Lyssa Zampa) และผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L

Total Page:16

File Type:pdf, Size:1020Kb

Lyssa Zampa) และผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L ความชุกชุมและเขตการแพรกระจายของผีเสื้อกลางคืนคางคาวในประเทศไทย Abundance and distribution of Lyssa spp. (Lepidoptera: Uraniidae) in Thailand สุรชัย ชลดํารงคกุล กลุมงานกีฏวิทยาและจุลชีววิทยาปาไม, สํานักวิจัยการอนุรักษปาไมและพันธุพืช กรมอุทยานแหงชาติ สัตวปา และพันธุพืช Abstract Surveying on abundance and distribution of Lyssa spp. was done by using black light trap at 46 forest stations throughout Thailand from January 2004 to December 2006. Two species of Lyssa spp. were found during surveying period: L. zampa and L. menoetius. The Near Threatened species; L. zampa was found all year round and distributed throughout the country. While, the Critically Endangered (CR) species; L. menoetius found only at Hala-Bala Wildlife research station, Narathiwat province (6oN). Key words: Abundance, distribution, conservation status, Lyssa spp. บทคัดยอ การสํารวจความชุกชุมและเขตการแพรกระจายของผีเสื้อกลางคืนคางคาว (Lyssa spp.) ใน ประเทศไทย ดวยกับดักแสงไฟแบล็คไลท ในพื้นที่ปาไม 46 แหง กระจายทั่วประเทศไทย ตั้งแตเดือน มกราคม 2547 ถึง ธันวาคม 2549 ซึ่งพบผีเสื้อกลางคืนคางคาว 2 ชนิด คือ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) และผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) โดยผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดามี สถานภาพใกลถูกคุกคาม (Near Threatened; NT) เปนผีเสื้อที่มีความชุกชุมสามารถพบไดตลอดป และมี เขตการแพรกระจายทั่วประเทศ สวนผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต มีสถานภาพที่ใกลสูญพันธุอยางยิ่ง (Critically Endangered; CR) เขตแพรกระจายเฉพาะที่สถานีวิจัยสัตวปา ปาพรุ ปาฮาลา บาลา จังหวัด นราธิวาส (6oN) เทานั้น คําสําคัญ: ความชุกชุม, เขตการแพรกระจาย, สถานภาพ, ผีเสื้อกลางคนคื างคาว คํานํา ผีเสื้อกลางคืนคางคาว เปนผีเสื้อกลางคืนในวงศ Uraniidae วงศยอย Uraniinae ซึ่งเปนผีเสื้อ ขนาดใหญ ประกอบดวย 4 สกุล คือ Urania, Chrysiridia, Alcides และ Lyssa โดยผีเสื้อในสกุล Urania, Chrysiridia และ Alcides เปนผีเสื้อที่มักหากินกลางวัน (Diurnal) และมีสีสันที่สดใส สวนผีเสื้อในสกุล Lyssa เปนผีเสื้อที่หากินกลางคืน (Nocturnal) มีลักษณะเดนที่ปกคูหลังมีหางสีขาวคอนขางยาว เปนผีเสื้อ ที่พบเห็นไดงาย ทั้งในเขตเพาะปลูกการเกษตร และในเขตกอสราง ในเวลากลางคืนมักพบบนถนน โดย ตาของผีเสื้อจะสะทอนแสงไฟเปนสีแดง (Barlow, 1982) ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) มีเขตการแพรกระจายตั้งแตภาค ตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขาหิมาลัย ถึงภาคใตของจีน และประเทศไทย หมูเกาะอันดามัน ฟลิปปนส และ สุราเวสี (Holloway, 1998) รวมถึง Indo-Australian (Sivasothi, 2005) ถิ่นที่อยูอาศัย คอนขางกวาง พบไดทั้งในปาจนกระทั่งในเมือง ตั้งแตปาต่ํา จนถึงปาบนเขา ที่ระดับความสูง 2,600 เมตร บนเขาคินาบาลู ในซาบาห (Holloway, 1998) มีการแพรกระจายงายและกวาง ซึ่ง Tokeshi and Yoko-O (2007) รายงานวามีการพบ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) ครั้งแรกใน แผนดินใหญของญี่ปุน ทางภาคตะวันตกของเกาะกิวชิว ในเดือนพฤษภาคม 2549 ซึ่งสันนิฐานวามาจาก พายุไตฝุนที่พัดพามาจากฟลิปปนส เปนระยะทางถึง 3,000 กิโลเมตร สําหรับประเทศไทยพบไดทั่วไป รวมทั้งในกรุงเทพมหานคร (นิรนาม, 2550) สวนผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) มีรายงาน เขตการแพรกระจายในบอรเนียว ฟลิปปนส ซังเกอร (Sangir) สุราเวสี ในอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังได พบที่บริเวณภาคใตตอนลางติดตอกับชายแดนมาเลเซีย ซึ่งพบในปาต่ํา โดยเฉพาะในปาเสื่อมโทรม (Secondary forest) (Holloway, 1998) พืชอาหารของตัวหนอนผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา คือ Endospermum ในวงศ Euphorbiaceae (Mohn, 2000; Sivasothi, 2005) E. peltatum (คลาย) ในบอรเนียว (Holloway, 1998) และ E. malaccense (ตะพง) (Lees and Smith, 1991) ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) เปนสัตวปาคุมครอง ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 พ.