สังคมแมลงผิวดินในพื้นที่ฟื้นฟูป่าเหมืองหินปูน จังหวัดสระบุรี Ground Dwelling Insect Community in Limestone Mining Rehabilitation Area, Saraburi Province
Total Page:16
File Type:pdf, Size:1020Kb
วารสารวนศาสตร์ไทย 39 (1) : 1-10 (2563) Thai J. For. 39 (1) : 1-10 (2020) วารสารวนศาสตร์ไทย 39 (1) : 1-10 (2563) นิพนธ์ต้นฉบับ สังคมแมลงผิวดินในพื้นที่ฟื้นฟูป่าเหมืองหินปูน จังหวัดสระบุรี Ground Dwelling Insect Community in Limestone Mining Rehabilitation Area, Saraburi Province เอนกพงศ์ สีเขียว1,2 Anekphong Seekhiew1,2 วัฒนชัย ตาเสน1* Wattanachai Tasen1* สคาร ทีจันทึก1 Sakhan Teejuntuk1 1คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 Faculty of Forestry, Kasetsart University, Chatuchak, Bangkok 10900, Thailand 2สำานักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 Forest Protection and Fire Control Bureau, Royal Forest Department, Chatuchak, Bangkok 10900, Thailand *Corresponding Author, E-mail: [email protected] รับต้นฉบับ 19 สิงหาคม 2562 รับแก้ไข 1 พฤศจิกายน 2562 รับลงพิมพ์ 6 พฤศจิกายน 2562 ABSTRACT The species diversity of ground dwelling insect community was carried out in a limestone mining rehabilitation area, in Saraburi province. The study sites were classified into five types which included dry evergreen forest, mixed deciduous forest, reforestation carried out for more than 10 years, reforestation less than 10 years, and limestone mining area. Pitfall-traps and Winkler extractors were used to collect ground dwelling insects, during May 2015 to April 2016. The findings revealed that the total number of ground dwelling insects could be classified 191 species, belonging to 48 families and 9 orders. The highest number of insect species were Coleoptera (74 species), followed by Hymenoptera, and Hemiptera (57 and 25 species, respectively). The dry evergreen forest had the highest number of species diversity index compared to the area under reforestation for more than 10 years, mixed deciduous forest, reforestation less than 10 years, and limestone mining area (2.97, 2.80, 2.75, 2.55, and 1.75, respectively). As for the similarity index, it was found that the dry evergreen forest area was the most similar to area under more than 10 years of reforestation and mixed deciduous forest (72% and 70%, respectively), but the dry evergreen forest area was the least similar to the limestone mining area at only around 43%. This shows that the rehabilitation influenced the recovery of the insect community. Keywords: Rehabilitation, Ground dwelling insect, Insect diversity, Limestone mining 2 Thai J. For. 39 (1) : 1-10 (2020) บทคัดย่อ การศึกษาความหลากชนิดและสังคมของแมลงผิวดิน