วิวิธวรรณสาร WIWITWANNASAN Journal of Language and Culture ISSN 2630-0168 (Print) ISSN 2672-9458 (Electronic)

Total Page:16

File Type:pdf, Size:1020Kb

วิวิธวรรณสาร WIWITWANNASAN Journal of Language and Culture ISSN 2630-0168 (Print) ISSN 2672-9458 (Electronic) ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 วิวิธวรรณสาร WIWITWANNASAN Journal of Language and Culture ISSN 2630-0168 (Print) ISSN 2672-9458 (Electronic) ผู้เขียนประจ�าฉบับ ล�ำดวน เหมหงส์ เบญจวรรณ วงษำวดี คนึงนิตย์ ไสยโสภณ สมศักดิ์ พันธ์ศิริ วรำพรรณ ทิ้งโคตร นนทชำ คัยนันทน์ ณทรัตน์จุฑำ ไชยสวัสดิ์ โอภำส ข�ำมะลัง สิรินำถ จงกลกลำง ณภัทร เชำว์นวม วิวิธวรรณสาร ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 เจ้าของ เครือข่ำยนักวิชำกำรด้ำนภำษำและวัฒนธรรม ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ ศำสตรำจำรย์พิเศษ จ�ำนงค์ ทองประเสริฐ รำชบัณฑิต รองศำสตรำจำรย์ ดร.สุภำพร คงศิริรัตน์ มหำวิทยำลัยนเรศวร ผู้ทรงคุณวุฒิ ศำสตรำจำรย์ ดร.อุดม วโรตม์สิกขดิตถ์ รำชบัณฑิต ศำสตรำจำรย์ ดร.ดวงมน จิตร์จ�ำนงค์ มหำวิทยำลัยสงขลำนครินทร์ วิทยำเขตปัตตำนี ศำสตรำจำรย์ชวน เพชรแก้ว มหำวิทยำลัยรำชภัฏสุรำษฎร์ธำนี รองศำสตรำจำรย์ ดร.ณัฐพร พำนโพธิ์ทอง จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย รองศำสตรำจำรย์สงบ บุญคล้อย ผู้เชี่ยวชำญด้ำนภำษำตะวันออก รองศำสตรำจำรย์ ดร.ศำนติ ภักดีค�ำ ภำคีสมำชิกรำชบัณฑิตยสภำ รองศำสตรำจำรย์ ดร.วิไลศักดิ์ กิ่งค�ำ มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์ รองศำสตรำจำรย์ ดร.สิริวรรณ นันทจันทูล มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์ รองศำสตรำจำรย์ ดร.วิไลวรรณ ขนิษฐำนันท์ มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์ รองศำสตรำจำรย์ ดร.ชลอ รอดลอย มหำวิทยำลัยรำชภัฏล�ำปำง รองศำสตรำจำรย์สุนีย์ เลี่ยวเพ็ญวงษ์ มหำวิทยำลัยขอนแก่น รองศำสตรำจำรย์กฤษฎำ ศรีธรรมำ มหำวิทยำลัยรำชภัฏมหำสำรคำม ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.ศิริพร ภักดีผำสุข จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.อำรียำ หุตินทะ มหำวิทยำลัยศิลปำกร ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์สกุล บุณยทัต มหำวิทยำลัยศิลปำกร วิวิธวรรณสาร ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 นำงชมัยภร บำงคมบำง ศิลปินแห่งชำติ Dr.Nguyen Thi Thuy Chau Vietnam National University Dr. Chom Sonnang Researcher to Royal Academy of Cambodia กองบรรณาธิการ รองศำสตรำจำรย์ ดร.สมเกียรติ รักษ์มณี มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์ ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ประกิจ จันตะเคียน มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.เชษฐำ จักรไชย มหำวิทยำลัยรำชภัฏมหำสำรคำม ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.กอบกำญจน์ วิเศษรัมย์ มหำวิทยำลัยรำชภัฏเพชรบูรณ์ ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.