Lyssa Zampa) และผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L
Total Page:16
File Type:pdf, Size:1020Kb
ความชุกชุมและเขตการแพรกระจายของผีเสื้อกลางคืนคางคาวในประเทศไทย Abundance and distribution of Lyssa spp. (Lepidoptera: Uraniidae) in Thailand สุรชัย ชลดํารงคกุล กลุมงานกีฏวิทยาและจุลชีววิทยาปาไม, สํานักวิจัยการอนุรักษปาไมและพันธุพืช กรมอุทยานแหงชาติ สัตวปา และพันธุพืช Abstract Surveying on abundance and distribution of Lyssa spp. was done by using black light trap at 46 forest stations throughout Thailand from January 2004 to December 2006. Two species of Lyssa spp. were found during surveying period: L. zampa and L. menoetius. The Near Threatened species; L. zampa was found all year round and distributed throughout the country. While, the Critically Endangered (CR) species; L. menoetius found only at Hala-Bala Wildlife research station, Narathiwat province (6oN). Key words: Abundance, distribution, conservation status, Lyssa spp. บทคัดยอ การสํารวจความชุกชุมและเขตการแพรกระจายของผีเสื้อกลางคืนคางคาว (Lyssa spp.) ใน ประเทศไทย ดวยกับดักแสงไฟแบล็คไลท ในพื้นที่ปาไม 46 แหง กระจายทั่วประเทศไทย ตั้งแตเดือน มกราคม 2547 ถึง ธันวาคม 2549 ซึ่งพบผีเสื้อกลางคืนคางคาว 2 ชนิด คือ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) และผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) โดยผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดามี สถานภาพใกลถูกคุกคาม (Near Threatened; NT) เปนผีเสื้อที่มีความชุกชุมสามารถพบไดตลอดป และมี เขตการแพรกระจายทั่วประเทศ สวนผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต มีสถานภาพที่ใกลสูญพันธุอยางยิ่ง (Critically Endangered; CR) เขตแพรกระจายเฉพาะที่สถานีวิจัยสัตวปา ปาพรุ ปาฮาลา บาลา จังหวัด นราธิวาส (6oN) เทานั้น คําสําคัญ: ความชุกชุม, เขตการแพรกระจาย, สถานภาพ, ผีเสื้อกลางคนคื างคาว คํานํา ผีเสื้อกลางคืนคางคาว เปนผีเสื้อกลางคืนในวงศ Uraniidae วงศยอย Uraniinae ซึ่งเปนผีเสื้อ ขนาดใหญ ประกอบดวย 4 สกุล คือ Urania, Chrysiridia, Alcides และ Lyssa โดยผีเสื้อในสกุล Urania, Chrysiridia และ Alcides เปนผีเสื้อที่มักหากินกลางวัน (Diurnal) และมีสีสันที่สดใส สวนผีเสื้อในสกุล Lyssa เปนผีเสื้อที่หากินกลางคืน (Nocturnal) มีลักษณะเดนที่ปกคูหลังมีหางสีขาวคอนขางยาว เปนผีเสื้อ ที่พบเห็นไดงาย ทั้งในเขตเพาะปลูกการเกษตร และในเขตกอสราง ในเวลากลางคืนมักพบบนถนน โดย ตาของผีเสื้อจะสะทอนแสงไฟเปนสีแดง (Barlow, 1982) ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) มีเขตการแพรกระจายตั้งแตภาค ตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขาหิมาลัย ถึงภาคใตของจีน และประเทศไทย หมูเกาะอันดามัน ฟลิปปนส และ สุราเวสี (Holloway, 1998) รวมถึง Indo-Australian (Sivasothi, 2005) ถิ่นที่อยูอาศัย คอนขางกวาง