ศ. 2537 ภายใตพระราชบัญญัติสงวนและคุมครองสัตวปา พ.ศ. 2535 ซึ่งหามการครอบครอง และ การคา ปจจุบันเปนสัตวปาที่หามการนําเขา สงออก (สป. 6) ซึ่งหมายความวา สามารถครอบครอง ทํา การคาภายในประเทศ ยกเวนการคาระหวางประเทศ ตองขออนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแหงชาติ สัตว ปา และพันธุพืช ซึ่งเปนการผอนปรนใหสามารถทําการคาได จากเดิมที่ไมสามารถกระทําได ดังนั้นจึงมี ความจําเปนจะตองมีการติดตาม เฝาระวัง การเปลี่ยนแปลงประชากรเพื่อไมใหเกิดผลกระทบตอ ประชากรของผีเสื้อกลางคืนคางคาวในธรรมชาติ ภายหลังการผอนปรน เพื่อประโยชนในการอนุรักษ อุปกรณและวิธีการ ติดตั้งกับดักแสงไฟแบล็คไลท ในพื้นที่ปาไม 46 แหง กระจายทั่วประเทศ ตั้งแตแนวเสนรุงที่ 6 องศาเหนือ ในเขตซุนดาแลนด จนถึงแนวเสนรุงที่ 20 องศาเหนือ (ยกเวนแนวเสนรุงที่ 10 และ 12 ที่ ไมสามารถหาพื้นที่ติดตั้งกับดักแสงไฟได) ทําการเปดไฟทุกวันในระหวางเวลา 18.00 – 06.00 น. ตั้งแต เดือนมกราคม 2547 – ธันวาคม 2549 ทําการสํารวจและเก็บตัวอยางในเวลา 22.00 น. และ 06.00 น. พรอมบันทึกขอมูลวันที่ฝนตก และสงขอมูลและตัวอยางใหกลุมงานกีฏวิทยาและจุลชีววิทยาปาไม กรุงเทพฯ หรือศูนยวิจัยกีฏวิทยาปาไม ที่ 1, 2 และ 3 จังหวัดลําปาง ขอนแกน และจันทบุรี ตามลําดับ เพื่อจําแนกชนิด รวบรวม เพื่อจัดการขอมูล และวิเคราะหขอมูล กําหนดจุดที่พบผีเสื้อกลางคืนคางคาว ในแผนที่ประเทศไทย และทําการวิเคราะหขอมูลความ ชุกชุม (Abundance) ในแตละแนวเสนรุง ดัดแปลงจากวิธีการของ Hughes และคณะ (2003) และฤดูกาล การปรากฏของผีเสื้อโดยแยกเปนในสวนของแผนดินใหญ (Indo-china) ที่อยูเหนือแนวคอคอดกระ (Isthmus of Kra; 10.30o N) และในเขตคาบสมุทร (Peninsula) ซึ่งอยูใตแนวคอคอดกระ สําหรับความชุก ชุม จะวิเคราะหความชุกชุมสัมพัทธ (Relative abundance) ดังนี้ ความชุกชุมสัมพัทธ = จํานวนตัวทั้งหมด ตัว/การสํารวจ 1 ครั้ง จํานวนวนทั ี่สํารวจ x 2 การประเมินสถานภาพโดยใช IUCN Categories and Criteria (V.3.1) (IUCN, 2006) ผล ความหลากชนิดและเขตการแพรกระจาย จากการติดตาม พบผีเสื้อกลางคืนคางคาว 2 ชนิด คือ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) และผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) มีการกระจายตั้งแตเขตซุนดาแลนด ในแนวเสน รุงที่ 6 องศาเหนือ จังหวัดนราธิวาส จนถึงแนวเสนรุงที่ 20 องศาเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม (Figure 1) สวนผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) เปนผีเสื้อที่พบเฉพาะที่สถานีวิจัยสัตวปา ปาพรุ-ปาฮา ลา บาลา อําเภอแวง จังหวัดนราธิวาส บริเวณแนวเสนรุงที่ 6 องศาเหนือ ความชุกชุม ความชุกชุมของผีเสื้อกลางคืนคางคาว มีความชุกชุมมากที่สุดที่เขตซุนดาแลนด แนวเสนรุงที่ 6 องศาเหนือ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีผีเสื้อกลางคืนคางคาวทั้งสองชนิด ดวยความชุกชุม 0.021, 0.088 และ 0.033 ตัว/ การสํารวจ 1 ครั้ง ในป พ.ศ. 2547, 2548 และ 2549 ตามลําดับ สวนผีเสื้อกลางคืนคางคาว ตั้งแตแนวเสนรุงที่ 7 จนถึง 20 องศาเหนือ พบวาเปนผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดาเพียงชนิดเดียว โดย พบวา มีความชุกชุมสูงที่สุดที่บริเวณแนวเสนรุงที่ 13 องศาเหนือ (Figure 1) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ภาค ตะวันออก ในทองที่จังหวัดจันทบุรี ภาคกลางตอนบน จนถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ ดวยความชุกชุม 0.024, 0.031 และ 0.012 ตัว/ การสํารวจ 1 ครั้ง ในป พ.ศ. 2547, 2548 และ 2549 ตามลําดับ 20 19 18 17 16 15 14 13 12 11 Latitude degree 10 9 8 7 6 0 0.02 0.04 0.06 0.08 0.1 0.12 0.14 0.16 Relative abundance (Individuals/ spot sample) Figure 1. Distribution and abundance of the Giant Uranid moths (Lyssa spp.) in Thailand สถานภาพ สถานภาพของผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) อยูในกลุมใกลถูกคุกคาม (Near threatened; NT) กลาวคือ ความชุกชุมของผีเสื้อในระยะเวลา 3 ป ที่สํารวจ ประกอบดวยผีเสื้อมากกวา 3 รุน (Generation) มีความชุกชุมปที่ 2 (พ.ศ. 2548) เพิ่มขึ้น แตขณะที่ความชุกชุมในปที่ 3 (พ.ศ. 2549) ลดลงและลดลงมากกวาปที่ 1 (พ.ศ. 2547) (Table 1) ขณะที่ผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) มีสถานภาพเปนผีเสื้อที่ถูกคุกคาม และใกลสูญพันธุอยางยิ่ง (Critically Endangered; CR) เนื่องจากเปน ผีเสื้อที่พบในพื้นที่เดียว (single location) คือเฉพาะที่สถานีวิจัยสัตวปา ปาพรุ ปาฮาลา บาลา จังหวัด นราธิวาส ซึ่งเปนการพบในพื้นที่เพียงที่เดียวตลอดทั้ง 3 ป ไมมีการพบในพื้นที่อื่นใดอีกเลย Table 1. Abundance of Giant Uranid moths (Lyssa spp.) during the light trapping period (January 2004 to December 2006) Relative abundance Latitude (oN) 2004 2005 2006 6 0.02067 0.0879 0.0329 7 0 0.0082 0 8 0.00579 0.0176 0.0082 9 0.01042 0.0014 0.0088 11 0 0 0 13 0.02355 0.0311 0.0118 14 0.00111 0.0012 0 15 0.00148 0.0009 0 16 0.00294 0.001 0 17 0.00115 0.0015 0 18 0.00383 0 0.0011 19 0.02363 0.0025 0.0045 20 0.0024 0.0012 0.0021 average 0.00852 0.0101 0.0044 0.05 0.2 0.045 (A) 0.18 0.04 0.16 (B) 0.035 0.14 0.03 0.12 0.025 0.1 0.02 0.08 (Individuals/ spot sample) spot (Individuals/ 0.015 sample) spot (Individuals/ 0.06 Relative abundance abundanceRelative 0.01 0.04 0.005 0.02 0 0 Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Month Month Figure 2. Seasonal of the Giant Uranid moths (Lyssa spp.) appearance in Thailand; Appearance phenomena of the moths above the Isthmus of Kra (A), and below the Isthmus of Kra (B) ฤดูกาลปรากฏ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวสามารถพบไดตั้งแตเดือนมกราคม จนถึงเดือนธันวาคม และเนื่องจาก สภาพภูมิอากาศของพื้นที่ประเทศไทย แบงไดเปน 2 สวน คือ สวนที่เปนแผนดินใหญ ตั้งแตเหนือแนว คอคอดกระ (Isthmus of Kra; 10.3oN) ขึ้นไป จะมีลักษณะภูมิประเทศและพืชพันธุที่แตกตางจากพื้นที่ที่ เปนคาบสมุทรที่ตั้งอยูใตแนวคอคอดกระ ซึ่งรูปแบบการปรากฏของผีเสื้อกลางคืนคางคาวในพื้นที่ที่เปน แผนดินใหญ จะมีลักษณะขึ้นลง โดยพบผีเสื้อสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเปนชวงฤดูแลง มีฝนตก นอยมากเฉลี่ยประมาณ 3 วัน ขณะที่ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวในพื้นที่ที่เปนคาบสมุทร ใตแนวคอคอดกระ พบวาผีเสื้อพบในปริมาณสูงสุดในเดือนกรกฎาคมซึ่งเปนชวงตนฤดูฝนมีฝนตกเฉลี่ยประมาณ 13 วัน สรุปและวิจารณ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) และผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) มีลักษณะที่แตกตางกันอยางเดนชัดที่ดานทองปกของผีเสื้อกลางคืนคางคาวมีขีดประ สีน้ําตาลสั้น ๆ กระจายตั้งแตแถบสีขาวที่พาดขวางปก ออกมาสูปลายปก สวนผีเสื้อกลางคืนคางคาว ปกษใต จะไมมีรอยขีดประดังกลาว และมีรายงานการพบครั้งแรกในประเทศไทย ป ค.ศ. 1998 โดยเปน การพบที่พรมแดนทางใตสุด (extreme south of Thailand) ติดตอกับประเทศมาเลเซีย (Holloway, 1998) ผีเสื้อกลางคืนคางคาวในประเทศไทย มีเขตแพรกระจายทุกภาคของประเทศไทย แตพบความ ชุกชุมสูงสุดที่ปาฮาลาบาลา จังหวัดนราธิวาส ซึ่งตั้งอยูในแนวเสนรุงที่ 6 องศาเหนือ ในเขตซุนดาแลนด (Conservation International, 2007) ซึ่งผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา มีสถานภาพใกลถูกคุกคาม (Near Threatened; NT) จําเปนตองมีมาตรการในการจัดการเพื่อปองกันไมใหตองตกอยูในสภาวะถูกคุกคาม (Threatened) ในอนาคต แตสําหรับผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต เปนผีเสื้อที่ตกอยูในสภาวะถูกคุกคาม จนเสี่ยงอยางยิ่งตอการสูญพันธุ (Critically Endangered; CR) จากประเทศไทย แตในขณะเดียวกันกลับ เปนผีเสื้อที่พบไดทั่วไปในหมูเกาะบอรเนียว
Recommended publications
  • Mass Emergence of the Tropical Swallowtail Moth Lyssa Zampa (Lepidoptera: Uraniidae: Uraniinae) in Singapore, with Notes on Its Partial Life History