ได้ทำาการสำารวจในพื้นที่เหมืองหินปูน จังหวัดสระบุรี เพื่อศึกษาผลของการฟื้นฟูป่าต่อการกลับคืนของสังคมแมลงผิวดิน โดยแบ่งพื้นที่ศึกษาออกเป็น 5 พื้นที่ ได้แก่ ป่า ดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ พื้นที่ฟื้นฟูมากกว่า 10 ปี พื้นที่ฟื้นฟูน้อยกว่า 10 ปี และพื้นที่ทำาเหมือง ทำาการเก็บตัวอย่าง แมลงผิวดินโดยใช้กับดักหลุม (pitfall-trap) และกับดักถุงผ้า (Winkler extractor) ทำาการเก็บตัวอย่างทุกเดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558 ถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2559 ผลการศึกษาพบแมลงจำานวนทั้งสิ้น 192 ชนิด 48 วงศ์ 9 อันดับ ซึ่งด้วงในอันดับ Coleoptera พบจำานวนชนิดมากที่สุด 74 ชนิด รองลงมาเป็นอันดับ Hymenoptera และอันดับ Hemiptera จำานวน 57 และ 25 ชนิด ตามลำาดับ ส่วนค่าดัชนีความหลากหลาย พบว่า ในพื้นที่ป่าดิบแล้ง มีค่าดัชนีของแมลงผิวดินมากที่สุด รองลงมาเป็นพื้นที่ฟื้นฟูมากกว่า 10 ปี ป่าเบญจพรรณ พื้นที่ฟื้นฟูน้อยกว่า 10 ปี และพื้นที่ทำาเหมือง มีค่าเท่ากับ 2.97, 2.80, 2.75, 2.55 และ 1.75 ตามลำาดับ สำาหรับค่าดัชนีความคล้ายคลึง พบว่า บริเวณพื้นที่ป่าดิบแล้งกับพื้นที่ป่าฟื้นฟูมากกว่า 10 ปี และพื้นที่ป่าเบญจพรรณมีค่าความคล้ายคลึงในระดับมากถึง ร้อยละ 72 และร้อยละ 70 ส่วนพื้นที่ป่าดิบแล้งกับพื้นที่ทำาเหมืองมีค่าความคล้ายคลึงน้อยที่สุดเพียงร้อยละ 43 แสดง ให้เห็นว่าการฟื้นฟูป่ามีผลต่อการกลับคืนของสังคมแมลงผิวดินได้ดี คำาสำาคัญ: การฟื้นฟูป่า แมลงผิวดิน ความหลากชนิดของแมลง เหมืองหินปูน คำานำา ต่อเนื่องจะส่งผลต่อระบบนิเวศและชนิดพันธุ์ต่างๆ โดย เฉพาะแมลง (insects) ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก สามารถ การทำาเหมืองแร่เป็นส่วนสำาคัญในการช่วย ตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว ไวต่อการ ให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุนเพื่อพัฒนา ถูกรบกวนถิ่นที่อยู่อาศัย และมีความหลากหลายมาก ประเทศ (Maxwell Stamp PLC, 2015) นอกเหนือจาก ที่สุดของระบบนิเวศ (Wiwatwittaya, 1996; Subinprasert, ความเจริญที่เกิดขึ้นแล้ว ยังก่อให้เกิดผลกระทบต่อ 2003; Andrés and Mateos, 2006) แมลงส่วนใหญ่ สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณใกล้เคียง สามารถสร้างประโยชน์ต่อมนุษย์ในหลายๆ ด้าน รวม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (Noitubtim et al., 2012) การ ไปถึงบทบาทสำาคัญทางระบบนิเวศ (Subinprasert, ฟื้นฟู (rehabilitation) ที่ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ความ 2003) โดยเฉพาะกลุ่มแมลงที่อาศัยอยู่บริเวณผิวดิน ซึ่ง หลากหลายทางชีวภาพ ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ ส่วนใหญ่มีบทบาทเป็นผู้ย่อยสลาย ช่วยในกระบวนการ สำาคัญของการทำาเหมือง เพื่อสร้างสมดุลของการพัฒนา กลับคืนของสารอาหารในดินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความ (Mound and Waloff, 1978) การลดลงของประชากร หลากหลายทางชีวภาพ (Mineral Resources and แมลง