สุชำดำ เจียพงษ์ มหำวิทยำลัยรำชภัฏพิบูลสงครำม ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.วรวรรธน์ ศรียำภัย มหำวิทยำลัยพะเยำ ดร.สรพันธ์ นันต๊ะภูมิ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยี รำชมงคล อีสำน วิทยำเขตสุรินทร์ ดร.รัชดำ ลำภใหญ่ มหำวิทยำลัยรังสิต ดร.วิชุดำ พรำยยงค์ มหำวิทยำลัยรำชภัฏธนบุรี ดร.จิรัฐิพร ไทยงูเหลือม มหำวิทยำลัยรำชภัฏนครรำชสีมำ บรรณาธิการ ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.บุณย์เสนอ ตรีวิเศษ มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ วิวิธวรรณสาร ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 ผู้ช่วยบรรณาธิการฝ่ายภาษาต่างประเทศ ดร.สมศักดิ์ พันธ์ศิริ มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ อำจำรย์บ�ำรุง กันรัมย์ มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ ดร.พิสุทธิ์พงศ์ เอ็นดู มหำวิทยำลัยเทคโนโลยี รำชมงคลอีสำน วิทยำเขตสุรินทร์ เลขานุการ อำจำรย์ยุพำวดี อำจหำญ มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ อำจำรย์พิมพ์ผกำ ยอดนำรี มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ พิสูจน์อักษร อำจำรย์สันติภำพ ชำรัมย์ มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ อำจำรย์อุภำวัณณ์ นำมหิรัญ มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ อำจำรย์ณภัทร เชำว์นวม มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ อำจำรย์พิพัฒน์ ประเสริฐสังข์ มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ ประสิทธิภาพเว็บไซต์ อำจำรย์สินทรัพย์ ยืนยำว มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ อำจำรย์ชลำวัล วรรณทอง มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ นำยมำนะ สลุบพล มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ วิวิธวรรณสาร ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 ศิลปกรรม – รูปเล่ม – ภาพประกอบ อำจำรย์ปำลิตำ ผลประดับเพ็ชร์ มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ ประชาสัมพันธ์ อำจำรย์อุภำวัณณ์ นำมหิรัญ มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ วิวิธวรรณสาร ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 ที่ท�าการส�านักงานวารสารวิวิธวรรณสาร 439 สำขำวิชำภำษำไทย อำคำร 25 ชั้น 3 ห้อง 250301 มหำวิทยำลัยรำชภัฏบุรีรัมย์ ถนนจิระ ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ 31000 โทรศัพท์: 084-518-6262 email address : [email protected] สมัครสมำชิกและส่งบทควำมได้ที่เว็บไซต์ http://www.wiwitwannasan.com วิวิธวรรณสาร ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 วิวิธวรรณสำร เป็นวำรสำรวิชำกำรด้ำนภำษำและวัฒนธรรมของเครือข่ำย นักวิชำกำรด้ำนภำษำและวัฒนธรรม มีก�ำหนดออกปีละ 3 ฉบับ เดือนมกรำคม-เมษำยน เดือนพฤษภำคม-สิงหำคม และ เดือนกันยำยน-ธันวำคม มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผล งำนในรูปแบบบทควำมวิจัย บทควำมวิทยำนิพนธ์ บทควำมวิชำกำร