    20 TROP. LEPID. RES., 30(1): 20-27, 2020 JAIN & TEA: Mass emergence of Lyssa zampa Mass emergence of the tropical swallowtail moth Lyssa zampa (Lepidoptera: Uraniidae: Uraniinae) in Singapore, with notes on its partial life history Anuj Jain1,2, †,‡ and Yi-Kai Tea1,3,4 1Nature Society (Singapore), 510 Geylang Road, Singapore. 2Department of Biological Sciences, National University of Singapore, Singapore. 3School of Life and Environmental Sciences, University of Sydney, Sydney, Australia. 4Australian Museum Research Institute, 1 William Street, Sydney, New South Wales 2010, Australia. †Corresponding author: [email protected]; ‡Current affiliation: BirdLife International (Asia), #01-16/17, 354Tanglin Road, Singapore Date of issue online: 5 May 2020 Electronic copies (ISSN 2575-9256) in PDF format at: http://journals.fcla.edu/troplep; https://zenodo.org; archived by the Institutional Repository at the University of Florida (IR@UF), http://ufdc.ufl.edu/ufir;DOI : 10.5281/zenodo.3764165. © The author(s). This is an open access article distributed under the Creative Commons license CC BY-NC 4.0 (https://creativecommons.org/ licenses/by-nc/4.0/). Abstract: The tropical swallowtail uraniid moth Lyssa zampa is known to exhibit seasonal patterns of mass emergence throughout its range. These cyclical patterns of emergences are thought to correlate closely with oscillating host plant availability, as well as with interactions between herbivory and host plant defences. Because little has been reported concerning the biology of this species, the purpose of this paper is intended to serve as a starting point addressing the natural history of L. zampa in Singapore. Here we report on an instance of mass emergence of L.
    [Show full text]
  • Fung Yuen SSSI & Butterfly Reserve Moth Survey 2009
    Fung Yuen SSSI & Butterfly Reserve Moth Survey 2009 Fauna Conservation Department Kadoorie Farm & Botanic Garden 29 June 2010 Kadoorie Farm and Botanic Garden Publication Series: No 6 Fung Yuen SSSI & Butterfly Reserve moth survey 2009 Fung Yuen SSSI & Butterfly Reserve Moth Survey 2009 Executive Summary The objective of this survey was to generate a moth species list for the Butterfly Reserve and Site of Special Scientific Interest [SSSI] at Fung Yuen, Tai Po, Hong Kong. The survey came about following a request from Tai Po Environmental Association. Recording, using ultraviolet light sources and live traps in four sub-sites, took place on the evenings of 24 April and 16 October 2009. In total, 825 moths representing 352 species were recorded. Of the species recorded, 3 meet IUCN Red List criteria for threatened species in one of the three main categories “Critically Endangered” (one species), “Endangered” (one species) and “Vulnerable” (one species” and a further 13 species meet “Near Threatened” criteria. Twelve of the species recorded are currently only known from Hong Kong, all are within one of the four IUCN threatened or near threatened categories listed. Seven species are recorded from Hong Kong for the first time. The moth assemblages recorded are typical of human disturbed forest, feng shui woods and orchards, with a relatively low Geometridae component, and includes a small number of species normally associated with agriculture and open habitats that were found in the SSSI site. Comparisons showed that each sub-site had a substantially different assemblage of species, thus the site as a whole should retain the mosaic of micro-habitats in order to maintain the high moth species richness observed.