พบไดทั้งในปาจนกระทั่งในเมือง ตั้งแตปาต่ํา จนถึงปาบนเขา ที่ระดับความสูง 2,600 เมตร บนเขาคินาบาลู ในซาบาห (Holloway, 1998) มีการแพรกระจายงายและกวาง ซึ่ง Tokeshi and Yoko-O (2007) รายงานวามีการพบ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) ครั้งแรกใน แผนดินใหญของญี่ปุน ทางภาคตะวันตกของเกาะกิวชิว ในเดือนพฤษภาคม 2549 ซึ่งสันนิฐานวามาจาก พายุไตฝุนที่พัดพามาจากฟลิปปนส เปนระยะทางถึง 3,000 กิโลเมตร สําหรับประเทศไทยพบไดทั่วไป รวมทั้งในกรุงเทพมหานคร (นิรนาม, 2550) สวนผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) มีรายงาน เขตการแพรกระจายในบอรเนียว ฟลิปปนส ซังเกอร (Sangir) สุราเวสี ในอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังได พบที่บริเวณภาคใตตอนลางติดตอกับชายแดนมาเลเซีย ซึ่งพบในปาต่ํา โดยเฉพาะในปาเสื่อมโทรม (Secondary forest) (Holloway, 1998) พืชอาหารของตัวหนอนผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา คือ Endospermum ในวงศ Euphorbiaceae (Mohn, 2000; Sivasothi, 2005) E. peltatum (คลาย) ในบอรเนียว (Holloway, 1998) และ E. malaccense (ตะพง) (Lees and Smith, 1991) ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) เปนสัตวปาคุมครอง ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 พ.ศ. 2537 ภายใตพระราชบัญญัติสงวนและคุมครองสัตวปา พ.ศ. 2535 ซึ่งหามการครอบครอง และ การคา ปจจุบันเปนสัตวปาที่หามการนําเขา สงออก (สป. 6) ซึ่งหมายความวา สามารถครอบครอง ทํา การคาภายในประเทศ ยกเวนการคาระหวางประเทศ ตองขออนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแหงชาติ สัตว ปา และพันธุพืช ซึ่งเปนการผอนปรนใหสามารถทําการคาได จากเดิมที่ไมสามารถกระทําได ดังนั้นจึงมี ความจําเปนจะตองมีการติดตาม เฝาระวัง การเปลี่ยนแปลงประชากรเพื่อไมใหเกิดผลกระทบตอ ประชากรของผีเสื้อกลางคืนคางคาวในธรรมชาติ ภายหลังการผอนปรน เพื่อประโยชนในการอนุรักษ อุปกรณและวิธีการ ติดตั้งกับดักแสงไฟแบล็คไลท ในพื้นที่ปาไม 46 แหง กระจายทั่วประเทศ ตั้งแตแนวเสนรุงที่ 6 องศาเหนือ ในเขตซุนดาแลนด จนถึงแนวเสนรุงที่ 20 องศาเหนือ (ยกเวนแนวเสนรุงที่ 10 และ 12 ที่ ไมสามารถหาพื้นที่ติดตั้งกับดักแสงไฟได) ทําการเปดไฟทุกวันในระหวางเวลา 18.00 – 06.00 น. ตั้งแต เดือนมกราคม 2547 – ธันวาคม 2549 ทําการสํารวจและเก็บตัวอยางในเวลา 22.00 น. และ 06.00 น. พรอมบันทึกขอมูลวันที่ฝนตก และสงขอมูลและตัวอยางใหกลุมงานกีฏวิทยาและจุลชีววิทยาปาไม กรุงเทพฯ หรือศูนยวิจัยกีฏวิทยาปาไม ที่ 1, 2 และ 3 จังหวัดลําปาง ขอนแกน และจันทบุรี ตามลําดับ เพื่อจําแนกชนิด รวบรวม เพื่อจัดการขอมูล และวิเคราะหขอมูล กําหนดจุดที่พบผีเสื้อกลางคืนคางคาว ในแผนที่ประเทศไทย และทําการวิเคราะหขอมูลความ ชุกชุม (Abundance) ในแตละแนวเสนรุง ดัดแปลงจากวิธีการของ Hughes และคณะ (2003) และฤดูกาล การปรากฏของผีเสื้อโดยแยกเปนในสวนของแผนดินใหญ (Indo-china) ที่อยูเหนือแนวคอคอดกระ (Isthmus of Kra; 10.30o N) และในเขตคาบสมุทร (Peninsula) ซึ่งอยูใตแนวคอคอดกระ สําหรับความชุก ชุม จะวิเคราะหความชุกชุมสัมพัทธ (Relative abundance) ดังนี้ ความชุกชุมสัมพัทธ = จํานวนตัวทั้งหมด ตัว/การสํารวจ 1 ครั้ง จํานวนวนทั ี่สํารวจ x 2 การประเมินสถานภาพโดยใช IUCN Categories and Criteria (V.3.1) (IUCN, 2006) ผล ความหลากชนิดและเขตการแพรกระจาย จากการติดตาม พบผีเสื้อกลางคืนคางคาว 2 ชนิด คือ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) และผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) มีการกระจายตั้งแตเขตซุนดาแลนด ในแนวเสน รุงที่ 6 องศาเหนือ จังหวัดนราธิวาส จนถึงแนวเสนรุงที่ 20 องศาเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม (Figure 1) สวนผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) เปนผีเสื้อที่พบเฉพาะที่สถานีวิจัยสัตวปา ปาพรุ-ปาฮา ลา บาลา อําเภอแวง จังหวัดนราธิวาส บริเวณแนวเสนรุงที่ 6 องศาเหนือ ความชุกชุม ความชุกชุมของผีเสื้อกลางคืนคางคาว มีความชุกชุมมากที่สุดที่เขตซุนดาแลนด แนวเสนรุงที่ 6 องศาเหนือ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีผีเสื้อกลางคืนคางคาวทั้งสองชนิด ดวยความชุกชุม 0.021, 0.088 และ 0.033 ตัว/ การสํารวจ 1 ครั้ง ในป พ.ศ. 2547, 2548 และ 2549 ตามลําดับ สวนผีเสื้อกลางคืนคางคาว ตั้งแตแนวเสนรุงที่ 7 จนถึง 20 องศาเหนือ พบวาเปนผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดาเพียงชนิดเดียว โดย พบวา มีความชุกชุมสูงที่สุดที่บริเวณแนวเสนรุงที่ 13 องศาเหนือ (Figure 1) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ภาค ตะวันออก ในทองที่จังหวัดจันทบุรี ภาคกลางตอนบน จนถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ ดวยความชุกชุม 0.024, 0.031 และ 0.012 ตัว/ การสํารวจ 1 ครั้ง ในป พ.ศ. 2547, 2548 และ 2549 ตามลําดับ 20 19 18 17 16 15 14 13 12 11 Latitude degree 10 9 8 7 6 0 0.02 0.04 0.06 0.08 0.1 0.12 0.14 0.16 Relative abundance (Individuals/ spot sample) Figure 1. Distribution and abundance of the Giant Uranid moths (Lyssa spp.) in Thailand สถานภาพ สถานภาพของผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) อยูในกลุมใกลถูกคุกคาม (Near threatened; NT) กลาวคือ ความชุกชุมของผีเสื้อในระยะเวลา 3 ป ที่สํารวจ ประกอบดวยผีเสื้อมากกวา 3 รุน (Generation) มีความชุกชุมปที่ 2 (พ.ศ. 2548) เพิ่มขึ้น แตขณะที่ความชุกชุมในปที่ 3 (พ.ศ. 2549) ลดลงและลดลงมากกวาปที่ 1 (พ.ศ. 2547) (Table 1) ขณะที่ผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) มีสถานภาพเปนผีเสื้อที่ถูกคุกคาม และใกลสูญพันธุอยางยิ่ง (Critically Endangered; CR) เนื่องจากเปน ผีเสื้อที่พบในพื้นที่เดียว (single location) คือเฉพาะที่สถานีวิจัยสัตวปา ปาพรุ ปาฮาลา บาลา จังหวัด นราธิวาส ซึ่งเปนการพบในพื้นที่เพียงที่เดียวตลอดทั้ง 3 ป ไมมีการพบในพื้นที่อื่นใดอีกเลย Table 1. Abundance of Giant Uranid moths (Lyssa spp.) during the light trapping period (January 2004 to December 2006) Relative