บทควำมวิจำรณ์ หนังสือ และบทควำมทั่วไปที่เป็นองค์ควำมรู้ เกี่ยวกับภำษำ วรรณกรรม วรรณคดี คติชน กำรสอนภำษำ วัฒนธรรม และกำรสื่อสำร บทควำมที่เผยแพร่ลงในวำรสำรต้องเป็น บทควำมที่ไม่เคยพิมพ์เผยแพร่ในวำรสำรอื่นใดมำก่อน และไม่อยู่ในระหว่ำงกำรพิจำรณำ พิมพ์เผยแพร่ในวำรสำรใด ๆ บทควำมทุกเรื่องในวำรสำรนี้ได้ผ่ำนกำรพิจำรณำจำกผู้ทรง คุณวุฒิในศำสตร์ที่เกี่ยวข้องจ�ำนวนสองคน และอำจได้รับกำรปรับปรุง แก้ไขตำมที่กอง บรรณำธิกำรและผู้ทรงคุณวุฒิเห็นสมควร ทั้งนี้ ข้อคิดเห็นใด ๆ ในบทควำมถือเป็นทัศนะ และควำมรับผิดชอบของ ผู้เขียนบทควำมเองทั้งสิ้น วิวิธวรรณสาร ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 วิวิธวรรณสาร ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 บทบรรณาธิการ วำรสำรวิชำกำร วิวิธวรรณสาร ฉบับนี้ เป็นฉบับปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภำคม- สิงหำคม 2562) ประกอบด้วยบทควำมวิจัย และบทควำมวิชำกำร รวม 6 เรื่อง ดังนี้ การพัฒนาศิลปะการแสดงจากการละเล่นของเด็กกลุ่มชาติพันธุ์ไทยลาวในเขต อ�าเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ (The Development of Performing Art from the Children’s Play Ritual of the Thai-Lao Ethnic Group in Sikhoraphum District, Surin Province) เป็นบทควำมวิจัยที่มุ่งศึกษำกำรละเล่นของเด็กของกลุ่ม ชำติพันธุ์ไทยลำวในจังหวัดสุรินทร์ นอกจำกจะเป็นกำรศึกษำในฐำนะภูมิปัญญำของท้องถิ่น ที่ควรรักษำไว้ โดยสำมำรถเก็บรวบรวมข้อมูลและจ�ำแนกประเภทกำรละเล่นเด็กได้หลำย ประเภทแล้ว ยังเป็นกำรพัฒนำศิลปะกำรแสดงจำกกำรละเล่นดังกล่ำวด้วย กำรศึกษำครั้ง นี้ มิเพียงแค่กำรส�ำรวจว่ำกำรละเล่นของกลุ่มชำติพันธุ์นี้มีเท่ำใด อะไรบ้ำง หำกยังศึกษำใน ลักษณะกำรฟื้นฟูหรือต่ออำยุให้ภูมิปัญญำกำรละเล่นของเด็กในจังหวัดสุรินทร์ได้กลับมำมี ชีวิตขึ้นมำอีกครั้งหนึ่งอีกด้วย วิเคราะห์แบบเรียนภาษาไทย อักษรนิติ (An Analysis of Thai Textbook Aksonnit) ท่ำมกระแสข่ำวที่เด็กไทยในระบบโรงเรียนก�ำลังพบเผชิญกับปัญหำอ่ำนไม่ออก เขียนไม่ได้ แม้จะขึ้นชั้นไปเรียนชั้นที่สูงกว่ำประถมต้นแล้ว เป็นเหตุให้หน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง ต้องทุ่มเทงบประมำณมหำศำลส�ำหรับกำรแก้ปัญหำ น่ำสังเกตว่ำประเทศนี้พูดถึงปัญหำและ แก้ปัญหำอ่ำนไม่ออกเขียนไม่ได้มำนับ 10 ปี แต่ดูเหมือนปัญหำดังกล่ำวยังด�ำรงอยู่ และยิ่ง ทวีควำมรุนแรงขึ้น กำรวิเครำะห์แบบเรียนในบทควำมนี้ เหมือนมีนัยว่ำ แท้จริงแล้ว ตัว บุคคลหรือวิธีกำรที่เป็นต้นเหตุแห่งปัญหำ หรือว่ำทั้งสองอย่ำงที่กล่ำวมำ บำงทีสิ่งที่เรียกว่ำ “นวัตกรรม” หรือเทคโนโลยีสมัยใหม่ อำจไม่ใช่ค�ำตอบก็เป็นได้ 10 วิวิธวรรณสาร ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 การใช้ภาษาสร้างจินตภาพในนวนิยายสยองขวัญชุด 4 ทิศตายของภาคินัย (The Use of Image Language in Horror Novel Set 4 Deaths of Phakhinai) กำรศึกษำ ในด้ำนมนุษยศำสตร์เป็นกำรศึกษำเกี่ยวกับมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตำย รวมถึงกำรวิเครำะห์ศึกษำ ผลงำนอันมำจำกกำรสร้ำงสรรค์ของมนุษย์ ทั้งเพื่อยกย่องชื่นชมในศักยภำพและศรัทธำในควำม เป็นมนุษย์ บทควำมวิจัยนี้ เป็นกำรค้นหำศักยภำพในด้ำนกำรเขียนของนักเขียนคนหนึ่ง ซึ่งที่แท้ แล้วสิ่งที่ผู้วิจัยค้นพบ ย่อมส่งผลกระทบทำงใดทำงหนึ่งต่อกำรพัฒนำศักยภำพของผู้วิจัยเองใน ที่สุด ความเชื่อเรื่องวิญญาณบรรพบุรุษของคนไทยถิ่นใต้ : ผี เปรต และเทวดา (Beliefs about ancestral spirits of southern Thai people: ghosts, beavis and angels) จริงหรือไม่ ที่สังคมไทยเกิดกำรปะทะกันระหว่ำงควำมเชื่อกับควำมคิด มำเป็นระยะ ๆ ที่น�ำไป สู่เหตุกำรณ์รุนแรงหลำยครั้ง แต่ในที่สุดควำมคิดก็พ่ำยแพ้แก่ควำมเชื่อทุกครั้งไป ทั้งนี้ อำจเป็น เพรำะพลังของควำมเชื่อนั้น ถูกส่งทอด ให้คุณค่ำและเกี่ยวพันกับชีวิตคนไทยมำเนิ่นนำนกว่ำ บทควำมวิชำกำรนี้จึงเป็นกำรศึกษำที่ยืนยันว่ำ ควำมเชื่อคือวิถีวัฒนธรรมกำรด�ำรงอยู่เพื่อควำม อยู่รอดปลอดภัยของคนรุ่นหลัง ต้องเคำรพย�ำเกรงต่อคนรุ่นก่อน และค�ำส�ำคัญที่เป็นตัวก�ำหนด ควำมเชื่อที่มีอิทธิฤทธิ์แท้จริงก็คือ “ควำมกตัญญู” การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้วรรณกรรมพิจารณ์และการคิด วิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคการคิดแบบ หมวกหกใบ (A Study of Learning Achievement on the Literature Critical Thinking Unit and Analytical Thinking of Twelfth Grade Students through the Six Thinking Hat Method) โลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมำก ประเทศไทยต้องพัฒนำ กำรศึกษำให้สอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่ำว ทั้งนี้เพื่อให้เยำวชนไทยมีทักษะในด้ำน ต่ำง ๆ เช่น กำรปรับตัว กำรคิดอย่ำงเป็นระบบ มีทักษะกำรสร้ำงสรรค์ และมีทักษะในกำรแก้ไข ปัญหำ บทควำมวิจัยนี้จึงมุ่งจะพัฒนำกระบวนกำรเรียนกำรสอนภำษำไทยให้มีผลสัมฤทธิ์ทำงกำร เรียนด้ำนกำรคิดให้สูงขึ้น อันสอดคล้องกับสถำนกำรณ์ปัจจุบันที่ผู้คนต้องมีทักษะอันพึงประสงค์ ที่ควรพัฒนำในโลกศตวรรษที่ 21 ปรากฏการณ์แห่งเรื่องเล่าสู่วรรณกรรมในหนังสือ “วรรณกรรม : ประวัติศาสตร์ เรื่องเล่าแห่งจินตนาการ” (The Phenomenon of Narratives to Literature in the Book "Literature: Historical Stories of Imagination") บทวิจำรณ์หนังสือนี้ ที่มุ่งกล่ำว ถึงหนังสือเล่มส�ำคัญ คือ A Little History of Literature หนังสือที่เปรียบเสมือนสะพำนที่เชื่อม Vol.3 No.2 (May - August) 2019 WIWITWANNASAN 11 ระหว่ำงวรรณกรรมกับโลกแห่งควำมจริง พร้อมส�ำรวจบริบทต่ำง ๆ ที่รำยล้อมวรรณกรรม ทั้งชำติพันธุ์ สังคม ประวัติศำสตร์ และวัฒนธรรม รวมทั้งตั้งค�ำถำมชวนขบคิดว่ำ ที่ทำงของ วรรณกรรมในอนำคตจะเป็นอย่ำงไร เมื่อชะตำของวรรณกรรมอำจไม่ได้อยู่ในก�ำมือผู้เขียน อีกต่อไป หำกแต่อยู่ในก�ำมือผู้อ่ำนทุกคน หวังว่ำ บทควำมทั้ง 6 เรื่อง ดังกล่ำวมำ คงช่วยขยำยมุมมอง และควำมคิดต่ำงๆ ยังผู้อ่ำน และผู้สนใจตำมสมควร อันจะน�ำสู่กำรพัฒนำงำนวิชำกำรเฉพำะตน ที่อำจยัง ประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไป บุณย์เสนอ ตรีวิเศษ 12 วิวิธวรรณสาร ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 Vol.3 No.2 (May - August) 2019 WIWITWANNASAN 13 สารบัญ วิวิธวรรณสาร ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2562 15 การพัฒนาศิลปะการแสดงจากการละเล่นของเด็ก กลุ่มชาติพันธุ์ไทยลาวในเขตอ�าเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ The Development of Performing Art from the Children’s Play Ritual of the Thai-Lao Ethnic Group in Sikhoraphum District, Surin Province ล�าดวน เหมหงส์ / เบญจวรรณ วงษาวดี / คนึงนิตย์ ไสยโสภณ Lamduan Hemhong / Benjawan Wongsawadee / Khanuengnit Saiyasopon วิเคราะห์แบบเรียนภาษาไทย อักษรนิติ 33 An Analysis of Thai Textbook Aksonnit สมศักดิ์ พันธ์ศิริ Somsak Phansiri การใช้ภาษาสร้างจินตภาพในนวนิยายสยองขวัญชุด 4 ทิศตายของภาคินัย 63
Recommended publications
  • Effect of Dental Health Education Program Among Grade Six Students at Ban Khu Mueang School (On Anukrok), Ubon Ratchathani Province
    International Journal of Management and Applied Science, ISSN: 2394-7926 Volume-4, Issue-11, Nov.-2018 http://iraj.in EFFECT OF DENTAL HEALTH EDUCATION PROGRAM AMONG GRADE SIX STUDENTS AT BAN KHU MUEANG SCHOOL (ON ANUKROK), UBON RATCHATHANI PROVINCE 1JUMPOL SAENGPECH, 2NATTHAKUN WARNHORM, 3SUPANSA KHAMJAN, 4ORAPHIM SAMONGRAM, 5KAEWJAI MALEELAI, 6WANPEN SOMHOM KHAM Nam Srang Sub-district Health Promoting Hospital, Kut Chum District, Yasothon Province, Thailand, Kae Sub-district Health Promoting Hospital, Rattanaburi District, Surin Province, Thailand, Wang Yang Hospital, Wang Yang District, Nakhon Phanom Province, Thailand, Nong Lek Sub-district Health Promoting Hospital, Sikhoraphum District, Surin Province, Thailand, Department of Dental Public Health, Sirindhorn College of Public Health Ubon Ratchathani, Thailand E-mail: [email protected], [email protected], [email protected], [email protected], [email protected], [email protected] According to the National Dental Health Survey 7th, 2012 found that 58.9% of children 12 years of age had gingivitis, an average of 2.94 out of 6 in the oral cavity and with the saliva stone and also found in the 12-year-old group, 52.3% had dental caries (DMFT) of 1.3 teeth per person. The dental health education program is a way to give health education opportunities and learning about good oral hygiene and dental health care. The objectives of this research were 1) to study knowledge, attitude, practice oral health care and plaque index among the six grade students at Ban Khu Mueang School (On Anukrok), Ubon Ratchathani Province 2) to comparison knowledge, attitude, a practice of oral health care and plaque index among dental health education program.
