 2547 ถึงมกราคม 2548 ซึ.งเป็นช่วงหน้าหนาวของภูมิภาคน อุณหภูมิเริ.มสูงขึนในช่วงหน้าร้อนระหวางเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน่ 2548 ในช่วงปลายเดือนธันวาคม้า 2547 ถึงปลายมกราคม 2548 มีปริมาณฝนตกชุกมีกระแสนําหลากมากเป็นผลให้นํา ในบริเวณฝายคส อนข้างขุ่ นมีค่ าความโปร่ ่งแสงน้อย การศึกษาครังนีค่าความเป็นกรดเป็นด่างและค่าความเป็นด่าง มีค่าพิสัยค่อนข้างคงที. ไม่พบปริมาณแอมโมเนียในนํา ปริมาณออกซิเจนละลายมีค่าระหวาง่ 4.0-5.5 มิลลิกรัมต่อ ลิตร ซึ.งตํ.ากวารายงานการศึกษาของ่ มานพ และคณะ (2547) ที.รายงานค่าเฉลี.ยในแม่นําชีที.ระดับผิวนํา 6.3 มิลลิกรัมตอลิตร่ สาเหตุอาจเนื.องมาจากการปิดฝายทําให้การเคลื.อนไหวของมวลนําลดลง ปริมาณการละลายของ ออกซิเจนจึงคอนข้างตํ.า่ อยางไรก่ ็ตามค่าคุณภาพนําบริเวณฝายร้อยเอ็ดที.ศึกษาทังหมดอยูในระดับที.เหมาะสมต่ ่อ การดํารงชีวิตของสัตว์นําตาม ไมตรี และจารุวรรณ (2528)

24

เอกสารอ้างอิง

โครงการชลประทานจังหวัดร้อยเอ็ด. 2546. เอกสารแนะนําโครงการฝายร้อยเอ็ด. สํานักงานชลประทานที. 6. 6 หน้า. (อัดสําเนา) ชวลิต วิทยานนท์, จรัลธาดา กรรณสูต และ จารุจินต์ นภีตะภัฏ. 2540. ความหลากชนิดของปลานําจืดใน ประเทศไทย. สํานักงานนโยบายและแผนสิ.งแวดล้อม. กรุงเทพมหานคร. 102 หน้า. มานพ แจ้งกิจ, จินตนา ดํารงไตรภพ, นภาพร ศรีพุฒินิพนธ์ และ นฤพล สุขุมาสวิน. 2547.นิเวศวิทยาและ ทรัพยากรประมงในแมนํ่ าพอง ชี และมูล. เอกสารวิชาการฉบับที. 30 / 2547. สํานักวิจัยและพัฒนาจดื ประมงนําจืด, กรมประมง 88 หน้า. ้�า ไมตรี ดวงสวัสดิ= และ จารุวรรณ สมศิริ. 2528. คุณสมบัติของนําและวิธีวิเคราะห์สําหรับการวิจัยน ทางการประมง. สถาบันประมงนําจืดแห่งชาติ, กรมประมง. 115 หน้า. ง เสน่ห์ ผลประสิทธิ=, พินิจ สีห์พิทักษ์เกียรติ, บุญส่ง ศรีเจริญธรรม และ กาธนํ ม สุอรุณ. 2540. การเดินทาง ของปลาผานบันไดปลาโจนเขื.อนปากมูล่ และปัจจัยที.มีอิทธิพลตร่อการเดินทางะ . วารสารการประมง 50 (4-5) 311-329 และ 345-358. ป เสน่ห์ ผลประสิทธิ=. 2521. บันไดปลาโจน บันไดทองของแหล่งนําา ธรรมชาติศึกษา ชุดที. 2 เล่ม 4 ลําดับที. 10 ศิระ พนวัฒนาพงษ์, บรรณาธิการ กรุงเทพมหานคร สํานักพิมพ์ ส.ประสิทธิ=การพิมพ์. หน้า 361-378. Pavlov, D.S., 1989. Structures Assisting the Migrationsน of Non-salmonid Fish : USSR, Copescal Technical Paper No. 308, Romeัฒ FAO, 97 p. Rainboth, W.J. 1996. FAO Species Identificationพ Field for Fishery Purposes, Fishes of Cambodian . Romeะ FAO. 265 pp. Smith, H.M. 1945. The Freshwaterล Fishes of Siam, or Thailand for the Smithsonian Institution. USA. 622 pp. แ Swingle, H. S. 1950. Relationshipยั and Dynamic of Balanced and Unbalanced Fish Populations. Bulletin วNo.จิ 274, Agricultural Experiment Station of the Alabama, USA. p. 74. Taki, Y. 1974.ัก Fishes of the Lao Mekong Basin. USAID, Mission of Laos Agriculture Division.น 232 pp. ้า ส

25

ดื �าจ น้ มง ระ าป น ัฒ ะพ แล จิ ยั กว นั ส้า