กรมการแพทย์issn 0125-1643 ปีที่ 46 ฉบับที่ 1 ประจำ�เดือนมกราคม-มีนาคม 2564
Total Page:16
File Type:pdf, Size:1020Kb
วารสาร Journal of The Department of Medical Services กรมการแพทย์ISSN 0125-1643 ปีที่ 46 ฉบับที่ 1 ประจำาเดือนมกราคม-มีนาคม 2564 วัตถุประสงค์ 1. เผยแพร่ประสบการณ์ การวิจัย และค้นคว้าทางวิชาการแพทย์ 2. พัฒนาองค์ความรู้ทางการแพทย์ นวัตกรรมทางการแพทย์ แก่บุคลากรด้านสาธารณสุข ที่ปรึกษา : นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มส�าราญ นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช บรรณาธิการ : นายแพทย์อรรถสิทธิ์ ศรีสุบัติ กองบรรณาธิการ เกรียง ตั้งสง่า คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจริญ ชูโชติถาวร นักวิชาการอิสระ จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดนุลดา จามจุรี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ทวีศักดิ์ แทนวันดี คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล พรชัย สิทธิศรัณย์กุล คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัชญา คชศิริพงศ์ วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ภาคภูมิ สุปิยพันธุ์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภูพิงค์ เอกะวิภาต สถาบันประสาทวิทยา วินัดดา ปิยะศิลป์ นักวิชาการอิสระ สหภูมิ ศรีสุมะ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี สมชัย ชัยศุภมงคลลาภ นักวิชาการอิสระ สมบูรณ์ ทรัพย์วงศ์เจริญ โรงพยาบาลราชวิถี สุวรรณา อรุณพงศ์ไพศาล คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สุคนธา คงศีล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศิริมา สีละวงศ์ กองการพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายจัดการ : ศิวาพร สังรวม • นิจนิรันดร์ แก้วใสย์ • ปาลิตา ลิสุวรรณ • ญาณินทร์ เกลี้ยงล�ายอง ส�านักงาน : ส�านักงานวารสารกรมการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 โทร. 0 2590 6276 ก�าหนดการตีพิมพ์ ปีละ 4 ฉบับ (ฉบับ ม.ค.- มี.ค. เม.ย.- มิ.ย. ก.ค.- ก.ย. ต.ค.- ธ.ค.) วารสารกรมการแพทย์ยินดีรับบทความและผลงานทางวิชาการเพื่อพิจารณาพิมพ์ลงในวารสาร จึงขอเชิญสมาชิกและ ผู้สนใจทุกท่านส่งต้นฉบับตามหลักเกณฑ์ที่ก�าหนดไว้ในค�าชี้แจงการส่งเรื่องเพื่อลงพิมพ์ไปยังส�านักงานวารสาร กรมการแพทย์ โดยส่งมาที่... บรรณาธิการวารสารกรมการแพทย์ ส�านักงานวารสารกรมการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 โทร.0 2590 6276 E-mail: [email protected] www.dms.go.th ข้อความและข้อคิดเห็นต่างๆ เป็นของผู้เขียนบทความนั้นๆ ไม่ใช่ความเห็นของกองบรรณาธิการหรือของวารสารกรมการแพทย์ วิสัยทัศน์: วิสัยทัศน์ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ประชาชนสุขภาพดีได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานวิชาชีพ อย่างเสมอภาค การแพทย์ไทยเป็น 1 ใน 3 ของเอเชีย วิสัยทัศน์ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2560 – 2565) ประชาชนได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานวิชาชีพอย่างเสมอภาคภายในปี พ.