    [Show full text]
  • The Value of the Buddhist Art As Depicted the Khmer Castles in Surin Province
    Turkish Journal of Computer and Mathematics Education Vol.12 No. 8 (2021), 2544-2549 Research Article The Value of the Buddhist Art as depicted the Khmer Castles in Surin Province Thanarat Sa-ard-iama, Phrakhrupariyatidhammawong (Suphon)b, Phra Athiwat Thammawatsiric, Phra Sakdithat Sangtongd a Mahachulalongkornrajavidyalaya University, Surin Campus, Thailand b Mahachulalongkornrajavidyalaya University, Khon Kaen Campus, Thailand. cMahachulalongkornrajavidyalaya University, Chaing Mai Campus, Thailand. dMahachulalongkornrajavidyalaya University, Khon Kaen Campus, Thailand. [email protected], [email protected], c [email protected], d [email protected] Article History: Received: 10 January 2021; Revised: 12 February 2021; Accepted: 27 March 2021; Published online: 20 April 2021 Abstract: The purposes of this article were 1) to present the Buddhist art as depicted in the Khmer castles, to examine the value of Buddhist art as depicted in the Khmer castles. Historical documents and archaeological evidence were used. The result indicated that: When Buddhism was spread into the Suvarnabhumi region during the 3rd century AD, there was a devotee and dedication to create art related to Buddhism. Thus, this art is called Buddhist art. Among all the important civilizations in this world, the Khmer civilization, which is one of the important civilizations in Southeast Asia. The forms of Khmer architecture or Lopburi architecture can be divided into 3 types: (1) Devalai or temple (2) Dhammasala, accommodation for travelers, or houses with lights (3) Arogayasala (Chapel of the hospital). Surin province is located in the northeast of Thailand. There are a large number of Khmer castles. In this province, the castles of Brahmanism and Buddhism had been settled.
    [Show full text]
  • SOCIAL CAPITAL and CLIENTELISM: the CASE STUDY of LOCAL DISTRICTS in THAILAND On-Uma Rattanasripanya a Dissertation Submitted I
    SOCIAL CAPITAL AND CLIENTELISM: THE CASE STUDY OF LOCAL DISTRICTS IN THAILAND On-Uma Rattanasripanya A Dissertation Submitted in Partial Fulfillment of the Requirements for the Degree of Doctor of Philosophy (Development Administration) School of Public Administration National Institute of Development Administration 2011 iii ABSTRACT Title of Dissertation Social Capital and Clientelism: the Case Study of Local Districts in Thailand Author Miss On-Uma Rattanasripanya Degree Doctor of Philosophy (Development Administration) Year 2011 In the era of globalization, the world has changed rapidly within a few years, and the changing complexion of civil society is incommensurable with the traditional life in each society. With this concern and the growing interest in administrative restructure in developing countries, many political scientists and economists have argued that social capital is an important determinant of economic development and of the functioning of institutions. Social capital has commonly been studied in recent years from the perspective of sociology and political science; however, social capital alone cannot explain all of the phenomena to which it has been related. Thus, much more needs to be known about how social capital is related to various affecting factors and what the indicators and benefits of social capital are. In this dissertation, the goal of the study was to explore empirically one particular concept of “social capital” concerning whether it really exists and through what indicators formed in Thai rural communities. Secondly, through different case studies it would be possible to identify the degrees of social capital in different sub- districts. Thirdly, within the political perspective the study will find out whether social capital benefits or affects the choice of local leadership.