    [Show full text]
  • Using Inaturalist to Monitor Adherence to Best Practises in Bat Handling
    PREPRINT Author-formatted, not peer-reviewed document posted on 01/05/2021 DOI: https://doi.org/10.3897/arphapreprints.e68058 Using iNaturalist to monitor adherence to best practises in bat handling Laura Van der Jeucht, Quentin Groom, Donat Agosti, Kendra Phelps, DeeAnn Reeder, Nancy B. Simmons Author-formatted, not peer-reviewed document posted on 01/05/2021. DOI: https://doi.org/10.3897/arphapreprints.e68058 Using iNaturalist to monitor adherence to best practises in bat handling Laura Van der Jeucht‡, Quentin Groom§, Donat Agosti |, Kendra Phelps¶, DeeAnn Marie Reeder#, Nancy B. Simmons¤ ‡ Free University of Brussels (VUB), Brussels, Belgium § Meise Botanic Garden, Meise, Belgium | Plazi, Bern, Switzerland ¶ EcoHealth Alliance, New York, United States of America # Bucknell University, Lewisburg, United States of America ¤ American Museum of Natural History, New York, United States of America Corresponding author: Quentin Groom ([email protected]) Keywords anthropozoonosis, Personal protective equipment, handling animals, safety Introduction The general guidance is, and has always been, that handling bats should be avoided, particularly by the general public, but capturing and handling bats is often unavoidable for bat researchers. While bat researchers are aware of the potential for zoonotic disease transmission to occur when handling bats, most notably rabies, some do not wear any (or insufficient) personal protective equipment (PPE) to prevent exposure. This lack of adherence to even minimal biosafety practices may jeopardize both the safety of the bat and the handler. Such concerns became more pressing with the COVID-19 pandemic, but also had been raised as a result of previous outbreaks of human infections linked to contact with animals.
    [Show full text]
  • (Lepidoptera: Heterocera) of Jeli, Kelantan, Malaysia N. FAUZI , K
    Malayan Nature Journal 2013, 65(4), 280-287 A preliminary checklist of macromoths (Lepidoptera: Heterocera) of Jeli, Kelantan, Malaysia N. FAUZI1, K. HAMBALI1 , F.K. EAN1, N.S. SUBKI1, S.A. NAWAWI1, and M. H. JAMALUDIN2 Abstract : Limited information is available on moth diversity in the Jeli District of Kelantan. An initial checklist of moths at three sites, namely Gunung Stong Tengah State Park, Jeli Permanent Forest Reserve and Gemang within the Jeli district, Kelantan was documented. A total of 161 species was recorded and included in the list. Keywords: Checklist, Macromoths, Lepidoptera, Jeli, Kelantan. INTRODUCTION Studies on moth diversity in different habitats and conditions in Malaysia such as tropical rainforest (Barlow 1989; Schulze and Fiedler 1997), lowland tropical rainforest (Robinson & Tuck ,1993; Intachat and Holloway, 2000), hill dipterocarp forest (Abang and Karim, 2005), peat swamp forest (Abang and Karim 1999) and plantation area (Chey 1994) elucidated that the diversity values differs due to the difference in vegetation types, altitudes and status of the forest. The highest diversity of macromoths was found from the lower montane forest at the altitude of about 1000m (Holloway 1984). Conversely, the sites of the mixed dipterocarp forest, mostly has low diversity value (Holloway 1984). One of the factors that have been considered as contributing to the lower moth diversity in the lowland areas is the predominance of dipterocarps, which are known to have a high content of alkaloids (defense against insects) in their foliage (Holloway 1984). The study on the zonation in the Lepidoptera of northern Sulawesi found that the highest diversity is found in the range of 600m to 1000m (Holloway et al.