ศ. 2565 พันธกิจ: สร้างและถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สมคุณค่า (Appropriate Medical Technology) เสริมสร้าง การมีส่วนร่วม (Co-Creation) ทางวิชาการและบริการทางการแพทย์ในทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาการแพทย์ของประเทศ สู่มาตรฐานสากล บทบรรณาธิการ โควิด-19 ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องเกาะติดสถานการณ์ ที่ผ่านมาประเทศไทยผ่านภาวะวิกฤตนี้มาได้ และได้รับ กันอย่างใกล้ชิด การระบาดของโควิด-19 ในรอบนี้มีการกระจาย การชื่นชมว่าเราประสบความส�าเร็จ ปัจจัยหนึ่งที่ส�าคัญคือการ ไปอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง ดังนั้น ทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ สาธารณสุขมูลฐานของเราที่ดีและเข้มแข็งในระดับชุมชน อัน และเอกชน รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ยังคงต้องท�างานหนักอย่าง ประกอบด้วยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�าบล นักวิชาการ ต่อเนื่อง โรคโควิด-19 ในรอบนี้ เป็นการระบาดไปทั่วประเทศ สาธารณสุข พยาบาลชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจ�า และทุกภูมิภาค สถานบริการสุขภาพทุกระดับจึงต้องเตรียมความ หมู่บ้าน ซึ่งที่กล่าวมานี้มีบทบาทส�าคัญในการป้องกันการแพร่ พร้อมรับมือกับการระบาด รวมถึงจิตอาสาและอาสาสมัคร ระบาดของโรคโควิด-19 สาธารณสุขที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันตามก�าลังและความสามารถ เรามาศึกษาเรื่องราวและประสบการณ์การท�างานร่วมกัน เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้เร็วที่สุด อันเป็นที่มาของความส�าเร็จ มีรายละเอียดของการท�างานเป็น วารสารกรมการแพทย์ ฉบับนี้ ขอเสนอเรื่องเด่นประจ�า อย่างไร จึงสามารถป้องกันหมู่บ้านของตนเองไม่ให้โรคโควิด-19 ฉบับ ซึ่งเป็นเรื่องของประสบการณ์การท�างานของอาสาสมัคร แพร่กระจายเข้าไปในหมู่บ้านของตนเองได้ ซึ่งเป็นส่วนส�าคัญ สาธารณสุขประจ�าหมู่บ้าน หรือที่เรารู้จักในชื่อย่อกันอย่าง ในการป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศไทยโดยรวมได้ด้วยเช่นกัน กว้างขวางว่า อสม. โดยสาระเป็นเรื่องราวการท�างานร่วมกัน ระหว่าง อสม.กับบุคลากรสาธารณสุขของโรงพยาบาลส่งเสริม บรรณาธิการ สุขภาพต�าบลในช่วงภาวะวิกฤตโควิด-19 ในรอบแรก ปีที่ 46 ฉบับที่ 1 มกราคม - มีนาคม 2564 | 3 สารบัญ เรือง่ หน้า เรืองเด่นประจ�่ าฉบับ ประสบการณ์การท�างานของ อาสาสมัครสาธารณสุขประจ�าหมู่บ้าน ร่วมกับบุคลากรสาธารณสุขของโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพต�าบล ในช่วงวิกฤติกาล โรคติดเชือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่้ 2019 5 นิพนธ์ต้นฉบับ : ORIGINAL ARTICLES 17 ค�าชีแจงการส่งเรื้ องเพื่ ่อลงพิมพ์ 293 4 | วารสารกรมการแพทย์ เรืองเด่นประจ�่ าฉบับ ประสบการณ์การท�างานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจ�าหมู่บ้าน ร่วมกับบุคลากรสาธารณสุขของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต�าบล ในช่วงวิกฤติกาลโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 The Role of Community Healthcare Workers of Thailand during the COVID-19 Pandemic Period ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ พ.บ.*, ชาติชาย สุวรรณนิตย์ วท.ม.*, กฤษณ์ พงศ์พิรุฬห์ พ.