    [Show full text]
  • Research Report Thai COC Program for the Quality Criteria Results of Home Visit Services : Surin Province
    0 Research Report Thai COC Program for the Quality Criteria Results of Home Visit Services : Surin province By Miss Pasinee Nakdee Expertly Professional Nurse The chief of Community Health Nursing Department Surin Hospital a Preface This research is an action research to study the effect of using the Thai COC program on the quality of the result from the homecare services in Surin Province with the research methodology as follows. b Content page Preface a Content b Table Content c Diagram Content c Chapter 1 Background 1. Introduction and objectives 1 2. Objective 4 3. Inclusion criteria 4 4. Definition 5 5. Outcomes 5 Chapter 2 Concepts, theories and related researches 1.Concepts and theories 6 2. Related researches 29 Chapter 3 Research Methodology 1. Population and Sample Group 33 2. Research Process 33 3. The Research Tools, the quality inspection of the tool, and data collection 34 4. Data Analysis 35 Chapter 4 Research Result Phase 1 Planning 36 Phase 2 Action 37 Phase 3 Observing, monitoring and supervising 40 Phase 4 Reflect/Feedback 40 Chapter 5 Research Conclusion, Discussion and Recommendation 1.Research Discussions 56 2.Recommendation 58 3.Reference 59 c Table Content Table No. page 1 Amount and percent of patients classified by ratio of requested and accepted cases of homecare patients 45 2 Amount and percentage of homecare patients classified by general grouping 46 3 Amount and percentage of feedback from homecare patients categorized by patient levels and report cases 48 4 Amount and percentage of dependent patients categorized by report cases and transfer time 50 5 Percent of the patients categorized by the patient levels and health conditions 51 6 Percent of the patients categorized by the satisfaction ratings 52 7 Percentage of the service provider categorized by the satisfaction ratings 53 d Figure Content Figure No.
    [Show full text]
  • Effect of Dental Health Education Program Among Grade Six Students at Ban Khu Mueang School (On Anukrok), Ubon Ratchathani Province
    EFFECT OF DENTAL HEALTH EDUCATION PROGRAM AMONG GRADE SIX STUDENTS AT BAN KHU MUEANG SCHOOL (ON ANUKROK), UBON RATCHATHANI PROVINCE 1JUMPOL SAENGPECH, 2NATTHAKUN WARNHORM, 3SUPANSA KHAMJAN, 4ORAPHIM SAMONGRAM, 5KAEWJAI MALEELAI, 6WANPEN SOMHOM KHAM Nam Srang Sub-district Health Promoting Hospital, Kut Chum District, Yasothon Province, Thailand, Kae Sub-district Health Promoting Hospital, Rattanaburi District, Surin Province, Thailand, Wang Yang Hospital, Wang Yang District, Nakhon Phanom Province, Thailand, Nong Lek Sub-district Health Promoting Hospital, Sikhoraphum District, Surin Province, Thailand, Department of Dental Public Health, Sirindhorn College of Public Health Ubon Ratchathani, Thailand E-mail: [email protected], [email protected], [email protected], [email protected], [email protected], [email protected] According to the National Dental Health Survey 7th, 2012 found that 58.9% of children 12 years of age had gingivitis, an average of 2.94 out of 6 in the oral cavity and with the saliva stone and also found in the 12-year-old group, 52.3% had dental caries (DMFT) of 1.3 teeth per person. The dental health education program is a way to give health education opportunities and learning about good oral hygiene and dental health care. The objectives of this research were 1) to study knowledge, attitude, practice oral health care and plaque index among the six grade students at Ban Khu Mueang School (On Anukrok), Ubon Ratchathani Province 2) to comparison knowledge, attitude, a practice of oral health care and plaque index among dental health education program. A total of 30 samples were recruited from the six grade at Ban Khu Mueang School (On Anukrok), Warinchumrab District, Ubon Ratchathani Province.