abundance Latitude (oN) 2004 2005 2006 6 0.02067 0.0879 0.0329 7 0 0.0082 0 8 0.00579 0.0176 0.0082 9 0.01042 0.0014 0.0088 11 0 0 0 13 0.02355 0.0311 0.0118 14 0.00111 0.0012 0 15 0.00148 0.0009 0 16 0.00294 0.001 0 17 0.00115 0.0015 0 18 0.00383 0 0.0011 19 0.02363 0.0025 0.0045 20 0.0024 0.0012 0.0021 average 0.00852 0.0101 0.0044 0.05 0.2 0.045 (A) 0.18 0.04 0.16 (B) 0.035 0.14 0.03 0.12 0.025 0.1 0.02 0.08 (Individuals/ spot sample) spot (Individuals/ 0.015 sample) spot (Individuals/ 0.06 Relative abundance abundanceRelative 0.01 0.04 0.005 0.02 0 0 Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Month Month Figure 2. Seasonal of the Giant Uranid moths (Lyssa spp.) appearance in Thailand; Appearance phenomena of the moths above the Isthmus of Kra (A), and below the Isthmus of Kra (B) ฤดูกาลปรากฏ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวสามารถพบไดตั้งแตเดือนมกราคม จนถึงเดือนธันวาคม และเนื่องจาก สภาพภูมิอากาศของพื้นที่ประเทศไทย แบงไดเปน 2 สวน คือ สวนที่เปนแผนดินใหญ ตั้งแตเหนือแนว คอคอดกระ (Isthmus of Kra; 10.3oN) ขึ้นไป จะมีลักษณะภูมิประเทศและพืชพันธุที่แตกตางจากพื้นที่ที่ เปนคาบสมุทรที่ตั้งอยูใตแนวคอคอดกระ ซึ่งรูปแบบการปรากฏของผีเสื้อกลางคืนคางคาวในพื้นที่ที่เปน แผนดินใหญ จะมีลักษณะขึ้นลง โดยพบผีเสื้อสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเปนชวงฤดูแลง มีฝนตก นอยมากเฉลี่ยประมาณ 3 วัน ขณะที่ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวในพื้นที่ที่เปนคาบสมุทร ใตแนวคอคอดกระ พบวาผีเสื้อพบในปริมาณสูงสุดในเดือนกรกฎาคมซึ่งเปนชวงตนฤดูฝนมีฝนตกเฉลี่ยประมาณ 13 วัน สรุปและวิจารณ ผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา (Lyssa zampa) และผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต (L. menoetius) มีลักษณะที่แตกตางกันอยางเดนชัดที่ดานทองปกของผีเสื้อกลางคืนคางคาวมีขีดประ สีน้ําตาลสั้น ๆ กระจายตั้งแตแถบสีขาวที่พาดขวางปก ออกมาสูปลายปก สวนผีเสื้อกลางคืนคางคาว ปกษใต จะไมมีรอยขีดประดังกลาว และมีรายงานการพบครั้งแรกในประเทศไทย ป ค.ศ. 1998 โดยเปน การพบที่พรมแดนทางใตสุด (extreme south of Thailand) ติดตอกับประเทศมาเลเซีย (Holloway, 1998) ผีเสื้อกลางคืนคางคาวในประเทศไทย มีเขตแพรกระจายทุกภาคของประเทศไทย แตพบความ ชุกชุมสูงสุดที่ปาฮาลาบาลา จังหวัดนราธิวาส ซึ่งตั้งอยูในแนวเสนรุงที่ 6 องศาเหนือ ในเขตซุนดาแลนด (Conservation International, 2007) ซึ่งผีเสื้อกลางคืนคางคาวธรรมดา มีสถานภาพใกลถูกคุกคาม (Near Threatened; NT) จําเปนตองมีมาตรการในการจัดการเพื่อปองกันไมใหตองตกอยูในสภาวะถูกคุกคาม (Threatened) ในอนาคต แตสําหรับผีเสื้อกลางคืนคางคาวปกษใต เปนผีเสื้อที่ตกอยูในสภาวะถูกคุกคาม จนเสี่ยงอยางยิ่งตอการสูญพันธุ (Critically Endangered; CR) จากประเทศไทย แตในขณะเดียวกันกลับ เปนผีเสื้อที่พบไดทั่วไปในหมูเกาะบอรเนียว