บ., ปร.ด.**, เกรียง ตั้งสง่า พ.บ.*** *กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข, ต�าบลตลาดขวัญ อ�าเภอเมืองนนทบุรี จังหวัด นนทบุรี, 11000 **ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แขวงปทุมวัน กรุงเทพมหานคร, 10330 ***ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แขวงปทุมวัน กรุงเทพมหานคร, 10330 ปีที่ 46 ฉบับที่ 1 มกราคม - มีนาคม 2564 | 5 บทน�า หรือหายใจล�าบาก (ข) ผู้ที่เป็นแรงงานไทย หรือไม่ใช่แรงงานไทย ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จากต่างประเทศ ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโรค 2019 (โรคโควิด-19) เป็นครั้งแรกเมื่อกลางเดือน มกราคม พ.ศ. ดังกล่าวแล้ว ในช่วงระยะที่สองนี้ อสม.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่าย 25631 เป็นประเทศที่สองต่อจากจีน แต่เมื่อถึงปลายเดือน ปกครองของหมู่บ้านตรวจพบประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเป็น พฤศจิกายน 2563 ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเพียง 3,800 รายเศษ โรคจ�านวน 40,250 ราย และได้ควบคุมให้อยู่ในสถานที่กักกันตัว และมีผู้เสียชีวิตเพียง 60 ราย ซึ่งนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับ ในหมู่บ้านเป็นเวลา 14 วันติดต่อกัน แบ่งเป็นประชาชนในหมู่บ้าน ผู้ป่วยโรคนี้กว่า 57 ล้านคนทั่วโลกในช่วงเวลาเดียวกัน และองค์การ ที่มีอาการต้องสงสัยคือ มี ไข้ ไอ หรือหอบ 10,810 ราย (ร้อยละ อนามัยโลกได้จัดล�าดับประเทศไทย2 ให้มีคะแนนอัตราความรุนแรง 27) เป็นประชาชนที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 16,010 ของโรคน้อย (COVID-19 severity rating) เป็นล�าดับที่ 1 และมี ราย (ร้อยละ 40) และเป็นแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากต่าง คะแนนอัตราการฟื้นตัวจากโรคดี (COVID-19 recovery rating) ประเทศ 13,430 ราย (ร้อยละ 33) เป็นล�าดับที่ 5 ปัจจัยที่ส�าคัญประการหนึ่งที่ท�าให้ประเทศไทย ต่อมาในระยะที่สามของวิกฤติกาล คือตั้งแต่วันที่ 27 ประสบความส�าเร็จในเรื่องนี้ คือ การมีระบบการสาธารณสุข มีนาคม - 30 เมษายน พ.ศ. 2563 มีผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มูลฐาน (primary healthcare) ที่ดี ประเทศไทยมีประชาชนอาศัย จาก 100 รายเป็นมากกว่า 900 รายภายในระยะเวลา 10 วัน6 ในหมู่บ้านนอกเขตกรุงเทพมหานคร จ�านวน 75,032 หมู่บ้านหรือ ในช่วงเวลานี้ อสม.ได้ออกเยี่ยมบ้านอย่างต่อเนื่องเพิ่มอีก 9,917,109 23,672,821 หลังคาเรือน3 มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�าบล หลังคาเรือน หรือเท่ากับร้อยละ 41.9 ของจ�านวนหลังคาเรือนนอก (รพ.สต.) รวม 9,768 แห่ง มีนักวิชาการสาธารณสุขและพยาบาล เขตกรุงเทพมหานคร ได้ช่วยค้นหาประชากรกลุ่มเสี่ยงสูงที่เข้า ชุมชนของรพ.สต.ประมาณ 38,000 คน และมีอาสาสมัคร หมู่บ้านมาใหม่เพิ่มอีก 1,035,203 ราย เป็นแรงงานจากท้องที่อื่น สาธารณสุขประจ�าหมู่บ้าน (อสม.) ประมาณ 1 ล้านคนเศษ4 ใน ที่เดินทางกลับภูมิล�าเนา 695,504 ราย (ร้อยละ 67) เป็นคนใน ช่วงการระบาดรอบแรกของโรคโควิด-19 อสม.และบุคลากรของ หมู่บ้านที่มีประวัติใกล้ชิดกับประชากรกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรค รพ.