    [Show full text]
  • Phylogeny and Evolution of Lepidoptera
    EN62CH15-Mitter ARI 5 November 2016 12:1 I Review in Advance first posted online V E W E on November 16, 2016. (Changes may R S still occur before final publication online and in print.) I E N C N A D V A Phylogeny and Evolution of Lepidoptera Charles Mitter,1,∗ Donald R. Davis,2 and Michael P. Cummings3 1Department of Entomology, University of Maryland, College Park, Maryland 20742; email: [email protected] 2Department of Entomology, National Museum of Natural History, Smithsonian Institution, Washington, DC 20560 3Laboratory of Molecular Evolution, Center for Bioinformatics and Computational Biology, University of Maryland, College Park, Maryland 20742 Annu. Rev. Entomol. 2017. 62:265–83 Keywords Annu. Rev. Entomol. 2017.62. Downloaded from www.annualreviews.org The Annual Review of Entomology is online at Hexapoda, insect, systematics, classification, butterfly, moth, molecular ento.annualreviews.org systematics This article’s doi: Access provided by University of Maryland - College Park on 11/20/16. For personal use only. 10.1146/annurev-ento-031616-035125 Abstract Copyright c 2017 by Annual Reviews. Until recently, deep-level phylogeny in Lepidoptera, the largest single ra- All rights reserved diation of plant-feeding insects, was very poorly understood. Over the past ∗ Corresponding author two decades, building on a preceding era of morphological cladistic stud- ies, molecular data have yielded robust initial estimates of relationships both within and among the ∼43 superfamilies, with unsolved problems now yield- ing to much larger data sets from high-throughput sequencing. Here we summarize progress on lepidopteran phylogeny since 1975, emphasizing the superfamily level, and discuss some resulting advances in our understanding of lepidopteran evolution.
    [Show full text]
  • A Revision of the Genus Nyctalemon Dalman (Lepidoptera, Uraniidae) with Notes on the Biology, Distribution, and Evolution of Its Species
    A REVISION OF THE GENUS NYCTALEMON DALMAN (LEPIDOPTERA, URANIIDAE) WITH NOTES ON THE BIOLOGY, DISTRIBUTION, AND EVOLUTION OF ITS SPECIES by C. O. VAN REGTEREN ALTENA (Rijksmuseum van Natuurlijke Historie, Leiden) Contents ι. Introduction I 2. Systematics (a, The correct name of the genus p. 4; b, Diagnostic characters of the species and subspecies p. 6; c, Abbreviations p. 9; d, Key to the species and subspecies p. 10; e, Survey of the species and subspecies p. 11; f, Disregarded specimens p. 30; g, Wilcoxon tests for the difference between certain measurements in allied subspecies p. 31; h, Early stages p. 36; i, The species concept in Nyctalemon p. 37) 3. Biology 38 4. Distribution 43 5. Evolution 46 6. Bibliography 52 1. INTRODUCTION In November 1949 the late Professor Dr. L. J. Toxopeus of Bandung, Java, sent me a specimen of Nyctalemon for identification, but neither with the help of our collection, nor with the current literature did I succeed in ascertaining the correct name of this insect. On the contrary it appeared that, though the described forms of this genus clearly were of different value, viz., partly good species, partly geographical subspecies representing these species in restricted areas, no satisfactory division of the genus into species and subspecies had been given. Thus, Seitz' classification of the known forms into four species of which three are polytypic proved to make no sense. Therefore I resolved to study the genus more closely. In the ensuing correspondence Toxopeus gave me the benefit of his experience by providing references to relevant literature and quotations from his own notes.
    [Show full text]
  • Db Insect Guide Eng Compress
    What are insects? How should I observe insects? Body Insects could be found everywhere- from flowers, divided into: shrubs, soil surface, to the sky and water! Observe carefully and you may discover them! Head You don’t need high-tech equipment to observe 3 pairs of legs Thorax insects. You’ll only need: Abdomen Eyes Camera Magnifier This card Safety rules during observation Insects are invertebrates with an Respect the nature. Do not harm any insects. estimated number of 30 million, forming 85% of world’s species Take away nothing but memories; leave nothing but footprints. Turn off the flashlight while taking photos to avoid disturbing the insects. ©February 2017 WWF-Hong Kong. All rights reserved. How to use this ID guide? Common species The purpose of this ID guide is to identify the in Hong Kong major groups of insects. An identification key English Name should be used to distinguish the species. Scientific Name In the classification system, we will divide organisms according to their body features. Insects belong to “Insec- ta” and are further divided into “orders”. Identify the insect group using the classification guide first, then use the colour coding to flip to the right section. Members of the order Common habitats of the order Characteristics of the Ways to distinguish insects insect order that are similar Behaviour and habits ©February 2017 WWF-Hong Kong. All rights reserved. Classification Guide Lepidoptera Odonata Hymenoptera Orthoptera e.g. butterfly, moth e.g. dragonfly, damselfly e.g. bee, wasp, ant e.g. grasshopper. katydid, cricket Compound eyes Compound eyes Strong Membranous Slender Membranous wings Leathery forewings, hind legs Wings covered with scales wings abdomen membranous hindwings Hemiptera Mantodea Diptera Coleoptera e.g.