    [Show full text]
  • Northeastern Thailand (Chapter)
    Thailand Northeastern Thailand (Chapter) Edition 14th Edition, February 2012 Pages 97 PDF Page Range 406-502 Coverage includes: Nakhon Ratchasima Province, Nakhon Ratchasima (Khorat), Around Nakhon Ratchasima, Phimai, Khao Yai National Park, Buriram Province, Nang Rong, Phanom Rung Historical Park, Around Phanom Rung, Surin & Si Saket Provinces, Surin, Around Surin, Si Saket, Around Si Saket, Ubon Ratchathani Province, Ubon Ratchathani, Around Ubon Ratchathani Province, Chaiyaphum Province, Chaiyaphum, Around Chaiyaphum, Khon Kaen Province, Khon Kaen, Around Khon Kaen, Udon Thani Province, Udon Thani, Around Udon Thani, Nong Khai Province, Nong Khai, West Of Nong Khai, Loei Province, Loei, Chiang Khan, Phu Reua National Park, Dan Sai, Sirindhorn Art Centre, Tham Erawan, Phu Kradueng National Park, Bueng Kan Province, Bueng Kan, Ban Ahong, Wat Phu Tok, Ban Kham Pia, Nakhon Phanom Province, Nakhon Phanom, Renu Nakhon, That Phanom, Sakon Nakhon Province, Sakon Nakhon, Phu Phan Mountains, Mukdahan Province, Mukdahan, Around Mukdahan, Yasothon & Roi Et Provinces, Yasothon, Around Yasothon, Roi Et, Around Roi Et, Sa Kaew Province and Aranya Prathet. Useful Links: Having trouble viewing your file? Head to Lonely Planet Troubleshooting. Need more assistance? Head to the Help and Support page. Want to find more chapters? Head back to the Lonely Planet Shop. Want to hear fellow travellers’ tips and experiences? Lonely Planet’s Thorntree Community is waiting for you! © Lonely Planet Publications Pty Ltd. To make it easier for you to use, access to this chapter is not digitally restricted. In return, we think it’s fair to ask you to use it for personal, non-commercial purposes only. In other words, please don’t upload this chapter to a peer-to-peer site, mass email it to everyone you know, or resell it.
    [Show full text]
  • Anti-Corruption Regime and Corruption Resolutions In
    ANTI-CORRUPTION REGIME AND CORRUPTION RESOLUTIONS IN LOCAL SELF-GOVERNMENT: A CASE STUDY OF SUBDISTRICT ADMINISTRATIVE ORGANIZATION (SAO) IN SOUTHERN PART OF NORTHEASTERN REGION OF THAILAND Pratueng Moung-On A Dissertation Submitted in Partial Fulfillment of the Requirement for the Degree of Doctor of Public Administration School of Public Administration National Institute of Development Administration 2013 ABSTRACT Title of Dissertation Anti-Corruption Regime and Corruption Resolutions in Local Self-Government: A Case Study of Subdistrict Administrative Organization (SAO) in Southern Part of Northeastern Region of Thailand Author Mr. Pratueng Moung-On Degree Doctor of Public Administration. Year 2013 _____________________________________________________________________ Research on the systems regarding the anti-corruption regime and corruption resolution in local self-government: A case study of Sub-District Administrative Organizations (SAO) in the Southern part of the Northeastern region of Thailand aims to study the following: 1) Forms of corruption within the Sub-District Administrative Organizations. 2) Anti-corruption systems in Thailand. 3) Problems in the anti- corruption regime and corruption resolution within Sub-District Administrative Organization. A qualitative research method was employed to study documents regarding the National Anti-Corruption Commission (NACC) pressing charges and cases are still undergoing investigations, and also by interviewing 63 key informants with the following results: 1) Most forms of corruption acts within SAOs were mostly related to procurement procedure bidding and hiring and employment cases, and also the misappropriation of income of SAOs and documentation fraud. Third place in the rankings are cases related to bribery regarding promotions and appointments. Most of the cases were against the Chief Executives of the SAOs and most of the acts were done in collaboration with other related personnel such as government officers, employees and other SAO officers.
    [Show full text]