ไม่เพียงเป็นข้อบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบ Mining Department, 2017) ซึ่งหากการใช้ประโยชน์ นิเวศที่ลดลง แต่เป็นขั้นตอนแรกสู่การสูญพันธุ์ของ ดังกล่าวปราศจากการฟื้นฟู ระบบนิเวศจะสูญเสียชนิด ประชากรแมลงอีกด้วย (Diamond, 1989) พันธุ์จำานวนมากในเวลาอันรวดเร็ว (Sánchez-Bayo แมลงหลายชนิดมีบทบาทหน้าที่ที่สำาคัญที่ and Wyckhuys, 2019) สิ่งมีชีวิตบางชนิดที่มีปฏิสัมพันธ์ เรียกว่า “ชนิดพันธุ์กากับการำ หรือ keystone species” กับชนิดอื่นจะได้รับผลกระทบไปด้วยเมื่อสิ่งมีชีวิต ภายในระบบนิเวศหากเกิดการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ชนิดใดชนิดหนึ่งสูญหายไป (Pozsgai and Littlewood, หรือปัจจัยต่างๆ แมลงเหล่านี้จะได้รับผลกระทบด้วย 2014) การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพอย่าง จากการที่แมลงมีบทบาทหน้าที่สำาคัญนี้ จึงสามารถใช้ วารสารวนศาสตร์ไทย 39 (1) : 1-10 (2563) 3 เป็นดัชนีบ่งชี้คุณภาพของสิ่งแวดล้อมได้อย่างดี (Forest เซนติเมตร เก็บซากพืชและผิวดินลึก 3-5 เซนติเมตร ใส่ and Plant Conservation Research Office, 2009) ถุงพลาสติก ทำาการร่อนใส่ลงในถุงตาข่ายแล้วนำาไปแขวน การศึกษาด้านสังคมแมลงผิวดินจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและ ภายในถุงกับดักถุงผ้า แขวนไว้จำานวน 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมง ควรให้ความสำาคัญ ดังนั้น การศึกษาในครั้งนี้ทำาให้ทราบถึง จากนั้นนำาตัวอย่างแมลงที่ได้มาจำาแนกความแตกต่างทาง ความหลากชนิดและผลของการฟื้นฟูป่าต่อการกลับคืน ลักษณะสัณฐานวิทยาภายนอก (morphospecies) ใน ของสังคมแมลงผิวดินในพื้นที่เหมืองหินปูน จังหวัดสระบุรี ห้องปฏิบัติการทางกีฏวิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ และสามารถใช้เป็นแนวทางในการวางแผนการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และแมลงในกลุ่มมดเทียบ หลังการฟื้นฟูป่าให้มีประสิทธิภาพต่อไป ตัวอย่างจากพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์ อุปกรณ์และวิธีการ วิทยาศาสตร์แห่งชาติ การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ในการศึกษาแมลงผิวดินในพื้นที่เหมืองหินปูน นำาข้อมูลแมลงที่ได้มาคำานวณหาค่าการปรากฏ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำากัด (มหาชน) จังหวัดสระบุรี (occurrence) เพื่อนำามาแบ่งระดับการพบ แบ่งออกเป็น ซึ่งมีพื้นที่ประทานบัตรครอบคลุมป่าธรรมชาติและพื้นที่ พบบ่อย พบปานกลาง พบน้อย โดยพิจารณาจากการ ที่มีกิจกรรมในการทำาเหมืองปูน สามารถแบ่งพื้นที่ศึกษา ปรากฏในแต่ละครั้งในการสำารวจ (Krebs, 1972) ค่า ออกเป็น 5 พื้นที่ ได้แก่ ป่าดิบแล้ง (dry evergreen ดัชนีความหลากหลาย (Shannon-Wiener’s index; forest: DEF) ป่าเบญจพรรณ (mixed deciduous H’) โดยใช้สูตรของ Shannon-Wiener’s Index ค่าดัชนี forest: MDF) พื้นที่ฟื้นฟูมากกว่า 10 ปี (reforestation ความสมำ่าเสมอ (evenness index) วัดจากค่าการ more than 10 years: RF>10Yrs) พื้นที่ฟื้นฟูน้อยกว่า กระจายชนิดพันธุ์ในสังคม ค่าความคล้ายคลึง (similarity 