    [Show full text]
  • Non-Overlapping Climatic Niches and Biogeographic Barriers Explain Disjunct Distributions of Continental Urania Moths
    a Frontiers of Biogeography 2021, 13.2, e52142 Frontiers of Biogeography RESEARCH ARTICLE the scientific journal of the International Biogeography Society Non-overlapping climatic niches and biogeographic barriers explain disjunct distributions of continental Urania moths Claudia Nuñez-Penichet1* , Marlon E. Cobos1 , and Jorge Soberón1 1 Department of Ecology & Evolutionary Biology and Biodiversity Institute, University of Kansas, 1345 Jayhawk Blvd., Lawrence, Kansas, 66045 USA. *Correspondence: Claudia Nuñez-Penichet, [email protected] Abstract Highlights Larvae of Urania moths feed exclusively on Omphalea plants, • Using novel methods, we rejected the hypothesis that which are widely distributed in the Neotropics. However, the niches of the moths overlap when considering the distributions of the two Urania species in this region climatic conditions available in accessible areas. are disjunct. This distributional pattern could derive from the presence of the Andes, but it could also be related to • We explored for the first time the possibility of using differences in ecological niches, the presence of negative past environmental scenarios when performing interactions, or the absence of conditions that can only be analyses of niche overlap in environmental space. observed at a habitat level. We tested whether differences in the ecological niches of continentalUrania moths play a • We found that the Andean mountain range and role in their disjunct distribution. Using species records and ecoregions associated can be the major factors climatic variables, we characterized the ecological niches maintaining the disjoint distribution of continental of Urania moths and their host plants and analyzed the Urania moths. overlap of the moths’ niches. Using ecoregions as a proxy • of habitat-level environmental conditions, we explored the Our findings contribute to understanding the role of host plant availability on the moth distributions.
    [Show full text]
  • Sobre La Ocurrencia De Urania Leilus Linnaeus (Lepidoptera, Uraniidae, Uraniinae) En El Paraguay SERGIO D
    PARAQUARIA NATURAL DICIEMBRE 2015 Sobre la ocurrencia de Urania leilus Linnaeus (Lepidoptera, Uraniidae, Uraniinae) en el Paraguay SERGIO D. RÍOS 1,2,4* PAUL SMITH 3,4 Resumen Abstract Se reportan los registros conocidos de Urania The known Paraguayan records of Urania leilus Paraquaria Nat. 3(2): 19 - 21 leilus (Linnaeus, 1758) en el Paraguay, en base (Linnaeus, 1758) are reported based on historic a datos históricos y recientes. and recent data. © Del/de los autor/es. Es con licencia exclusiva a Guyra Paraguay. Palabras claves: Asunción, Chaco, migración Key words: Asunción, Chaco, migration http://guyrap.org.py/paraquaria/ art3:paraquaria32 Recibido: 19 de diciembre de 2015 Aceptado: 24 de diciembre de 2015 _______________________________________ 1 Dpto. de Arqueología y Paleontología, Direc- ción General de Bienes y Servicios Culturales, Secretaría Nacional de Cultura. Asunción, Paraguay. & Museo Nacional de Historia Natural del Paraguay. San Lorenzo, Paraguay. 2 Facultad de Ciencias Exactas y Naturales. Universidad Nacional de Asunción. 3 Fauna Paraguay, Encarnación, Itapúa – Paraguay 4 Para La Tierra, Reserva Natural Laguna Blan- ca, San Pedro, Paraguay. *Autor para la correspondencia: sergiord40@ gmail.com INTRODUCCIÓN de Asunción. San Lorenzo, Paraguay), colectado en septiembre de 1977 en “Asunción”. El ejemplar posee una etiqueta de identi- Los Uraniinae o Uraniidae sensu stricto comprenden una ficación en la que figura el nombre deUrania “ leilus amphiclus”, pequeña subfamilia de lepidópteros geometroideos, con cerca U. amphiclus Guenée, 1857 es actualmente un sinónimo de Ura- de 50 especies en siete géneros distribuidos pantropicalmente nia leilus y no se considera una subespecie válida (Beccaloni et (Lees & Smith 1991, Vinciguerra 2009). Los Uraniinae se caracter- al.
    [Show full text]
  • A New Record of Lyssa Zampa(Butler)
    Journal220 of Species Research 5(2):220-222, 2016JOURNAL OF SPECIES RESEARCH Vol. 5, No. 2 A new record of Lyssa zampa (Butler) from Korea Heon-Cheon Jeong1, Min-Jee Kim1, Iksoo Kim1 and Sei-Woong Choi2,* 1College of Agriculture & Life Sciences, Chonnam National University, Gwangju 61186, Korea 2Department of Environmental Education, Mokpo National University, Muan, Jeonnam 58554, Korea *Correspondent: [email protected] An Uraniidae moth, Lyssa zampa (Butler, 1869) is newly discovered from southern Korea. One male specimen was collected at a valley of south aspect of Mt. Hallasan, Jejudo in July, 2014. This species is briefly described and illustrated here. DNA barcoding sequence (Genbank KU160388) for the species was provided for species identification. Keywords: Jejudo, Korea, Lyssa, Uraniidae Ⓒ 2016 National Institute of Biological Resources DOI:10.12651/JSR.2016.5.2.220 INTRODUCTION DNA extraction, PCR, and sequencing Total DNA was extracted from one leg using the Wiz- An Uraniinae moth, a subfamily of Uradniidae is ard Genomic DNA Purification kit, according to the of large sized moth with slender body and deep trian- manufacturer’s instructions (Promega, Madison, WI, gular forewings and tailed or angled hindwings. They USA). DNA barcoding region was amplified using the are characterized by having the sexual dimorphism in primer pair adapted from Hajibabaei et al. (2006). De- the position of the tympanal organ (the ventral base of tailed PCR and sequencing methods were carried out the abdomen in female and the lateral tergites between following the methods described by Kim et al. (2015). 2nd and 3rd abdomen in male) and the forewing vena- A search of available public sequence databases, such tion that shows the lacking areole, having R3+R4 as the terminal bifurcation of the Rs system, with R5 well separate from this system, sharing a common stalk or more rarely being connate with M1 (Holloway, 1998).