สต. ได้มีบทบาทอย่างมากในการป้องกันการแพร่ระบาดของ 268,005 ราย (ร้อยละ 26) และเป็นคนไทยที่เดินทางกลับจาก โรคฯ5 ดังที่จะน�าเสนอนี้ ต่างประเทศ 71,694 ราย (ร้อยละ 7) สามารถน�าไปกักกันตัวและ ในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 กรมสนับสนุน เฝ้าดูอาการเป็นเวลา 14 วันติดต่อกัน รวม 1,016,711 คน หรือ บริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อม โดย คิดเป็นร้อยละ 98 ของประชากรกลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมด พบมี 3,287 ฝึกสอน อสม.ให้สามารถท�าหน้ากากผ้าได้เองรวม 3,626,950 ผืน ราย ที่มีอาการต้องสงสัยว่าอาจเป็นโรคโควิด-19 และได้รายงาน มีประชาชนจ�านวน 7,424,625 คน ได้รับการเยี่ยมบ้านและได้ ไปยังบุคลากรสาธารณสุขของ รพ.สต. และผู้ใหญ่บ้านหรือหัวหน้า รับค�าแนะน�าด้านการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลและครัวเรือน มี ชุมชน เพื่อประสานงานส่งต่อประชากรส่วนนี้ไปโรงพยาบาลต่อไป ประชาชน 1,373,275 คนในหลายจังหวัดเข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ การท�าความสะอาดครัวเรือนและชุมชน (big cleaning day) ให้ วิจารณ์ บุคคลที่มีความเสี่ยงสูงนี้ อยู่ในสถานที่กักตัวเป็นเวลา 14 วันติดต่อ ในขณะที่ยังไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะโรคและยังไม่มีวัคซีน กัน และต้องรายงานให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของชุมชน ป้องกันโรคโควิด-19 วิธีควบคุมการแพร่กระจายโรคที่ดีที่สุดคือ ในระยะที่สองคือช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 ผู้ป่วย การรักษาสุขอนามัยของบุคคลและส่วนรวม การคัดกรอง การสวม ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในประเทศไทยมีจ�านวนเพิ่มขึ้น มีแรงงานไทย หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย การแยกบุคคลที่เป็นประชากร จากต่างประเทศ หรือจากจังหวัดอื่นเดินทางกลับภูมิล�าเนาเดิม กลุ่มเสี่ยงสูงไปกักกันตัวเพื่อเฝ้าดูอาการและอื่นๆ การน�าหลักการ ในชนบทเพิ่มขึ้น กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้คัดเลือกอสม. ดังกล่าวมาใช้ปฏิบัติจริงในระดับประเทศ ต้องอาศัยการจัดการ ที่มีสภาพร่างกายแข็งแรงมาร่วมปฏิบัติงานด้านการป้องกันโรค ระบบสาธารณสุขมูลฐานที่มีประสิทธิภาพ บุคลากรระดับดังกล่าว โควิด-19 รวม 812,947 คน อสม.ได้ออกเยี่ยมบ้านเพื่อให้ค�า ที่เป็นลักษณะเฉพาะของประเทศไทย ได้แก่ อสม.และบุคลากร แนะน�าวิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจ�านวน สาธารณสุขของ รพ.สต. ซึ่งได้เคยมีบทบาทช่วยควบคุมโรคติดต่อ 3,887,667 หลังคาเรือน หรือเท่ากับร้อยละ 16.4 ของจ�านวน และโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในชุมชนอย่างได้ผลมาแล้วหลายครั้ง7-10 หลังคาเรือนนอกเขตกรุงเทพมหานคร ข้อความส�าคัญที่เน้นกับ การเกิดวิกฤติกาลโรคโควิด-19 ในประเทศไทยครั้งนี้ ได้พิสูจน์ ประชาชน คือ “การทานอาหารร้อน การใช้ช้อนกลาง การล้างมือ ยืนยันอีกครั้งว่า อสม.และบุคลากรสาธารณสุขของ รพ.สต.เป็น ฟอกสบู่หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากาก ก�าลังส�าคัญในการป้องกันการแพร่กระจายโรคฯ สามารถสื่อ อนามัย การงดสูบบุหรี่/ดื่มสุรา และการรักษาระยะห่างทาง