10 ปี (reforestation less than 10 years: RF<10Yrs) index, IS) โดยสมการของ Sorensen (Krebs, 1972) และพื้นที่ทำาเหมือง (limestone mining area: LMA) คำานวณข้อมูลการปรากฏและไม่ปรากฏของแมลงผิวดิน ทำาการเก็บตัวอย่างแมลงผิวดินโดยใช้ 2 วิธีการ คือ ในแต่ละพื้นที่ และทำาการวิเคราะห์เปรียบเทียบค่าเฉลี่ย กับดักหลุม (pitfall-trap) ใช้สำาหรับศึกษาแมลงผิวดิน ทางสถิติโดยใช้ independent samples t-test เพื่อ วิธีการโดยทำาการขุดหลุม และใช้แก้วพลาสติกขนาด ทดสอบความแตกต่างช่วงฤดูกาลของค่าดัชนีความหลาก เส้นผ่านศูนย์กลาง 9 เซนติเมตร ยาว 15 เซนติเมตร วาง หลาย และค่าดัชนีความสมำ่าเสมอด้วยโปรแกรมสำาเร็จรูป ลงในหลุมให้ขอบถ้วยอยู่ในระดับผิวดิน หลังจากนั้นใส่ สารละลาย (แอลกอฮอล์ร้อยละ 50 นำ้าร้อยละ 45 และ ผลและวิจารณ์ นำ้ายาล้างจานร้อยละ 5) ลงไปในถ้วยประมาณ 1 ใน 3 ของปริมาตรถ้วย แต่ละพื้นที่วางกับดักเป็นแนวเส้นตรง ความหลากชนิดและความมากมายของแมลง จำานวน 16 จุด แต่ละจุดห่างกันอย่างน้อย 10 เมตร วาง ผิวดิน กับดักทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นเก็บตัวอย่างแมลงใส่ การศึกษาแมลงผิวดินในพื้นที่เหมืองหินปูน ในขวดที่มีแอลกอฮอล์ร้อยละ 70 พร้อมทั้งบันทึกข้อมูล จังหวัดสระบุรี พบแมลงจำานวนทั้งสิ้น 191 ชนิด 48 วงศ์ นำามาจำาแนกในห้องปฏิบัติการ และกับดักถุงผ้า (Winkler จาก 9 อันดับ ซึ่งแมลงในอันดับ Coleoptera (ด้วง) พบ extractor) เป็นกับดักที่ใช้การเก็บตัวอย่างแมลงจาก จำานวนชนิดมากที่สุด 74 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 38.54 ซากพืชและผิวดิน (Forest and Plant Conservation ของชนิดแมลงที่พบทั้งหมด รองลงมาได้แก่ อันดับ Research Office, 2009) ในแต่ละพื้นที่ทำาการวางแปลง Hymenoptera (มด) และอันดับ Hemiptera (มวน เป็นแนวเส้นตรงจำานวน 10 แปลงย่อยๆ ขนาด 50x50 และเพลี้ย) จำานวน 57 และ 25 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 4 Thai J. For. 39 (1) : 1-10 (2020) 29.69 และ 13.02 ของจำานวนชนิดที่พบทั้งหมด ตาม มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดเป็นมดอยู่ในวงศ์ Formicidae โดย ลำาดับ (Figure 1) ในด้านจำานวนตัวของแมลงที่พบใน ชนิดที่พบจำานวนตัวมากที่สุด ได้แก่ มดง่าม (Carebara พื้นที่ทั้งหมด พบว่า แมลงในอันดับ Hymenoptera มี diversa) มดดำา (Paratrechina longicornis) รอง จำานวนตัวมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 81.08 ของจำานวน ลงมาเป็น มดดำาทุ่ง (Iridomyrmex anceps) และ ตัวที่พบทั้งหมด รองลงมาได้แก่ อันดับ Collembola มดนำ้าผึ้ง (Anoplolepis gracilipes) ตามลำาดับ การพบ และ Orthoptera คิดเป็นร้อยละ 11.52 และ 2.26 ของ จำานวนตัวที่พบทั้งหมด ตามลำาดับ ส่วนแมลงในอันดับ พวกมดมากกว่าแมลงชนิดอื่นอาจเนื่องจากมดเป็นแมลง Dermaptera และ Thysanura พบว่า มีจำานวนตัวน้อย สังคม และบางชนิดมักพบอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ที่สุด คิดเป็นร้อยละ 0.02 ของจำานวนตัวที่พบทั้งหมด สามารถปรับตัวได้ดี อยู่ได้ในทุกสภาพพื้นที่ (Jaitrong,4