    [Show full text]
  • Clutch Size Variation in Urania Boisduvalii (Guerin) (Uraniidae: Uraniinae)
    GENERAL NOTES Journal of the Lepidopterists’ Society 60(4), 2006, 227–228 CLUTCH SIZE VARIATION IN URANIA BOISDUVALII (GUERIN) (URANIIDAE: URANIINAE). Additional key words: Moth, gregarious oviposition, Lepidoptera The moth subfamily Uraniinae is represented by only many layers and it was impossible to count their exact one genus in the New World, Urania Fabricius. This number. In both localities we found the same results. genus contains six species, all with diurnal habits and The clutches bigger than 100 eggs could be the result iridescent colors. Two endemic species of this genus of gregarious oviposition, a phenomenon described in inhabit Cuba: Urania boisduvalii (Guérin), distributed other lepidopterans (Mallet & Jackson 1980, Goodfray throughout the island, and Urania poeyi (Gundlach), et al. 1991, Sourakov 1997, Reed 2003, Fordyce & Nice restricted to eastern Cuba. 2004). Although we did not observe different females of In general, the clutches of the Lepidoptera present Urania boisduvalii contributing to a collective egg three patterns based on the number of eggs laid by the clutch, we have two reasons that support this idea. female during oviposition: i) eggs laid singly; ii) small Smith (1992) reported a large number of eggs in the clutches of up to 20 eggs; iii) large clutches with more ovarioles of migratory Urania fulgens (ca. 300–400) and than 20 eggs (García-Barros 2000). only 15–30 eggs in the ovarioles of sedentary females of Urania females oviposit at dusk, ca. 1700 h (Smith this species. We consider that Urania boisduvalii have 1992). Guppy (1907) found that Urania leilus (L.) laid similar characteristics to Urania fulgens in the number eggs singly or in pairs on the underside of a leaf.
    [Show full text]
  • Lyssa Zampa in Taiwan (Lepidoptera: Uraniidae)
    146 HEPPNER and WANG: Lyssa in Taiwan NEOTROPICAL LEPIDOPTERA TROPICAL LEPIDOPTERA, 7(2): 146 (1996) LYSSA ZAMPA IN TAIWAN (LEPIDOPTERA: URANIIDAE) JOHN B. HEPPNER1 AND HSIAU-YUE WANG Florida State Collection of Arthropods, DPI, FDACS, P.O. Box 147100, Gainesville, Florida 32614-7100, USA; and Taiwan Museum, Dept. of Zoology, 48 Hsu-Chou Rd., Taipei, Taiwan, ROC ABSTRACT.- The tropical swallowtail moth, Lyssa zampa (Butler) (Uraniidae), of the Philippines and other areas in Southeast Asia, and previously of doubtful occurrence in Taiwan, is recorded again from Taiwan. Notes are provided of other recent specimens from Taiwan. KEY WORDS: Alcides, Australia, distribution, Euphorbiaceae, hostplants, Malaysia, Myrtaceae, Nepal, Oriental, Philippines, Southeast Asia. The large brown moth, Lyssa zampa (Butler), of the family hostplant identified. Boisduval (1874) reported a Lyssa larva Uraniidae or swallowtail moths (see Barlow, 1982), has been of feeding on a palm, but this needs further confirmation. Yen et al. doubtful occurrence in Taiwan and usually thought to be only a (1995) note the genus Macaranga (Euphorbiaceae) as a possible stray from the Philippines. Due to earlier records, it was included Taiwan host, but this remains to be established with rearings. in the recent catalog of Taiwan Lepidoptera (Inoue, 1992), as a However, the somewhat related Australian uraniid, Alcides possible resident. The species was originally described from zodiaca Butler, has Euphorbiaceae hostplants recorded (Forster Nepal, and occurs throughout tropical Southeast Asia; strays have and Sankowsky, 1995). been reported as far north as the Ryukyu Islands and Okinawa (Japan). The most recent revision of the genus (Regteren, 1953) LITERATURE CITED [as Nyctalemon, now listed as a synonym of Lyssa] did not list Taiwan in the known distribution for the genus.
    [Show full text]